@@@@ บันทึกรัก ..พักร้อน ของโอม สมรัชนะ (คนเขียนหนังสือเรือสำราญ, ลูกเรือไทยในต่างแดน คอลัมนิสต์Magazine @@@@
บันทึกรัก ..พักร้อน ของโอม สมรัชนะ (คนเขียนหนังสือเรือสำราญ, ลูกเรือไทยในต่างแดน คอลัมนิสต์Magazine CROW..)
"บินกลับมากราบแม่ที่เมืองไทย ..เพื่อบอกรักแม่ ..." เขียนโดย โอม สมรัชนะ (ลูกเรือไทยในวันพักร้อน) August 09 ,2012 @HOME in Chieng Rai
เดินทางมาถึงเมืองไทย บ่ายวันเสาร์ โดยมีพี่หนุ่ม พี่กอล์ฟ (รุ่นพี่ในวงการขี้ข้าอินเตอร์) ขับรถมารับแล้วก็พากันไปทานอาหารที่ Fifth Avenue @ MBK มาบุญครอง เพื่อจะได้เอาแลปท้อปอีกตัวไปอัพเดท รวมทั้งหาซื้อเบอร์มือถือเบอร์ใหม่ 089 201 4909 ยากมากสำหรับเครื่องไอโฟนแล้วต้องตัดซิม ติดสเต็ม เยอะอ่ะครับ แต่ก็ดูเหมือนจะผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี ตอนนี้เวลาเปิด ปิดเครื่องต้องมาทำอะไรอีกเยอะหุหุ.. กว่าจะกลับห้องที่ดินแดงได้ ก็ปาเข้าไปเกือบจะสองทุ่ม เหนื่อยมว๊ากกก แต่แฮปปี้สุด ๆ ได้โทรคุยรายงานตัวกับครอบครัวช่วงเย็น ๆ เพราะเกรงพี่และแม่จะเป็นห่วง นอนหลับพักผ่อนเอาแรงสักพัก เพื่อนที่อยู่ด้วยกันก็กลับมาจากที่ทำงานตอนเที่ยงคืน เม้าท์กันนิดนึงคับ
ตื่นตีหนึี่งกว่าๆ เปิดเฟซ โพสเบา ๆและก็มีน้องแฟนคลับที่เชียงใหม่ โทรมาเล่าเรื่องราวและปรึกษา ยิ้นนนดีจ๊าดดนักครับ
วันรุ่งขึ้นตื่นนอนตอนสายโด่ง อาบน้ำและรีบไปตามนัด เพื่อนรัก อ้อย อรดา เพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้นด้วยกันที่บ้านนอก (เซาะกราว) เธอบอกผมว่า เป็นนัดที่ตื่นเต้นมาก ไม่ได้เจอกัน 24 ปี แห่งความหลัง (16 ปีแห่งความหลังของชายเมืองสิงห์ ยังน้อยไปครับ อิอิ) เรานัดกันทานข้าวที่ MK มีอยู่ช่วงหนึี่งเค้าจะออกมาเต้นเพลง "สุขอยู่ที่ใจ" คอด ๆ น่ารักมว๊ากกกกครับ
อ้อยน่ารักมว๊ากกก อุตส่าห์ตื่นแต่เช้าไปทำบุญ และนำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อโต พรหมรังสี มาฝากผม
ผมไปส่งอ้อยกลับบ้าน ที่หน้าพระพรมเอราวัณ แวะกราบ แต่ตอนนั้นแบ็ตมือถือหมด (การต่อเน็ต3G ทำให้แบ็ตหมดไวมว๊ากกกก) แล้วจึงกลับมาทำธุระแลกเงินสด "ชอบ เงิน สด" พกเงินสดติดตัวมาจากต่างประเทศเกือบสี่แสนบาท เป็นการกระทำที่เส่ี่ยงแต่ท้าทาย (ไม่ขอแนะนำ ทุกคนและตัวเองอีกในครั้งต่อไป) ค่าเงินบาท ที่Super rich 31.45 ซึี่งราคาดีกว่าธนาคารเกือบหนึี่งบาท เงินหมื่นสองพันเหรียญก็ได้เพิ่มอีก12,000 บาทอ่ะครับ แล้วก็เดินแบกเป้สะพายเข้าธนาคารไทยพาณิชย์ 377000บาทโอนเข้าบัญชี ณ บัดดล ถือเป็นเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง และลำแข้งของตัวเองล้วน ๆ เป็นเงินที่เหลือมาจากการกิน เที่ยว ที่ต่างแดนในครูซรอบโลก เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อครั้งที่เรือจอดเมืองไทย (พัทยา) ผมก็ได้นำเงินสดโอนเข้าบัญชีไปแล้วสามแสนกว่าๆ ปีนี้10 เดือนกับอีก18 วัน ได้เงินกลับมาไทย เหยียบๆแปดแสน (ไม่รวมค่ากิน จ่าย เที่ยว อินเตอร์เน็ตที่อยู่ต่างแดนที่ไปเที่ยวรอบโลก) ดังที่รายงานให้ทราบอีกครั้ง บางครั้งเหมือนเป็นดาบสองคม เพราะคนที่เค้าไม่ชอบเราอาจจะคิดว่า "ไอ้นี่มาอวดอ้าง กร่างว่าตัวเองทำเงินได้เท่านั้นเท่านี้ แต่สำหรับโอมแล้ว โอมคิดว่ามันเป็นการสร้่างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจสำหรับน้อง ๆ ในวงการ(ขีี้ข้า) หลายคน หากเรารู้จักกิน รู้จักใช้ รู้จักหามาได้ เราก็ได้เงินเก็บเป็นก้อน ๆอ่ะครับ หาได้ตั้งใจจะยกหาง หรือโอ้อวดแต่อย่างใดครับ"
นั่งมอไซต์จากราชประสงค์ ไปเจริญนคร 37 ศุภลัย คอนโด แวะซื้อชูชิ และขนมนมเนยไปทานห้องพี่หนุ่มและพี่กอล์ฟ คืนนี้ต้องโหลดโปรแกรมและอัพเดท ทั้งมือถือและแลปท้อป LINE 089 201 4909 เอาไว้แชทกับเพื่อนพ้องน้องพี่ โดยไม่ต้องโทรคุย เหมาะสำหรับใครที่ไม่มีเวลาจะคุยกับเราทางโทรศัพท์ จ๊ากกกกกก..
สรุปคืนนั้นหลับไม่ลง นอนตอนตีห้ากว่า ๆ "ฟ้าเร่ิมสว่างแล้ว แว่วเสียงสกุนา ฉันพึี่งตื่นนิทรา เอ้ยยยยย ยังไม่ได้หลับเล้ยยยยย จ๊ากกกก" ตื่นอีกที สิบโมงกว่า รีบออกไปพร้อมกระเป๋าเป้ ที่พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า เอ้ย ..พกเงินสด สามแสนเจ็ดขึ้นรถไฟฟ้า ลงพารากอนแวะกราบพระที่วัดปทุมวนาราม และเดินทนไปราชประสงค์
/////////จันทร์ที่ 6 สิงหา นั่งมอไซต์ 60 บาทเข้าห้องคอนโด "เบญจรงค์" ที่ดินแดง อาบน้ำแต่งตัวอย่างไวเพื่อแท็กซี่ต่อไปกราบทีมงาน และทานข้าวกับพี่บอกอ ทานอาหารทะเลและอาหารแซ่บๆอร่อยมากครับ ถึงแท้รสชาติไทย ได้แมกกาซีนจากพี่ที่เอามาให้ กลับมาห้องมานั่งอ่าน ทำนั่น นี่ โน่น (เพราะนอนไม่หลับ ) จนถึงตีสี่กว่า
/////////อังคาร 7 สิงหา
ตื่นสายมว๊ากกก เพราะรอให้ข้าศึกรุกรานเสียก่อนอันเนื่องมาจากคืนวันก่อน ไปทานอาหารทะเลกับพี่ บก.และทีมงาน มั่นใจเกินร้อยว่า รสชาติอันจัดจ้านของน้ำจิ้มซีฟูด ต้องส่งกองทัพมาประจันบานแน่ ก็เลยไม่อยากออกไปไหนแต่เช้า พอสาย ๆ จึงได้เวลาไปรายงานตัวกับทางเอเจนซี่ โมเดลลิ่ง เอ้ยย ... ขอเทคสอง ทางเอเจนซี่แรงงานข้ามชาติ ที่ ทาวน์ อิน ทาวน์ บริษัท จิมโบว์แมน
เพื่อนรักสมัยเรียนมัธยมปลาย ที่เชียงราย นายปายขับรถจากพัทยา นำสิ่งของและกระเป๋าที่โอมฝากไว้บ้านเพื่อน The Pattaya House ปายนำมาให้สี่กระเป๋า พร้อมซื้ออาหารเหนือมาฝากอีกเยอะมาก ซึ้งใจจริง ๆ เพื่อนเอ๋ย กับข้าวมื้อนี้ข้าน้อยจะไม่ลืม บุญคุณต้องทดแทน จ๊ากกกกกก ปายนิสัยดี เพื่อนเก่าเพื่อน(เริ่ม)แก่ หุหุ... กินอาหารไปพร้อมกับเก็บกระเป๋ากลับเชียงราย บ้านเกิด
นั่งมอไซต์ 30 บาทไปขึ้น รถราง (แอร์พอร์ตลิงค์) ที่ราชปรารภ 40 บาทต่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ
"ขอตรวจกระเป๋าใบนี้หน่อยครับ" เสียงของพนักงานเอ็กซเรย์ "ได้ครับ" ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ายัดอะไรไป ตกลงมันคือ Horn หรือว่าหวูดเขาแกะ ตอนนั้นเบรดนิด ๆ จำไม่ได้ว่าซื้อมาจากท่าเรือไหน พอตั้งสติได้จึงจำได้ว่า ซื้อมาจากเวียตนาม ตอนนี้กลายเป็นของเล่นของหลานที่ชอบเป่าเรียกน้าตื่นได้ดีนักแลยามเช้า ยามสาย ยามบ่าย (เพราะผมจะหลับได้ทุกเวลา เรียกได้ว่าเป็นการหลับชดเชย)
*บินกลับบ้านตอนเย็น TG140 พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปยังเชียงราย ขอเชิญผู้โดยสารขึ้นเครื่องที่ประตู 3 ตอนนั้นผมกำลังยุ่งกับการเช็คเมล์ ต่อเน็ต แทบจะเป็นสิบคนสุดท้ายที่วิ่งไปขึ้นเครื่อง (เพราะนั่งรอที่เก้าอี้ แต่ขอรอเกือบจะเป็นคนสุดท้าย อิอิ) อากาศท้องฟ้ามืดครื้ม ได้ที่นั่งพร้อมกับ ผูหญิงวัยกลางคน เธอมาจากญี่ปุ่น เธอจากบ้านไปนานหกปี เป็นการเดินทางกลับครั้งแรกที่สนามบินใหม่ ด้วยความตื่นเต้นดีใจ เธอพูดเล่าเรื่องราวมากมายเป็นภาษาเหนือตั้งแต่ประโยคแรก เพราะคงมั่นใจแน่แท้ว่า ผมคงเป็นคนเหนือแน่นอน เธอเล่าเรื่องราว ความเป็นอยู่ วิถีชีวิตให้ผมฟัง ผมเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่มีการรำคาญ จะมีบ้างก็ตอนที่แอบคิดถึงบ้าน และดีใจที่อีกไม่กี่นาทีจะถึงบ้านเราแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดสึนามิครั้งยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น และการระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้คนไทยหลายคนที่ต้องจบชีวิตอยู่ที่นั่น เพราะเธอบอกว่า เป็นแหล่งทำมาหากินของคนไทยเยอะเลย เธอเล่าให้ฟังว่า น้องชายของเธอได้บรรจุตำรวจใหม่ที่จังหวัดหนึี่งทางภาคเหนือของไทย บังเอิญไปจับ และกระสุนลั่นใส่ลูกนักการเมืองท้องถิ่น ต้องเสียเงินเป็นล้านกว่า เพื่อที่จะขอชีวิตน้องชายของเธอ ตอนที่พ่อเธอตกหลังคา เพราะไปซ่อมลำโพงแล้วลื่นตก กระดูกซี่โครงหักสามอัน นอนอยู่ไอซียู เกือบเดือน คืนละ หมื่นห้าพันกว่าบาท ไหนจะซื้อรถ ปลูกบ้านอีกหลายหลังให้น้องๆ "ถ้าบ่าได้อี่ปี้ ป่อและน้อง ๆก็คงจะลำบากขนาด" พ่อของเธอพูดกับเธอ เธอบอกว่าได้สัญญากับแม่ว่าจะดูแลพ่อและน้องให้ดีที่สุด
สำหรับใครที่รักน้องแมว เธอเล่าให้ผมฟังว่า ที่ญี่ปุ่นเธอเลี้ยงแมว สามขา เพราะว่าแมวตัวนี้หนีมาอยู่กับเธอ แต่ต้องตัดขาอันเนื่องมาจากแผลติดเชื้อ แมวผู้น่ารักตัวนี้จะไม่ยอมกินข้าวหากเธอไม่อยู่บ้าน และจะร้องโหยหวนถึงเธอตลอด เวลาที่เธอไปอยู่ที่อื่นสองสามวัน และเจ้าแมวตัวนี้ฉลาดมากจะไม่ยอมกินอาหารจากคนแปลกหน้า เพราะเกรงว่าจะโดนสารพิษเหมือนคราวที่แล้วอีก เธอจ่ายเงินค่ารักษาแมวไปหลายแสนบาท ซี่งหากเป็นแมวที่ไม่มีประกันจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแพงมาก
ผมชอบประโยคหนึี่งที่เธอบอกว่า "ไม่ได้ยกหางตัวเอง" นั่นคือหมายถึงการไม่ได้โอ้อวดตัวเอง แต่เธอก็ทำได้จริง ๆ เพราะเธอนำภาพ และที่เธอบอกผมว่า "คนเราถ้ารู้จักตอบแทบบุญคุณพ่อแม่ ตึงจะได้ดี " (หากเรารู้จักทดแทนบุญคุณพ่อแม่ก็จะได้ดี) ตอนที่เธอบอกผม หนึี่งชั่วโมงผ่านไปเครื่องใกล้จะแลนด์ดิ้งสู่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง การบินไทยได้ปิดไฟ เปิดเพลงบรรเลงเบา ๆ ทำเอาผมน้ำตาเล็ด เธอคงเห็นผมเช็ดน้ำตา อย่างไม่อาย เธอก็เลยบอกว่า เข้าใจถึงหัวอกคนจากบ้านมานาน โหย..ซึ้งสุดโค่ยเลยอ่ะครับ บอกตรงๆ ปาดน้ำตาบนเครื่องไปหลายหยดเหมือนกัน อิอิ (สารภาพตรงๆ) "อู้ม่วนเน๊าะ" (พูดสนุกดี) เธอบอกผมว่าผมเป็นคนพูดจาด้วยแล้วสนุก ตอนจากกัน เธอยกมือไหว้ ผมก็ยกมือไหว้เธอ นี่ล่ะครับคนไทย..
*แม่ส่งตัวแทนมารับ พี่สาว พี่เขย และสองหลานสาวตัวเล็ก
"ธยาน์พี่อายน้าจังเลย" น้องธันย่า (ห้าขวบบอกน้องสาว) "กลัวทำไม" น้องธยาน์ (ตัวเล็กสามขวบ) พูดบอกพี่สาว สุดท้ายแล้ว "น้าโอมอยู่ไหนแน๊ะ..." ตอนนั้นธยาน์เร่ิมหน้าซีด เปลี่ยนสีหน้า พอเห็นผมจริง ๆ เธอกลัวเช่่นเดิม ได้ถ่ายวีดีโอ และภาพนิดเดียว อันเนื่องมาจากแบ็ตไอโพนหมดซะก่อน
ขึ้นรถโตโยต้า วีออส สีขาวครั้งแรก เพลงในรถที่พี่เปิดคือ "นักร้องบ้านนอก" ร้องโดย เปาวลี เป็นการเปิดจากแผ่นแรนดอม ฟังแล้ว ...นะ เพลงโปรดมว๊ากกกกก
ตอนนั้นผมและพัฒน์(พี่เขยที่อายุเท่ากัน) ก็หิว เพราะพัฒน์พึี่งขับรถมาจากสถานีตำรวจดอยหลวง ทำหน้าที่ของตำรวจไทย เลยพากันแวะทานข้าวที่ร้านอาหารริมแม่น้ำโขง หาที่จอดรถยากมาก แต่โชคดีมีหนึี่งที่รอไว้พอดี จึงแวะทานร้านอาหาร "หลู้ลำ เชียงราย" ผมเริ่มจับมือหลาน (สาวน้องธยาน์) พาเธอไปทานข้าว หลานเร่ิมใจอ่อนไม่กลัวน้าแล้ว พอเธอได้คุ้นเคยเธอเร่ิมถามนั่น นี่โน่น อย่างช่างสงสัย เราเลือกสั่งอาหารเยอะแยะมากมาย ไส้อั่ว แกงฮังเล แกงอ่อมไก่ ข้าวผัดกุ้ง (ที่หลานสาวชอบ) และอะไรอีกจำไม่ได้ พร้อมกับเพลงหนึี่งที่ "ไม้เมือง" ร้องว่า "กาสลองของแม่จะกลับมา สู่แผ่นดิน" อะไรประมาณนั้น เกือบจะกลั้นอารมณ์ไม่ไหว เลยถามพนักงานว่าเพลงอะไรครับเพราะจังเลย
บรรยากาศริมแม่น้ำกก สวยงาม แต่ผมเคยฝันตอนอยู่ต่างแดน ว่าหลานสาวตกน้ำ ก็เลยฝากคำถามคุณการะเกตุ ผ่านทางเฟซบุ๊ค (นักเขียนชื่อดัง จากเชียงใหม่ ) พี่เกตุบอกว่า คงเป็นเพราะเป็นห่วงและกังวลเรื่องครอบครัวเกินไป ไม่มีอะไรหรอก (ขอบคุณพี่เกตุจากใจจริงด้วยค๊าบบบบ) ได้เจอรุ่นน้องที่เคยทำงานเรือสำราญด้วยกันโดยบังเอิญที่ร้านนี้ (ดิเรก) น้องเลยลดให้ 10 เปอร์เซ็นต์ขอบคุณจ๊าดดดนักครับ
กลับบ้านสี่ทุ่มกว่าๆ พอถึงบ้านเรียกแม่ และ ก้มกราบเท้าแม่อยู่นาน จนแม่บอกว่า "พอแล้ว ๆๆๆ" (ตอนนั้นทำอารมณ์ไม่ให้ร้องไห้ครับ แต่ก็ปริ่ม ๆ อ่ะครับ (บอกตรง )..) พร้อมกับกราบห้ิงพระ และรูปพ่อ อย่างปีติ ... "ลูกของพ่่อกลับมาแล้วครับ" ทั้งพ่อขุนเม็งรายฯ และพ่อสี มูลสาย (ชาวบ้านชอบเรียกพ่อว่า พ่อหมอสี เพราะพ่อเคยเป็นหมอเมืองเถื่อน ช่วยชาวบ้านก่อนที่จะมีแพทย์ พอสว.อีกครับ ) เปิดกระเป๋าของฝากเยอะแยะมากมาย เตรียมขนมมาฝากหลานสาว และเอาที่นวดมาฝากแม่
/////////พุธ 8 สิงหา
"หล้าแม่หนาวปิดพัดลมหื้อแม่กำ" (ลูกแม่หนาว ปิดพัดลมให้แม่หน่อยนะ) นอนกับแม่ที่เตียงใหญ่ บ้าน "ศรีวรรณ" ที่สร้างให้แม่ "8 กันยา 44 มีเสาเอก ร่วมปลุกเสกก่อสร้าง.... ผ่านไป 11 ปีแม้จะเริ่มเก่า แต่ความรักความอบอุ่น จากไอดิน กลิ่นบ้านยังคงเหมือนเดิม อยู่บ้านทั้งวันไม่ไปไหนเลย ขี้เกียจมากครับ ตื่นแต่เช้า ได้ยินเสียงไก่ขัน มันช่างธรรมชาติเหลือเกินเพราะอยู่ที่เรือไม่ได้ยินเสียงสด ๆมานานแรมปี เริ่มหิว ท้องไส้ ทำงานผิดกาลเวลา ก็เลยเอาขนมจีนทานไปพลาง ๆ พร้อมกับขนมที่พี่สาวซื้อมาจากตลาด เช้านี้แม่กับพี่สาวทำ แกงผักกาด ต้มยำไก่ แกงคุณทอง (ฟักทอง) ...( เวลาอยู่ต่างประเทศอย่าอ่านออกเสียงดัง เมื่อครั้งที่อยู่ร้านอาหาร พนักงานร้านอาหารไทยในต่างแดนเค้าจะอ่านว่า คุณทอง เพราะคำว่า ฟัก นั้นมั้นหมายถึง "ร่วมเพศ" เชียวล่ะครับ) อร่อยมว๊ากกก อยู่บ้านทั้งวัน ไม่ออกไปไหน นอกจากขับรถไปจ่ายตลาดที่ บ้านสบเปา
วันที่ 9 และ 10 สิงหา ...ไม่ได้เขียน ขอข้าม กับวันเบา ๆ กิน นอน พักผ่อนเต็มที่ ที่บ้านเกิด ... ไปไร่สันเวียงยางพารา ดูคนงานกรีดยาง ตอนแรกกะว่าจะรับคนงานไปโรงพยาบาล แต่พัฒน์บอกว่า ไม่เป็นไร ให้ผมพักผ่อน พัฒน์ทำงานเองตลอด ...
///////// 11 สิงหา ตื่นแต่เช้า ทานข้าวกับแม่ พี่ และหลาน ๆ แล้วก็นอนต่อ จนถึงเกือบเที่ยง แตงโม (เพื่อนสมัยเรียนมอปลาย ดำรงฯ เชียงราย) ส่งข้อความถามว่าจะไปเที่ยวแม่สายด้วยกันมั้ย แป๋ว(เพื่อนอีกคน) ก็มาจาก กทมด้วย ก็เลยโอเค ไป ๆ พอไปถึงที่บ้านแตงโม เอารถจอดเรียบร้อยพร้อมจะไปเที่ยวแม่สายกับครอบครัวของเพื่อนแล้ว แต่นึกขึ้นได้ว่ามีงานที่เชียงแสน วัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง 750 ปี เมืองเชียงราย ก็เลยโทรติดต่อ และถามเพื่อนที่อยู่เชียงแสน ( วู ...เพื่อนสมัยเรียนห้องเดียวกัน ม.ปลาย ตอนนี้เธอเป็นเจ้าของร้่านอาหารเวียตนาม ที่เชียงแสน) แต่ไม่ได้เจอกันเพราะว่าสวนกันเธอมาตัวเมืองเชียงราย ผมขับรถไปคนเดียว เที่ยวและถ่ายคลิปตามประสา โอม สมรัชนะ พี่เต้ ดีเจ แห่ง ซันไซน์ เรดิโอ 90.75 บอกว่าถ่ายคลิปมาฝากหน่อย ก็เลยจัดให้...
ชมพิธีเปิดโดย ผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย พร้อมจุดพลุ และโคมไฟ ซึี่งเป็นประเพณีทางเหนือ โอมก็เลยปล่อยโคมไฟสู่ท้องฟ้า พร้อมอธิฐาน (ชมคลิปได้เร็ว ๆ นี้) สองทุ่มได้ชมการแสดงแสง สี เสียง "หิรัญนคร เงินยาง ช้างแสน" โดย อ.ชรินทร์ เป็นผู้อำนวยการแสดง โอมถ่ายคลิปเยอะเหมือนกัน คาดว่าจะมีเวลานำมาโพสในเร็ววันนี้ หรือหากพี่เต้ จะนำไปลงในเว็บไซต์เชียงราย ก็คงได้ติดตามชมกันครับ ได้พบพี่ ๆ นักข่าว พี่โอเล่ (บอกอ นสพ.ฟ้าล้านนา ซึ่งโอมเคยให้สัมภาษณ์และลงหน้าปก เมื่อสองปีที่แล้ว) พี่หนุ่ย หัสดินทร์ นสพ.เชียงรายทูเดย์ บรรยากาศอบอุ่นมาก ๆ ครับ
หน้าที่ว่าการอำเภอ ได้มีคอนเสิร์ติจากคุณ โต้ชีริก ...ติ๊ก ชีโร่ คุณโจโจ้ โดมิแนนท์ และนักร้องใหม่อีกวงจำไม่ได้ ฝนเริ่มลงเม็ดปรอย ๆ ก็เลยต้องขับรถกลับ ตอนแรกกะว่าจะเปิดห้องนอนค้างที่เชียงแสน รับบรรยากาศแม่น้ำโขงยามเช้า แต่พี่สาวสายตรงโทรหาผมยามเย็น ๆ "น้า ธยาน์ถามหา ว่าน้าหายไปไหน ค่ำมืดแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาบ้าน เอ๊าะอู้กับหลาน" พี่สาวบอกให้ผมคุยกับหลานสาวตัวเล็กอายุ 3 ขวบน้องธยาน์ พี่บอกว่าเธอถามโดยที่ไม่มีใครบอกกล่าวแต่อย่างใด มิหนำซ้ำเธองอแง ชะเง้อคอยน้า ไม่ยอมนอนหลับ
พอได้ยินพี่สาวเล่าให้ฟัง หลังจากกินเที่ยวในตัวเมืองสักพัก ก็เลยแวะไปตลาดสด เชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์ขายส่งยามเช้า ตีสามผมแวะซื้อดอกมะลิ และของหลายอย่างเพื่อมาทำกับข้าวที่บ้าน ตอนนั้นได้ถามแม่ค้าว่า คุณแก้วชนะหรือไม่ คำตอบก็เลยผิดหวัง และน่าเสียดายกับเหรียญทอง พลาดไปอย่างน่าเสียดายด้วยคะแนนเดียวเชือดเฉือน มีเพื่อน ๆ หลายคนใจจดใจจ่อดูถ่ายทอดสด รวมทั้งน้องปุ๊ น้องสาวที่น่ารัก น้องสาวของปอ (วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส ) เพื่อนสมัยเรียนห้องเดียวกัน ม.ปลาย ที่ดำรงฯ เชียงราย (ขอแสดงความดีใจอย่างจริงจัง ที่ล่าสุดเธอได้รางวัล ลูกกตัญญูดีเด่นแห่งปีนี้ด้วย)
ขับรถกลับบ้านตีสี่ โทรให้พี่สาวเปิดรั้วประตู พี่สาวบอกว่า ตกใจ ตอนแรกบอกว่าจะไม่กลับ เกรงจะเกิดอะไรขึ้น ที่โทรมาตอนตีสี่ กลับบ้าน มานอนในห้องแม่ แม่ก็ตื่นมาคุยด้วย
///////// 12 สิงหา "สวัสดีวันแม่แห่งชาติ" วันนี้พี่สาวทุกคนจะเดินทางมากราบแม่ ที่บ้านเกิด หลานสาวตัวเล็กสองคนไม่ไปโรงเรียน ปลุกน้าตื่นแต่เช้า น้าก็มานอนเล่นโซฟา เล่นด้วยบ้าง งีบหลับบ้าง
บ่ายๆพี่สาวคนรอง ขับรถมากับหลานสาว (ปภาวี และ ปรีชญา กันทะไชย) นำมะลิมากราบแม่ และยายของหลาน บ่ายแก่ ๆ พี่สาวคนโต ขับรถมากับหลานชาย ดั้ม ดนัย และ น้องบูม (ลูกของหลานชายของผม) น้องบูมเรียกผมว่า "ลุง" แล้วครับ แม่ผมก็เป็นยายทวด ภาษาเหนือเค้าเรียกว่า หม่อน
ตอนนั้นสัญญาณ Edge (น้อง ๆ 3G) ก็มานาทีนึง หายไปสิบนาที ผมก็โพสภาพแชร์เป็นระยะๆ ตามคลื่นจะส่งให้ เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะงง สงสัยว่าผมโผล่มาเป็นระยะ ๆ บางทีมีคนโทรมาแต่รับไม่ได้ ผมก็ไม่ได้โทรกลับทุกสาย ยังไงหากใครติดต่อไม่ได้ ก็พยายามวันต่อๆไปละกันนะครับ
เขียนตอนนี้จะตีสองของวันแม่ ได้เวลาพอสมควรคงจะพักผ่อนแล้วครับ พรุ่งนี้มีธุระอีกเยอะ พบกัน ที่งาน 9 ตามรอยเท้าของพ่อ ที่ Central Plaza ,Chieng Rai @ 12.30 pm โดย พอจ. เอกชัย สิริญาโณ เปิดตัวโครงการ
แล้วพบกันนะครับ
อีกครั้ง ขอบคุณที่สละเวลา และอ่านเรื่องราวของคนธรรมดา ที่มีความสุขมว๊ากกกกก และรักที่จะแชร์ ขอบคุณจ๊าดดดนักครับ โอม เขียน ณ บ้าน ดินแดน เขตรั้วที่ผมเกิดและโต ที่นี่ ณ บ้านทุ่งยั้ง ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย ช่วง ... "กลับบ้านแผ่นดินเกิด เพื่อมาบอกรักแม่ให้โลกรู้ และวันชิล ๆ พักร้อน 2012 "
หากมีอะไรให้โอมรับใช้ Tel : 089 201 4909 or moonsai2000@yahoo.com or Facebook Somratchana.moonsai เบอร์เดียวกับ LINE app . 089 201 4909
Create Date : 13 สิงหาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 13 สิงหาคม 2555 20:58:09 น. |
Counter : 3456 Pageviews. |
|
|
|