Bloggang.com : sochana9 : ############ คุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน คงจะไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้มีเมียน้อย ##### OHM CREW

############ คุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน คงจะไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้มีเมียน้อย ##### OHM CREW

คุณผู้หญิงหลายๆ ท่าน คงจะไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้มีเมียน้อย จะว่าไม่ชอบ ก็ยังไงอยู่ เพราะบางที ใหม่ๆ ก็ชอบหรอกเห็นเค้าเจ้าชู้ ดูมีสเน่ห์ แต่พอได้มากลับกลายเป็นว่าเบื่อความเจ้าชู้ของเค้าซะงั้นไป แต่ความเจ้าชู้ มีที่มาที่ไป ในการที่ผู้ชายคนหนึ่งๆ จะมีเมียน้อยได้นั้นเป็นเรื่องของความต้องการตามหลักจิตวิทยาของคนปกติ ซึ่งก็เหมือนกับ ทฤษฎีที่ว่าด้วยลำดับขั้นของความต้องการของมนุษย์ของมาสโลว์ (Maslow) ไม่เชื่ออย่าลบลุ่

โดยเรื่องนี้ได้อธิบายถึงลำดับความต้องการของคน ตัวกระตุ้นให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมเพื่อไปสู่ความต้องการ(Need) ของมนุษย์ ถ้าเรามีความเข้าใจเรื่องความต้องการของมนุษย์แล้ว เราจะสามารถเข้าใจ พื้นฐานพฤติกรรมของมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งลำดับขึ้นของความต้องการนี้ได้แบ่งความต้องการของมนุษย์ออกเป็น 5 ขั้น และในบทความนี้ได้เปรียบเทียบทฤษฎีนี้กับ ความต้องการของชายมีเมียน้อย

ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกาย (Physiological Needs) คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
- สำหรับชายมีเมียน้อย ในเริ่มต้นก็มาจากความต้องการทางกายอันเป็นปกติ ที่เค้าบอกว่าพื้นฐานคนเรา ต้อง กิน ขี้ ปี้ เยี่ยว นอน (ขออภัยไม่สุภาพแต่คล้องจอง) เมื่อเมียไม่ปรนนิบัติ ขอนอนก็นอนอย่างเดียวจริงๆ เอวใหญ่แถมไร้ลีลาอีกต่างหาก อะไรประมาณนี้ อันเป็นเหตุให้ เริ่มมองหาสิ่งสนองใหม่ให้ร่างกายที่ยังแข็งแรงปึ๋งปั๋งอยู่

ขั้นที่ 2 ความต้องการความ มั่นคงปลอดภัย (Safety and Security Needs) คือความต้องการที่จะมีชีวิต ที่มั่นคง ปลอดภัย
- เมื่อมีเมียน้อยได้ สมใจขั้นที่ 1 ก็ต้องการความปลอดภัยในการที่หนีเมียไปได้รอดสายตา เธอโทรมาเมียรู้ ดูขยันงานเกินเวลาไม่ให้น่าสงสัย แน่นอนครับว่าความปลอดภัยอันที่จะต้องรักษาหัวไว้บ่นบ่าเป็นความต้องการที่สำคัญ

ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม (Love and Belonging Needs) มนุษย์เมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มใดก็ต้องการให้ตนเป็นที่รักและยอมรับในกลุ่มที่ตนอยู่
- เมื่อได้เมียน้อยมา เมื่อรักษาความลับได้ แต่ไม่มีเวลา ก็ต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวให้เมียน้อยอันเป็นที่รัก จึงทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาไว้ ไม่ว่าแอบโทรหาวันละ 3 เวลา ประเคนของขวัญ จัดโปรโมชั่น ดูงานก็พาไป อะไรประมาณนี้

ขั้นที่ 4 ความต้องการได้ รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self -Esteem Needs) เป็นความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งความต้องการในชั้นนี้ถ้าได้รับจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจใจตนเอง
- หาเมียน้อยได้แล้ว ปิดเมียมิดแล้ว เมียน้อยหลงแล้ว ก็ต้องพาออกงานกันบ้าง ใช่ล่ะ ชายเจ้าชู้มันยอดอาชา ขุนแผนช่างแมนฮีโร่ เป็นที่คุยโอ่ต่อเพื่อนๆ รอบข้างได้อย่างดี มีใครล่ะจะไม่อยากได้

ขึ้นที่ 5 ความต้องการในการในสิ่งสูงสุดของตนเอง (Self-Actualization Needs) เป็นความต้องการชั้นสูงของมนุษย์ ซึ่งน้อยคนที่จะประสบได้ถึงขั้นนี้
มาสโลว์ได้กล่าวเน้นว่า ความต้องการต่าง ๆ เหล่านี้ต้องเกิดเป็นลำดับขั้น และจะไม่มีการข้ามขั้น ถ้าขั้นที่ 1 ไม่ได้รับการตอบสนอง ความต้องการในลำดับขั้นที่ 2-5 ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ การตอบสนองที่ได้รับในแต่ละขั้นไม่จำเป็นต้องได้รับทั้ง 100% แต่ต้องได้รับบ้างเพื่อจะได้เป็นบันไดนำไปสู่การพัฒนาความต้องการในระดับที่สูงขึ้นในลำดับขั้นต่อไป
- สำหรับขั้นนี้ สิ่งยอดปรารถนา คือการที่ต้องการมีเมียอีกคน เมื่อมา 1-4 ได้ ขั้นที่ 5 ก็อยากพามาอยู่ด้วยกันซะเลย หรือขอมีอย่างเปิดเผย เลย อันเป็นความต้องการขั้นสูงสุดของเค้าแล้วล่ะ เป็นความต้องการสูงสุดของตนเอง(ไม่สนใจใครจะคิดยังไง) และอย่างที่มาสโลว์ กล่าว มีน้อยคนที่จะประสบได้ขั้นนี้ และเป็นไปตามลำดับขั้นจะไม่มีการข้ามขั้นหากไม่มี ขั้น 1 มาก่อน

เกร็ดเสริม :

มาสโลว์ ( Abraham H.Maslow ) เกิดวันที่ 1 เมษายน 1908 ใน Broklyn เมืองนิวยอร์ก เขาอยู่ในครอบครัวของชาวยิวทีอพยพมาจากรัสเซียและมีพี่น้องอีก 7 คน เขาได้เรียนกฎหมายที่ City College of New York (CCNY) แต่เรียนได้เพียง 3 เทอม ก็ได้โอนไปเรียนที่ Cornell University และโอนกลับมาที่ CCNY จนจบการศึกษา หลังจากนั้นเขาได้แต่งงานกับ Bertha Goodman มีบุตรด้วยกัน 7 คน ต่อมาเขาได้ย้ายไปอยู่วิสคอนซิน เพื่อที่จะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิล ที่นี่เองที่เขาได้ค้นพบว่าเขาสนใจในวิชาจิตวิทยา เขาตั้งหน้าตั้งตาทำงานวิจัยเกี่ยวกับจิตวิทยา ในที่สุดเขาก็จบปริญญาตรีในปี 1930 จบโทในปี 1931 และปริญญาเอกในปี 1934 โดยที่ปริญญาแต่ละใบเป็นวิชาที่ศึกษาด้านจิตวิทยาทั้งสิ้น

หลังจากจบการศึกษาเขาได้ย้ายกลับไปที่นิวยอร์คอีกครั้ง เพื่อไปเป็นอาจารย์ใน Brooklyn College ในปี 1951 เขาได้ขึ้นเป็นคณะบดีคณะจิตวิทยาที่ Brandeis และดำรงตำแหน่งยาว 10 ปี ที่นี่เป็นที่ที่เขาได้พบกับ Kurt Goldstein ซึ่งเป็นคนแนะนำให้เขารู้จักทฤษฎีความต้องการความสำเร็จของชีวิต และเขาก็ได้เริ่มทำงานหนักอีกครั้งเกี่ยวกับทฤษฎีดังกล่าว

เขาใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายของเขาในรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้สิ้นลมด้วยโรคหัวใจ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 1970

thank you for fw mail.

posted by OHM in Venice today.

//www.sochana9.bloggang.com

Thank you for reading my book and my website.

Create Date : 04 กรกฎาคม 2550

Last Update : 4 กรกฎาคม 2550 7:15:02 น.

2 comments

Counter : 428 Pageviews.

โดย: โสมรัศมี

วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:7:46:53 น.

โดย: took IP: 222.123.142.218 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:40:33 น.