Better Late Than Never

Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
สบู่ทำมือมีกี่ชนิด

การทำสบู่ทั่วๆไปที่ทำกันนั้นมีอยู่หลายแบบ แต่บางวิธีก็ได้รับความนิยมมากกว่าวิธีอื่นๆ เท่าที่อ่านมาการทำสบู่มีอยู่ 7 วิธีด้วยกันคะ

1. cold process - จะว่าไปวิธีนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่นักทำสบู่สมัครเล่นทั้งหลาย เพราะว่าสามารถทำลวดลายได้หลายแบบ แต่การทำสบู่แบบนี้ผู้ทำก็ต้องอดใจรอให้สบู่นั้นผ่านการตากประมาณ 3 อาทิตย์ขึ้นไปก่อนนำไปใช้ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนสบู่กัดได้คะ

2. room temperature - วิธีนี้ก็คล้ายๆกับวิธีแรก จะต่างกันตรงที่เราไม่ต้องอุ่นน้ำมันต่างๆเท่านั้นเอง

3. hot process - การทำสบู่ด้วยวิธีนี้แนะนำว่าควรเริ่มจากการหัดทำสบู่ cold process สักพักก่อน เพราะเริ่มต้นวิธีทำเหมือนกับการทำสบู่ cold process แล้วนำไปทำให้สุกต่อไป แต่วิธีนี้เหมาะสำหรับคนใจร้อนมาก เพราะสบู่ที่ได้สามารถใช้ได้เลย แต่หลายๆคนก็ว่าตากสัก 3-7 วันก็จะได้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น ข้อเสียของการทำสบู่วิธีนี้คือการทำลวดลายค่อนข้างจำกัด และสบู่ที่ได้เนื้ออาจไม่ค่อยจะเนียนเท่าวิธีแรก แต่เห็นหลายๆคนสามารถทำออกมาดูไม่ออกเลยว่าเป็นสบู่ hot process

4. whipped soap - สบู่นี้สามารถทำรูปร่างหน้าตาออกมาได้หลากหลายมาก เพราะสบู่ที่ได้ที่จะมีลักษณะคล้ายวิปครีม และสามารถนำไปทำลวดลายต่างๆได้ ลักษณะเฉพาะตัวของสบู่นี้คือลอยน้ำได้ แต่การทำสบู่นี้จะยุ่งยากพอสมควรเพราะต้องนำน้ำมันไปตีให้ขึ้นฟูก่อนที่จะเริ่มทำเป็นสบู่

5. whipped cream soap - สบู่แบบนี้มีลักษณะเป็นเนื้อครีมไม่ได้เป็นก้อนเหมือนการทำสบู่ข้างต้นที่กล่าวมา ใช้เวลาในการทำค่อนข้างนานฉะนั้นถ้าจะทำสบู่นี้ต้องมีเวลาพอสมควรคะ และสบู่ที่ได้ก็ต้องรอให้ผ่านการ rotting ประมาณ 3-6 เดือนด้วยก่อนนำไปใช้ด้วย

6. liquid soap - วิธีทำคล้ายกับการทำสบู่ hot process แต่เปลี่ยนจากการใช้ sodium hydroxide มาเป็น potassium hydroxide สบู่ที่ได้ก็จะเป็นสบู่เหลว ที่ท้าทายความสามารถของนักทำสบู่คือต้องพยายามทำให้สบู่ที่ได้ออกมาให้ใสกิ๊งให้ได้

7. melt and pour soap - วิธีนี้ง่ายที่สุดในกระบวนการทำสบู่ทั้งหมด เรียกอีกอย่างว่าสบู่หลอมเท เพราะวิธีการทำคือนำเอาสบู่ก้อนกลีเซอรีนที่มีขายมาหลอมให้เหลว เติมสี, กลิ่น และสารอื่นๆที่ต้องการ แล้วก็เทใส่โมลให้เป็นรูปร่างตามใจชอบได้เลย ใช้ได้เร็วมากเพราะว่าพอออกมาจากโมลก็สามารถใช้ได้ทันที


สรุปว่าการทำสบู่นั้นมีหลากหลายให้เลือก แต่ที่แน่ๆต้องลองทำดูคะถึงจะรู้ว่าสนุกขนาดไหน


Create Date : 19 มกราคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2553 20:53:02 น. 5 comments
Counter : 3981 Pageviews.

 
เห็นคนอื่นๆทำกันแล้วเค้าติดใจ
อยากทำมั่งจังเลย แต่ไม่รู้จะหาวัสดุได้ที่ไหน เหอะๆๆ


โดย: thinkcraft วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:8:41:18 น.  

 


โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:10:15:36 น.  

 
ดีมาก


โดย: klao IP: 110.164.231.69 วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:12:06:17 น.  

 
จริงค่ะทำแล้วสนุกตอนได้ออกแบบแปลกๆและมีรายได้ดีด้วยเพราะคนเราต้องใช้สบู่ทุกวันสบู่ธรรมชาติทำให้หน้าใสขาวผ่องใครก็อยากใช้ค่ะ


โดย: ทับทิม IP: 27.55.221.49 วันที่: 21 ธันวาคม 2557 เวลา:6:29:43 น.  

 

7. melt and pour soap - วิธีนี้ง่ายที่สุดในกระบวนการทำสบู่ทั้งหมด เรียกอีกอย่างว่าสบู่หลอมเท เพราะวิธีการทำคือนำเอาสบู่ก้อนกลีเซอรีนที่มีขายมาหลอมให้เหลว เติมสี, กลิ่น และสารอื่นๆที่ต้องการ แล้วก็เทใส่โมลให้เป็นรูปร่างตามใจชอบได้เลย ใช้ได้เร็วมากเพราะว่าพอออกมาจากโมลก็สามารถใช้ได้ทันที



ผมทำแล้วนำไปล้างหน้า รู้สึกมันกัดหน้า
พอมีวิธีแก้ไม๊ครับ
ใครมีวิธีช่วยตอบ เมล som1719@gmail.com
(ผมกำลังหาวิธีแก้อยู่ ไม่รู้จะกลับมาหาเวปนี้เจอหรือไม่ จึงขอให้ส่งวิธีแก้ทีเมลผมหน่อยนะครับ)


โดย: som1719 IP: 125.24.77.108 วันที่: 31 มกราคม 2558 เวลา:17:51:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

song1song
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




งานอดิเรกล่าสุดคือการทำสบู่และโลชั่น ทั้งสองอย่างนี้ได้อย่างใจบ้าง ไม่ได้อย่างใจบ้าง ระหว่างนี้ก็พยายามเก็บข้อมูลและทดลองไปเรื่อยๆ

บล๊อคทำขึ้นเพื่อเป็นการเก็บข้อมูลและแชร์ประสบการณ์ในการทำสบู่และโลชั่น เผื่อจะมีใครได้ความรู้เล็กๆน้อยๆไปบ้างหรือมีใครเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นก็ได้คะ

ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันและสบู่ที่เอามาลงนั้นอ่านและเก็บรวบรวมมาจากหนังสือทำสบู่หลายๆเล่ม และเว็ปเกี่ยวกับการทำสบู่และโลชั่น

email มาคุยกันก็ได้นะคะ
Locations of Site Visitors
Friends' blogs
[Add song1song's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.