Bloggang.com : somnumberone : ผัวเครียดเมียเอาแต่แชตกับกิ๊ก - จับลูกเป็นตัวประกันขอแยกทาง!

ผัวเครียดเมียเอาแต่แชตกับกิ๊ก - จับลูกเป็นตัวประกันขอแยกทาง!

ผัวเกิดอาการเครียด เห็นเมียนั่งแชตกับคู่สนทนา แถมโทรศัพท์คุยกันต่อหน้าต่อตา เลยจับลูกวัย 3 ขวบกว่าที่ตาบอดทั้ง 2 ข้างเป็นตัวประกัน ปิดประตูล็อกไว้ในบ้าน ตำรวจกับเมียเกลี้ยกล่อมเกือบ 3 ชั่วโมงไม่เป็นผล จนพี่ชายและพี่สะใภ้มาเจรจาจึงยอมสงบสติอารมณ์ พาลูกเมียไปตกลงที่บ้านพี่ชาย

วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.ต.ยศวัฒน์ จันธนะสมบัติ สารวัตรเวร สน.ลำผักชี รับแจ้งเหตุพ่อจับลูกเป็นตัวประกันโดยมีอาวุธมีดทำครัวยาวประมาณ 1 ฟุตเป็นอาวุธ และปิดล็อกประตูขังตัวเองไว้ภายในบ้านเลขที่ 13/190 หมู่บ้านชากรวิลล์ แขวงโคกแฝก เขตหนองจอก กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร ผบก.น.3 พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา ผกก.สน.ลำผักชี เจ้าหน้าที่กู้ภัย และหน่วยกู้ชีพนเรนทร

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และร้านเกม ตำรวจได้ใช้สายกั้นกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในรัศมี 10 เมตร เบื้องต้นทราบว่าภายในบ้านมี นายปิยะ กุณฑลรัศมี อายุ 41 ปี จับตัว ด.ช.ธนกิจ กุณฑลรัศมี หรือน้องเดฟ อายุ 3 ขวบ 8 เดือนที่พิการตาบอดมาแต่กำเนิดทั้งสองข้างซึ่งนายปิยะปิดประตูล็อกไม่ให้ใครเข้าออก

ต่อมา พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ พ.ต.อ.สุนทร และนางวรรณี สิงห์ศิริ อายุ 36 ปี ภรรยานายปิยะเข้าไปยืนเจรจาเกลี่ยกล่อมนายปิยะบริเวณหน้าบ้าน แต่ทว่านายปิยะไม่มีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อลง จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที นายศักดิภักดิ์ กุณฑลรัศมี พร้อมภรรยา ซึ่งเป็นพี่ชายนายปิยะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และได้เข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อม โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง นายปิยะจึงมีทีท่าสงบลงและยอมรับฟังข้อตกลง จากนั้นนายปิยะยอมวางอาวุธมีด เปิดประตูอุ้มลูกชายออกมา และขึ้นรถเก๋งฮุนได สีบรอนซ์ ทะเบียน 7ฐ-6521 กทม. พร้อมภรรยา และพี่ชายออกเดินทางไปยังบ้านนายศักดิภักดิ์ ที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อไปตกลงเจรจาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป

พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ กล่าวว่า เหตุที่นายปิยะเกิดอาการคลุ้มคลั่งเนื่องจากเกิดความหึงหวงภรรยา ประกอบกับตกงานต้องอยู่บ้านเฉยๆ โดยทำหน้าที่เฝ้าบ้านและเฝ้าร้านอินเทอร์เน็ต จากนั้นเห็นภรรยาเล่มเกม และแชตกับคู่สนทนา รวมทั้งภรรยานายปิยะยังมีการใช้โทรศัพท์พูดคุยกับคู่แชตอีกด้วย ทำให้นายปิยะเกิดความเครียดและหึงหวงสุดกำลัง ในที่สุดได้ยื่นข้อเสนอจะขอแยกทางกับภรรยา แต่จะขอลูกชายไว้เลี้ยงดูเอง แต่ก็ไม่มั่นใจในข้อตกลงจึงต้องการให้สื่อมาทำข่าวเป็นพยาน จึงใช้วิธีจับลูกแล้วปิดประตูล้อกบ้านไว้เป็นตัวประกันดังกล่าว

ผบก.น.3 กล่าวอีกว่า จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า นายปิยะแต่งงานอยู่กินกับนางวรรณีมาได้ประมาณ 10 ปี แต่ระยะทั้งคู่มักมีปากเสียงและทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งรุนแรง ถึงขั้นทำลายข้าวของ แต่ก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายหรือทุบตีกัน ซึ่งหลายครั้งหลังการทะเลาะวิวาท นายปิยะก็จะพาภรรยาเดินขึ้น สน.ลำผักชี แจ้งตำรวจขอหย่าเกือบทุกครั้ง กระทั่งในวันนี้นายปิยะเห็นภรรยามีพฤติกรรมแบบเก่าจึงเกิดความเครียด ปิดประตูล็อกบ้านและจับลูกไว้ เพื่อต้องการให้ลูกอยู่กับนายปิยะดังกล่าว

“หลังการเจรจาจบสิ้น ตำรวจไม่ได้ดำเนินคดีกับนายปิยะ เพราะเห็นเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันกับภรรยา เมื่อทั้งคู่ตกลงกันได้ก็ไม่มีปัญหา” พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ กล่าว

Create Date : 01 กันยายน 2549

Last Update : 1 กันยายน 2549 22:49:45 น.

8 comments

Counter : 443 Pageviews.

ข่าวแบบนี้ก็มีด้วย ว๊ากกกก ชอบตั้ง ตัวหนีงสือหลายสี ดูดี และอ่านง่ายด้วยยย

โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด

วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:1:26:53 น.

แวะมาเยี่ยมค่ะ สวัสดีค่ะ

ดีนะเนี่ย ทีไหวตัว เลิก แชตทัน คิคิ ไม่งั้นขึ้นหน้าหนึ่งแน่เลย

โดย: รวมการเฉพาะกิจ

วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:7:26:32 น.

บางครั้ง
ต้องมีสตินะ............
ต้องมีขอบเขต.........
ต้องมีความยับยั้งชั่งใจ

คิดถึงไม่เสื่อมคลายค่ะ
ยังนึกถึงสิ่งดีที่คุณบอก

ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะค่ะ