~*~..กม.119 ถนนสายนี้มีตะพาบ : เริ่มต้นใหม่..กับใจดวงเดิม^^..~*~
ออกตัวก่อน .. ตะพาบ กิโลเมตรล่าสุดที่ร่วมเดิน คือตะพาบ กม.57 (05/06/2012) สองปีกว่าๆ ที่ห่างหายงานเขียนกันไป
กลับมาอีกครั้ง ตะพาบตอนนี้ กม.ที่ 119 แล้ว .. บอกตรงๆ เสียดาย
ที่ไม่ได้ร่วมเดินบนถนนเส้นนี้นานเลย.. ขอกลับมาอีกครั้ง กับหัวข้อที่เข้ากับความรู้สึกตอนนี้จริงๆ
การเริ่มต้นใหม่.. ท้าวความเล็กน้อย เริ่มต้นเดินบนถนนเส้นนี้จากโครงการของสามสาว
ในตอนนั้น พ.ย. 2009 ชื่อโครงการ "ถนนสายนี้มีมิตรภาพ" ที่สาวๆ จะเขียนเรื่องราว
อัพ blog ทุกๆ วันจันทร์ในหัวข้อต่างๆ ก็ไปร่วมถนนเส้นนี้กับสาวๆ อยู่บ่อยครั้ง
เขียนบ้าง ไม่เขียนบ้างแล้วแต่อารมณ์ติสจะแตกหรือเปล่า..555 จนในที่สุด
ก็เลิกรากันไป จนคุณเป็ดสวรรค์ได้ต่อยอดมาเป็น "ถนนสายนี้...มีตะพาบ" ก็ตามต่อมาเรื่อยๆ
จนตั้งฉายาให้ตัวเองว่า "ตะพาบอาบน้ำผึ้ง" 555 เพราะงานเขียนจะออกแนวหวานๆ ค่ะ^^ ถ้าจะยังพอจำได้..
..เสียดายเวลา..ที่ห่างหายไป.. การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นกับชีวิตของใครแต่ละคน
เหมือนหรือต่างกันก็ตาม.. แต่สุดท้าย .. การเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของฉันในวันนี้ ..
ถือเป็นการรื้อฟื้นสิ่งที่ชอบที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใจ แม้มันจะเป็นเสี้ยวเล็กๆ ในใจที่ไม่อาจมีใครเข้าใจ
หวังว่าเราจะยังคงมี "มิตรภาพ" รออยู่บนถนนเส้นนี้ต่อไป ..
~*~...ใจดวงเดิม...~*~
ผมนั่งมองสายน้ำนิ่ง อยู่อึดใจก่อนจะค่อยๆ กวาดสายตามาถึงฝายกั้นน้ำเล็กๆ น้ำเอ่อล้น ไหลซึมค่อยๆ ไหลก่อตัวเป็นแอ่งน้ำ และเป็นสายน้ำไล่ไปสุดสายตา เสียงพูดคุย เสียงเตรียมงาน เสียงตะโกนโหวกเหวก ไม่ได้เป็นสิ่งรบกวนผมเลย ซ้ำยังทำให้ผมรู้สึกเป็นสุข อยู่ท่ามกลางผู้คนที่คุ้นเคย หลังจากหัวใจรู้สึกโดดเดี่ยวมาเนิ่นนาน ผมไม่ได้มานั่งตรงนี้นานเท่าไหร่แล้วนะ ห้าปี สิบปี หรือสิบห้าปีแล้ว .. พอได้มานั่งมองอย่างวันนี้ ผมรู้สึกได้ถึงอะไรหลายๆ อย่าง และคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง .. อย่างที่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผม ........... ... ..... .... ย้อนกลับไปเมื่อซักห้าวันก่อน ผมขอลางานกลับบ้าน เพราะผมอยากพัก อยากพักจริง ๆ หลังจากผมทำงานหนักมาหลายปี พออยู่บ้านได้สองวันผมก็เริ่มเบื่อ .. เพราะที่บ้านผมไม่มีใคร พ่อกับแม่เสียไปแล้วในอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน .. บ้านหลังนี้ ผมก็ให้ญาติห่างๆ เฝ้าให้ โดยจ่ายค่าบำรุงคนเฝ้า .. 555 เป็นรายเดือน .. ผมจึงใช้วิธีเดินข้ามทุ่งนามาหาบ้านญาติสนิท ญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่ และเป็นสายใยเส้นเล็กๆ ที่ทำให้ผมยังเก็บบ้านหลังเก่าไว้อยู่ .. เดินข้ามคันนามาเรื่อยๆ ก็คิดถึงสมัยเด็ก ที่ไปใส่เบ็ดนากับพ่อ ไปช้อนอิเนี๊ยว อิหวก (ผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าภาษากลางคืออะไร เพราะพอไปอยู่เมืองกรุง ผมก็ไม่เคยเห็นหรือได้สัมผัสพูดคุยกับมันอีกเลย) ไปขุดปู จับหนูนา ส่องจิ๊กุ่ง และอะไรอีกหลายอย่าง พรั่งพรูเข้ามาในความคิด .... .... .... แล้วผมก็มาถึงบ้านญาติ .. ที่นั่นลุงผู้ใหญ่มาแอ่วบ้านญาติผมพอดี แกทักด้วยประโยคที่ทำเอาผมเขิล .. "โอ๊ะ ไหว้พระๆ ไอ่คำหล้า มาบ้านตั้งแต่เมื่อใดนิ .." ผมก็คงไม่เขิลมากขนาดนี้ ถ้าตรงนั้นไม่มีสาวงามหน้าตาหมดจดนั่งอยู่ด้วยคนหนึ่ง ก็ไม่ให้ผมเขิลได้ไงครับ ไม่มีใครเรียกชื่อผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว อยู่ในกรุงเทพฯ ผมก็ใช้ชื่อเล่นว่า ตั้ม แค่ชื่อก็การันตีความหล่อ ..555 ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันซักพัก ก็เริ่มคุยกันถึงเรื่องจัดงานปีใหม่ "ไอ่คำหล้า คิงจะเป็นอะหยัง..." เสียงพ่อผู้ใหญ่ถามขึ้นทำเอาผมสะดุ้ง เพราะผมนั่งฟังเสียงแกเพลิน พร้อมๆ กับแอบส่งสายตาไปหาสาวเจ้าบ่อยๆ .. เสียงใสๆ ของเจ้าหล่อนก็โพล่งขึ้นว่า "อย่างอ้ายคนหล่อ กะต้องงัวหัน เน๊อะป้อเน๊อะ .." เอาสิครับ .. ผมรีบรับปากอย่างรวดเร็ว ก็ทำไมหล่ะ อิแค่งัวหันตัวละสองสามพัน ผมพร้อมจะเลี้ยงคนในหมู่บ้านเกิด ของผมอยู่แล้วหล่ะ ในเมืองกรุง ผมสำมะเลเทเมาเงินเดือน หมดไปเยอะกว่านี้หลายเท่านัก สรุปวันนั้น ผมเป็นงัวหันให้ครับ และอีกอย่าง ที่ผมเพิ่งทราบจากญาติของผม เธอชื่อ ไหม และที่สำคัญ เธอคือ ยัยสายไหมผูกเปียเดินตามผม ตามคันนา หน้าตาไม่ได้ล้าง ขี้มูกขี้ไคลกรัง คนนั้นนั่นเอง .. โอ้ .. พระเจ้า ผมจำยัยสายไหม ไม่ได้ .. !! ............ .... วันนี้ ผมนั่งอยู่ตรงนี้ ผมคิดว่า ชีวิตผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมเรียนดี ผมได้ทุน ผมไปอยู่กรุงเทพฯ ผมจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง บริษัทจองตัวผม ตั้งแต่ผมยังเรียนไม่จบ ผมทำงานหนัก ผลงานดี เป็นพนักงานดีเด่นของบริษัท ผมมีรายได้สูง มีสังคมที่มีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน วันหนึ่ง ผมรู้สึกเหนื่อย ผมไขว่คว้ามานาน ผมคิดว่าผมทำสิ่งที่ประสบความสำเร็จ ในชีวิตของผมแล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีใคร หนุ่มหน้าตาดี (ไม่ได้ชมตัวเองนะครับ หลายๆ คนบอก) ฐานะดีพอสมควร การงานดี ทำไมยังไม่มีแฟน .. ผมเหงาท่ามกลางผู้คนมากมาย โดดเดี่ยว รู้สึกเหมือนไม่มีใคร และนี่คือเหตุผลที่ผมหยุดยาวในปีใหม่นี้ .. .......... .. ... ผมนั่งมองสายน้ำ ใจคิดถึงตอนเด็ก ที่แอบพ่อกับแม่ มากับไอ่คำอ้าย ไอ่แก้ว ไอ่ชูคำ และเพื่อนสมัยเด็ก เราแอบกันมาเล่นน้ำสายนี้ ตอนนั้นมันยังกว้างกว่านี้มาก เราเล่นกันอย่างสนุกสนาน จนมืดจนค่ำ จนพ่อแม่มาตาม และจนโดนทำโทษด้วยไม้เรียวจากพ่อ และหูชาไปกับคำเทศน์ พร้อมน้ำตาของแม่ .. ........ ... "นั่งคิดอะหยังอยู่พี่ตั้ม ..ค่ำแล้วนะไปหาอะไรกินกัน" เสียงใส ๆ ทักอยู่ข้างหลัง ผมหันไปมอง สายไหม นั่นเอง สามวันที่ผ่านผมสนิทกับเธอมากขึ้น เธอเป็นพยาบาลอยู่ในอนามัยใกล้บ้านนี่เอง .. และเย็นนี้ผมก็ไปรับเธอที่บ้าน เพื่อมางานนี้ด้วยกัน .. "คิดว่า กลับไปจะขอย้ายมาอยู่สาขาเจียงใหม่ น้องว่าดีก่อ" .. ...... ... .. .. .... ... .
การลืมเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา..
จดจ่อไปที่เรื่องราวในอนาคต..
พร้อมเผชิญความจริงกับปัจจุบัน..
คือเส้นทางเดินการค้นหา เพื่อค้นพบของคนเรา..
ซักนิดท้ายเรื่อง.. เรื่องนี้เป็นเรื่องรีเมคนะคะ
เคยลงแล้วตอนเป็นถนนสายนี้มีมิตรภาพมันเข้ากับการเริ่มต้นใหม่พอควร
เลยขออนุญาต เอากลับมาให้อ่านกันอีกครั้ง
ด้วยหลายๆ อย่างรวมทั้งอารมณ์ติสที่ยังไม่แตก
และร้างราไปนาน คิดธีมไม่ออกเลย T-T
สองพี : ลูกเป็ดขี้เหร่ ตัวเดิม SongPee@The Ugly Duckling
Create Date : 06 ธันวาคม 2557
28 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2557 11:17:47 น.
Counter : 1565 Pageviews.
แบบนี้ต้องมีภาคต่อชิมิ