การขยี้แรงๆทำให้สิ่งที่เปื้อนหลุดออกแต่จะทำให้ผ้าช้ำ

บางคนใช้แปรงๆผ้าแรงซ้ำอีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าผ้าสะอาดแน่

การแปรงผ้าต้องพิจารณาเนื้อผ้าด้วยว่าบอบบางหรือหนาแน่นทานทน

การลงน้ำหนักขยี้ผ้าเป็นการใช้สติปัญญาในการคำนวณน้ำหนักหรือแรงที่ทุ่มเทลงไป

เช่นเดียวกันลองพิจารณาดูว่าขณะขยี้ผ้านั้นในใจเรามีอะไรคั่งค้างอยู่

ใช้เวลาสำรวจจิตใจตนเองถ้ามีอารมณ์โกรธแค้น ไม่พอใจเกลียด หรือเศร้าเสียใจ

ขณะขยี้ผ้าลองขยี้ใจโดยการปลดปล่อยอารมณ์เสียเหล่านั้นออกไป

สิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่ในใจจะได้หลุดลอยไปกับสายน้ำ

อย่าเก็บกักความทุกข์ใจเหล่านั้นไว้นานเลยมันจะทำให้ใจหม่นหมอง

ทำให้ใจไม่สดใสสะอาด กลายเป็นพิษภัยต่อสุขภาพของตนเอง

เมื่อเกิดอารมณ์บูดเน่ารีบซักล้างจิตใจทันทีจะทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

หมั่นตรวจสอบอารมณ์บ่อยๆด้วยจิตใจทีนิ่งสงบ

บางครั้งต้องใช้ความอดทนที่มีอยู่ในตนเองมาช่วยชำระล้าง

ถ้าเราชำนาญมากพอเราจะไวต่อการไม่รับความทุกข์เข้ามาในจิตใจ

แม้ว่าความทุกข์เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันบ่อยๆและมาอย่างรวดเร็วรุนแรง

เราจะป้องกันจิตใจเราไม่ให้รับความทุกข์เข้ามาให้ใจเราเลอะเทอะ

การขัดถูซักฟอกจิตใจประจำใจจะสะอาด สดชื่นช่วยยืดชีวิต