พรุ่งนี้พบกันที่เมืองไทย เรือจอดเจ็ดโมงเช้า เพื่อนมารับ
Arrival of Pacific Princess in Thailand at 9.30 am
♡The Pattaya House ♡
ร่วมกับ
♡ โอม สมรัชนะ มูลสาย♡
(นักเขียนหนังสือเรือสำราญ3เล่ม และลูกเรือไทยในต่างแดน"ฉายา มือเสิร์ฟเงินล้าน" หรือ "บ๋อยอินเตอร์ เที่ยวรอบโลก")

เรียนเชิญเพื่อน พ้อง น้องพี่ และพี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนง
ในงาน 
" มือเสิร์ฟเงินล้าน กูรูเรือสำราญ กินเที่ยว(ฟรี)ทั่วโลก"  
ที่ The Pattaya House 
พัทยาพลาซ่า คอนโดเทล ถ. สุขุมวิท 
(พัทยากลาง ตรงข้ามคิงพาเวอร์ ติดกับโชว์รูมรถสปอร์ต ก่อนถึงแยกไฟแดงพัทยากลาง)

 วันจันทร์ ที่ 26 มีนาคม 2555  
เวลา12.19 น. เป็นต้นไป เริ่มสนทนา 12.39 น.  
(ฟรีตลอดงาน พร้อมรับของที่ระลึกจากท่าเรือต่าง ๆ ในต่างแดน)

ในงาน พบปะ พูดคุย เจ้าของหนังสือเรือสำราญ ที่สนั่นวงการ "งานบริการอินเตอร์ เรือสำราญระดับโลก" ที่เค้ามาเมืองไทยแค่วันเดียว  ครั้งแรกและครั้งเดียว
พร้อมกับหนังสือเล่มใหม่ ที่กำลังเขียน "ขี้ข้า อ้าปากเม้าท์"  ร่วมสนุกการประมูลของที่ระลึก จากท่าเรือต่าง ๆ  รวมทั้งโหลดภาพสวยๆจากต่างแดนที่เค้าถ่ายเอง แต่ละเมืองรอบโลกมอบให้ฟรี ๆ เพียงนำฮาร์ดดิสมาโหลดง่าย ๆ  

รายได้จากการประมูลของที่ระลึกจะนำไปสร้างห้องน้ำที่หน้าผา ถ้ำหินผาแตก โดยมี"พระพุทธรักษา" ประดิษฐานอยู่ ณ  ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ. เชียงราย
และจัดซื้อแมกกาซีน "ซีเครต" รายเดือนให้กับ ร.ร. ทุ่งยั้งหัวฝายวิทยา ,ร.ร.ดอนศิลาผางามวิทยาคม,ร.ร.ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย
ภายใต้สโลแกน "ทำบุญสร้างห้องน้ำ อุปถัมภ์แมกกาซีนเพื่อน้อง" โดย โอม สมรัชนะ และผองเพื่อน

โอม ตอบคำถาม แฟนคลับ ตอนนี้

13 เมษา 2555
ดูไบ
วันนี้ไม่ได้วันหยุด ซึี่งหลังจากมีซ้อมหนีน้ำหนีไฟ แล้วก็ไปทำงานต่อ 11โมงถึงบ่ายโมงครึี่ง ก่อนหน้านั้นตื่นไปทำงานเจ็ดโมงเช้า เมื่อคืนนอนไม่กี่ชั่วโมง เพราะไปเที่ยวดูไบ ยามราตรีกับเพื่อน ๆ กลับเรือตีสามเก้านาที
แต่วันนี้ผมรับปากว่าจะตอบ เวลาท้องถ่ินตอนนี้ สามทุ่มครึี่ง ผมไม่มีลูกค้า ให้ลูกน้องอยู่รับแขกไป ผมก็เลยมาพักผ่อน พอเห็นข้อความที่ค้างจะตอบก็เลยรีบตอบทันใด อันที่จริงคุณกับผม ไม่ได้รู้จักกันมานานนัก ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณคือใคร (เพราะไม่มีเวลาเข้าไปเช็คโปรไฟล์ใด ๆ อันเนื่องมาจากมีเวลาจำกัดมว๊ากกก) แต่ภาพที่เห็นในโปรไฟล์คือเด็กน้อยน่าชังคนหนึ่ง มันทำให้ผมต้องรีบตอบคำถามเจ้าของคำถามนี้ ณ บัดดล
คุณถามว่า

"คุณแนะนำเราได้ไหมว่าทำยังไงจะประสบความสำเร็จได้อย่างคุณ และครั้งหนึี่งคุณเคยบอกว่า พวกเราว่า "เป็นลูกจ้างก็รวยได้"​ ทำไง

หากคำว่า "รวย" หมายถึงความพอเพียงและความเพียงพอ เริ่มต้นจากใจแล้วใจแบบไหน ในสายตาคุณที่คิดว่า ใจดีที่สุด

จาก คุณ พรพรหม ราชคีรี
เมื่อคืนผมเปิดอ่าน ตอนนั้นอยู่ที่อาคารผู้โดยสารกำลังจะกลับเรือสำราญ เปิดเฟซบุ๊คจากมือถือ ก็เลยไม่สามารถตอบได้อย่างมีสติ อิอิ

คำถามแรก อันนี้ผมไม่รู้ว่า หมายถึงผมหรือเปล่าที่ประสบความสำเร็จ แต่ก็นำได้ลาง ๆ ว่าเคยพูดเหมือนกัน ต่อให้เราเป็นลูกจ้าง(เค้า) ในวันนี้ วันหน้าเราก็มีโอกาสรวยได้ (ไม่ได้หมายถึงตัวผมนะครับ) เพราะจากหลาย ๆ คนเค้าเริ่มต้นจากศูนย์ แต่เป็นประเด็นที่น่าสนใจ ว่าทำไมเค้าเริ่มจากศูนย์แล้วเค้าเก็บหอมรอมริบไปจนถึงหลักหลาย ๆ หลักได้
ผมเคยอ่านหนังสือจากหลายคนที่ประสบความสำเร็จ แล้วเอามาเป็นข้อคิดและหลักประยุกต์กับตัวเอง ข้อหนึ่งที่ผมคิดว่าสำคัญมากก็คงเป็นเรื่องของ ความขยัน อดทน ประหยัด อดออม รู้จักใช้เงิน "เป็น" เห็นทางสำเร็จ เคล็ดคบกัลยาณมิตรชีวิตรุ่ง
หากคนเราไม่ขยัน นอนรอโอกาส รองาน รอเงิน คงยากจะหามาได้
อดทน อันนี้สำคัญมาก กำลังจะไปถึงจุดสูงสุด ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมแต่ขาดความอดทน ระเบิดอารมณ์ ระดมความย่อยยับ เป้าหมายก็เคลื่อน พังในพริบตาครับ
ประหยัด ข้อนี้ผมได้มาจากแม่ ผู้เลี้ยงผมแต่เยาว์วัย รวมทั้งเคยอ่านเรื่องของ ในหลวงของเรา ท่านประหยัด ขนาดยาสีฟันต้องบีบเป็นหยดสุดท้าย ซึี่งหากคนเราหามาได้เยอะแยะมากมายแต่ ไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักออม สุรุ่ยสุร่าย ก็คงเหมือนทราย ที่เติมน้ำเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็มอ่ะครับ
หาหนทางสู่เส้นชัย ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาทำเหมือนเรา ใช้สติมา ปัญญาเกิด เปิดทางสู่เป้าหมาย
คบกัลยาณมิตรที่ดี พาชีวีรุ่ง อันนี้จริง สัมผัสกับตัวเองเลยครับ เพื่อนดี มักจะแนะนำแต่สิ่งที่ดี ๆ เพื่อนเลว หรือ คนที่ไม่ได้ มีแต่จะมาสร้างความเดือดร้อน สารพัดเรื่อง ทำให้เราเสียเวลา เสียโอกาสอะไรหลาย ๆ อย่าง
เลือกคบคนอ่ะครับ เพราะรู้ว่าคนมีหลายประเภท อันนี้ใช่ ร้อยเปอร์เซ็ง
ส่วนมากเพื่อนที่ผมคบจะรู้นิสัยใจคอ บางคนเป็นเพื่อนที่ดี แค่สัมผัสก็พอหยั่งรู้ได้ แล้วเราใช้ "ใจ"​คบกัน มากกว่าการหวังผลประโยชน์ซึี่งกันและกันครับ


คำว่าเป็นลูกจ้างก็มีสิทธิ์รวยได้ อันนี้ผมไม่รู้ว่าเคยเขียนเมื่อไหร่
แต่สำหรับผมแล้ว แหม.. คงไม่มีใครอยากจะเป็นลูกจ้าง หรือ ขี้ข้าเค้าตลอดชีพ หรอกเน๊าะ แต่ผมคิดว่า ช่วงเวลาที่เราเป็นลูกจ้างเค้า มันอาจจะเป็นช่วงที่เรามีโอกาส ได้เรียนรู้ ศึกษา ในการทำงาน และเก็บเอาเคล็ดลับ ตัวอย่างของนายจ้าง หรือเจ้านายที่ดี เพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ในการใช้ในสนามจริง ของเราสักวัน หาเคล็ดลับดี ๆ จดจำไว้ แล้วเอาเป็นแบบอย่าง หากสักวัน สักวินาทีหนึี่ง เรามีโอกาสได้ทำ ก็ทำอย่างเต็มที่ ใช้ชั่วโมงบินและประสบการณ์ วิธีทั้งหลายที่เราเก็บไว้ จากสมัยเป็นลูกจ้างเค้า งัดเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์จนได้ แบบจัดเต็มไปเลยครับ

เลือกทำในสิ่งทีี่คนอื่นเค้าไม่ทำ เราเป็นผู้ริเริ่ม ย่อมมีโอกาสกว่าไปทำตามคนอื่นเค้า มันเกลื่อน เกร่อ ซึี่งก็ไม่ได้เป็นหนทางลัดไปถึงจุดหมายได้

คำว่าเป็นลูกจ้างเค้า สักวันเราต้องเป็นนายจ้างเค้าบ้าง ดังนั้น สร้างวิกฤติให้เป็นโอกาส ประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปอ่ะครับ เห็นด้วยหรือไม่ กดหนึ่ง หุหุ ไม่ใช่ ๆ ๆๆ ล้อเล่นน ไม่อยากให้ซีเรียสครับ

คำถามข้อที่สอง "รวย" อันนี้ต้องบอกตามตรงก่อนนะครับ ว่าโอมไม่เคยไปประกาศที่ไหนว่า "โอมรวย" ซึ่งอายฟ้าดิน แต่เคยเขียนจริง ๆ เรื่อง
"รวยความสุข" รวยจากความพอเพียง ที่เราคิดว่า เรามีเพียงพอแล้ว

ใจแบบไหนในสายตาผม ที่คิดว่าดีที่สุด บอกตรง ๆ นะครับ ผมเป็นคนพุทธ ตั้งแต่ผมหันหน้าเข้าหาธรรม ศึกษาและ ทดลองกับตัวเองแล้ว เกิดความ "ศรัทธา" และ "เชื่อ" ในเรื่องของเวรกรรม เคยรอดตาย "เฉียด" มาหลายครั้งมว๊ากกกก ก็เลยคิดว่าเวลาที่เหลือ ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ของ อีกครั้งนั้น น่าจะทำกรรมดี การเป็นคนใจดี หรือ การทำตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น มันเป็นอีกวิธีหนึีงที่ทำให้ผมมีความสุขมว๊ากกกกกก
บางครั้ง ได้ทำอะไรเพื่อใคร แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจจะมองข้าม
แต่สำหรับผมแล้ว คิดว่าสิ่งที่เราตั้งใจทำ "สิ่งเล็ก ๆ นั้นแล้วดันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อใครบางคน กุศลที่ผมได้ บางครั้งผมน้ำตาซึมและดีใจ ที่ได้ทำ มันเกิดความสุขอย่างอัศจรรย์ยิ่ง อ่ะครับ

ส่วนหนึี่งผมคิดว่า ผมคงได้จากครอบครัวของผมด้วย พ่อผมเป็นคนช่วยเหลือคนป่วยในสมัยก่อน พ่อสอนให้ผมรู้จักให้ แม่สอนให้ผมประหยัด อย่างมีเหตุผล พี่สาวของผม เป็นคนมีน้ำใจ ส่งผลให้ผมได้ซึมซับสิ่งดี ๆ เหมือนเป็นเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมจะขยายแตกกิ่งก้านสาขาไปเรื่อย ๆ

ดังนั้นใจที่คิดว่าดีที่สุด คือ ใจของคนดี เหมือนเป็นโพธิสัตว์ บนดิน
เพราะผมเชื่อว่า "ยิ่งให้ ยิ่งได้ โดยที่เราไม่ต้องขอ ไม่ต้องรอ " หลายคราที่เกิดความเดือดร้อน จะมีคนยื่นมา "ให้" เราเสมอ และหลายครา ที่ผมพอจะทำอะไร "ให้" ใครได้บ้าง ผมจะทำ แม้บางสิ่งบางอย่างเป็นการทำ โดยที่ไม่ต้องมีเงื่อนไข หรือ อาศัยเงินทอง สิ่งของมาประกอบ แค่ให้ด้วยใจ ให้ใจเค้าเต็มที่ เราก็ได้ใจ เค้า ลองทำใจ เป็นผู้ให้ โดยไม่หวังผลตอบแทน เราจะมีความสุขที่ได้ให้อ่ะครับ นั่นคือ ใจที่วิเศษสุด สำหรับความคิดของผมครับ

หวังว่า บางประโยค บางคำ คงพอทำให้คุณได้ไอเดียบ้างนะครับ
ไม่มากก็น้อย ถึงปานกลาง
ขอบคุณมิตรภาพที่ดี ที่มีให้กัน ขอบคุณที่ติดตามเฟซบุ๊คของผมด้วยครับ
โอม สมรัชนะ
ดูไบ เรือกำลังออกจากดูไบ มุ่งหน้าไป โอมาน