บล็อกนี้ไม่มี VIP ค่ะ ทุก ๆ คนเป็น VIP อยู่แล้ว เมื่อคลิกเข้ามา
Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
9 ไม้มงคลหา (ไม่) ยาก

9 ไม้มงคลหา (ไม่)ยาก




" ว่าน " ไม้ประดับนามมงคล

"ว่าน" คำที่ใช้เรียกนำหน้าชื่อต้นไม้
โดยเฉพาะต้นไม้ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพร
และไม้ประดับบางชนิด
ว่านหลายชนิดถูกเรียกว่า "ว่าน" จนติดปาก
และเป็นที่รู้จักกันมาแต่โบราณ
จากการสืบค้นพบว่า
มีการกล่าวถึงว่านในหนังสือตำรายาไทย
ชื่อแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
รวบรวมโดย พระยาพิศประสาทเวช
ในปี พ.ศ. 2452
และ หนังสือชื่อ แพทย์ตำบล เล่ม 1
และรวบรวมจัดพิมพ์
โดยพระยาแพทย์พงศา วิสุธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช)
ต้นตระกูลสุนทรเวช ในปี พ.ศ.2464
หนังสือทั้งสองเล่มกล่าวถึงว่าน 5 ชนิดเท่านั้น
คือ
ว่านกีบแรด ว่านนางคำ
ว่านหางช้าง ว่านน้ำ ว่านเปราะ


หลังจากปี พ.ศ. 2464 เป็นต้นมา
ว่านจึงเริ่มเป็นที่แพร่หลาย
มีตำราที่กล่าวถึงลักษณะว่าน
ตำราที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับว่าน
ในปี พ.ศ. 2476 หลวงประพัฒน์สรรพากร
รวบรวมหนังสือชื่อ ตำรากระบิลว่าน
จนเป็นที่ยอมรับในหมู่นักเล่นว่าน
และนับว่าเป็นตำราที่ให้ความรู้เรื่องว่านอย่างสมบูรณ์ที่สุด
แม้ราชบัณฑิตสถานยังยอมรับ
และใช้เป็นหนังสืออ้างอิง
ในการชำระพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน
โดยนิยามไว้ว่า
"ว่าน คือพืชที่มีหัวบ้าง ที่ไม่มีหัวบ้าง
ใช้เป็นยาบ้าง ใช้อยู่ยงคงกระพันบ้าง"
เห็นได้ว่าความหมายตามพจนานุกรม
ว่านคือพืชที่มีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้
บางชนิดปลูกเพื่อใช้เป็นยาสมุนไพร
เป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันอันตราย
พิษสัตว์กัดต่อย
ยาเบื่อเมา ยาสั่ง ยาเสพติด
สามารถดับพิษร้ายให้หายได้
ว่านแต่ละชนิดมีคุณานุภาพบันดาลให้เกิดผล
เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น ทั้งเงินทองไหลมาเทมา
มีคนเคารพนับถือ
มีความเชื่อกันว่าการปลูกเลี้ยงว่าน
ถ้าทำให้ถูกต้องตามพิธีการ
ให้ความสำคัญว่าว่านเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์
ก็ต้องมีพิธีมากกว่าการปลูกเลี้ยงธรรมดา
เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปลูกเลี้ยง
และเป็นการเพิ่มฤทธิ์ธานุภาพให้แก่ว่าน
เช่น เวลารดน้ำต้องเสกคาถากำกับ
เป็นบทเป็นตอนต่างกันไป
สามจบ เจ็ดจบ หรือตามอายุของผู้ปลูกเลี้ยง
แล้วแต่ชนิดของว่าน
การขุดก็ต้องทำในวัน เดือน ต่าง ๆ กัน
ทั้งข้างขึ้นข้างแรม
เช่น การขุดเก็บว่านมักเลือกวันอังคาร
วันใดวันหนึ่งในเดือนสิบสอง
หรือไม่เกินวันพุธข้างขึ้นของเดือนอ้าย
เวลาขุดใช้มือตบดินใกล้กอว่านหรือต้นว่าน
แล้วเสกคาถาเรียกว่านไปตบดินไปจนจบคาถา
จึงค่อยนำหัวว่านขึ้นมา


นับจาก พ.ศ. 2484
ความนิยมว่านก็ค่อย ๆ ห่างหายไป
จนกระทั่ง พ.ศ. 2500
ความนิยมว่านให้ความสำคัญกับว่านกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
มีการรวบรวมจัดพิมพ์หนังสือว่านขึ้นมาอีกหลายฉบับ
โดยเฉพาะหนังสือ ว่านกับคุณลักษณะ
รวบรวมโดย นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ
จัดพิมพ์จัดจำหน่าย
ในนามของสมาคมพฤกษศาสตร์แห่งประเทศไทย
เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมจากนักเล่นว่านมาก


ปัจจุบันผู้ที่ให้ความสนใจว่าน
ไม่เพียงชื่นชอบเหมือนผู้เลี้ยงว่านในสมัยก่อนเท่านั้น
แต่ยังให้ความสนใจในเรื่องต่าง ๆ ที่มีประโยชน์
ในด้านอื่น ๆ หลายรูปแบบ
รวมทั้งการสนใจว่านในเชิงพฤกษาศาสตร์
ซึ่งมีการจัดแบ่งว่านได้ถึง 34 วงศ์ (Family)
512 สกุล (Genus)
และ กว่า 1700 พันธุ์ (Species)
มีทั้งว่านที่ให้ประโยชน์ทางยาสมุนไพรรักษาโรค
ว่านที่มีชื่อเป็นมงคลนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ
ซึ่งมีความเชื่อว่าว่านเหล่านี้เมื่อปลูกเลี้ยงแล้ว
จะส่งผลให้ทำมาค้าขึ้น
นำโชคลาภวาสนา มาสู่ผู้ปลูกเลี้ยง





หนุมาน







ชื่อวิทยาศาสตร์ Jatropha podagrica.
วงศ์ EUPHORBIACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -
ลักษณะทั่วไป
มีหัวป้อมกลมใต้ดิน ต้นขึ้นเป็นลำเดี่ยว
มีกิ่งก้านบริเวณยอดของลำต้น ใบลักษณะคล้ายใบตำลึง
แต่หนาและขนาดใหญ่กว่ามาก พื้นใบมีสีเขียวท้องใบมีขน
หลังใบมีสีเขียวนวล และมีพรายปรอท
เมื่อถูกแสงแดดจะเป็นเงาเหลื่อม
ก้านใบและเส้นใบสีแดงเรื่อ ๆ ก้านดอกยาวสีแดง
ลักษณะของดอกมีขนาดเล็ก
ออกดอกเป็นกระจุกรวมกันเป็นช่อ สีแดง
การปลูก
ว่านหนุมานจะขึ้นง่ายในดินปนทราย
ชอบแดดจัด รดน้ำทุก เช้า–เย็น
การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว
ความเป็นมงคล
เมื่อขุดหัวว่านโดยเสกคาถากำกับแล้วเก็บไว้ที่สูง
เมื่อจะนำมารับประทานหรือฝนทาตัว
ก็ต้องเสกคาถากำกับ
จะทำให้เกิดอานุภาพหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า
และถ้าเอาหัวว่านมาแกะเป็นรูปพญานาคราช
และเสกคาถากำกับ
เมื่อพกติดตัวจะเป็นเมตตามหานิยม
หรือแกะเป็นรูปพระก็จะป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายได้
ควรปลูกในวันพฤหัสบดีข้างขึ้น





มหากาฬ







ชื่อวิทยาศาสตร์ Gynura pseudo – china hispida.
วงศ์ COMPOSITAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่น ๆ ผักกาดกบ ผักกาดนกเขาดำ โคก หนาดแห้ง
ลักษณะทั่วไป
ว่านมหากาฬเป็นพันธุ์ไม้เลื้อย มีหัวอยู่ใต้ดิน
เนื้อของหัวเป็นสีขาว ใบมีลักษณะคล้ายใบผักกาด
ใบหนาและแข็ง พื้นใบสีเขียวอ่อน
มีลายสีม่วงซีด ๆ บนใบ ใบอ่อนจะเป็นสีม่วงแก่
ตามแขนงใบเป็นสีขาว
ก้านใบเมื่อแก่จะเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีขาว
ดอกมีลักษณะเป็นฝอยก้านดอกยาว มีสีเหลือง
คล้ายดอกดาวเรืองแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก
การปลูก
ควรปลูกในดินปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี
รดน้ำแต่พอดินชุ่มเท่านั้น
เพราะว่านมหากาฬไม่ชอบดินแฉะซึ่งจะทำให้ใบเน่าได้ง่าย
ควรให้ได้รับแสงแดดปานกลาง
การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ
ความเป็นมงคล
เชื่อกันว่า
เป็นว่านที่มีอำนาจ หากปลูกเลี้ยงไว้ในบริเวณบ้าน
นอกจากสามารถป้องกันอันตรายทั้งปวงได้แล้ว
ยังทำให้ผู้ปลูกเลี้ยง
มีอำนาจบารมีเป็นที่เกรงขามของคนทั่วไป





เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์







ชื่อวิทยาศาสตร์ Homalomena
วงศ์ ARACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ ว่านศรีมหาโพธิ์
ลักษณะทั่วไป
มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ก้านใบกลมเรียวสีเขียว
บริเวณโคนแผ่ออกเป็นกาบโอบหุ้มลำต้น
แบบสลับโดยรอบ ใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลมเป็นติ่ง
โคนใบกลมและหยักเว้า
เส้นกลางใบและเส้นใบทางด้านบนเป็นร่องลึกสีเขียวอ่อน
ทางด้านล่างนูนเป็นสัน แผ่นใบหยักเป็นคลื่น
ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะนอนขนานกับพื้นดิน
ราก ลำต้น ก้านใบ หักดมจะมีกลิ่นหอม
ยอดอ่อนแทงออกมาก่อนจะคลี่ใบ
มีหน่ออ่อนตามข้างหัว ดอกคล้ายดอกจำปีตูม สีเขียวอ่อน
การปลูก ใช้ดินร่วนผสมอิฐเผาไฟทุบละเอียด
นำไปตากน้ำค้างหนึ่งคืน เอามาใช้เป็นดินปลูก วางหัวว่านตรงกลางกระถาง
โดยปลูกให้หัวโผล่ กดดินพอแน่นรดน้ำพอเปียกชุ่ม
วางกระถางในที่ร่มแต่ให้ถูกแดดรำไร
เป็นว่านที่ไม่โทรมเหมือนว่านอื่นๆ ที่จะทิ้งใบบาง
ฤดู แต่ว่านนี้จะทรงตัวอยู่ได้ตลอดทั้งปี
การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ
ความเป็นมงคล
ใช้เป็นสิริมงคลในด้านการค้า และเมตตามหานิยม
เชื่อกันว่าหากนำหัวว่านมาแกะเป็นรูปพระ
แล้วใส่สงในขันสำริด เทน้ำมันจันทน์ลง
เสกด้วยคาถา นำน้ำมันมาทาที่หน้าผาก
ผู้คนที่พบปะจะนิยมรักใคร่สนิทสนม
ต้อนรับขับสู้ เอ็นดูและเมตตา หาก
นำน้ำมันมาทาตัวจะเกิด นะจังงัง คงกระพันชาตรี
แคล้วคลาดจากอุบัติภัยอันตราย
หากนำน้ำมันมาใส่หัวใส่มือ
จะสามารถทำกิจการงานใด ๆ สำเร็จสมดังมุ่งหมาย





นางคุ้ม







ชื่อวิทยาศาสตร์ Alocasia cucullata. (Scholt)
วงศ์ ARACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่น ๆ ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน
ลักษณะทั่วไป
เป็นว่านที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะคล้ายหอมหัวใหญ่
ซึ่งหัวประกอบไปด้วยกลีบของหัวที่เรียงซ้อนกันอยู่จนเป็นหัว
กลม ใบกลมใหญ่ หนา คล้ายใบฟักทอง มีสีเขียว
ก้านใบยาวสีเขียวแก่ ดอกออกเป็นช่อจากกลางกอ
ก้านดอกเป็นแท่งสูงตรง จะ
มีดอกตูมก่อนแล้วบานเป็นสีขาว
แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบ 6 กลีบ เกสรสีเหลือง มีกลิ่นหอม
การปลูก
ดินที่จะนำมาปลูกว่านนางคุ้ม ให้นำไปเผาไฟเสียก่อน
แล้วทุบดินให้แตกละเอียด
แล้วตากน้ำค้างทิ้งไว้ 1 คืน จึงนำดินใส่
กระถางสำหรับปลูกวางหัวว่านกลางกระถาง
แล้วกลบดินไม่ต้องให้ดินปิดหัวว่านจนมิด
ให้หัวว่านโผล่ขึ้นมาเล็กน้อย
รดน้ำพอเปียก
เท่านั้น อย่าให้น้ำมากไป เพราะจะทำให้หัวว่านเน่าได้
รดน้ำ เช้า-เย็น อย่างสม่ำเสมอ
การขยายพันธุ์ โดยการแยกหัว
ความเป็นมงคล
เชื่อว่าว่านนางคุ้มเป็นว่านที่มีความมงคล
ทางด้านคุ้มครองป้องกันอันตรายต่าง ๆ
ถ้าปลูกไว้ในบ้านจะมีคุณทาง
ป้องกันไฟไหม้ได้ คือ
จะคุ้มครองให้บ้านและผู้เป็นเจ้าของรอดพ้นจากการถูกไฟไหม้





สี่ทิศ







ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippeastrum johnsonii.
วงศ์ AMARYLLIDACEAE
ชื่อสามัญ Wan-See-Til
ชื่ออื่นๆ -
ลักษณะทั่วไป
ว่านสี่ทิศเป็นพันธุ์ไม้ในวงศ์พลับพลึง
มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินมีลักษณะคล้ายกับหอมหัวใหญ่
ส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือ
ดินเป็นส่วนของก้านใบ และตัวใบเท่านั้น
ลักษณะของใบเป็นสีเขียว รูปหอกยาวเรียว ปลายมน
ขอบใบเรียบ ใบกว้างประมาณ 3-5 ซม.
และยาวประมาณ 25–30 ซม.
ก้านดอกจะแทงสูงขึ้นจากกอ
มีความประมาณ 25-30 ซม.
ดอกออกตรงปลายก้านดอก มีสีชมพู
ตรงปลายดอก ดอกแยกออกเป็น 6 กลีบ
เมื่อบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 6-8 ซม.
และจะทยอยกันบานทีละ 4 ดอก จึ
งนิยมเรียกกันว่า “ว่านสี่ทิศ”
การปลูก
ควรปลูกในดินปนทราย ให้น้ำ
และความชื้นปานกลาง
ว่านสี่ทิศเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบแสงแดดมาก
จึงควรต้องปลูกในที่แจ้ง
จึงจะเจริญเติบโตและมีดอกได้ดี
การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์โดยแยกหน่อ หรือแยกหัวไปปลูกใหม่
ความเป็นมงคล
เชื่อกันว่าถ้าเลี้ยงว่านสี่ทิศให้ออกดอกพร้อมกันได้
ทั้งสี่ดอกหรือสี่ทิศผู้เลี้ยงจะมีโชคลาภ
และหากว่าในช่วงที่ว่าน
สี่ทิศกำลังออกดอกทั้งสี่อยู่นั้น
ผู้เลี้ยงคิดจะทำอะไร ก็จะประสบความสำเร็จทุกประการ
แต่ถ้าหากว่า ว่านสี่ทิศออกดอกไม่ครบทั้งสี่ดอก
หรือออกดอกแค่ 2 หรือ 3 ดอก
ก็จะไม่เป็นผลดีแก่ผู้เลี้ยงเหมือนเป็นลางบอกเหตุว่า
จะมีสิ่งไม่ดีเกิดแก่ผู้เลี้ยง





นกคุ้ม







ชื่อวิทยาศาสตร์ Eurycle ambeinensis (Loud)
วงศ์ AMARYLLIDACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -
ลักษณะทั่วไป
ว่านนกคุ้มเป็นว่านที่มีหัวอยู่ใต้ดิน
ลักษณะหัวว่านคล้ายหัวว่านกระชายดำ
หัวเป็นแง่งกลม ๆ ติดกันเป็นพืด ใบแทงขึ้น
มาจากหัวใต้ดิน หน้าใบมีลาย คล้ายปีกนก
ก้านใบยาวประมาณ 15-20 ซม. ก้านใบแข็ง
และมีร่องก้านใบรูปใบค่อนข้างกลม
ปลายใบมนแหลมเล็กน้อย โคนใบมนเว้าเข้าหาก้านใบ
ซึ่งว่านนี้จะมีความสวยงามอยู่ที่ใบ
ดอกมีสีขาวปนม่วงเล็กน้อย
ลักษณะของดอกเป็นสามเหลี่ยม
การปลูก ปลูกในดินร่วนปนทรายหยาบ
ควรปลูกในกระถางปากกว้าง
หรือกระถางปากบานทรงเตี้ย
ให้กระถางมีขนาดใหญ่พอสมควร
เพื่อให้การเจริญเติบโตและการแตกหน่อของหัวว่าน
เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และได้ปริมาณมาก
ควรรดน้ำให้ชุ่มทั้งเช้าและเย็นทุกวัน
แต่อย่ารดให้ถึงกับโชกเกินไปจะทำให้หัวว่านเน่าได้ง่าย
ให้จัดวางกระถางว่านไว้ในที่ร่มรำไร
อย่าให้โดดแดดจัดจะทำให้ขอบใบไหม้ และอาจเฉาตายได้
การขยายพันธุ์ โดยการแยกหน่อ
ความเป็นมงคล
เชื่อกันว่าถ้าปลูกว่านนกคุ้มไว้ในบริเวณบ้าน
จะให้คุณในทางป้องกันอันตรายต่าง ๆ
โดยเฉพาะป้องกันอัคคีภัยได้เป็นอย่างดี





มหาโชค







ชื่อวิทยาศาสตร์ Eucharis spp.
วงศ์ AMARYLLIDACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -
ลักษณะทั่วไป
ว่านมหาโชคมีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน
ภายในหัวจะเป็นกลีบเรียงตัวซ้อนกันอยู่
คล้ายหัวหอมใหญ่ ส่วนที่โผล่พ้นผิว
ดินจะเป็นกาบใบ ใบ และดอกเท่านั้น
ใบลักษณะคล้ายใบพาย ปลายใบแหลม
โคนใบค่อย ๆ สอบเข้าหาก้านใบ พื้นใบสีเขียวเป็นมัน
มีเส้นเรียงเป็นแถวตามแนวยาวของใบเล็กน้อย
ก้านดอกเป็นทรงกรวยยาวประมาณ 30-40 ซม.
ตรงปลายก้านแยกออกเป็น 5–7 ก้าน
มีดอกสีขาวปลายก้าน
มีกลีบเรียงซ้อน ๆ กันเป็นทรงกลม 6 กลีบ
มีเกสรกลางดอกเป็นสีเหลืองอ่อน
และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย
การปลูก ควรปลูกในดินปนทราย
รดน้ำแต่ปานกลางพอให้ดินชุ่ม และให้ได้รับแสงแดดรำไร
การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อไปปลูก
ความเป็นมงคล เชื่อกันว่าหากเลี้ยงว่านให้เจริญงอกงามดี
ผู้เลี้ยงจะมีโชคลาภในทุก ๆ ทาง
ไม่ว่าจะเป็นวรรณะ พละกำลัง อนามัยที่สมบูรณ์ และความสุข





มหาลาภ







ชื่อวิทยาศาสตร์ Phaedranassa spp.
วงศ์ AMAPYLLIDACAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ ว่านหงสาวดี
ลักษณะทั่วไป
ว่านมหาลาภมีลักษณะต้นเหมือนว่านมหาโชค
คือลำต้นเป็นหัวใต้ดิน
หัวเหมือนหอมหัวใหญ่แต่มีขนาดเล็กกว่า
ใบรูปใบพาย แต่ค่อนข้างสั้นและป้อม
ปลายใบโค้งมนแหลม
โคนใบค่อย ๆ สอบเข้าหาก้านใบ
พื้นใบเรียบสีเขียวเป็นมัน ก้านใบจะยาวกว่าใบเล็กน้อย
ก้านดอกพุ่งตรงขึ้นมาจากกลาง
ลำต้นสูงประมาณ 30-40 ซม.
ออกดอกเป็นกลุ่มแล้วทยอยกันบาน
ดอกสีแสดปนเหลือง
กลีบดอกค้อนข้างเล็กและยาว
ปลายกลีบมน เกสรยาวลงสู่พื้นดิน
ส่วนปลายเกสรงอนขึ้นเล็กน้อย
ช่อดอกหนึ่ง ๆ มีดอกประมาณ 3–7 ดอก
ขึ้นกับความสมบูรณ์ของต้น
การปลูก
ว่านมหาลาภเจริญงอกงามได้ดีในดินร่วนปนทราย
และผสมดินลูกรังสีแดงด้วย
ควรให้มีการระบายน้ำที่ดี
เพราะหากน้ำขังจะทำให้หัวว่านเน่าได้
หากปลูกในกระถางปากกว้างจะเหมาะมาก
เพราะใบจะปกคลุมปากกระถางดูสวยงาม
เป็นไม้ที่ไม่ชอบแดดจัดนัก
จึงควรจัดให้ได้รับแสงปานกลาง รดน้ำแต่ตอนเช้า
การขยายพันธุ์
โดยการแยกต้น
ความเป็นมงคล
ว่านมหาลาภมีคุณประโยชน์ด้านเมตตามหานิยม
ปลูกไว้ย่อมเกิดลาภผลทวีคูณหลายประการ
มักปลูกเป็นต้นไม้เสี่ยงทาย
หากเจริญงอกงาม ออกดอกดกดี
ผู้ปลูกมักจะได้ลาภจากการเสี่ยงโชคเสมอ
ในทางกลับกันหากว่าต้นอับเฉาไม่ออกดอก
เป็นลางบอกเหตุว่าจะอับโชค เสียทรัพย์
เชื่อกันว่า
การปลูกว่านมหาลาภควรปลูกในวันศุกร์ข้างขึ้นจะดีที่สุด





รางนาก







ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippeastrum spp.
วงศ์ AMARYLLEDACEAE
ชื่อสามัญ -
ชื่ออื่นๆ -
ลักษณะทั่วไป
ว่านรางนากเป็นหัวกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน
ใบจะงอกจากหัว ลักษณะใบหนาและแข็ง
โคนใบจะเป็นกาบ
ในรูปหอก
ปลายใบแหลมมน ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก
ใบสีเขียวเข้ม หน้าใบมีร่องกลาง
ใบเป็นสีขาวลากยาวตลอดใบ
โคนใบด้านหลังเป็นสีแดง หรือแดงปนม่วง
ดอกลักษณะเดียวกับว่านสี่ทิศ มีสีชมพูแสด
โดยก้านดอกจะมีสีเขียวนวลยาวสูงพ้นใบ
ดอกเป็นรูปกรวย
ปลายดอกแยกออกเป็น 6 กลีบ
ช่อหนึ่งจะมีดอก 2–4 ดอก
การปลูก
ว่านรางนากชอบดินร่วนปนทราย
ควรมีอิฐทุบละเอียดผสมผงถ่าน หรือใบไม้ผุ
เวลาปลูกให้หัวว่านโผล่พ้นดินเล็กน้อย
รดน้ำปานกลางเช้า–เย็น
ควรอยู่ที่แดดร่มรำไร
ปลูกในกระถางทรงเตี้ยจะงามยิ่งนัก
การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์โดยการใช้หัว
ความเป็นมงคล
เชื่อว่าว่านรางนากเป็นว่านเมตตามหานิยม
หากปลูกในร้านค้าจะทำให้มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น






ขอขอบคุณที่มาจาก
//www.hispeeddesign.com/tiptrickdesign5.html ค่ะ




Create Date : 18 มกราคม 2555
Last Update : 18 มกราคม 2555 0:59:11 น. 3 comments
Counter : 2885 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะคุณวี


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:0:36:10 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาอ่านเรื่องราวที่เป็นความรู้เกี่ยวกับ ต้นว่าน ครับ

เอ ... แต่ทำไมไม่มี ว่านเอเอฟ หว่า ?

ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:22:33:46 น.  

 
ว่านสุดท้าย
เพิ่งทราบว่าชื่อรางนากคุณวี อืมมม น่าสนใจตรงมหานิยมเนี่ยแหละ อิอิ

รอยอยอยู่นะคะ...


โดย: gymstek วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:23:21:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โสดในซอย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]






e-mail ติดต่อโสดในซอย
singleinsoi@hotmail.com






Facebook โสดในซอย
http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363





“เติมรักให้เต็มรุ้ง”
งานเขียนล่าสุดของ “โสดในซอย”

สั่งซื้อในบล็อก
พร้อมลายเซ็น
ราคารวมค่าส่ง 305 บาท
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ
หมายเลขบัญชี 020-056941-6
ชื่อบัญชี มนชญา
โปรดโอนให้มีเศษสตางค์
เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง
และแจ้งรายละเอียดการโอน
พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง
ที่หลังไมค์ได้เลย
หรือตามร้านหนังสือค่ะ

ขอบคุณค่ะ





ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง
ของ "โสดในซอย"
โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน
วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน
ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ








ขายหรือให้เช่า
ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์
35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข
ไลน์ aazz999




Friends' blogs
[Add โสดในซอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.