GCuOKf.jpg

การเฉลิมฉลองของชีวิต



เชียงใหม่ ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ
ไปแล้ว อยากไปอีก เนื่องจาก
มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวพักผ่อน หลากหลาย
ไม่สามารถไปให้ครบได้ในเวลาอันสั้น
ที่ชอบที่สุดคือ...ดอยสุเทพ ที่เป็นสัญลักษณ์ คู่เมืองเชียงใหม่















จุดหมายของเราในวันนี้คือ แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆชายขอบของเชียงใหม่
เดินทางด้วยเส้นทาง เชียงใหม่ –ดอยสะเก็ด-แม่ออน
ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร














A4













































ขับรถแบบสบายๆ ประมาณ ชั่งโมงเศษๆก็ถึงบ้านแม่กำปอง
จากนี้ไปก็ถือว่าท่านเข้าสู่สถานการณ์
นั่นก็คือทางจะเล็ก แค่วิ่งสวนกันได้ ต้องระมัดระวังครับ














A12



ดีที่สุดคือควรหาที่จอดรถแล้วลงเดินเล่นไปเรื่อยๆ
บรรยากาศทั่วไปของหมู่บ้านเป็นแบบบ้านสมัยเก่า
บ้านปลูกชิดถนน ไม่มีฟุตบาท เวลาเดินต้องระวังรถครับ



ในวันหยุดเทศกาลจะมีรถเยอะมาก ผู้คนก็มากมาย
คนที่ชอบความสงบ ควรหาเวลาไปในวันธรรมดาดีกว่าครับ











เข้าไปจนสุดหมู่บ้าน จะเป็นน้ำตกแม่กำปอง
น้ำตกมีด้วยกัน 7 ชั้น และมีน้ำตลอดปี



ที่สำคัญน้ำตกแม่กำปองอยู่ใกล้ที่จอดรถ
ไม่ต้องออกแรงเดินไกลเหมือนน้ำตกอื่นๆ
มีขีดจำกัดก็คือที่จอดรถที่มีไม่มาก ต้องหาที่จอดกันข้างทางเอาเอง








>


ที่ชอบมากๆก็คือ ตรงนี้ครับ...
เขาปล่อยให้น้ำที่ไหลมาจากน้ำตก ไหลผ่านถนน
ให้เราเดินลุยน้ำใสๆไหลเย็นไปได้ น้ำนี่นะ เย็นเจี๊ยบเลยครับ ฮิ..ฮิ
แต่ถ้าใครไม่อยากเดินย่ำน้ำ เขาก็ทำสะพานไว้ให้ข้ามไว้ด้วยครับ

















ใกล้ๆกับทางน้ำใส ไหลผ่านถนนนี้
มีร้านกาแฟชื่อน่ารักมาก คือ “กาลครั้งหนึ่ง ณ แม่กำปอง”



ให้เราแวะนั่งจิบกาแฟ ซึมซับบรรยากาศที่แสนโรแมนติค ของเสียงน้ำไหล
แต่ต้องใจเย็นๆเพราะที่นั่งมีน้อย อาจต้องรอให้ที่นั่งว่างก่อนนะเออ...555






















1











สำหรับใครที่ชอบการลงเล่นน้ำตก ก็สามารถเล่นได้ครับ
แต่จะว่าไปแล้ว น้ำตกแม่กำปองไม่ค่อยเหมาะสำหรับการลงเล่นน้ำเท่าไร
เพราะแอ่งน้ำ มีขนาดไม่ใหญ่นัก


ไม่เหมือนกับน้ำตก”จ๊อกกระดิ่น” ที่ อ.ทองผาภูมิ




































































เลยน้ำตกแม่กำปองไปเส้นทางจะขึ้นเขา
ทางจะชันมาก ไม่แนะนำให้รถที่มีแรงน้อยขึ้นไป
เพราะขึ้นไปแล้วจะหาที่กลับรถยากมาก


ข้างบนนั้นก็จะมีเพียงลำธารสายเล็กๆสายน้อย
ที่จะไหลมารวมกัน ก่อนจะตกมาเป็นน้ำตกแม่กำปอง


















หลังจากเดินทางกลับจากไปเที่ยวบ้านแม่กำปอง
ก็กลับมาหาที่พักในเมืองเชียงใหม่ แถวๆถนนคันคลองชลประทาน
ซึ่งมีราคาไม่แพงนัก(390.-บาท ) และเมื่อได้เข้าไปสำรวจดูแล้ว
สภาพทั่วไปและห้องพักสะอาด อยู่ในเกณฑ์ดีครับ


“ ศิรินาถฮิลล์”










ที่นี่มีที่จอดรถสะดวกสบาย

















วิวทางด้านนี้ มองจากโรงแรมจะมองเห็นวัดพระธาตุดอยคำ
ฉะนั้นใครจะไปไหว้ขอพรจากพระเจ้าทันใจ
มาพักที่นี่ ก็จะเดินทางใกล้นิดเดียวครับ







>









ขึ้นไปบนห้องพักแล้วมองเห็นดอยสุเทพ เต็มตาอย่างนี้เลยนะจะบอกให้
แทบไม่ต้องคิดอะไรต่อไปแล้วครับ รีบตกลงเข้าพักเลย...555


ใครมาเชียงใหม่ หาที่พักเปิดหน้าต่างแล้วไม่เห็นดอยสุเทพ
ถือว่าเสมือนหนึ่งยังมาไม่ถึงเชียงใหม่ เชียวนะเออ...










ทุกครั้งที่มาเที่ยวเชียงใหม่
สิ่งที่จะขาดเสียมิได้ นั่นก็คือไปหาอาหารพื้นเมืองล้านนากิน


และที่จะไปนั้นก็ต้องมีเสียงเพลงคำเมืองเพราะๆฟังให้ครึ้มใจ


เพื่อให้สมกับการเดินทางมาไกลร่วม 700 กิโลเมตรนั่น


และจะเป็นร้านอื่นไปไม่ได้เลย นอกจาก ร้าน “เฮือนสุนทรี เวชานนท์”
ร้านนี้อยู่ป่าตันครับ หาไม่ยาก










นี่เป็นภาพในอดีตแห่งความรุ่งเรือง ของ ศิลปินล้านนา


ในชื่อว่า “วงโฟล์คซองคำเมือง”



ที่ได้ส่งให้ชื่อ “จรัล มโนเพ็ชร” โด่งดังสุดๆ เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2520

ในฐานะนักร้องและนักแต่งเพลงล้านนา


ด้วยท่วงทำนองและเนื้อหาของบทเพลงที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวล้านนา
พร้อมๆด้วยนักร้องเสียงสำเนียงชาวเหนือแท้ๆ ที่มีเสียงสะกดคนฟัง
นั่นก็คือ “สุนทรี เวชานนท์

















ในปัจจุบัน คุณ สุนทรี เวชานนท์ ยังคงร้องเพลงบนเวที ที่ร้านของเธอ ทุกค่ำคืน
เพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงของท้องถิ่นชาวเหนือแทบทุกเพลง
มากินอาหารร้านนี้แล้ว ได้บรรยากาศเชียงใหม่เป็นอย่างยิ่ง






โต๊ะนั่งก็แทรกอยู่ตามพุ่มไม้ ในมุมต่างๆกันไป
เลือกเอาตามใจชอบได้เลย










ร้านนี้ตั้งอยู่ริมน้ำปิง ที่มีสายน้ำไหลเอื่อยๆให้นั่งมองเพลินๆ
นานๆก็จะมีเรือแคนู ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป

















ท่าน้ำที่ทำด้วยฟากไม้ใผ่
นั้นบ่งบอกว่าคุณ สุนทรี เป็นคนชอบวิถีชีวิต ที่ผูกติดกับธรรมขาติ
ไม่ปรุงแต่งอะไรให้มากจนเกินจำเป็น


มุมนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับใครก็ได้ จะมานั่งปล่อยอารมณ์ได้ตามสบาย

ใครยังไม่เคยไป แนะนำให้ลองไปดูสักครั้ง
แล้วจะรู้ว่าทำไม ร้านนี้จึงอยู่ยืนยาวมากว่า 20 ปี








A34



ร้านนี้จะตั้งอยู่แบบเป็นส่วนตัวห่างจากร้านอื่นๆ


บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบสงบ ผ่อนคลาย
คล้ายๆกับกำลังนั่งอยู่ริมน้ำแควน้อย แถวไทรโยค กาญจนบุรียังไงยังงั้นเลย













ในการท่องเที่ยวของคนเรา นอกจากจะได้ความเพลิดเพลินแล้ว
การที่ได้มานั่งกินอาหารอร่อยๆ โดยเฉพาะเป็นอาหารของท้องถิ่นที่เราไปเยือน


รวมทั้งได้นั่งฟังเสียงเพลง ภาษาล้านนา แผ่วเบาโชยมา


การได้นั่งสนทนาพูดคุย กับผู้ร่วมทริป ในโต๊ะอาหารมื้อค่ำ ของแต่ละวันนั้น
นับเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวจริงๆ ครับ



นี่แหละครับ



“การเฉลิมฉลองของชีวิต”






------------------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 24 มีนาคม 2560
3 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2560 18:23:53 น.
Counter : 2233 Pageviews.

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 25 มีนาคม 2560 4:16:34 น.  

 

ยังไม่เคยไปเฮือนสุนทรีเลยค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 27 มีนาคม 2560 13:51:31 น.  

 

อยู่โคราชเจ้า

 

โดย: tuk-tuk@korat 11 เมษายน 2560 20:28:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พายุสุริยะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




เมื่อแน่ใจว่ายืนในที่ๆถูกต้อง ยืนให้มั่น
(อับราฮัม ลินคอล์น)
Code
New Comments
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
24 มีนาคม 2560
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พายุสุริยะ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.