Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
สงกรานต์ปี 2572 จะมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งเข้าเฉียดโลกใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้า

        ศุกร์ 13 เมษายน 2572 ในขณะที่เรากำลังสนุกสนานกับการเล่นสงกรานต์ แต่ทว่า ได้เกิดสิ่งที่น่าสพรึงกลัวได้เกิดขึ้นบนท้องฟ้า นั่นเพราะจะมีดาวเคราะห์น้อยพุ่งเฉียดเข้ามาใกล้โลกด้วยระยะห่างแค่ 36,350 กิโลเมตร ใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้าเสียอีก

ความเดิม
        ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส 2547 ถึงปีใหม่ 2548 ขณะที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันของไทยกำลังประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิ อีกมุมหนึ่งนักดาราศาสตร์หลายคนกำลังให้ความสนใจเป็นพิเศษกับดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่ง ที่บ่งบอกว่ามันอาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อโลกได้ในอนาคตอันใกล้นี้

         ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส (99942 Apophis) ซึ่งขณะนั้นถูกเรียกว่า 2004 เอ็มเอ็น 4 (2004 MN4) ถูกพบครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2547 แต่ไม่สามารถติดตามสังเกตการณ์ต่อได้ เพราะขนาดที่ไม่ใหญ่และโคจรไกลห่างโลกออกไป ได้กลับมาพบอีกครั้งในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ข้อมูลวันที่ 27 ธันวาคม 2547 ชี้ว่าวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2572 (ค.ศ. 2029) ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะผ่านใกล้โลกและมีโอกาสชนโลกด้วยอัตราส่วน 1 ใน 38 ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับบรรดาดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรใกล้โลกดวงอื่น ๆ ที่ได้ค้นพบไปก่อนหน้านั้น

        แม้อัตราส่วนดังกล่าวคือโอกาสประมาณ 2.6 เปอร์เซนต์ แต่คำว่า "มีโอกาส" ไม่ว่าจะน้อยหรือมากมีความหมายอย่างเดียวกัน คือ นักดาราศาสตร์ไม่สามารถฟันธงได้ว่าปี 2572 โลกจะเผชิญกับหายนะจากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้หรือไม่ อะโพฟิสจึงเข้าไปอยู่ในรายชื่อดาวเคราะห์น้อยที่ต้องจับตามองโดยอัตโนมัติ

ไม่กี่วันถัดมาหลังจากได้ข้อมูลวงโคจรเบื้องต้นของอะโพฟิส นักดาราศาสตร์ได้ไปค้นหาภาพถ่ายในคลังภาพของท้องฟ้าบริเวณที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้น่าจะเคลื่อนผ่าน เจฟฟ์ ลาร์เซน และ แอนน์ เดสเคอร์ พบอะโพฟิสในภาพที่ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2547 ด้วยกล้องโทรทรรศน์ขนาด 0.9 เมตรของหอดูดาวคิตต์พีก แอริโซนา มันช่วยให้คำนวณวงโคจรได้แม่นยำขึ้น สามารถบอกได้ว่าดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจะไม่ชนโลกและดวงจันทร์อย่างแน่นอน แต่เฉียดผ่านโลกด้วยระยะห่างประมาณ 64,400 กิโลเมตร

ผลจากเรดาร์
วันที่ 27-30 มกราคม 2548 ทีมนักดาราศาสตร์นำโดย แลนซ์ เบนเนอร์ แห่งห้องปฏิบัติการขับดันไอพ่น (เจพีแอล) ขององค์การนาซาได้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสด้วยเรดาร์ของกล้องโทรทรรศน์วิทยุอะเรซิโบที่ตั้งอยู่ที่เปอร์โตริโก การส่งคลื่นวิทยุไปสะท้อนกับพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยทำให้ทราบข้อมูลตำแหน่ง รวมทั้งความเร็วในการเคลื่อนที่ได้ดีกว่าการคำนวณก่อนหน้านี้ที่อาศัยเพียงภาพถ่าย ข้อมูลจากเรดาร์สรุปได้ในที่สุดว่าวันที่ 13 เมษายน 2572 อะโพฟิสจะเฉียดผ่านโลกใกล้ยิ่งกว่านั้น ด้วยระยะห่างที่เพียง 36,350 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 5.7 เท่าของรัศมีโลก ใกล้กว่าดวงจันทร์เกือบ 11 เท่า และใกล้กว่าดาวเทียมค้างฟ้า



มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
การเข้าใกล้โลกอย่างมากของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสในช่วงสงกรานต์ พ.ศ. 2572 ทำให้เรามีโอกาสสังเกตเห็นมันในเวลากลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบตะวันตกของทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป และแอฟริกา ไม่ต้องใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในพื้นที่แถบชานเมืองและที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ อะโพฟิสจะปรากฏเหมือนดาวทั่วไปบนท้องฟ้า แต่เคลื่อนที่ได้และเร็ว นักดาราศาสตร์เรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งเดียวในรอบสหัสวรรษ

ที่ผ่านมามีดาวเคราะห์น้อยผ่านใกล้โลกหลายดวง แต่ไม่เคยมีดวงใดที่สว่างจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเช่นนี้มาก่อน นักดาราศาสตร์คะเนว่าเหตุการณ์ทำนองนี้มีโอกาสเกิดขึ้นทุก ๆ 1,300 ปีหรือนานกว่านั้น

วงโคจร
ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยวงโคจรต่างจากดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่ที่อยู่ในแถบดาวเคราะห์น้อยหลัก (ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี) วงโคจรของมันอยู่ใกล้วงโคจรโลก เส้นทางส่วนใหญ่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลกและเคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ด้วยคาบ 323 วัน



แม้ว่าอะโพฟิสจะไม่ชนโลกในปี 2572 แต่นักวิทยาศาสตร์ก็กระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนป้องกันไว้ เพราะแรงโน้มถ่วงของโลกจะเบนวงโคจรของอะโพฟิส ส่งผลให้การคาดหมายวงโคจรในอนาคตมีความแม่นยำน้อยลง
นอกจากนี้ ผลการคำนวณล่าสุดระบุว่า ไม่เพียงแต่ปี 2572 เท่านั้น แต่ปี พ.ศ. 2579 ดาวเคราะห์นอยอะโพฟิสดวงเดิม ก็จะกลับเข้าเฉียดโลกอีกครั้ง และยังตรงกับวันที่ 13 เมษายนเหมือนกัน สาเหตุที่วันกลับมาตรงกันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรมาก นั่นเพราะจุดที่วงโคจรทั้งสองเฉียดกันยังอยู่ที่เดิม และมีโอกาสชนโลก 1 ใน 45,000 หรือ 0.002% นอกจากนี้ยังมีดาวเคราะห์น้อยดวงอื่นทั้งที่พบแล้วและยังไม่พบที่มีโอกาสเป็นอันตรายต่อโลกได้ในอนาคต ดังนั้นการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย


หายนะภัยมักจะไม่ค่อยมาจากแดนไกลซักเท่าไร
แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่รอบๆบ้านของเรานี่เอง


อ้างอิงจาก //thaiastro.nectec.or.th/library/apophis/apophis.html




Create Date : 09 เมษายน 2551
Last Update : 10 ธันวาคม 2551 9:45:45 น. 1 comments
Counter : 1308 Pageviews.

 
ปรับสีตัวหนังสือด้วยงิ


โดย: Jump.Jr วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:18:29:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมภพ เจ้าเก่า
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




รูปภาพทั้งหมดในนี้ สามารถนำไปใช้ได้ฟรีนะครับ แต่ไม่ควรลบสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของในรูปออกไป รูปใดไม่มีสัญลักษณ์ อยากให้ช่วยอ้างอิง จาก sompop.bloggang.com ด้วยครับ
Blog ล่าสุด
* สัมภาษณ์เทวดาในพระแก้วมรกต 18 มิ.ย. 60
* การสำรวจหินลอยได้ที่เขาคิชฌกูฏ 3 มี.ค. 60
* บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมือง กทม. 16 ธ.ค. 59
เรื่องเล่าบอกต่อ
* บั้งไฟพญานาค ถ่ายจากโดรนมุมสูง
* เชิญโหลด 7 ภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ
* เช็คอันดับ Blog ของคุณกับ truehits
Blog แนะนำ
* บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมืองกรุงเทพฯ 19 ก.ย. 57
* ยานพาหนะที่แล่นตามและทวนน้ำได้โดยไม่ใช้พลังงานอื่น
* ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ปี 2012
New Comments
Friends' blogs
[Add สมภพ เจ้าเก่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.