A day in Hiroshima ,Japan ฮิโรชิม่า มาแอ่วญี่ปุ่นสถานที่ถูกบอมเมื่อสงครามโลก
March 14 ,2012 เรือจอดที่เมืองฮิโรชิม่า หลังจากลอยทะเลหนึ่งวันที่ออกมาจากโตเกียว
วันนี้ผมได้วันหยุดกับเพื่อน ซึี่งนาน ๆ จะตรงกันซะที
เราไม่ได้วางแผนอะไร ครั้นจะไปทัวร์ก็คงจะยากเพราะที่นี่ไม่เหมือนกับท่าเรืออื่น ๆ ที่ออกจากเรือแล้วจะมีทัวร์มารองรับเยอะแยะมากมาย
แม้แต่รถชัทเทิ้ลบัสยังไม่มี มีแต่ Tourist Information ซึี่งป้า ๆ ทั้งหลาย(ดูเหมือนจะเข้าใจภาษาอังกฤษ) ยากจะเข้าใจนิด ๆ
อื่อออ อื่อ ก็เลยตัดสินใจเดินไปตัวเมือง ซึี่งใกล้ ๆ แถวนั้นไม่มีอะไรมากมาย เจอห้าง Aeon อยู่ห้างเดียว
ตู้เอทีเอ็มก็ไม่รับบัตรเครดิตที่ผมมี เห็นอาหารในห้างแล้ว "หิว" ณ บัดดล แต่เราต้องเดินทางต่อไป ไปหาตู้เอทีเอ็มหรือธนาคาร
ผ่านมหาวิทยาลัย เจอ JP Bank แวะกดเงินเยน (เงินไม่ร้อนครับ)
กลับมาที่ห้าง มาเลือกซื้อของกินของใช้
เรากระหน่ำซื้อกัน ทั้งของกินที่เค้าปรุงเรียบร้อยนั่งทานที่ห้างเลยครับ ที่ญี่ปุ่นเค้าจะมีผ้าเช็ดโต๊ะ ต้องเช็ดเองหากทานเสร็จ ซึี่งน่าทึี่งมาก
และเมื่อวันก่อนที่อยู่ โตเกียว จะขึ้นรถเมล์ก็ต้องเข้าแถว (ผมถ่ายรูปมาแต่ยังไม่ได้โพสลงครับ) มีวินัยมว๊ากกกกก
เพื่อนยีบอกว่า แม้แต่ตอนที่หนีคลื่นยักษ์สึนามินั้น เค้ายังเข้าแถวกันเลย เออ...เมืองไทย คนไทยน่านำมาเป็นตัวอย่างเน๊อะ เห็นด้วยป่าวครับ
ผมรบกวนเพื่อนว่าช่วยหิ้วของกลับเรือหน่อยได้มั้ย ตกลงจะไปเที่ยวในตัวเมืองที่ต้องนั่งรถไฟไป
เค้าเรียกรถไฟเข้าเมืองที่นี่ว่า Streetcar เหมือนรถราง(บนดิน) นั่งไปจอดทุกป้าย ราคา 150 เยน ประมาณครึี่งชั่วโมงเห็นจะได้
ดูจากป้ายต่างๆ มันก็ไม่ไกลนี่หว่า เอาน่า ..ไหน ๆ ก็มาแล้ว ตัดสินใจ ลุยเดี่ยว ไปเที่ยวสวนสันติภาพและ อาคารที่โดนระเบิดลงทั้งเมืองแต่มีอาคารนี้อันเดียวที่เหลืออยู่
เมืองทั้งเมืองของฮิโรชิม่า ราบเป็นผืนแผ่นดินเรียบ ซึี่งเค้าได้เก็บอาคารนี้ไว้ เรียกว่า Atomic Bomb Dome
ผมลงป้ายรถราง เดินไปห้านาทีก็ถึงสวน Peach Memorial Park ซึี่งอยู่ติดกับอาคารที่ว่านี้ เพียงมีแม่น้ำกั้นกลาง
(สามารถชมคลิปที่โหลดวันนี้ ที่เขียนว่า yesterday in Hiroshima)
วันนี้นั่งพิมพ์ รายงานสดๆ ถึงเพื่อน พ้องน้องพี่ ที่ติดตาม (อันที่จริงไม่มีใครตามผมก็จะโพสครับ หุหุ ล้อเล่น แค่เพียงคุณคนเดียวกดไลค์ โอมก็โพส เชื่อเหอะ เพราะรักที่จะแบ่งปัน ไม่เก็บเอาไว้คนเดียว สละเวลาตอนนี้ เพื่อนชวนไปนั่งดริ้งที่ห้อง แต่ผมขอตัว)
ขณะนี้ก็กินบะหมี่ที่ซื้อมาจาก ญี่ปุ่นเมื่อวาน (มากินที่เกาหลี ... เรียกได้ว่า บะหมี่ข้ามชาติ ได้ปะครับ)
ตอนแรกก็นึกว่าจะใช้เวลานานมากในการนั่งรถไฟไปชมสถานที่สำคัญ ที่ไหนได้ ไม่ไกลเกินฝัน
เพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมงที่ผมอยู่ที่นั่น กดชัตเตอร์ และถ่ายคลิปซะมือหงิก
แล้วมาตัดต่อ ภาพทีหลัง
วันนี้น่าเสียดาย ไปถ่ายรูปที่เกาหลี เม็มโมรี่เต็ม ถ่ายมาได้นิดเดียวเองครับ
แวะร้านขายของ หยิบโปสการ์ด มาฝากเพื่อน ๆ มีภาพที่ผมไปถ่ายตรงอนุสาวรีย์ วงรีนั้นด้วย
รวมทั้งอาคารประวัติศาสตร์ด้วย
นอกจากนั้นผมยังมีโอกาสได้ไปตีระฆัง ในสวนซึี่งชาวญี่ปุ่นได้ช่วยกันพับนกหลายแสนตัวเก็บไว้ที่นี่
(ชมภาพที่โหลดเมื่อวานครับ ที่หน้าเพจของ somratchana.moonsai )
เรียกได้ว่า ทุกวินาทีมีค่า เดินไปถ่ายไป (ถ่ายรูปค๊าบบบ)
นี่ล่ะการไปไหนมาไหนคนเดียว มันก็ต้อง ปากกัดตีนถีบ เอาให้ได้อ่ะครับ
(ทั้งมือและเท้าประสานกันอย่างเห็นได้ชัด ว่างั้นนนนน)
ลูกเรือออนบอร์ด (ขึ้นเรือ) บ่ายสี่โมงเย็น
ตอนนั้นบ่ายสามโมงสิบห้านาทีโอมยังยืนรอรถไฟอยู่เลยครับ นั่งมาเกือบครึ่งชั่วโมง ลงรถไฟแล้วต้องเดินต่อมาที่เรือสำราญอีกสิบห้านาที
แต่โอม อาศัยเคยวิ่งไปโรงเรียนบ่อย (ไม่ได้วิ่งขนาดวัลลีกลับบ้านไปหาแม่นะครับ) เลยย่นเวลาแค่ห้านาทีถึงเรือเลย (ไวมั้ยล่ะ)
สี่โมงตรงเอาพาสปอร์ตคืนให้เจ้าหน้าที่ พร้อมใบแลนดิ้งคาร์ด
ยังมีงีบหลับอีกครึ่งชั่วโมง ทำงานห้าโมงเย็น (ลูกน้องเซ็ตอัพโต๊ะอาหารให้พร้อมเรียบร้อย ... ไปถึงก็นั่งประชุมเลย)
ต้องบอกว่า ครูซรอบโลก เป็นอะไรที่ไม่เยอะ คือไม่มีลูกค้าเยอะมาก
รอบแรกผมเสิร์ฟสิบกว่าคน รอบสองไม่ถึงสิบคน
รอบแรกนั้นโต๊ะใหญ่แปดคน เป็นโต๊ะแชร์ เค้าไม่ชอบซึี่งกันและกัน หกคนก็เลยหนีไปทานที่อื่น ส่วนคุณยายกับลูกชายก็เลยต้องทานกันสองคนแม่ลูก
เห็นแล้วน่าสงสารนะครับ (แต่ไม่ใช่ความผิดของผมนะครับ เค้าคุยไม่ถูกคอกันเอง อันนี้ช่วยไม่ได้จริง ๆ )
ส่วนรอบสอง มีหกคน กับอีกโต๊ะมีสองคน อีกโต๊ะมีคนเดียว ซึี่งลุงคนเดียวนี้ ท่านอายุ 90 ปีแล้วครับ มาเที่ยวรอบโลกคนเดียว
คุณลุงจะทานน้อยมาก มาถึงทานจานเดียวแล้วก็รีบไปนอนละ
ซึี่งเรียกได้ว่า ลูกค้าเป็นใจสุด ๆ วันไหนที่เรือจอดแต่ละประเทศ ลูกค้าบางคนก็ไม่ค่อยมาทานเพราะว่า เค้าก็เหนื่อย เที่ยวจนเหนื่อย (เหมือนผมนี่ล่ะครับ)
โอมโชคดีได้ลูกน้องดี เป็นคนไทย จัดโต๊ะให้ เก็บของให้ โอมกลับมาห้องก่อนตลอด ไปทำงานก็ไปสายกว่าคนอื่น จนหัวหน้ารู้แต่ไม่ว่าอะไร ต้องยอม ๆๆ
(แต่โอมก็จ่ายค่าแรงงานให้ลูกน้องนะครับ )
มาเล่าให้เพื่อนฟังว่า เสียดายไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน เพราะว่า ที่ตัวเมืองฮิโรชิม่า น่าเดินน่าเที่ยวเยอะเลย
ติดตามชมคลิปและภาพได้ เร็ว ๆ นี้
บางภาพโพสแล้วเมื่อวาน
...ไหน ๆ ก็พิมพ์แล้วเอาต่อ วันนี้ที่ปูซานเลยดีมั้ยครับ จะได้ไม่รบกวนเพื่อน ๆ ย้อนมา ย้อนไป
เอาล่ะครับ เมื่อวานอยู่ ฮิโรชิม่า วันนี้เรือมาจอด ปูซาน (เขียน Busan แต่อ่านว่าปูซาน ) สิบโมงเช้าเรือเข้าอย่างสง่างาม
เห็นวิวทิวทัศน์ ตึกราบ้านช่องสวยงาม หมอกจาง ๆ กับคลื่นทะเลประสานกันอย่างลงตัว
ตอนนั้นผมตะบี้ตะบันเสิร์ฟอาหารเช้าลูกค้า
กว่าจะได้ทานข้าวก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้วครับ จัดหนัก ทั้งอาหารเช้าและเที่ยงรวมกัน ก่อนจะออกไปเที่ยวข้างนอก
เพราะว่า เลิกงานเกือบสิบเอ็ดโมงแล้วครับ วันไหนได้หยุดอย่างเมื่อวานก็เลิกสิบโมงเช้า
วันนี้ไม่ได้หยุด เพราะว่าต้องจัดห้องอาหาร กับเพื่อนสามคน แต่ก็เหมือนหยุดล่ะครับ ทำงานต่างกันชั่วโมงเดียวเอง
เพื่อนคนไทย (ลูกน้องผมและเพื่อนร่วมห้อง) ได้ไปก่อนหน้าผมแล้ว เพราะผมบอกเค้าว่าไม่ต้องรอ
ให้ผมไปตามทางผมเหอะ... ล้อเล่นนน ผมบอกพวกเค้าไปก่อนเหอะ เดี๋่ยวผมไปเดินเที่ยวแถว ๆ นี้ล่ะ (ทำยังกะเคยมาซะงั้นนนน)
รถชัทเทิ้ลบัสไปจอดที่หน้าโรงแรม Phoenix Hotel ซึี่งอยู่ในตัวเมือง แต่ก่อนจะไปจอดตัวเมือง รถได้จอดหนึี่งจุด เป็นสวนมีหอคอยชมวิวทิวทัศน์
แต่บังเอิญว่าลูกค้าของผมแนะนำว่า หากมีเวลาไม่มาก ไม่ต้องหยุดที่ปาร์ค ให้ไปตัวเมืองเลย
มันน่าเสียดาย เพราะที่ปาร์ค เพื่อนบอกผมเย็นนี้ว่า มันสวยงามมาก ซี่งผมก็ชอบวิว มองไกล ๆ ลับสุดขอบฟ้า ขอบเมืองซะด้วย
แต่ก็ไม่ได้โทษใครหรอกครับ มันเป็นการตัดสินใจที่พลาดไปเอง
พอไปถึงตัวเมืองก็ไปหาซื้อของที่ระลึก ได้ถุงมือ ซึี่งจำเป็นต้องใส่ในตอนนั้น เพราะลมโกรกหนาวมว๊ากกก
ซื้อชา โสม จากเกาหลี มาฝากใครบางคน หลังจากนั้นก็แวะไปงานเทศกาลหนังของปูซาน
แวะต่อเน็ตโหลดภาพและคลิปที่แม็กโดนัลด์ แป๊บเดียว ต้องรีบกลับเพราะว่า นั่งรถจากตัวเมืองมาท่าเรือนานโข อยู่เหมือนกันเกือบครึ่งชั่วโมง
ปูซานเคยเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเซี่ยนเกมส์ ปีไหนผมจำไม่ได้ จำได้แต่่ว่าจัดหลังจากที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
เพราะผมชอบประโยคที่ว่า "ซี ยู อิน ปูซาน" เหลือเกิน ไม่คิดว่าวันนี้จะได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่ ด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจ ก็แล้วแต่
ผมเดินไปตลาดสด ซึี่งเป็นตลาดที่โด่งดังมากระดับประเทศเลยล่ะครับ
เห็นแม่ค้านั่งขายปลา ขายปู กินอยู่กันอย่างเรียบง่าย
ผมก็...เหมือนเดิม ยิงภาพ กดชัตเตอร์ บางทีเจ้าตัวไม่รู้หรอกครับ
ครั้นจะไป ขออนุญาตทุกท่าน เห็นทีจะเป็นล้านครั้ง แสนคน กระมังครับ ข้อดีของไอโฟนคือกดถ่ายไปเหอะบางทีไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ นึกว่าเราพิมพ์ หรือ กดเลือกเพลง
แต่มีครั้งหนึี่งที่ประเทศเยอรมัน ผมอยู่บนรถไฟ นั่งครึ่งชั่วโมงไปตัวเมืองอีกเมืองหนึี่ง ก็ยกไอโฟนถ่ายตัวเอง แต่คนตรงข้ามเข้าใจว่าผมถ่ายเค้า
"Excuse me don't take picture" เธอพูดเสียงกระด้าง ห้วน ๆ ว่าไม่ให้ผมถ่ายรูปเธอ ซึี่งเป็นคนเอเซีย ไม่รู้ว่าชาติกำเนิดมาจากไหน ไม่ได้สนใจ
ผมตอบไปอย่างไม่คิดว่า "sorry I take on my side not you !!!!" เสียงผมก็แรงและดัง ฟังชัด จนเพื่อนบอกว่า ไอ้โอมมันแรงเหมือนกันเว้ยเห้ย...
คนในรถแทบจะหันมามองเป็นขบวนแห่บุผาราตรีเลยล่ะครับพี่น้อง
อันที่จริงอยากจะบอกว่า บางครั้ง ทุกสิ่งมีชีวิตที่ผ่านมา และอยู่เป็นภาพ เป็นตัวประกอบของการถ่ายภาพผมนั้น ผมชอบอิสระ และธรรมชาติ
ภาพที่ถ่ายมาจึง อยากได้ภาพที่มันติสต์ ๆ อิน ธรรมชาติ แบบอินไม่มีเอ้าท์ แต่ไม่ได้หมายความว่า โชว์พาว ว่าตัวเองถ่ายรูปสวยนะครับ
แค่ชอบเฉย ๆ (มันเป็นความชอบส่วนบุคคลครับ)
วันนี้ผมกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม โดยใช้บัตรเครดิตของผม กดมาสามสิบกว่าเหรียญ เป็นเงิน สามหมื่นกว่าวอน
ตอนแรกก็บอกว่า ผมอยากชื่อ แดจังกู (แดร์ที่แปลว่า กล้า .. กล้าจังกู (ตัวผม) ...) หมายถึง ผมช่างกล้ามว๊ากกกก ออกเที่ยวคนเดียวบ่อยครั้ง (แต่เที่ยวอย่างมีสติคร๊าบบ)
ตอนนี้ตกกลางคืน อยากเปลี่ยนชื่อ เป็น วอนวิน won win วอนจะวิน วินเข้าเส้นชัยครับ
เพราะว่า ติดเที่ยว กลับมาเรืออีกสิบห้านาทีต้องออนดิวตี้ (ทำงาน)
ดีที่มีทักษะการเปลื้องผ้า เอ้ยไม่ใช่ การเปลี่ยนผ้าไว จึงทันเวลา ทันประชุม
ผมว่า มันเป็นสีสันของชีวิตดีออก หาอะไรทำที่มันท้าทาย แต่ไม่เสี่ยงตาย เน้อ.....
เที่ยว ช้อป กิน ที่เกาหลี วันนี้ชิล ๆ สบายใจเฉิบ
กลับมาทำงาน อย่างมีความสุข (เพราะลูกค้ามาน้อยมากวันนี้)
คืนนี้ต้องปรับเปลี่ยนเวลาให้ตรงกับเซี่ยงไฮ้ ก็เลยได้เวลาเพิ่มอีกหนึี่งชั่วโมง
ตอนนี้เวลาเราต่างกันแค่หนึี่งชั่วโมงนะครับ
ที่นี่จะเร็วกว่า
ตอนนี้ห้าทุ่มแล้วครับ
ราตรีสวัสดิ์ แต่ง แตง แต้ง แตง แตง แต่ง แต่ง ๆๆๆๆๆ (เหมือนดนตรีตอนสถานีจะปิดตอนเที่ยงคืนอ่ะครับ ใครเกิดทันรุ่นนั้นบ้าง ขวานฟ้าหน้าดำ )
ก่อนนอนอย่าลืมกราบพระ ระลึกถึงคุณบิดา มารดร ครูบาอาจารย์ด้วยครับ
ผมจะกราบ ว่า กราบ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กราบพ่อสี กราบแม่วัน กราบครูบาอาจารย์ และท่อง ชินะปัญชะระ ปะริตตัง มังรักขะตุ สัพพะทา
เจริญศีล สมาธิ ปัญญา แล้วก็นอนหลับ...พระจะคุ้มครองเราให้ผ่านพ้น อุปสรรค เป็นที่รักของกัลยาณมิตร มีชีวิตที่เปี่ยมสุข หากทุกข์มา ก็มีปัญญาและสติแก้ไข
แล้วเจอกันครับ เพื่อนพ้อง น้อง พี่ของโอม....
คืนวันที่ 15 มีนาคม เรือออกจากเกาหลี มุ่งหน้าอยู่ทะเลหนึี่งวันไปนครเซี่ยงไฮ้ แล้วก็จะไปค้างคืนที่ฮ่องกงครับ..
ตามโอมไปเที่ยวด้วยกันนะครับ
โอม สมรัชนะ มูลสาย
เรียนเชิญทุกท่านครับ
การจัดงาน มิตติ้ง เพื่อการกุศลของโอม "มือเสิร์ฟเงินล้าน กูรูเรือสำราญ กินเที่ยว ฟรี ทั่วโลก" ยังคงเป็นกำหนดการเดิม ที่พัทยาครับ เรียนเชิญ สื่อมวลชน และ เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคน โอมเตรียมของที่ระลึกจากท่าเรือต่าง ๆ มอบให้พิเศษ พบปะ ชิล ๆ พร้อมแขกรับเชิญที่จะมาร่วมงานวันนั้นมากมาย... จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน OHM Moonsai Thai Crew moonsai2000@yahoo.com หากมีอะไร ส่งเมล์มาได้ตลอดครับผม
ความยาว:: 2:10