One Look At You And I Fall Apart One Touch I Feel You Deep In My Heart One Word From You Just To Makt It Start
Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
27 เมษายน 2549
 
All Blogs
 

หัวแตงโม

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A4319989/A4319989.html#15

//www.tangmofanclub.com




 

Create Date : 27 เมษายน 2549
10 comments
Last Update : 27 เมษายน 2549 17:22:33 น.
Counter : 860 Pageviews.

 

การสัมภาษณ์คุณองอาจ ชัยชาญชีพ เจ้าของผลงาน "หัวแตงโม" ใน Manager.co.th

ถ้าลองได้เปิดดูหนังสือตามรายชื่อ 70 กว่าเล่มที่ส่งเข้าประกวดซีไรต์ปีนี้ นอกจากเราจะได้เห็นหนังสือรวมเรื่องสั้นมากมายหลายปกตามวาระการประกวดแล้ว สองเล่มจากจำนวนทั้งหมดที่หลายคนอาจไม่ได้สังเกตคือมีหนังสือการ์ตูนส่งเข้าประกวดซีไรต์ปีนี้ด้วย

หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "หัวแตงโม ซีกที่หนึ่ง- เมื่อหัวข้าพเจ้ากลายเป็นแตงโม" หนังสืออีกเล่มซึ่งเป็นเล่มต่อชื่อ "หัวแตงโม ซีกที่สอง- หัวเปลี่ยนไป ใจเปลี่ยนแปลง" ทั้ง 2 เล่มผลงานของ องอาจ ชัยชาญชีพ นักวาดการ์ตูนอิสระผู้หาเลี้ยงชีพด้วยการวาดการ์ตูน

คำถามว่าทำไมถึงส่งหนังสือการ์ตูนเข้าประกวด องอาจบอกว่า "นี่เป็นไม่กี่ครั้งในชีวิตที่รู้อยู่แล้วว่าไม่ได้อะไร ด้วยความสัตย์จริงไม่ได้คาดหวังอะไรแม้แต่นิดเดียว มันเหมือนกับเราอยากแบ่งให้กรรมการ อยากให้ผู้ใหญ่อ่านบ้าง คือคิดว่าไหน ๆ เราทำหนังสือเราก็แบ่งเขาอ่าน ไม่เห็นแปลก ปกติผมก็ต้องส่งให้นิตยสาร ส่งให้สื่ออยู่แล้ว และก็เผื่อว่าในอนาคตมันอาจจะเกิดคำถามขึ้นกับแวดวงนี้บ้างว่า ถ้าเป็นงานลักษณะอื่น ๆ นอกจากงานเขียนที่เราคุ้นเคยเราจะจัดมันไว้ตรงไหน"

องอาจมองว่าการ์ตูนก็คืองานสื่อสารเรื่องราวชนิดหนึ่งไม่ต่างจากวรรณกรรมหรือภาพยนตร์ คนเราจำแนกมันตามสื่อก็เพื่อสะดวกในการเรียกขาน ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับกับงานจิตรกรรมหรือดนตรี เพราะสุดท้ายในความเป็นองค์รวมแล้วทั้งหลายทั้งปวงเรารวมเรียกมันว่า "ศิลปะ" เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาการ์ตูนในลักษณะที่เป็น "คอมมิก" ยังไม่เคยถูกยกให้เป็นแขนงหนึ่งของงานศิลปะ

"ระหว่างคนอ่านวรรณกรรมที่เขียนเป็นตัวหนังสือกับอ่านหนังสือการ์ตูนมันก็ได้รสชาติคนละอย่างกัน อย่างเช่นวรรณกรรมเป็นคำบรรยายหมด ก่อให้เกิดจินตนาการก็จริง แต่อย่าลืมว่าหนังสือการ์ตูนที่สื่อด้วยภาพมันก็ให้เนื้อหา ให้ความรู้สึกโดยที่ไม่ต้องใช้คำบรรยายได้ไม่ใช่หรือ"

"หัวแตงโม" ทั้งเล่ม 1 และ 2 คือหนังสือการ์ตูนที่เล่าเรื่องเป็นตอน ๆ นำเสนอเรื่องราวหรือสถานการณ์ทั่ว ๆ ไปที่พบเห็นได้ในสังคมเมือง มีตัวละครหลักคือ "หัวแตงโม" เป็นผู้ร้อยเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน ผู้ครั้งหนึ่งก่อนที่หัวจะกลายเป็นเช่นนั้นเขาก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง แม้สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงจะยังไม่ได้รับการเฉลย แต่ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญมากกว่านั้นก็คือการคลี่คลายไปทั้งวิธีคิดและทัศนคติของตัวละคร

องอาจบอกว่า "ทั้ง 2 เล่มมันจะมีอินโทรดักชั่นพูดถึงการเปลี่ยนแปลงจากตัวผู้ชายคนหนึ่งไปสู่การเป็นหัวแตงโม อย่างเล่มหนึ่งพูดถึงเมื่อก่อนมันเคยคิดว่ามันเก่ง มันฉลาด แต่พอวันหนึ่งมันกลายเป็นหัวแตงโม มันโง่ลง แต่มีความสุขมากขึ้น พอเล่มสองมันเป็นคนอิจฉา เมื่อก่อนมันขี้อิจฉา แต่พอกลายเป็นหัวแตงโมก็เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งจุดที่จะบอกไม่ได้บอกว่าการเป็นหัวแตงโมหมายความว่าเป็นคนดีนะ เพียงแต่ว่ามันผ่อนคลายขึ้น หมกมุ่นกับตัวเองน้อยลง มองเห็นคนอื่นมากขึ้น"

สำหรับไอเดียในการสร้างผลงาน องอาจบอกว่าเขาพยายามสร้างเรื่องให้มีเอกภาพโดยจะวางแผนการ์ตูนแต่ละเล่มโดยภาพรวมว่าจะเสนอไปในแนวทางไหน กระนั้นบางทีถ้าเกิดมีความคิดผุดขึ้นมาภายหลังเขาก็ต้องหาวิธีการดึงเรื่องทั้งหมดให้เป็นกลุ่มก้อนเดียวกันให้ได้ ซึ่งอย่างน้อยที่สุดก็จะได้ตัวละครหัวแตงโมเป็นตัวเชื่อม

"บางครั้งหัวแตงโมแทบไม่มีบทบาทเลย เหมือนแค่คนเดินผ่าน บางครั้งหัวแตงโมอยู่ในสถานะที่เป็นคนเปลี่ยนแปลงความคิด บางครั้งอยู่ในสถานะที่ถูกเปลี่ยนแปลงความคิด คือมันเหมือนชีวิตคนจริง ๆ บางครั้งเราไปสอนคนอื่น บางครั้งถูกคนอื่นสอน บางครั้งเราก็อยู่ในเหตุการณ์เฉย ๆ เท่านั้นเอง"

ไอเดียและเรื่องที่จะเล่าคือสิ่งที่ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก องอาจบอกว่าเขาจะร่างความคิดเป็นสตอรี่บอร์ดหรือจดเป็นประโยคเก็บไว้ และด้วยความคิดที่มีมาทุกวันเขาบอกว่าขั้นตอนนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่ยากกว่าคือขั้นตอนที่สองและสาม

ขั้นตอนที่สองคือการร้อยเรื่องและวางลำดับภาพ องอาจจะใส่ใจขั้นตอนนี้เป็นพิเศษเพราะเขาเชื่อว่าการ์ตูนที่ดีคือการ์ตูนที่สามารถดึงคนอ่านให้มีส่วนร่วมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกสะดุด ส่วนขั้นตอนที่สามคือการลงมือวาดอีกครั้งเพื่อนำไปเป็นต้นฉบับตีพิมพ์ จุดนี้องอาจออกตัวว่าเขาทำได้ไม่ดีนักด้วยข้อสันนิษฐานของเขาเองคือ เขารู้สึกว่างานทั้งหมดมันเสร็จตั้งแต่จบขั้นตอนที่สองแล้ว เพียงแต่คนอื่นอ่านงานของเขาไม่ออกเพราะมันเละเกินไป เมื่อต้องวาดใหม่ก็คือการซ้ำที่เกิดจากความจำเป็น

หากมองในด้านเนื้อหา ตัวอย่างหนึ่งที่องอาจยกมาคือ "รสชาติของมาการิต้า" เรื่องราวที่เล่าผ่านวิธีการชงเหล้าของบาร์เทนเดอร์ต่างวัยสองคน

"มันพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและความสัมพันธ์ของคน บาร์เทนเดอร์หนุ่มซึ่งได้แชมป์การผสมเหล้ามาเพราะท่าสุดยอด ปรากฏว่าคนแก่ที่เป็นบาร์เทนเดอร์เก่าบอกว่าเพิ่งมาทำงานวันแรกใช่มั้ย ลีลาโอเค คนแก่คนนี้ไม่มีลีลา ผสมไปแบบธรรมดา ๆ แล้วให้หัวแตงโมซึ่งเป็นเด็กเสิร์ฟชิมเปรียบเทียบดู ปรากฏว่าหัวแตงโมบอกว่าของบาร์เทนเดอร์แก่ทำอร่อยกว่า แต่เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่เข้าใจ นี่มันระดับแชมเปี้ยนนะ ชายแก่คนนี้ก็สอนว่าที่แกได้รางวัลก็แค่ท่าทาง แค่เปลือกเท่านั้น อย่ามัวยึดติดกับวิธีการหรือท่วงท่าจนลืมเป้าหมายที่แท้จริง"

แต่เรื่องยังไม่จบเมื่อถึงเหตุการณ์ตอนกลางคืนคนมาสั่งเหล้า บาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นยังคงไม่เชื่ออยู่ดีถึงวิธีการของชายแก่ เขากระโดดขึ้นกลางบาร์แล้วเขย่าเต้นอย่างสนุกสนาน ปรากฏว่าทุกคนสนุกกับมันมากและรุมสั่งเหล้าจากบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนี้คนเดียวไม่มีใครอยากกินมาการิต้าของบาร์เทนเดอร์ชราเลย

"เพราะฉะนั้นมันเกิดมุมกลับรอบที่สองคือชายแก่คนนี้ไม่เข้าใจ บอกว่ามันแก่เกินไปรึยัง ทำไมคนมองแต่รูปแบบภายนอกไม่ได้มองที่แก่นแท้ หัวแตงโมซึ่งเป็นเด็กเสิร์ฟก็ทำตัวพูดอะไรเท่ ๆ บอกว่าไม่หรอก บางทีมันไม่ใช่เรื่องของการลืมหรือไม่ลืมแก่นแท้หรอก แต่ว่าคนเราอาจมีวิถีทางมีรสชาติที่แตกต่างกัน เท่านั้นเอง"

นอกจากการ์ตูนชุดหัวแตงโมซึ่งกำลังจะมีผลงานลำดับที่ 3 ออกมาให้เห็น ผลงานที่ผ่านมาภายใต้ชายคาสำนักพิมพ์เป็ด-เต่า-ควาย ขององอาจ ชัยชาญชีพ ได้แก่ปรัชญานิทานเรื่อง "หมูบินได้" ซึ่งได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัลที่หนึ่งประเภทวรรณกรรมเยาวชน รางวัลเซเว่นบุ๊กอวอร์ดส และเรื่อง "พระเจ้าเป็นหมา" การ์ตูนที่ล้อปรัชญาความเชื่อโดยมีสุนัขเป็นตัวละครดำเนินเรื่อง

จากประสบการณ์ของการเป็นนักวาดการ์ตูนมาไม่น้อยกว่า 5 ปี องอาจพูดถึงหนังสือของเขาว่า

"ผมเชื่อของผมเองและได้ยินคนพูดต่อกันมาว่าหนังสือของผมมีคนอ่านมากกว่าจำนวนขาย ในแง่ของคนทำธุรกิจไม่ดีใจหรอก...โศก แต่ว่าในแง่ของคนทำงานดีใจสิ ดีใจมาก ๆ ด้วย ผมรู้ดีว่าหนังสือมันมีคุณค่าต่อเมื่อเราได้อ่านมัน ไม่ใช่ว่าเก็บไว้ในตู้ ฉะนั้นอย่างน้อยสิ่งที่ผมบอกไป สิ่งที่ผมเขียนออกไปมีคนได้อ่านมันแล้ว ไม่ว่าจะเกลียดหรือจะชอบก็ตาม"

 

โดย: สงครามกวี 27 เมษายน 2549 17:23:16 น.  

 

ชอบมากเรื่องนี้

ได้ข้อคิดใหม่ๆๆ

มาใช้ปรับใจตัวเองก็เยอะ


ก่อนอ่านเรื่องนี้ จะคิดเสมอว่า

โลกนี้ไม่มีที่สำหรับคนแพ้หรอก

ถ้าอยากแพ้ ก็ไปตายซะ

Only the strongest will SURVIVE


แต่พออ่านตอนหนึ่ง ของเรื่องนี้เสร็จแล้ว

รู้เลย ว่า ละ ลด ปลด วาง มันเป็นอย่างไร

คนเรา แพ้ ได้ ร้องไห้ได้

แล้วก็เริ่มต้นใหม่ได้


หลังจากนั้น ก็เลิกกดดัน ตัวเองโดยเด็ดขาด

หันมามองโลกอย่างที่มันเป็น

ไม่แบกอะไรไว้อีกเลย

ไอ้ความเหนื่อย ความหนัก ความเคียดแค้นชิงชัง

พอวางลง ก็ไม่มีอะไรติดค้างแล้ว


ทุกข์ หรือสุข ใจเราเป็นสำคัญ


ขอบคุณ หัวแตงโม

ที่อยู่เป็นเพื่อนกัน ในวันเหงา

ขอบคุณ คุณองอาจ สำหรับแง่มุมมองชีวิตใหม่ๆๆ


แนะนำให้อ่าน อย่างแรง

 

โดย: สงครามกวี 27 เมษายน 2549 17:25:58 น.  

 

สาธุ....
บวชวัดไหนบอกนะ จะโมทนาสาธุด้วยคน

 

โดย: เหยี่ยวเงิน IP: 203.118.83.170 28 เมษายน 2549 0:41:10 น.  

 

พี่เหยี่ยวเงิน ก็

ขืนไป ก็ทำวัดเค้าป่วนหมดดิพี่

555

 

โดย: สงครามกวี 28 เมษายน 2549 0:46:20 น.  

 

เรื่องนี้สนุกมาก

 

โดย: ... IP: 124.121.187.93 7 มีนาคม 2551 6:56:59 น.  

 

ผมคิดว่ามันหน้าจะมี....เล่มห้า!!!!..กับเล่มหก!!!!!

 

โดย: คนดีที่โลกรอ IP: 124.121.187.93 7 มีนาคม 2551 6:59:29 น.  

 

อ่านมาหลายเล่มแล้วหละ
ว่าจะหาซื้อมาเป็นของตัวเองมั่งง่ะ
หุหุหุหุ
มานเป็นของที่ดีมากๆ
แต่ทำไมหาซื้อไม่ได้ซะทีหว่า
จามีซักกี่คนกัลฟะที่ทำอะไรแบบนี้ออกมาอะ
จามีกี่%ที่คิดจะทำไรแบบนี้
จามีกี่โค๊นที่ไม่ยึดติดอะไรที่คนอื่นเค้าคิดมาเพื่อล๊อคคอเรา
วู้อ่านเหอะเชื่อดิ อย่างน้อยก็หนุกง่ะ

 

โดย: ปลาดุกงับหางอากุม่อน IP: 118.172.167.213 5 ตุลาคม 2551 22:20:59 น.  

 

ชอบสุดๆเล่มแรกได้อ่านแล้วแต่เล่มที่2 ยังไม่ได้อ่านเลยอะค่ะ หาซื้อไม่เจอ อยู่อุดรค่ะ

 

โดย: คนที่อยากเป็นหัวแตงโม IP: 125.26.176.172 7 กุมภาพันธ์ 2552 14:15:06 น.  

 

ชอบสุดๆเล่มแรกได้อ่านแล้วแต่เล่มที่2 ยังไม่ได้อ่านเลยอะค่ะ หาซื้อไม่เจอ อยู่อุดรค่ะ

 

โดย: คนที่อยากเป็นหัวแตงโม IP: 125.26.176.172 7 กุมภาพันธ์ 2552 14:16:05 น.  

 

เราชอบอ่านม้าก xD
ข้อคิดดีสุดสุด !

 

โดย: janehae IP: 118.173.101.249 1 กุมภาพันธ์ 2553 17:58:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สงครามกวี
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงครามกวี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.