พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระนามว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธืเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามมิทราธิราช บรมนาถบพิตร” พระองค์ทรงประสูติเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ 2470 (คริสตศักราช 1927) และเสด็จขึ้นครองราชย์สืบสันติวงศ์ ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ 2549 (คริสตศักราช 1946) และคนไทยเพิ่งมีความสุขจากการเฉลิมฉลองการทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระองค์ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ 2549 (คริสตศักราช 2006) ที่เพิ่งผ่านพ้นไป! ผลการเฉลิมฉลองนั้น ทำให้ดัชนีความสุขมวลรวมของคนไทยประจำเดือนมิถุนายน – กรกฏาคม ของคนไทยทั้งประเทศเกือบ 100 % มีความสุขในขั้นสูงสุด คือดีมาก หรือ + 5 ในขณะที่ดัชนีความสุขมวลรวมด้านการเมือง (รัฐบาล / องค์กรอิสระ) ในช่วงเวลานั้น มีค่าน่าใจหายคือ – 4 และดัชนีความสุขมวลรวมด้านสภาวะเศรษฐกิจมีเพียง – 2 เท่านั้น ! แสดงว่าคนไทยรักในหลวงผู้ทรงได้รับการยกย่องเทิดทูนว่า เป็น “พ่อหลวง” ของแผ่นดินไทย! เพราะพระองค์ทรงห่วงใยสวัสดิภาพของพสกนิกรของพระองค์ ผู้เปรียบประดุจ “ลูก” ของพระองค์ ทั้งแผ่นดิน พระองค์ทรงมุ่งมั่นให้ประชาชนของพระองค์มีหลักประกันว่าจะมีพอกินพอใช้ จึงทรงพระราชทานแนวทางทฤษฎี “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ยิ่งใหญ่และเปี่ยมคุณค่าอย่างเหลือคณานับต่อการดำรงชีวิตของเหล่าเกษตรกรและประชาชนชาวไทยโดยทั่วไป แนวทาง “เศรษฐกิจพอเพียง”(Self-sufficient Economy) หรือ “การพึ่งพาตนเองโดยยึดหลักสายกลาง” ถือหลัก “พอประมาณมีเหตุ และมีภูมิคุ้มกัน” อันเป็นแนวทางที่ทำให้เรา พอมีพอกินอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่เดือดร้อน พระองค์ทรงพระราชทานราโชวาทให้คนไทยรู้จักประมาณตนในการกินดื่ม ดำรงชีวิต การพูดจา รวมทั้งการกระทำสิ่งต่าง ๆ พระองค์ทรงย้ำให้พสกนิกรของพระองค์ประหยัดแต่ไม่ขี้เหนียวมีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงประมาณตนตามฐานะให้ทำกิจกรรมโดยไม่หลงไปตามกระแสวัตถุนิยม ไม่โลภมากและไม่เบียดเบียนใคร พระองค์ทรงกำชับให้พสกนิกรของพระองค์ทำอะไรด้วยเหตุและผล แต่มีความอลุ้มอล่วยกันอย่างรู้รักสามัคคี การกระทำตามพระดำรัสของพระองค์ จึงเป็นหลักประกันสำหรับความสมบูรณ์พูนสุขเพื่อตัวผู้ประหยัด ครอบครัวและประเทศชาติ เศรษฐกิจพอเพียง ในพระดำริของพระองค์ จึงเป็นเสมือนรากฐานอันมั่นคงของชีวิตเหล่าประชากรและของแผ่นดินไทย ดุจดั่งที่พรรณนาไว้ในบทเพลง “ภูมิแผ่นดิน...นวมินทร์มหาราชา” ว่า.... “บุญของแผ่นดินไทย พ่อหลวงบันดาลให้ที่ในยุ้งฉางมีข้าว น้ำรินดินดีใครเล่า ทุกข์ใดเหินไปบรรเทาด้วยพระบาท เกือบศตวรรษ ธ นำไทยทั้งชาติพ้นภัย” ใช่ครับ ในหลวงของเราเป็นดุจพระราชบิดาแห่งพสกนิกรชาวไทยที่ช่วยดับไฟให้เหล่าประชากรมาตลอด 60 ปีที่ผ่านมาดังเช่น 14 ตุลาคม พ.ศ 2516 ประเทศชาติของเราพ้นวิกฤตก็เพราพระปรีชาญาณของพระองค์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ประเทศชาติพ้นหายนะก็เพราะพระเมตตาของพระองค์ 17 - 20 พฤษภาคม พ.ศ 2535 ประเทศชาติพ้นสภาวะมิคสัญญีก็เพราะพระสติปัญญาของพระองค์ และล่าสุด 17 กันยายน พ.ศ 2549 ประชาติก็รอดพ้นสภาวะที่กำลังมุ่งหน้าสู่ความล่มสลาย เพราะความแตกแยกย่างรุนแรงของคนภายในชาติเพราะพระบารมีคุณของพระองค์เหล่าทหารจึงไม่ออกมาต่อสู้กันเอง จึงกล่าวสรุปได้ดังเนื้อเพลงที่ว่า “อ้าองค์สุริย์ศรี มีธรรมส่อง ปกครองอย่างทรงพระเมตตาดุจบิดรเหล่าประชา ทุกข์ร้อนใดใดกรายมา โอ้ฟ้าเป็นดั่งฝนดับไฟ” ต้องขออภัยเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้ไปเยี่ยมเพราะน้องเน็ตมานรวน กว่าจะแก้ได้ก้อตีสามแระไปนอนละ

Create Date : 05 ธันวาคม 2549
Last Update : 6 ธันวาคม 2549 3:17:53 น.		57 comments
Counter : 748 Pageviews.
Share Tweet