<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 สิงหาคม 2553
 
 
ละคร ซอนต๊อก ตอนที่ 49

ตอนที่ 49
ด้านองค์หญิงต๊อกมานก็ได้ข่าวเรื่องทูตเมืองถังเช่นกัน
“จากข่าวที่ยอจงได้มา พรุ่งนี้คณะทูตจากเมืองถังจะเดินทางมายังแคว้นชิลลาของเรา ถึงตอนนั้น เชื่อว่ามีซิลต้องไปต้อนรับ และแสดงให้เห็นว่าสามารถปกครองบ้านเมืองได้อย่างสงบและสันติ ถึงตอนนั้น ไม่แน่อาจจะยกเลิกกฎความมั่นคงชั่วคราว พรุ่งนี้เป็นวันดี อยากให้ท่านไปเตรียมตัวด้วย”
“องค์หญิง” คิมยูซิน กล่าวทูล
“ว่าไง”
“ไม่มีอะไร หม่อมฉันจะไปสั่งการเดี๋ยวนี้”
“ท่านยูซิน”
“พ่ะย่ะค่ะองค์หญิง”
“ถึงเวลา ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจริง ข้าขอฝากชุนชูไว้ด้วยนะ”
“ขอทรงอภัย หม่อมฉันจะถือว่าไม่ได้ยินประโยคนี้ ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้น หม่อมฉันเชื่ออย่างงั้น”
--@@--
ชิซูมาหารือกับซอวอนและมีซิล
“ได้ยินว่า ปาร์คอึยได้รับจดหมายจากองค์หญิง แสดงว่าองครักษ์อื่นก็น่าจะได้เหมือนกัน รายละเอียดคงไม่ต่างกันมากนัก” ชิซูกล่าว
“คิดว่านางกำลังใช้แผนเกลี้ยกล่อมเหล่าขุนนางไปเป็นพวก ถ้ายิ่งถ่วงเวลาไว้นาน อาจมีบางส่วนแปรพักตร์ก็เป็นได้” ซอวอนกล่าว
“แม้จะส่งคนไปหาข่าวและสืบหาร่องรอยขององค์หญิง แต่จนวันนี้ยังไม่มีเบาะแส กลับมา ท่านเซจูท่านคิดจะทำไงต่อดีครับ”
“ไม่ว่ายังไง ก็อย่าให้นางรอดชีวิตและกลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง....ในฐานะผู้นำกบฏ ต่อต้านทางการและพลีชีพไปอย่างองอาจ นี่คือเรื่องราวของนาง ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้แบบนี้” มีซิล กล่าว
--@@--
วันที่คณะทูตเดินทางมาถึงเมืองหลวงชาวบ้านแห่ออกไปต้อนรับจำนวนมาก ระหว่างนั้นได้มีว่าวจำนวนมากลอยอยู่บนท้องฟ้าไม่นานก็ได้ระเบิดออกมามีใบปลิวจำนวนมากหล่นลงมา พวกชาวบ้านและมีซิลจึงหยิบมาอ่าน
“เฮ้ย....เขียนอะไรน่ะ ข้าอ่านหนังสือไม่ออก” ชายชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว
“เฮ้ย....กระดาษอะไรน่ะ หา....ใครเขียนอะไร ท่านน้าอ่านซิ” ฮาจอง กล่าว
“ช่วยฝ่าบาท....ตอนนี้ฝ่าบาท....ถูกกักบริเวณ” มีเซ็ง อ่าน
“ว้าย....เอ่อ....”
“เฮ้ย....ตายล่ะ....” มีเซ็ง กล่าว
“ไปแย่งมาเร็วเข้า....เร็วสิครับ” ฮาจองสั่ง
--@@--
ยิมจงหยิบใบปลิวมาอ่านข้อความ
“พี่น้องชาวชิลลาทั้งหลาย หากยังถือความถูกต้อง ก็ให้ช่วยฝ่าบาทที่ถูกกักบริเวณ....” ยิมจง กล่าว
“ดาวแคยาง, ต๊อกมาน ทายาทดาวแคยาง....ชุนชู”
“ช่วยฝ่าบาทหรือ ฝ่าบาทถูกกักบริเวณ หมายความว่าไงน่ะ” องครักษ์คนหนึ่งกล่าว
“ความหมายก็คือ ฝ่าบาทถูกขังอยู่ในวังหรือเปล่า”
“และองค์หญิงก็หนีไปได้ จนป่านนี้ยังไม่มีข่าวคราว” โฮแจ กล่าว
“ท่านโฮแจ แล้วต่อไปนี้พวกเราควรจะทำไงต่อดีครับ”
“แม้จะบอกว่าองค์หญิงคิดก่อกบฏ แต่ก็มีบางประเด็นที่น่าแปลกใจอยู่มาก” โฮแจกล่าว
“น่าแปลกยังไงไม่ทราบ องค์หญิงก่อกบฏก็เห็นอยู่ แต่เพราะท่านมีซิลรู้ทันเลยขัดขวางไว้ก่อน” ซกพุง เข้ามากล่าว
“แต่ตอนนี้ข้างนอกมีข่าวลือ ทำให้หลายคนเริ่มไม่เชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
“ที่สำคัญ องค์หญิงเคยส่งจดหมายมา บอกว่าจะช่วยฝ่าบาท และนี่คือ....สิ่งที่นางสั่งให้เราทำไม่ใช่หรือ” ยิมจง กล่าว
“เจ้าหุบปาก นี่เป็นเวลาไหน พูดจาแบบนี้อยากตายหรือไง” ซกพุง กล่าว
“แต่องค์หญิง....เป็นนายขององครักษ์นะ” ยิมจง กล่าว
“เป็นนายของเราก็จะก่อกบฏได้หรือไง” ซกพุง กล่าว
“ทุกวันนี้ ยังสรุปไม่ได้ว่าคือกบฏจริงหรือเปล่า” องครักษ์อีกคน กล่าว
“พวกเจ้านี่แปลก ทำอะไรไม่มีหัวคิดบ้าง ลืมบุญคุณที่ท่านมีซิลมีต่อเราแล้วหรือ ใครบ้างที่ไม่ได้รับการเกื้อหนุนจากนาง” ซกพุงกล่าว
“เรายอมรับว่าที่ได้ดีก็เพราะนาง แต่ที่แล้วมา เราภักดีต่อท่านเซจู เพราะนางทำอะไรเปิดเผย ไม่เคยผิดต่อความชอบธรรมของบ้านเมือง”
“ข้อนี้ข้าเห็นด้วย พวกเราที่เป็นองครักษ์ ไม่เคยมีใครที่ทำงานให้ท่านเซจู เพราะหวังประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นความเลื่อมใสในตัวนาง เกี่ยวกับจุดนี้ เชื่อว่านางคงเข้าใจดีเหมือนกัน” องครักษ์กล่าว แต่ซกพุง ไม่พอใจ
--@@--
มีซิลถามมีเซ็งถึงเรื่องข่าวใบปลิวแพร่กระจายไปถึงไหน
“วันที่คณะทูตมาถึง จู่ ๆ ก็โปรยมาจากบนฟ้ามากมาย แม้ว่าทหารจะเร่งเก็บ แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านก็เห็นหมดและพูดไปโน่นแล้ว เฮ่อ...”
“ทูตเมืองถัง....ก็ได้อ่านด้วยหรือ” มี ซิลถาม
“ไม่เพียงแต่ได้อ่าน แม้แต่เสียงซุบซิบของชาวบ้านยังได้ยินเต็มหู....เฮ่อ....ถึงเราจะบอกว่าจำเป็นต้องใช้กฎความมั่นคงเพราะการก่อกบฏขององค์หญิง แต่ดันมีข้อความแบบนี้โผล่มา เฮอะ....ทำให้ข้าตั้งรับไม่ถูกจริง ๆ” มีเซ็งกล่าว
“แล้วตอนนี้ คณะทูตไปอยู่ที่ไหน”
“ให้ไปอยู่ตำหนัก “โชวอน” ท่านจะไปพบหน่อยมั้ยล่ะ”
“ก็ดี ไปสิ ต้องไปอยู่แล้ว”
“ได้ เดี๋ยวก่อนพี่ใหญ่....ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังน่าเป็นห่วงอยู่นะ”
“แล้วยังไง”
“ข้าว่าท่านคงต้องเตรียมคำตอบให้ดี....เขาจะขออะไร เราก็แกล้งเออออห่อหมกไปก่อน ดีมั้ยพี่ใหญ่” มีเซ็ง กล่าว
--@@--
มีเซ็งพามีซิลมาพบคณะทูตเมืองถัง
“ท่านนี้คือท่านเซจูของเรา ปัจจุบัน เป็นผู้สำเร็จราชการแทนฝ่าบาทในขณะที่ประชวรอยู่”
“ชื่อของท่านมีซิล ได้ยินไปถึงภาคกลางของเรานานแล้ว วันนี้ได้มาเห็นตัวจริง ช่างถือเป็นเกียรติของเรายิ่งนัก” ทูต กล่าว
“ชื่อของคนต่ำต้อยอย่างข้า ไหนเลยจะกล้าไปถึงภาคกลาง ท่านกล่าวเกินไปแล้ว”
“ท่านต่างหากที่ถ่อมตัวเกินไป”
“พวกท่านเดินทางมาไกล คิดว่าคงจะเหนื่อยไม่น้อย เชิญไปพักก่อนแล้วค่อยคุย อีกที”
--@@--
วันต่อมาคณะทูตได้เจรจากับมีซิลบอกว่าต้องการทองคำหนึ่งพันชั่ง
“ฮ่องเต้ของเรามีพระบัญชา ให้นำสิ่งของอันแสดงถึงมิตรภาพอันดีระหว่างชิลลาและต้าถัง กลับไปให้ทอดพระเนตรด้วย”
“ถ้าเรายอมมอบทองคำหนึ่งพันชั่งตามที่ขอจริง แล้วไม่ทราบว่าพวกท่านจะให้อะไรแก่เราเป็นการตอบแทนบ้าง” มีซิลต่อรอง
“ต้าถังของเรา....ขอตอบแทนด้วยไมตรีจิต”
“พี่ใหญ่ ให้พวกเขาไปเถอะ ตอนนี้ อย่าเพิ่งบาดหมางกับต้าถังจะดีกว่านะ....แหะ ๆ คือ....ทองคำหนึ่งพันชั่งนี่ ปริมาณมากกว่าผลผลิตจากเหมืองแร่สองแห่งของเราในหนึ่งปีด้วยซ้ำนะท่านทูต”
“นั่นสิ เพราะฉะนั้นข้าจึงคิดว่า คงจะให้ไม่ได้”
“พี่ใหญ่”
“ระหว่างทางที่มาเมืองหลวง เราได้เห็น... บางอย่างที่น่าสนใจไม่น้อย” ทูตกล่าว
“หา...เอ่อ...ใช่, จริงอยู่ แหะ ๆ คือ...ตอน นี้บ้านเมืองเรามีปัญหานิดหน่อยก็จริงแต่ว่า นี่เป็น...เรื่องภายในของเราหรือเปล่าครับท่าน” มีเซ็ง กล่าว
“ใช่ แต่ว่าเรื่องภายในของพวกท่าน แล้วไม่ต้องอาศัย การเกื้อหนุนจากเราหรือไง หือ...ขอบอกตามตรง ทุกวันนี้ เรากำลังเพ่งเล็ง การเมืองอันยุ่งเหยิงของพวกท่านอยู่”
“พี่ใหญ่ อย่าดึงดันอีกเลย ตอบตกลงไปดีกว่า”
“ข้าขอพูดตรง ๆ ซักนิด เท่าที่รู้มา ท่านทูตต่างจากคนอื่นก็คือ มีความสนใจต่อเรื่องภายในของเราเป็นพิเศษจริงมั้ยคะ...แน่นอนว่า ในฐานะตัวแทนของประเทศ ถ้าแอบเจรจาเป็นการส่วนตัวจะถือว่าผิดธรรมเนียมทางการทูต แต่ยังไงซะ ข้าก็อยากคุยกับท่านทูตตามลำพังซักครั้ง ไม่ทราบท่านจะว่าไง”
“พี่ใหญ่ ท่านจะทำอะไร”
“ดูเหมือนว่าท่านเซจู จะมีเรื่องบาง อย่างที่ไม่ต้องการเปิดเผย” ทูต กล่าว
“เฮ่ย...แววตาของพี่ใหญ่...เหมือนมีอะไรบางอย่าง...แววตานั้น...” มีเซ็ง กล่าว
“เหมือนที่กระดาษนั่นเขียนไว้ ท่านกักตัวพระราชา ใส่ร้ายว่าองค์หญิงเป็นกบฏ เป็นความจริงหรือเปล่า” ทูต ถาม
“ถ้าข้าบอกว่าจริงล่ะ”
“หึ...ทำแบบนี้ มิเท่ากับชิงบัลลังก์หรอกหรือ”
“ถ้าอย่างงั้น ฮ่องเต้ต้าถังของท่านล่ะ ได้บัลลังก์จากการช่วงชิงหรือเปล่า หรือว่าไม่ใช่?”
“บังอาจนัก ท่านพูดอะไรกัน”
“ถ้ามองในแง่สกุลหยาง ฮ่องเต้องค์ใหม่นี้ คือชิงบัลลังก์จากพวกเขาชัด ๆ”
“แล้วยังไง จะทำไม ท่านจะบอกว่าฮ่องเต้เราทำไม่ถูกงั้นหรือ”
“ใครจะเป็นปฐมฮ่องเต้ไม่สำคัญ สำคัญคือหลังจากนั้นแล้วพระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยวิธีไหนต่างหาก ข้าก็เหมือนกัน อนาคตจะเป็นไงต่อ ไม่มีใครรู้” มีซิล กล่าว
“ท่านเป็นแค่หญิงธรรมดาที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อย บังอาจมาเปรียบกับ...ฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ของภาคกลางเรา คนอย่างท่าน รู้จักหลักการปกครองด้วยหรือ”
“ท่านเป็นเพียงขุนนางฝ่ายการทูต ก็ไม่มีสิทธิมาพูดเรื่องปกครองกับข้าเหมือนกัน ถ้าจะคุยเรื่องพวกนี้กับข้าละก็ ไปเชิญ “หลี่ซื่อหมิน” มาพบข้าด้วยตัวเองดีกว่า” มีซิล กล่าว
“ท่านช่างกล้า...บังอาจนัก ฮึ่ม...จะให้เรายกทัพมาตีเคนิม ปราบแคว้นเล็ก ๆ อย่าง ชิลลาให้ราบถึงจะรู้สำนึกใช่ไหม”
“ท่านมาในฐานะทูต ตัวแทนแห่งต้าถัง แต่กลับบอกว่าจะใช้กำลัง แบบนี้มันหมายความว่ายังไง ข้า...สามารถตีความว่านี่คือการท้าทายต้องการเปิดศึกกับเราก็ได้ หากเรารับคำท้า จะมีผลยังไงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองเมืองบ้าง... ข้ายังมีสิทธิตัดหัวท่าน ให้คนนำกลับไป บอกว่ามาเป็นบ่อนทำลายได้หรือเปล่า” มีซิล กล่าวข่มขู่ ทำให้ทูตพอใจ
“เฮอะ...เฮ่อ ๆ ฮ่า ๆ ข้าจะกลับไปทูลให้ฮ่องเต้ทรงทราบ ว่าตอนนี้ในแคว้นชิลลา ได้ปรากฏหญิงเก่งคนหนึ่ง ไม่เพียงจิตใจห้าวหาญยิ่งกว่าผู้ชาย ยังเปี่ยมด้วยความเฉลียวฉลาดที่พร้อมจะเป็นมิตรที่ดีกับต้าถังของเรา... ถ้าข้ามีสิ่งใดล่วงเกินไป ก็ขออภัยด้วย”
“ข้าก็ต้องขออภัยเหมือนกัน” มีซิล กล่าว
“เมื่อกี้ข้าแอบฟังอยู่ พี่ใหญ่ บอกตามตรง ท่านช่างมีความกล้าที่น่าเลื่อมใส เฮอะ... เฮ่อ ๆๆ เฮ่อ ๆ” มีเซ็ง กล่าว
--@@--

จบตอนที่ 49
เครดิต เดลินิวส์


Create Date : 01 สิงหาคม 2553
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 20:58:34 น. 0 comments
Counter : 413 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com