ยุทธการกระชากนางฟ้า ตอนที่ 7
ยุทธการกระชากนางฟ้า ตอนที่ 7
ตอนที่ 7 เปิ่นกลับมาทันได้เห็นนางฟ้าเดินวนไปเวียนมาอย่างกระวนกระวายใจอยู่นอกอพาร์ทเม้นท์เพื่อรอเขาในใจรู้สึกตื้นตันที่เห็นหญิงสาวทำท่าดีอกดีใจเมื่อแลเห็นเขาราวกับเขาเป็นคนสำคัญมากสำหรับเธอแม้ว่าเปิ่นจะนึกอย่างพาล ๆ ว่า เพิ่งจะมีผู้ชายคนหนึ่งกลับไปและอาจจะเพิ่งสวนออกไป ตอนที่เขากลับเข้ามาก็ได้ เปิ่นไปไหนมาน่ะ ไม่กลับมาทานข้าวด้วยกัน... คำพูดประชดประชันหลายคำมารออยู่ที่ปากแล้วแต่เปิ่นทันได้สติเสียก่อนว่า เขาไม่มีสิทธิ์จะแสดงอาการที่คล้าย ๆจะหึงหวงนั้นออกมา ในเมื่อสะบันงามีฐานะเป็นนายจ้างของเขา ไม่ใช่คนรัก เขาควรจะเจียมกะลาหัวตัวเองให้มากกว่านั้นเขาจึงทำได้เพียงตอบไปด้วยเสียงเรียบ ๆ ผมเรียนกับคุณยายแล้วว่า จะออกไปธุระ คุณยายบอกกับงาเหมือนกัน... หญิงสาวพยักหน้ารับ แต่สายตาดูเหงา ๆแต่งานึกว่า เปิ่นจะกลับมาทันทานข้าวด้วยกันเสียอีก ตะกี้อุตส่าห์ขับรถกันออกกับพี่เผ่าไปซื้อหอยทอดเจ้าอร่อยมาให้... คงจะเป็นเมื่อช่วงเย็นที่เขาเห็นหญิงสาวขับรถผ่านหน้าไปพร้อมกับเผ่าทอง ที่แท้ก็ออกไปหาซื้ออาหารกันเปิ่นยิ้ม สะบันงารู้ว่าเขาชอบกินหอยทอด มันเคยเป็นอาหารโอชะที่ หรู ที่สุดยามที่เขาอาศัยอยู่กับพ่อ และเธอให้ความสำคัญกับอาหารจานโปรดของเขาเสมอ เธอรู้ว่า เขาชอบกินหอยทอดเครื่องดื่มของเขาคือโอเลี้ยงขม ๆ ขนมโปรดของเขา คือ บัวลอยไข่หวานและผลไม้ก็คือแตงโมที่แช่เย็นเอาไว้ฉ่ำ ๆ อาจจะเป็นอาหารคนยากในสายตาของคนอื่น ๆแต่นางฟ้าของเขาไม่เคยดูถูกอาหารพวกนั้น เธอรู้กระทั่งว่าเขาเกลียดอะไรเพราะเปิ่นเคยเล่าให้ฟัง พวกกล้วยบวชชี กล้วยเชื่อม ผมเกลียดที่สุด อ้าว ทำไมล่ะ อร่อยดีออก สมัยก่อน ผมไปทำงานให้กับบ้านคนมีเงิน ไปตัดหญ้าช่วยตัดต้นกล้วยให้ พอตัดเสร็จ เขาก็จะให้กล้วยกลับมาบ้านเป็นเครือ ๆพ่อก็จะทำกล้วยบวชชีให้กินบ้าง กล้วยเชื่อมบ้าง ด้วยความที่มันเยอะมากและกลัวจะกินไม่ทัน เราก็เลยกินกันแทนข้าวเลยครับ ผมกินจนเอียน จนเบื่อ แต่ก็ยังต้องกินทุกครั้งที่ได้กล้วยมา... บางครั้งความสนิทสนมก็ทำให้เปิ่นเผลอไผลที่จะเล่าถึงความยากลำบากในครั้งก่อนๆ แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่ลำบากที่สุด ที่ยังฝังในใจของเขาโดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เขาถูกแม่แท้ ๆ ทอดทิ้งไปอย่างไม่เหลียวหลัง หันมามองภาพปัจจุบัน และแววตาห่วงใยจริงใจของสะบันงาแล้วเปิ่นก็สะบัดภาพความหลังที่ขมขื่นนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว คุณเผ่ากลับไปแล้วหรือครับ ก็กลับไปสักพักแล้วละค่ะคุณยายบอกว่าท่านอยากจะพักผ่อน คุณยายไล่เผ่าทองอย่างสุภาพนั่นเองนึกดีใจที่หญิงสาวไม่ได้กินข้าวกับไอ้หมอนั่นตามลำพังอย่างน้อยคุณการะเวกก็นั่งเป็นประธานให้เผ่าทองนึกเกรงใจอยู่บ้าง เปิ่นบอกตัวเองว่า เขาผิดเองที่ชิงหนีหน้าเผ่าทองไปแม้จะแก้ตัวว่าไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากมีเรื่อง แต่สำหรับเลือดนักเลงเก่าก็กระซิบบอกกับตัวเองว่า นั่นมันก็คือความกลัวอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน เปิ่นอย่าโกรธพี่เผ่าเลยนะพี่เผ่าจะมีวิธีการพูดที่ทำให้... ไม่รู้สิ คนไม่ชินอาจจะเคืองได้ง่าย ๆแต่ถ้ารู้จักดีแล้ว เปิ่นจะรู้เองว่า พี่เผ่าไม่มีอะไรหรอก เปิ่นไม่รู้ว่านั่นเป็นคำแก้ตัวแทนเผ่าทองหรือว่าเธอกำลังปลอบใจเขากันแน่ มันทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ จะว่าดีก็ดีไม่ได้สุด ๆเพราะไม่รู้ว่า เธอปกป้องใครกันแน่ คุณเผ่าเล่าอะไรให้คุณงาฟังหรือครับ ก็ไม่มีอะไร เขาบอกว่าเขาไม่ชอบหน้าเปิ่นงาก็เลยเดาว่า ต้องมีอะไรกระทบกระทั่งกัน เมื่อเปิ่นถามตรง ๆ นางฟ้าของเขาก็ตอบตรง ๆด้วยเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่ปกติสะบันงาจะต้องแปลงถ้อยคำให้มันอ่อนโยนลงกว่านั้น คนเรามันมีโอกาสไม่ชอบหน้ากันได้เหมือนกัน...ผมไม่ถือหรอก ก็แปลกนะ คนไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนแค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็รู้สึกไม่ดีต่อกัน ไม่แปลกครับผมก็เคยเป็นอย่างนั้นกับบางคนเหมือนกัน สะบันงาหัวเราะเสียงใส ดีแล้วในเมื่อรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับใครก็ได้ เปิ่นจะได้ไม่โกรธพี่เผ่า ถ้าผมจะถามอะไรบางอย่างมันจะละลาบละล้วงคุณงาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถามมาเถอะ งาไม่มีความลับอะไรหรอก คุณเผ่าเป็นแฟนกับคุณงาใช่ไหมครับ สะบันงานิ่งไปเมื่อได้ยินคำถามนั้นเธอคงจะนึกไม่ถึงว่าเปิ่นจะกล้าถาม ไม่ต้องตอบก็ได้... ผมถามลึกเกินไป ก็ไม่หรอกนะ งาตอบได้ค่ะ พี่เผ่าเคยเป็นแฟนกับงาก่อนงาจะไปเรียนต่อ แต่พอเลิกกันไปแล้ว เราก็เหมือนกับพี่กับน้องมากกว่า เปิ่นเชื่อในสิ่งที่สะบันงาบอกทุกคำเพราะในน้ำเสียงนั้นไม่ได้เจือปนความห่วงหาอาลัยเลยแม้แต่น้อยชายหนุ่มลอบถอนหายใจเฮือก ในขณะที่รู้สึกขอบคุณหนึ่งบุรุษ ...ดีเหลือเกิน ที่ไอ้หนุ่มคนนั้นมาขัดจังหวะ ก่อนที่เขาจะเผลอตัวทำอะไรผิดๆ ลงไป และมันจะแก้ไขไม่ได้ไปตลอดกาล... เปิ่นไม่รู้หรอกว่าระหว่างเขากับสะบันงาจะไปกันได้ถึงไหน มันอาจจะเป็นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆไปข้างเดียวก็ได้ แต่เขาก็ตั้งใจว่า ต่อไปนี้จะต้องฟอกตัวเองให้ขาวสะอาดเพียงพอที่จะคู่ควรกับเธอให้ได้ สิ่งที่เข้ามายั่วเย้ากิเลสของเขา จะไม่มีอะไรแผ้วพานเข้ามาได้มันจะเป็นเพียงความคิดเรื่อยเปื่อย หรือว่าเปิ่นจะทำสำเร็จ มีเพียง เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ หนึ่งบุรุษยืนอยู่ข้างหลัง และมองเงาของหญิงสาวที่นั่งหลังตรงอยู่ต่อหน้ากระจกบานใหญ่กลางห้องนอนซึ่งกำลังค่อยๆ แปรงผมของตัวเองอยู่ด้วยแปรงอันใหญ่ ผมของเธอยาวสลวยถึงกลางหลังเป็นสิ่งเดียวในตัวของปาหนันที่เจ้าตัวภูมิใจหนักหนาว่ามันสวย และเป็นธรรมชาติโดยแท้ ผมยังน้อยใจไม่หายที่คุณหนันไล่ผมลงแล้วรับเปิ่นขึ้นรถแทนผม มือที่กำลังแปรงผมอยู่ถึงกับชะงัก ปาหนันหันกลับมาพร้อมกับตาที่เขียวปั้ด ทำไม...หนึ่งมีปัญหาอะไร ผมไม่อยากเห็นสายตาดูถูกของเปิ่นอย่างน้อยคุณหนันก็น่าจะรู้ว่า ผมเป็น...เป็น... หนึ่งเป็นอะไร หนึ่งช่วยบอกฉันหน่อย หนึ่งบุรุษไม่นึกว่าจะถูกย้อนถามอย่างนั้นเหมือนกันเสียงเขาจึงจืดลงไป อย่างตระหนักชัดขึ้นว่า ตัวเองนั้นมี ผมรู้ครับว่า ผมไม่มีความหมายอะไรกับคุณหนันเลย คุณหนันจะไสหัวผมไปวันไหนก็ได้แต่ว่า ต่อหน้าคนอื่น ๆ คุณหนันแกล้งทำเหมือนกับว่าผมสำคัญสักหน่อยไม่ได้เหรอครับ ปาหนันไม่ได้รู้สึกผิดแต่หนึ่งบุรุษยังไม่หมดประโยชน์กับเธอ อย่างน้อยเขาก็ทำให้คืนวันแสนเหงาของเธอสว่างไสวขึ้นมาได้บ้าง ดังนั้นเสียงของเธอจึงอ่อนลงเล็กน้อย วันนี้..ฉันมีธุระ และฉันต้องการให้หนึ่งไปธุระให้ฉันอีกที่หนึ่ง...ฉันไม่ได้ต้องการฉีกหน้าของใครทั้งนั้น อย่าเอาเรื่องเล็ก ๆมาคิดให้เป็นเรื่องใหญ่หน่อยเลยน่ะ หนึ่งบุรุษรู้ว่าปาหนันไม่ใช่คนอ่อนหวานแค่เธอยอมลงให้เขาหน่อยเดียวแค่นั้น ก็นับว่าเธอยังเห็นคุณค่าของเขาอยู่บ้างเขาจึงก้มลงกอดเธอเอาไว้ด้วยวงแขนแข็งแรงนั้น และหอมแก้มแรง ๆ อย่างประจบ ขอบคุณครับ ดีใจที่คุณหนันพูดอย่างนี้ ผมบอกตรง ๆว่าแอบหึงที่เห็นคุณหนันไปกับผู้ชายอื่นต่อหน้าต่อตาผม โธ่.... คนถูกกอดหัวเราะปลื้มปริ่ม แม้จะไม่รู้ว่าพูดจริงหรือไม่แต่ก็มองแง่บวกไว้ก่อน ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเปิ่นหรอกน่ะ ตอนกลับมาเห็นพี่อยู่กับมันสองคน ผมแทบคลั่งแน่ะ หนึ่งบุรุษคลอเคลียอยู่แถว ๆ หน้านวลของปาหนันและพร่ำบอกถึงความหึงหวงที่เกิดขึ้น บ้าแล้ว ฉันกับเขาแค่คุยกันเท่านั้น นึกถึงตรงนี้ ปาหนันก็อดจะนึกเคืองไม่ได้หนึ่งบุรุษกลับมาเร็วเกินไป
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555 |
|
50 comments |
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 0:00:09 น. |
Counter : 7497 Pageviews. |
|
|
|