การเลี้ยงเม่นแคระ .. แบบหาอ่านง่ายๆ
 ในเมื่อวันนี้ว่างๆและเหงาๆ เราก็รีบหารูปเด็กๆแล้วก็มาเขียนรีวิวทันที
ปัจจุบันเห็นคนเลี้ยงเม่นมีเยอะมากขึ้น แต่การเลี้ยงที่ถูกต้องจริงๆนั้นน้อยมาก
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยหาความรู้เกี่ยวกับเม่นแคระซักเท่าไหร่
วันนี้เผื่อใครลองค้นหาเล่นๆ อาจจะเจอโพสของเรา และลองมาอ่านเก็บข้อมูลก่อนได้
ฉบับเลี้ยงเอง ไม่เปิดฟาร์ม 55555555


Smiley มาแนะนำตัวเด็กๆกันก่อนเลยดีกว่า Smiley

ตัวแรก น้องปีเตอร์ เพศผู้ เม่นพี่ใหญ่มาดนิ่ง (มาก) อายุประมาณ 7 -8 เดือนค่ะ
ในรูปถ่ายตอนเอามาเลี้ยงแรกๆ อายุประมาณ 2 เดือนค่ะ 
ปัจจุบันอ้วนฉึ่งเป็นหมูเรียบร้อยแล้วค่ะ 555555


ต่อไปตัวที่ 2 ที่เอามาเลี้ยงค่ะ น้องชิโระตัวเมีย ตอนนี้น้องเสียไปแล้วนะคะ
เพราะว่าน้องเป็นบิดรุนแรงตั้งแต่ได้มาเลยค่ะ แล้วน้องก็อยู่กับเราได้เดือนกว่าก็เสียค่ะ
ยังคิดถึงมากเพราะว่าน้องเป็นเม่นที่ขี้เล่นมากค่ะ ถึงจะป่วยก็ชอบวิ่งเล่นมาก



ต่อไปตัวที่สามค่ะ ตัวผู้ตามเดิม เท็ดดี้ค่ะ ปัจจุบันอายุประมาณเกือบ 5 เดือนแล้ว
หล่อนะคะ แต่ไม่ค่อยชอบเล่น อยากนอนอย่างเดียวมากกว่าค่ะ 5555
เป็นรูปที่หล่อหน่อย เพราะว่าตอนเด็กๆนี่นิ่งๆมาก เลยเอามาให้แฟนถ่ายรูป
ส่งเข้าประกวดในเพจค่ะ ลุ้นรางวัลแต่แอบชวดไป แหะๆ

ยังไม่หมดนะคะ 55555 น้องเฉาก๊วยค่ะ ตัวเมีย ได้น้องมาเพราะว่าฟาร์มที่ขายชิโระ 
เค้ารับผิดชอบค่ะ เลยให้ตัวใหม่มาแทน จริงๆมันแทนความรู้สึกไม่ได้
แต่ว่าสำหรับเฉาก๊วยเราได้มาเราก็รักค่ะ รักแต่ความเป็นตัวตนของแต่ละตัว
ไม่ได้รักเพราะว่าคิดว่าเค้ามาแทนชิโระค่ะ ตอนนี้เป็นสาวอ้วนเต็มตัวค่ะ 



จริงๆแล้วมีอีกตัวค่ะ แต่เค้าอยู่กับแฟน ได้มาจากกิจกรรมแจกเม่นแคระในเพจค่ะ
ชื่อน้องแซม ตัวผู้ค่ะ อายุเท่าเท็ดดี้ แต่อ้วนกว่ามาก
เท่ากับว่าตอนนี้เรามีเม่นแคระในความดูแล 4 ตัวถ้วนค่ะ 
เป็นแก๊งค์ลูกหมูหนามค่ะ 5555555

กรรมวิธีดูแลเหล่าเม่นแคระอ้วนของเรา Smiley

ก่อนอื่นเลยที่เราจะเลี้ยงเม่นแคระเราต้องศึกษาก่อนค่ะ เราจะมาสรุปดังนี้นะคะ
1. เม่นแคระเป็นสัตว์กลางคืนค่ะ เค้าจะตื่นตอนกลางคืนหรือตอนปิดไฟมืด 
กลางวันเค้าจะนอนอย่างเดียวค่ะ
2. เม่นแคระเป็นสัตว์สันโดษ ฉะนั้นการซื้อมาเลี้ยงด้วยกันเป็นคู่นั้น ไม่ควรค่ะ 
ยิ่งถ้าเพศตรงข้ามก็ยิ่งไม่ควรค่ะ เค้าอาจจะผสมกันตอนเราไม่รู้
 แล้วลูกออกมาจะพิการได้ค่ะ
3. เม่นแคระจะสามารถผสมพันธุ๋กันได้ตอนตัวเมียอายุ 6 เดือนขึ้นไป
ส่วนตัวผู้ก็เข้าเดือน 3 ก็เริ่มหื่นแล้วค่ะ 
เวลาหื่นก็จะหงุดหงิดง่าย 3 ตัวที่บ้านนี่หงุดหงิดทั้งวันค่ะ 55555

สิ่งที่ควรมีก่อนจะเอาน้องมาเลี้ยงนะคะ

สิ่งจำเป็นสำหรับการเลี้ยงเม่นแคระมีเยอะนะคะ สำหรับเราอาจจะไม่ได้หมายถึงสิ่งของ
แต่สิ่งแรกที่เราควรมีเลยคือ " ใจ " ค่ะ 
 ปัจจุบันคนเลี้ยงเยอะ พอได้มาแล้วเค้าไม่ให้จับ ก็เลิกเล่น เบื่อ ทิ้งขว้าง
ฉะนั้นสิ่งแรกที่ควรมีเลยก็คือใจค่ะ ใจรักจริงๆ รักในแบบที่เค้าเป็นเค้าจริงๆค่ะ

สิ่งจำเป็นสิ่งของค่ะ
อย่างแรกค่ะ : กล่องเลี้ยงค่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นกล่องพลาสติกเจาะติดตะข่ายค่ะ
ซึ่งกล่องนั้นสามารถ DIY ทำเอาเองก็ได้ค่ะ การทำเองก็ควรจะต้องมี 
- ตัวกล่อง
- หัวแร้ง
- ปืนกาว (ถ้ามี)
- ตะข่ายพลาสติกค่ะ
แล้วก็จัดการเจาะ แล้วก็ DIY ติดตะข่ายแบบที่ชอบเอาตามใจเลยค่ะ แล้วเอาปืนกาวยิงนะคะ
ส่วนตัวเราที่เคยทำ เราขี้เกียจใช้หัวแร้งละลายกาวเพราะไม่มีปืน
เราก็เราหัวแร้งเจาะเป็นรูๆๆ แล้วเอาเชือกร้อยตะข่ายกับรูที่เจาะค่ะ  ถี่หน่อยแน่นหน้าดีค่ะ
อย่าลืมเจาะรูใส่ที่ให้น้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวจะลืมค่ะ
หรือถ้าอยากจะซื้อเอาหรือทำจากอย่างอื่นก็ได้ค่ะ ราคาซื้ออยู่ที่ 300-500 บาท ตามขนาดค่ะ
ถ้าเป็นกล่องพลาสติกเวลาทำความสะอาดจะง่ายหน่อยค่ะ
ขอบคุณภาพจาก Google นะคะ 



อย่างต่อไปค่ะ : สำคัญมาก อาหารและน้ำ ค้่ะ 
เม่นแคระกินอาหารแมวและพวกหนอนนกค่ะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกให้หนอนนก 
ก็ให้เป็นไก่ต้มสุกไม่ปรุง ไข่ขาวต้มสุกได้ค่ะ แต่อย่าบ่อยนะคะ อาทิตย์ละครั้งก็มากแล้วค่ะ 
อาหารแมวที่ใช้บ่อยจะเป็น MeO และ รอยัลคานินค่ะ
Royal Canin จะแพงหน่อยประมาณ 200 บาทค่ะ สูตร Mother and baby cat

ถ้าเป็นมีโอก็เลือกสูตรกัวเม่จะเค็มน้อยหน่อยค่ะ พยายามเลือกเค็มน้อยๆจะดีกับตัวน้องค่ะ
น้ำก็ซื้อที่ให้น้ำตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงค่ะ ราคาเฉลี่ยก็ไม่เกิน 50 บาทค่ะ
อย่าลืมหาถ้วยใส่อาหารให้น้องด้วยนะคะ ถ้วยเซรามิคหรืออะไรก็ได้ที่น้อง
สามารถกินได้โดยไม่ต้องปีนนะคะ อย่าเลือกสูงเกินไป

ต่อไปค่ะ : บ้านซุกตัวของน้องเม่นแคระค่ะ
 ซื้อเอาหรือหาของให้บ้านที่พอจะเป็นกล่องให้น้องอยู่ได้ค่ะ เอาไว้ข้างในกล่องพลาสติกนะคะ 
น้องเค้าจะได้เข้าไปนอนได้ตอนกลางวันค่ะ ซื้อก็จะสามารถซื้อได้ตามร้านสัตว์เลี้ยงได้
ทั่วไปเลยค่ะ เอาขนาดที่น้องสามารถเดินเข้าออกได้ตามสะดวกหน่อยค่ะ

สิ่งสุดท้ายที่จำเป็นค่ะ : ที่รองพื้นกล่องค่ะ
ส่วนตัวที่เราลองใช้มาก็จะเป็นขี้เลื่อยกับก้านปอค่ะ
เราจะมาบอกข้อเสียและข้อดีของแต่ละแบบแล้วก็เลือกกันตามสะดวกเลยนะคะ

ขี้เลื่อยอัดแท่ง


ถ้าเป็นขี้เลื่อย แนะนำว่าเป็นขี้เลื่อยอัดแท่งค่ะ ราคาประมาณ 50-60 บาท
เพราะว่าค่อนข้างจะเชื่อถือได้ แนะนำเป็นยี่ห้อตามภาพค่ะ
กับอีกยี่ห้อ CHIPSI ค่ะ เพราะว่าปลอดภัยกับสัตว์ค่ะ 
เรื่องกลิ่นไหนอะไรยังไงก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
ข้อดีของขี้เลื่อย
- ราคาถูกค่ะ
- ได้ปริมาณเยอะกว่าก้านปอ 
ข้อเสียค่ะ 
- เก็บกลิ่นได้ไม่ดี
- ชื้นง่าย 
- ประมาณ 4 วันเต็มที่ ก็ต้องจัดการเปลี่ยนแล้วค่ะ 

ก้านปอ

ส่วนตัวใช้ของโกบี้ค่ะ ราคาประมาณ 90 บาทค่ะ ถ้าถุงใหญ่จะประมาณ 160 บาทค่ะ
มีหลายยี่ให้ให้เลือกเหมือนกันค่ะ แต่เราใช้อันนี้เพราะว่าคุ้มเงิน ได้ปริมาณเยอะสุดแล้วค่ะ
ข้อดี
- เก็บกลิ่นได้ดี
- ระบายความชื้นได้ดี 
- ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ประมาณอาทิตย์ละครั้ง หรือมากกว่านั้นถ้าเก็บอึทุกวัน
ข้อเสีย
- แพง 
- ปริมาณทียบกับราคาค่อนข้างน้อย

การดูแลเอาใจใส่น้องเม่น

การที่เราซื้อเค้ามาเลี้ยงแล้วเราก็ต้องมีเวลาอยู่กับเค้า เล่นกับเค้าให้มากๆๆใช่ไหมคะ
เรารู้อยู่แล้วตั้งแต่เลือกซื้อว่าน้องไม่ได้มีขนนิ่มเหมือนหมาแมว
กอดไม่ได้ อาจจะกอดได้ค่ะ 55555 แต่เจ็บนิดนึง
เค้าสามารถเชื่องได้ค่ะถ้ามีเวลาเล่นกะเค้าบ้าง 
สังเกตเค้าบ้างว่าเวลามีอะไรแปลกๆไป อาหารกินเยอะไหม หายใจหอบไหม
เกาเยอะเกินไปไหม หนามร่วงมากไหม มีอาการอ่อนเพลียไหม
อาจจะดูเยอะ สิ่งเหล่านี้ถ้าเราใส่ใจมันมากพอมันจะไม่เยอะเกินไปเลยค่ะ

อีกสิ่งนึงที่เราอาจจะไม่นึกถึงคือ เงินสำรองค่ะ 
นอกจากจะมีเงินซื้อของให้น้องเค้าแล้ว ต้องมีเงินรักษาตอนน้องเค้าเจ็บป่วยด้วยค่ะ
เพราะถ้าน้องเค้าป่วย เราก็ควรพาไปหาหมอเพื่อจะได้รักษาอย่างถูกวิธีค่ะ
การถามคนเลี้ยงอาจจะช่วยตอบปัญหาได้บ้าง 
แต่การพาไปหาหมอนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ เราควรเก็บเงินตรงนี้ไว้ซัก 500 สำรองไว้
เป็นเงินใช้เวลาที่น้องป่วยค่ะ 


หลักๆของการเลี้ยงเม่นแคระก็มีประมาณนี้
 แต่จะมีอีกประเด็นนึงคือ การอาบน้ำเม่นแคระค่ะ เพราะถ้าน้องโตขึ้น
หรือปัญหาเรื่องไรตามมา ก็ควรจะอาบน้ำน้องเดือนละครั้งค่ะ 
เพื่อกำจัดปัญหาเรื่องไร ที่อาจจะทำให้น้องหนามร่วงตามมาค่ะ 

หวังว่าจะพอช่วยเรื่องเบื้องต้นได้บ้างนะคะ จริงๆแล้วการเลี้ยงเม่นนั้นมีรายละเอียดมากกว่านี้
แต่ว่ามันจะเยอะเกินไปทำสำหรับการเลี้ยงเบื้องต้น 5555555
คงพอช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ มีอะไรปัญหาตรงไหนสามารถเม้นสอบถามกันได้ค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ Smiley







Create Date : 20 มีนาคม 2559
Last Update : 20 มีนาคม 2559 0:45:21 น.
Counter : 12972 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

viesnowki
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มีนาคม 2559

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31