Bloggang.com : สมภพ เจ้าเก่า : จะส่งต่อหรือไม่ เราก็คนไทยด้วยกัน

จะส่งต่อหรือไม่ เราก็คนไทยด้วยกัน

ที่มาของ Blog นี้ เกิดจากการได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์ทำนอง ใครไม่ส่งต่อไม่ใช่คนไทย หรือประโยคใกล้เคียงกันนั้น หลายต่อหลายครั้ง และผมคิดว่าเค้าทำไม่ถูก ดังนั้น การโต้ตอบกลับไปซักครั้ง คงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรมาก โดยส่งหาเฉพาะคนที่ส่งมาจนถึงผมทุกทอด เพราะตรงตัวมากที่สุด

ในสภาวะที่บ้านเมืองเกิดวิกฤษจากการแตกสามัคคีกันนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการรณรงค์ให้คนไทยรักกัน แต่ทำไมคนบางคนจึงแต่งอีเมล์ “ใครไม่ส่งต่อไม่ใช่คนไทย” ทำให้วิกฤษนี้ฝังรากลึกลงไปได้อีก

นี่ผมไม่โทษคนแต่งฟอร์เวิร์ดเมล์คนเดียวนะ ผมโทษคนที่ส่งต่อด้วย เพราะเมื่อคุณส่งต่อ ถือว่าคุณยอมรับในบทความนั้น ถ้ามันเป็นดอกไม้ ถือว่าคุณส่งต่อดอกไม้ แต่ถ้ามันเป็นมีด ถือว่าคุณส่งต่อมีด เหมือนกับการส่งจดหมายลูกโซ่ให้คนอื่น เพียงเพื่อประจานความงมงายของตัวเอง แต่คุณคิดผิดซะแล้ว เพราะพระท่านบอกว่า “ใครให้ของเสียแก่เรา ถ้าเราไม่รับ ของเสียนั้นก็ตกเป็นของผู้ให้นั่นหละ”

แค่ส่งต่อแค่นี้ ยากอะไร?
มันจะยากเท่าเข็นครกขึ้นภูเขา หรือมันจะง่ายเท่าปลอกกล้วยเข้าปาก ก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาระบุว่าเป็นคนไทยหรือไม่เป็นคนไทยได้ครับ

แต่นี่เป็นจดหมายที่นำพระราชดำรัสพระเจ้าอยู่หัวมาลงนะ?
ก็แล้วนั่นเป็นพระราชดำรัสจริงหรือไม่จริงหละ ใครนึกอยากจะเขียนอะไรใส่พระโอษฐ์ก็ได้งั้นหรือ มันคงสะใจดีที่ได้ทำลายฝ่ายตรงข้าม ไม่สนใจว่า มันได้ทำลายสังคมยังไง และมันได้ทำลายศีลธรรมในตัวเองลงไป ยิ่งกับพระประมุขแล้ว ยิ่งบาปกว่าหลายเท่า
สิ่งที่จะตัดสินได้ว่าเป็นพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวจริงหรือไม่ มีให้พิจารณาดังต่อไปนี้
1. มีหลักฐานโดยตรงจากพระองค์ เช่น วีดีโอขณะทรงมีพระราชดำรัสหรือลายพระหัตถ์ในเอกสาร
2. มีประกาศสำนักพระราชวังอย่างเป็นทางการ
3. มีวีดีโอหรือลายมือของผู้ใกล้ชิดหรือคนที่เคยได้รับพระราชดำรัสนั้นโดยตรง พร้อมระบุชื่อ ตำแหน่ง และวันเวลาได้รับพระราชดำรัสนั้นประกอบ เช่น ทรงตรัสกับหมอที่รักษาพระองค์อย่างไร ก็ให้หมอคนนั้นมาพูดเอง อย่าไปทำเป็นรู้ดี มิวายหมอจะได้ออกมาแก้ข่าวลือกันจ้าละหวั่น

อย่าให้ต้องมีถึงข้อที่ 4. (เรื่องคนที่ฟังความมาจากคนรับพระราชดำรัสอีกทอด) เลย แค่ข้อ 3 ก็ไม่ค่อยอยากให้มีแล้ว เพราะในชีวิตเราเคยถูกคนใกล้ชิดเอาคำพูดเราไปบอกต่อแบบไม่ถูกทุกคำ ผิดที่ผิดทาง ผิดกาลเทศะ จนก่อความเสียหายกับเรามามากแล้ว อีกอย่างนึง คำพูดบางอย่างเป็นคำพูดระหว่างคนสองคน เจตนาเค้าต้องการบอกกับเราเท่านั้นไม่ได้ต้องการบอกคนอื่น

พระราชดำรัสเป็นถ้อยคำระดับชาติ จึงอย่ามักง่ายในการนำมาใช้ทางการเมือง

เอาหละครับ ทีนี้คุณลองย้อนกลับไปพิจารณาดูซิว่า คุณได้เคยอ่านพระราชดำรัสปลอมมาแล้วกี่ครั้งแล้ว คุณเคยเสียเวลานั่งอ่านข้อความของใครก็ไม่รุ ที่นั่งไขว่ห้างกระดิกขา ตามองเพดาน แล้วก็จิ้มแป้น แปะๆๆๆๆ มาบังคับให้คุณต้องส่งต่อ คุณไม่ผิดหรอกนะที่คุณเคยได้รับมาเท่าไหร่แล้ว แต่มันผิดที่คุณเคยส่งต่อไปเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าเรื่องพ่อหลวงหลั่งน้ำตาร้องไห้ หรือเรื่องพ่อหลวงทำฝนเทียมที่ชายแดนไทยพม่าเพื่อต้านพายุนากีสด้วยนะ ไม่ทราบว่าเคยได้รับหรือเปล่า
“พวกเรามีพ่ออยู่จริงๆ ไม่ใช่พ่อฟอร์เวิร์ดเมล์”

ดูแล้วรู้สึกสงสารพ่อบ้างมั้ย ที่ท่านทรงงานเหนื่อยแล้ว ยังต้องมีผู้นำรูปของพ่อที่ทรงงานเหนื่อยนั้น ไปติดใส่ข้อความที่ใครเขียนก็ไม่รุโดยที่ท่านไม่รู้เรื่อง แล้วแพร่อย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของคนหู......

การโกหกเพื่อให้คนไทยรักกันสมควรทำหรือไม่?
แม้ว่าการโกหกเพื่อให้คนรักกันจะบาปน้อยกว่าการโกหกที่ทำให้คนเกลียดกันก็ตาม แต่ก็ไม่สมควรทำทั้งนั้น เพราะมันก็คือการโกหกเหมือนกัน หากประเทศชาติเหมือนปีรามิด จะต้องใช้หินที่แข็งแกร่งในการสร้าง หากมีผู้หวังดีต่อประเทศชาติด้วยการเอาก้อนโฟมราคาถูกมาทาสีและบอกว่าเป็นก้อนหิน เอาไปช่วยสร้างปีรามิดด้วย อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป?

ต้องเข้าใจ ทั้งหมดที่ทำไปเพราะรักพ่อ?
ผมเข้าใจครับ และถ้าคุณเข้าใจแล้ว คุณก็กล่าวขอขมาต่อหน้ารูปพ่อหลวงซะนะครับ เสร็จแล้วก็ฟอร์เวิร์ดเมล์ไปขอโทษทุกคนที่คุณเคยส่งพ่อเทียมไปให้ด้วย
จิตวิทยาของคุณ ยังไม่พ้นจากการถูกปลุกเร้า วันนี้แม้จะดูเป็นด้านดี แต่วันหน้าหละ...?

ทักษิณเหรอ?
จริงๆไม่อยากพูดถึงคนๆนี้มาก เพราะมันสุ่มเสียงทางการเมือง แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณอายุเท่าไหร่ ผมรู้แต่ว่ากว่าคุณจะได้เซลล์สมองมาเต็มใบอย่างทุกวันนี้ คุณต้องใช้เวลากี่ปี และใช้ความพยายามมากแค่ไหน แต่มาวันนี้ คุณจะยอมให้มันลดลงเหลือครึ่งนึงอย่างงั้นหรือ? อย่าว่าแต่ครึ่งนึงเลย แค่ลดไป 20% หละ เอามั้ย
ผมไม่เอา... และถ้าคุณไม่เอาด้วยหละก็ คุณก็ต้องอย่าหลอกตัวเองว่าเป็นคนมองอะไรด้านเดียว แท้จริงแล้วคุณเป็นคนมองอะไรทุกด้าน ไม่งั้นคุณคงไม่มีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้หรอก เพราะจะตายไปตั้งแต่เดินข้ามถนนแล้ว ทีนี้ผมก็ไม่จำเป็นต้องหารูปทักษิณทุกมิติทุกด้าน ทั้งขณะทำงานและขณะเสพสุข มาให้คุณดูให้เสียเวลา เพราะทุกอย่างอยู่ในหัวคุณหมดแล้ว

แฟนของเรา ใช่ว่าจะดีพร้อม หนำซ้ำ เรายังจะเป็นคนที่มองเห็นข้อเสียของแฟนเรามากกว่าใครอื่นซะอีก แต่เราก็ยังไม่เลิกกับแฟน เพราะอะไร? เพราะข้อดีเค้ามากกว่าข้อเสีย หรือข้อเสียมากกว่าข้อดีแต่ข้อดีนั้นถูกใจเราสุดๆ หรือตัดสินใจเลิกแล้วแต่ก็กลับมาคบกันและเลิกกันอีกและกลับมาคบกันอีก เพราะหาคนที่ดีกว่านี้ไม่ได้ หรือคนที่ดีกว่าเค้าไม่มาสมัครใจ หรือบางคนตัดสินใจเลิกเพราะข้อเสียมากกว่าข้อดี หรือข้อดีมากกว่าข้อเสียแต่ข้อเสียนั้นเราชังสุดๆ หรือเลิกเพราะถือเอาข้อเสียล่าสุดแม้ก่อนนั้นจะดีมาตลอด หรือให้โอกาศเค้ากลับตัวก่อนค่อยตัดสินใจเลิกหรือไม่เลิกอีกที ซึ่งไม่ว่าอย่างไร เราก็อยากตัดสินใจเอง หากมีบุคคลที่สามที่ไม่ใช่พ่อแม่มาบอกคุณว่า “แฟนคุณไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ เลิกเหอะ” แม้สิ่งที่เค้าพูดมาจะจริงทุกประการ แต่ถามว่า คุณอยากเตะใครมากกว่ากันระหว่างแฟนคุณกับบุคคลที่สามนั้น

คนไทยควรเลิกกับทักษิณมั้ย?
ผมตัดสินใจไม่ได้ เพราะผมเป็นเหมือนต้นไม้ต้นเดียวซึ่งไม่อาจเรียกว่าป่าได้ ปัจจุบันประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มันอาจนำมาซึ่งบุคคลที่คุณไม่พึงประสงค์ ฟังดูมันน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันมันก็น่าอุ่นใจ อุ่นใจที่อำนาจนี้ไม่ได้อยู่ในมือใครคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่ง เพราะถ้าคนนั้นหรือกลุ่มนั้นทำสิ่งที่ไม่น่าพอใจขึ้นมา เราจะยุ่ง อย่างน้อยขอให้เราได้มีเสียงซักหนึ่งในหกสิบล้าน ก็ยังดีกว่าไม่มีเสียงเลย...! เรียกได้ว่า เป็นการขอให้อำนาจนั้นหารเฉลี่ยกระจายไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ผู้นำชาติไม่ว่าจะมาจากการปกครองแบบใด ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเจอทั้งคนดีและคนไม่ดีได้ทั้งนั้นครับ คุณเลือกเอาว่าจะเจ็บแบบไหน ระหว่าง “เจ็บแบบร้องไม่ออก กับเจ็บแบบร้องออก” คุณจะเลือกแบบไหน

เราจึงมองเห็นสิทธิเสรีภาพแล้ว พวกเค้ามีสิทธิ์แสดงตนว่ารักใครชอบใคร ไม่ว่าศิลปินดาราทั้งไทยและเทศ ทีมฟุตบอลต่างชาติ ตลอดจนนักการเมือง ทำไมคนไทยบางกลุ่มจึงรักทักษิณ(รักอย่างมีเหตุผล) ทำไมจึงงมงายกับทักษิณ(รักอย่างไม่ค่อยมีเหตุผล) ทำไมจึงไม่เอาทักษิณ(ไม่เอาอย่างมีเหตุผล) หรือทำไมจึงเกลียดทักษิณ(ไม่เอาอย่างไม่ค่อยมีเหตุผล) เพราะทุกคนมีสิทธิแสดงออก มีสิทธิ์ปราศรัยภายในกรอบที่ไม่กระทบเสรีภาพซึ่งกันและกัน แม้คุณจะมีลำโพงอยู่ในมือ มีเสียงดังกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่ได้มีสิทธิ์เหนือคนอื่น ต้องให้ทุกคนที่ฟังคุณปราศรัยนั้นได้ตัดสินใจด้วย

ที่ผ่านๆมา เราเริ่มรู้สึกเหนื่อยบ้างหรือยัง กับการพยายามส่งต่อเมล์แนวๆนี้ แต่สุดท้าย อะไรมันต้องเป็นไป
1. ตอนที่เสื้อเหลืองออกมาชุมนุมเป็นสมัยที่สองสมัยรัฐบาลพลังประชาชน ช่วงแรกๆของการชุมนุมนั้นมีกลุ่มสีขาวเกิดขึ้น โดยชูนโยบายว่า “เห็นต่างได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง” เพราะเค้าคงไม่อยากให้ความรุนแรงแบบก่อนรัฐประหารกลับมาอีก เค้าต่อต้านอย่างเกรงใจเพราะเป็นม๊อบยอดหญ้า แต่สุดท้ายก็รุนแรงกว่าการชุมนุมสมัยแรกซะอีก เกิดการยึดทำเนียบ ยึด NBT จราจลเจ็ดตุลา ลามไปถึงยึดสนามบิน เพราะมันต้องเป็นไป
2. ตอนเสื้อแดงจะออกมาชุมนุมใหญ่ปี 53 ก็มีกระแสต่อต้านความรุนแรงและต่อต้านนโยบายของเสื้อแดงออกมารวมพลังกันหลายกลุ่ม มีมิวสิควีดีโอเป็นการ์ตูนประกอบเพลงพี่เบิร์ดทางช่อง NBT ด้วยภาพการขว้างไฟมาตกใกล้บ้าน มีฟอร์เวิร์ดเมล์เหยียบย่ำเสื้อแดงแพร่กระจาย เพราะเค้าเป็นม๊อบรากหญ้า แต่สุดท้าย ทำไมเกิดภาพเหตุการณ์แบบในมิวสิควีดีโอการ์ตูนช่อง NBT นั้นได้ เกิดเหตุรุนแรงยิ่งกว่าสงกรานต์ 52 มีการเผาสิ่งปลูกสร้างหลายจุดในกรุงเทพ และยังลามถึงศาลากลางบางจังหวัดในภาคอีสาน ทั้งที่วิกฤษการเมืองไทยสมัยก่อนดูจะกระจุกแต่ในกรุงเทพเท่านั้น ซ้ำยังต้องสังเวยชีวิตทั้งคนเสื้อแดง ทหาร หมออาสา นักข่าว คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่มากมาย (ทั้งที่โทษของพวกเค้าไม่ถึงประหาร) เหตุใดกระแสต่อต้านความรุนแรงและการเหยียบย้ำในอินเตอร์เน็ตถึงช่วยไม่ได้ หรือเพราะมันต้องเป็นไป เช่นกัน

คำว่า “มันต้องเป็นไป” นี่มันน่ากลัวแค่ไหน เราเจ็บกับมันมากแค่ไหนแล้ว แต่เจ็บนี้มันสอนเราได้อย่างนึงคือ “อย่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” การเอาศิลปะภาคใต้ ภาษาใต้ และคนใต้ขึ้นมาเป็นศิลปินนักร้อง ช่วยแก้ปัญหาไฟใต้ไม่ได้ฉันใด การนำคนไปยืนร้องเพลงชาติ ก็ช่วยแก้ปัญหาไฟในชาติไม่ได้ฉันนั้น การเกาไม่ถูกที่ นอกจากจะไม่หายคันแล้ว ยังทำให้เจ็บไปเปล่าๆ (เว้นแต่คนเกานั้นหล่อจึงยอมให้เกาแบบเจ็บๆไป) และหากวันนึงประเทศเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติจนเสียหาย หากไม่มีงบประมาณพอช่วยเหลือ เงินที่ใช้ไปกับการจัดกิจกรรมร้องเพลงชาตินี่หละ จะถูกถามถึงก่อนใคร มิวายคุณอาจจะได้ลิ้มรสปลากระป๋องเน่าเหมือนคนใต้เหล่านั้น

การนำพระราชกรณียกิจมาให้ดู ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพียงทำให้รู้สึกว่าได้แก้ปัญหาเป็นพอ เหมือนคนคิดอะไรไม่ออก ก็เลยนำพระบรมฉายาลักษณ์เข้ามาคนๆๆใส่ปัญหาไปวันๆ การปกป้องสถาบันนั้น ต้องเริ่มด้วยปัญญา อย่าใช้เพียงเอามายกตนว่าเลิศกว่าคนอื่น เพราะดูปกป้องเก่งกว่าคนอื่น

นำพระบรมฉายาลักษณ์มาชูใส่กัน แล้วได้อะไรขึ้นมา?

ใครชูสูงกว่า ชนะเหรอ?
เมื่อเหนื่อยกับการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว จะลองมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันบ้างก็ดีนะ

เอาหละครับ สิ่งที่อยากจะบอก (ระบาย) สุดท้ายคือ
คนไทยหลายคนไม่เคยไปร่วมปิดสนามบิน ไม่เคยไปร่วมยึดทำเนียบ ไม่เคยไปร่วมเผารถเมล์ ไม่เคยไปร่วมเผาตึกและศาลากลาง แต่ต้องมาถูกคุณตราหน้าว่าไม่ใช่คนไทย เพียงเพราะไม่ส่งต่อจดหมายพ่อเทียม เพียงฉบับเดียว
ลองไปพิจารณาสถานะภาพความเป็นคนไทยของตัวเองใหม่นะครับ

บทความนี้ คุณจะตอบกลับทางอีเมล์นี้ หรือคอมเม้นท์ในเว็ปของผมก็ได้

ลงชื่อ นายสมภพ ขำสวัสดิ์ //sompop.bloggang.com
คนไทยผู้รักพ่ออย่างพอเพียง

Create Date : 20 มิถุนายน 2553

Last Update : 20 มิถุนายน 2553 20:44:21 น.

9 comments

Counter : 3107 Pageviews.

ไม่ขอพูดอะไรมาก ก็แค่ถ้าเจอใครเข้าใจผิดก็เตือนๆ กันก็แล้วกัน ยังมีอีกเยอะเรื่องพระราชดำรัสปลอม แม้แต่ "ของขวัญจากในหลวง" 16 ข้อ ทุกวันนี้ก็ยังวนเวียนอยู่

คนไทยขาดสติ... ...

สำหรับเรื่องทักษิณ (เห็นพูดถึง) ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น คุณทักษิณจะใช้ข้ออ้างนี้ไปได้จนตาย คือ "ผมถูกปฏิวัติ" ซึ่งคนต่างชาติให้ความเชื่อถือค่อนข้างมากด้วย และเพราะถูกปฏิวัติดังนั้นเค้าจะอ้างได้ว่า คดีที่เกิดกับเค้าเป็นคดีการเมือง ก็ต้องดูกันแต่ไป

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:19:13:39 น.

ได้เข้าไปเยี่ยม Blog ของคุณต่อ แล้วนะครับ ไม่นึกว่าช่วงสมัยนี้มีผู้แต่ง Blog ไปในทำนองเดียวกันนี้เหมือนกัน ผมว่าสามารถสอนให้คนไทยเราหูหนักขึ้นได้ ยังไงผู้ที่แวะเวียนเข้ามา จะไปอ่านเพิ่มเติมได้ใน Blog ของคุณต่อนะครับ แบบนี้หรือที่บอกว่ารักในหลวง

โดย: สมภพ เจ้าเก่า

วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:20:13:32 น.

สวัสดีค่ะ..

กำลังดูบราซิลแล้วup blogใหม่ไปด้วย

ตอนนี้นำไปแล้ว3-0ค่ะ

ทายดูนะค่ะว่าเขาเรียกว่าดอกอะไร?

ทายถูกมีรางวัลให้ค่ะ

โดย: คนผ่านทางมาเจอ

วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:2:52:49 น.

เพิ่มเติมอีก
สำหรับท่านที่เข้าใจแล้ว หรือมีภูมิต้านทานข่าวสารแล้ว
ท่านสามารถตอบ(ตอก)กลับผู้ที่ส่งมาหาได้เลย หรือตอบกลับทุกคนที่ส่งต่อทอดๆมาก็ได้ ซึ่งในนั้นอาจจะมีอีเมล์ของคนต้นส่งด้วย

การถามย้อนกลับไปเป็นทอดๆอย่างงี้ จะช่วยให้เราได้สืบรู้ต้นเหตุของข่าวสารมากขึ้น ว่าจริงหรือไม่

โดย: สมภพ เจ้าเก่า

วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:14:23:28 น.

อ.ปราโมท นาครทรรพ สัมภาษณ์รายการ NBTว่า ในหลวง ทรงทราบว่ามีคนไม่อยากให้มีสถาบันกษัตริย์ พระองค์พยายามบอกผ่านคนทำงานของท่านว่า
"ขอให้บอกเรานะ ว่าจะให้เราปรับตัวอะไรบ้าง"

ก่อนอื่นต้องขออภัยคุณสมภพ เพราะผมลงข้อความไม่หมด แต่ตอนนี้ลงครบแล้วครับ เมื่ออ่านครบอยากให้คุณสมภพดูอีกทีว่า มันกลางจริงหรือไม่ ยิ่งในสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้

เคยมีคนกล่าวว่า (ขอเน้นว่าข้อมูลยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัด) นี่เป็นคำพูดของท่านจริง แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่เป็นสมัยเมื่อท่านขึ้นครองราชใหม่ๆ อย่างไรก็ดีเพราะมันเป็นแค่ "ข้อมูลที่ได้ยินมา" ดังนั้นผมยังไม่ให้ราคาข้อมูลนี้ จึงขอใช้สิทธิ์ที่จะไม่เชื่อคำกล่าวนี้ไว้ก่อน แม้ว่าจะได้รับข้อมูลทั้ง 2 ฝั่งแล้วก็ตาม

ประเด็นถัดมาการนำคำพูดนี้มากล่าวอ้างในช่วงเวลานี้ มันเหมือนการดึงท่านเข้ามายุ่งเรื่องการเมือง ผมเดาว่าคุณสมภพน่าจะรู้จัก "คุณซาบซึ้ง" ใช่มั้ยครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์คุณซาบซึ้งใช่หรือไม่

จริงๆ มันมีหลายเรื่อง แต่เรื่องแบบนี้มันพูดลำบาก สรุปง่ายๆ ว่าถ้ายังพิสูจน์แน่ชัดไม่ได้ผมขอใช้สิทธิ์ไม่เชื่อไม่ก่อนครับ

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:17:54:22 น.

สำหรับในความเห็นที่ 4 นั้น
เคยทำแล้วปัจจุบันก็ยังทำอยู่ แต่หลายๆ ครั้งก็โดนไล่ให้ไปอยู่ประเทศมอนเตเนโX หรือไม่ก็ให้ไปเลียไข่ทักษิX ซะงั้น

คนไทย มันไปกันหมดแล้ว

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:17:58:06 น.

เรื่องสัมภาษณ์ใน NBT อึมม ผมว่าเรื่องนี้ถ้ามีจริง ไม่น่าหาได้ยากใน youtube นัก แต่ว่า บางทีอ้างว่ามีเทปนั้นเท่าไร ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น เทปจัดเป็นสื่อบันทึกสมัยใหม่ที่(ดูจะ)น่าเชื่อถือที่สุด ถ้าใครอ้างว่ามีเทป ย่อมดูน่าเชื่อถือที่สุด
แต่เราเคยมีบทเรียนกันมาแล้ว ตั้งแต่สมัยเขมรเผาสถานทูตไทย เพราะอ้างว่าได้ยินกบสุวนันท์พูดด่าเขมรในทีวี แต่จนแล้วจนรอด ก็หาเทปตอนด่านั้นไม่เจอ จนเจ้าของหนังสือพิมพ์เขมรรายนั้นต้องออกมาขอโทษ เพียงเพราะฟังความมาจากคนอื่นที่เค้าอ้างว่าเค้าได้ยินมาจากทีวี ด้วยความ"รักชาติ"จึงรีบตะบึงตะบันเขียนข่าวออกไปอย่างงั้น

นี่หละจุดอ่อน ความจริงผู้ที่เผยแพร่ข่าวสารให้เรา ควรแนบเทปมาด้วยเลย ไม่ใช่ให้เราไปหาเอง ตราบใดที่เค้าต้องการให้เรารู้ในเรื่องที่เค้าสื่อ และเชื่อในเรื่องที่เค้าบอก

อย่างไรเสีย "ขอให้บอกเรานะ ว่าจะให้เราปรับตัวอะไรบ้าง" ผมก็ค่อนข้างเชื่อพอสมควร จริงๆคนทุกชนชั้น สมควรถามอย่างงั้นกับคนรอบข้างอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ใหญ่ เชื่อมั้ย ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยถามพระสาวกอยู่ครั้งนึงเลยว่า "มีสิ่งใดจะตำหนิตถาคตหรือไม่" (อาจจำตกหล่นไปบ้าง)
แต่อย่างว่า หากทรงตรัสอย่างงั้นจริงๆ ก็ว่ากันไปตามจริง ไม่ต้องการให้ใครมาแต่ง เพราะ "พ่อมีอยู่จริง" ครับ

เรื่องมีคนไม่อยากให้มีสถาบันนั้น การที่ ร.7 ทรงสละราช และการที่ ร.8 ทรงถูกปลงพระชนม ก็เป็นการสะท้อนอะไรได้มากแล้วหละครับ แต่ผมว่า คนที่ไม่ต้องการให้มีสถาบันนั้น มีมานับตั้งแต่มีสถาบันเกิดขึ้นแล้วหละครับ ไม่ศึกนอกก็ศึกใน เห็นได้ทั่วไปในประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา

โดย: สมภพ เจ้าเก่า

วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:18:34:24 น.

ความจริงเพราะคำว่าพยายามบอกผ่านคนใกล้ชิดนี่แหละ ทำให้ผมรู้สึกไม่เชื่อถือ ถ้าบอกผ่านตัวคนที่พูดอ้างข้อความดังกล่าวเลย แบบนี้ผมจะให้ราคาในระดับนึง

เรื่องศึกในศึกนอกนั้น ศึกในน่ากลัวกว่าหลายเท่าตัวนัก

โดย: คุณต่อ (toor36

) วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:1:43:27 น.

สวัสดีค่ะ..

อังกฤษและอเมริกาชนะแล้ว ได้เข้ารอบ..

เกือบไม่รอดแล้วค่ะ..

รอลุ้นเยอรมันอีกตอนดึกๆ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

โดย: คนผ่านทางมาเจอ

วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:0:55:58 น.