Group Blog
 
<<
มกราคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มกราคม 2558
 
All Blogs
 
ลดน้ำหนัก แชร์ประสบการณ์สาวเคยอ้วน ผอมได้เพราะดูแลสุขภาพ


          ลดน้ำหนัก จากประสบการณ์ตรงของสาวที่เคยอ้วนมาก เธอจะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรให้กลับมามีหุ่นเฟิร์มและสุขภาพดี มาดูไว้เป็นแนวทางในการลดน้ำหนักของคุณกันเลย

          ความอ้วนไม่เข้าใครออกใคร แต่ถ้าใครได้อ้วนแล้ว การจะลดน้ำหนักให้กลับมามีหุ่นผอมเพรียวเหมือนแต่ก่อนดูมันจะยากซะเหลือเกิน และกว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าอ้วนเป็นหมูตอนก็ดูท่าว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว ดีไม่ดีความอ้วนที่ได้มาอาจจะนำพาให้โรคอื่น ๆ ตามมาอีกก็เป็นได้ เหมือนกับเรื่องราวของคุณ 704453 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยอ้วนมากและด้วยความอ้วนนี้เกือบจะทำให้เธอต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว แต่ด้วยกำลังใจจากลูกชาย จึงทำให้เธอเริ่มที่จะหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างจริงจังด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย และแล้วเธอก็ทำได้สำเร็จ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ไฉไลกว่าเดิม และที่สำคัญสุขภาพของเธอกลับมาดีอีกครั้งและไม่ต้องคอยกังวลเรื่องโรคอ้วนอีกต่อไปแล้วจ้า

          สำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่กำลังอ้วนมาก ๆ รีบหันมาดูแลตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าควรจะต้องเริ่มจากตรงไหนดี ก็ลองมาติดตามเรื่องราวของเธอคนนี้กันเลยค่ะ ดูสิว่าเธอจะมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไร มาดูไว้เป็นแนวทางกันเลย



          วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์ "คนเคยอ้วน" กันนะคะ เป้าประสงค์คือ อยากให้หันมาดูแลสุขภาพกันเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงอยู่กับลูกน้อยไปนาน ๆ ^^

          ออกตัวก่อนนะคะ แบบว่า เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก ปกติจะอ่านอยู่เงียบ ๆ ค่ะ อาจดู งง ๆ มึน ๆไปบ้างไม่ว่ากันนะ

เริ่มเลยนะคะ

          หลาย ๆ คนทั้งที่รู้จักกันมาก่อน หรือเพิ่งมารู้จัก และเพิ่งรู้จักหมาด ๆ มีคำถามอยู่สองแนว "แกเคยอ้วนขนาดนี้ด้วยเหรอ", "แกผอมลงเยอะเลย" ฯลฯ  คำถามต่อมาคือ กินยาอะไร แนะนำบ้างสิ

           อันดับแรก โดยพื้นเพเราไม่ใช่คนอ้วน เราเป็นคนเคยอ้วน

           ย้อนหลังไปสามปีก่อนเห็นจะได้ เราเคยแบกน้ำหนัก 15+ กิโลกรัม (75 กิโลกรัม)

           ทำไมต้อง 15+ เพราะหลังจากนั้น เราไม่กล้าชั่งน้ำหนักอีกเลย

           เราใช้เวลา 2-3 เดือน ในการลดน้ำหนักลงมาอย่างเห็นได้ชัด

           ใช้เวลา 6 เดือนในการคุมกายภาพ สภาพร่างกาย คุมน้ำหนัก จนมาถึงปัจจุบันนี้ เราถึงออกมาอัพ Before & After เพื่อเป็นแรงบันดาลใจว่า "เราทำได้ทุกคนก็ทำได้"

           ไว้จะค่อย ๆ เล่าที่มาที่ไป แรงบันดาลใจให้ฟังกันนะคะ

ลดน้ำหนัก

จุดเริ่มของความอ้วน

          เราแพ้ยาคุมแบบฉีดค่ะ ฉีดมาหลายปี แต่จังหวะนั้น ย้อนไปสี่ปีก่อน คลินิกเปลี่ยนตัวยา ทางคลินิกแจ้งว่าเปลี่ยน แต่ไม่ทราบว่ามีผลข้างเคียงไหม เราก็ฉีดไปสามเข็ม เข็มละสามเดือน

          เข็มแรก  3 เดือนแรกค่อย ๆ อวบขึ้น

          เข็มสอง  3-6 เดือนต่อมา เริ่มเข้าขั้นใช้คำว่าอ้วน

          เข็มสาม  กลายเป็นคนอ้วนสมบูรณ์แบบค่ะ

          แต่โดยสรีระเป็นคนสูง เลยทำให้กว่าจะรู้ตัว เราก็กลายเป็นยักษ์ไปเรียบร้อยแล้ว

ลดน้ำหนัก

          ไม่โทษยาคุมอย่างเดียวนะคะ ยาคุมอาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้เราเจริญอาหาร แต่ตัวเราเองด้วย ที่เลือกตามใจปากตัวเอง

          ป.ล. ยาคุมบางตัวที่ถูกกับเราจะไม่มีผลข้างเคียงเลยนะ แต่หายาก เราฉีดตัวเก่ามา 5 ปี ไม่มีผลอะไรเลย

          สามปีกับคำว่า "อ้วน"

          เคยไหม ? ไปไหนมาไหน มีแต่คนทัก "ทำไมอ้วนจัง", "ทำไมอ้วนแบบนี้"

          เคยไหม ? ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย เหนื่อยง่าย หอบแฮ่ก ๆ

          เคยไหม ? ไปเดินตลาด เห็นเสื้อผ้าสวย ๆ แต่ใส่ไม่ได้ อย่าแม้แต่จะคิด จะหาซื้อไซส์ใหญ่ก็แพงมาก ๆ ยิ่งเวลามีงานแต่งงานบวช อยากเอามือก่ายหน้าผาก ไม่รู้จะแต่งตัวยังไงดี

          เคยไหม ? เจอเพื่อนเก่า ๆ คนรู้จักที่เคยอ้วน แต่เขาเหล่านั้นผอมลง แล้วลองก้มลงมองดูตัวเอง โอววว !! นี่ฉันหรือนี่ ไม่นะ !!!!!!!

          สุดท้าย จุดหักเหที่ทำให้ตั้งใจลดน้ำหนักอย่างจริงจังนั่นคือ สุขภาพ ค่ะ ย้อนไปประมาณต้นปี 2557 ที่ผ่านมา เรารู้สึกอึดอัดที่ช่วงท้อง เวลานั่งเหมือนมีก้อนอะไรกดทับ บางวันกินข้าวน้อยก็ยังอึดอัด ลองเอามือกดคลำตรงก้อนนั้น เจอก้อนค่ะ กดไปกดมาเจ็บด้วย

          เอาแล้ว !!!! ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลย เพราะบังเอิญได้รู้จักพี่คนหนึ่งที่เป็นก้อนเนื้อในช่องท้องเพิ่งผ่าตัดมา อาการเดียวกันเลย ครั้นจะไปหาหมอ บอกตรง ๆ เลย กลัวค่ะ กลัวได้ยินอะไรที่ไม่อยากฟัง แต่จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้

          ตอนนั้นคิดขึ้นมาว่า ฉันจะตายไม่ได้ !!! ลูกฉันยังเล็กนะ ส่วนคุณลูกชายก็กลัวแม่ตาย รีบไล่ให้ไปหาหมอ ก็เลยตกลงกับลูกว่า ม่าม๊าจะลองลดน้ำหนักก่อนนะ ถ้าลดแล้วก้อนยังอยู่จะไปหาหมอ

ลดน้ำหนัก

          เริ่มเข้าคอร์สลดน้ำหนัก

          เริ่มลดน้ำหนักกันดีกว่า ก่อนอื่นสำหรับคุณแม่ทุกคน ที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจเลยนะคะ "ห้ามเสียดายของเหลือจากลูก" ให้คิดว่า ของเหลือที่เราทิ้งไป นั่นคือไขมันส่วนเกินที่เราทิ้งมันไปค่ะ

           ตัวเรานี่คือ เก็บแช่ตู้ไว้ค่ะ แล้วค่อยเอามาอุ่นกินมื้ออื่น จะได้ไม่สิ้นเปลือง

           งดน้ำอัดลมเด็ดขาด รู้ไหมคะ ถ้างดน้ำอัดลมได้เด็ดขาดเพียงอย่างเดียว เพื่อนเราสามารถลดได้ เกือบ 5 กิโลกรัม โดยไม่ต้องทำอะไรเลย

           ห้ามอดข้าวเช้าเด็ดขาดค่ะ เพราะข้าวเช้าจะช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น ใครที่ทานยาลดมา จนระบบเผาผลาญพัง ต้องเริ่มมาฟื้นฟูระบบเผาผลาญกันใหม่อีกครั้ง

           อยากกินขนมอะไร เราเก็บมากินตอนเช้าหมดเลยค่ะ ตอนเช้ากินได้เยอะ ๆ กินไปเลยค่ะ กลางวันกินแค่พออิ่ม เย็น งดแป้ง กินของเบา ๆ

           มื้อเช้าควรมีไข่นะคะ เทคนิคเรา เราทานไข่ทุกวัน เน้นไข่ขาว ช่วยให้อิ่มท้องและไม่โทรมด้วย

           เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน งดของมัน ของทอด ของเค็ม

           ควบคุมปริมาณแคลอรี่ ไม่ต้องอด แต่เลือกกินแคลอรี่ต่ำ ๆ ก็สามารถทานได้เยอะ ๆ อิ่มท้องเหมือนเดิม ยกตัวอย่างเช่น ไข่เจียว 1 ฟอง = ไข่ขาวต้ม 8 ฟอง (โดยประมาณ) เห็นไหม แค่เลือกกินชีวิตก็เปลี่ยน

           ถ้าสามารถออกกำลังกายได้ แนะนำค่ะ 30 นาทีต่อวัน ได้เหงื่อแล้วจะฟินมาก เราเดินทุกวันค่ะ วันละ 30 นาที

          ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างบน แน่นอนทุกคนทราบดีอยู่แล้ว เหลือแค่ว่า ลงมือทำ และ ทำได้ไหม เราว่า มันขึ้นอยู่กับความอยากผอมค่ะ ถ้าใครที่ยังทำไม่ได้ นั่นคือ ยังคงอยากผอมไม่มากพอ


ลดน้ำหนัก

          เสร็จจากทฤษฎีที่ทุกคนทราบอยู่แล้วเดี๋ยวเราพาเข้าสูตรที่เราเลือกใช้สำหรับตัวเรากันค่ะ

          ลดน้ำหนักแบบจริงจัง

          สิ่งต่อไปนี้คือ สิ่งที่เราปฏิบัติ นั่นหมายความว่า ทุกคนเอาไปปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมนะคะ

          หลักการลดน้ำหนักของเรา คือ การคุมอาหาร ได้ผล 70%, การออกกำลังกาย ได้ผล 30%

          1. งดน้ำอัดลม น้ำหวาน ชาเขียวซึ่งแต่ก่อนเข้าใจว่า กินชาเขียวยังดีกว่า น้ำอัดลม ซึ่งมันไม่จริงเลยค่ะ ชาเขียวมันคือน้ำผสมน้ำตาลดีดีนี่เอง T_T

          2. เราทานมื้อเช้าเยอะ ๆ

            มื้อเช้าอาหารเป็นแนวคลีน ๆ แต่ทานเยอะมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ขาดไม่ได้คือไข่ค่ะ ไข่ขาว !!!

            กลางวันทานแค่พออิ่มค่ะ ข้าวทัพพีเดียว ไม่อิ่มเน้นผักค่ะ ทานผักเพิ่มไปเลย ระบบขับถ่ายดีมาก ๆ ขอบอก

            มื้อเย็นเราไม่ทานค่ะ แต่ถ้าวันไหนหิว จัดไปไวตามิลล์น้ำตาลน้อย 1 กล่อง หลับสบาย

อ่านฉลากแคลอรี่ทุกสิ่งอย่างค่ะ

          3. เราเดินออกกำลัง วันละ 30 นาทีค่ะ (ที่จริงออกกำลังอะไรก็ได้ ต่อเนื่อง 30 นาที ให้ได้เหงื่อ กระตุ้นการเผาผลาญ)

          4. อันนี้สำคัญมากค่ะ "ดื่มน้ำเยอะ ๆ"

           เช้าตื่นนอนปุ๊บ เราจะคว้าขวดน้ำข้างที่นอนมาดื่มเลย ประมาณ 1-2 แก้ว

           ระหว่างวัน เราจะมีขวดน้ำ 1.5 ลิตร เราจะดื่มระหว่างวันจนหมดขวดนี้ค่ะ (ดื่มน้ำไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนะคะ ถ้าทำได้ชินเมื่อไหร่ รับรองสบายค่ะ)

          เราทำแค่ 4 ข้อนี่เองค่ะ 2 เดือนเราลดไป 10 กิโลกรัม เราทำได้คุณก็ทำได้จ้า

ลดน้ำหนัก

          ปัจจุบัน เราก็ยังคุม แคลอรี่ในการกินด้วยความเคยชิน อาจไม่เป๊ะมาก แต่การเลือกกินมันติดเป็นนิสัย เรื่องจริงที่ว่า กินอะไร ได้อย่างนั้น

          ออกกำลังกาย วันละ 30 นาที บอกเลยว่ายังขี้เกียจอยู่ ทุกวันต้องต่อสู้กับตัวเองสุดฤทธิ์ แต่ก็ผ่านไปได้ทุกวัน ^^ จากระบบขับถ่ายแย่ ๆ พอดื่มน้ำจนชิน ทุกวันนี้ขับถ่ายปกติค่ะ ผิวพรรณดูดีขึ้นเยอะ วารีบำบัดของแท้ ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริมล้างลำไส้ (แอบสารภาพว่าเคยลองหลายยี่ห้อ แรก ๆ ก็ถ่ายนะคะ ครั้งต่อ ๆ มา ลำไส้เริ่มชินค่ะ ไม่เกิดผลอะไรขึ้นเลย)

ลดน้ำหนัก

          การลดน้ำหนักว่ายากแล้วนะ แต่การควบคุมให้น้ำหนักคงที่นี่ก็สำคัญเหมือนกัน งั้นก็ เดิน เดิน เดิน ต่อไป หลัง ๆ เรามีพาลูกไปว่ายน้ำ เลยถือโอกาส ว่ายด้วยซะเลย เฟิร์มมากค่ะ แต่ก็ดำมากด้วย




Create Date : 14 มกราคม 2558
Last Update : 14 มกราคม 2558 0:25:39 น. 1 comments
Counter : 1042 Pageviews.

 
ได้ความรู้ดี ค่ะ
ป.ล. ฝาก blog ด้วยค่ะ เคล็ดลับช่วยคุณลดหุ่นหลังคลอด
CLICK HERE


โดย: รุ่งตะวัน (สมาชิกหมายเลข 2716342 ) วันที่: 20 ตุลาคม 2558 เวลา:16:29:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1025194
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1025194's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.