<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
11 กุมภาพันธ์ 2553
 
 
ละคร เชลยศักด์ ตอนที่ 13

ตอนที่ 13
อานนท์มาเจอโยธินยืนอยู่ กระตือรือร้นจะไปหาเครื่องดื่มมาให้ พอออกไปก็เจอภิรมยาเดินหาโยธินพอดี อานนท์จึงชี้บอก เธอรีบเดินไปหา ถามว่าโกรธตนหรือ ขอโทษที่ตนเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย

โยธินตำหนิตัวเองว่าต้องเป“นฝ่ายขอโทษเธอต่างหาก ตนควรทำให้เธอมีความสุข ไม่ควรมัวแต่คิดเรื่องของตัวเอง บอกเธอว่าเราควรใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุด พูดอย่างรู้สึกผิดว่า

"ผมไม่รู้จะทำยังไงดีถึงจะชดเชยที่ปล่อยให้คุณรอคอยอย่างไม่มีจุดหมาย ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเลยภิรมยา ผมมีแต่หัวใจที่จะให้คุณ"

"แค่หัวใจของโยธินก็เพียงพอแล้วสำหรับภิรมยา" เธอ ยิ้มปลื้มให้กับความรักของโยธิน

เวลาเดียวกัน เจ้าขวัญฟ้ากลับเข้าไปในงานก็เอาแต่ดื่มอย่างหนัก จนอลิสาเตือนว่าดื่มมากไปแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เมาค้างทั้งวัน ขู่ๆว่าถ้าพรุ่งนี้เจ้าไม่สบายตนจะทิ้งเจ้าแล้วไปเที่ยวคนเดียว

เจ้าขวัญฟ้าอ้อนเป“นนัยๆว่า ถ้าตนไม่สบายเธอจะอยู่พยาบาลไหม วอนให้เธอสัญญาว่า "ไม่ว่าผมจะทำอะไรผิดพลาดไป คุณหญิงจะต้องไม่ทิ้งผมไปไหน จะต้องอยู่กับผม"

"เจ้าเมาแล้วมังคะ" อลิสาบอกเขา แต่เจ้ากลับเว้าวอนให้สัญญากับตน อลิสาจึงรับคำสัญญา

เจ้าขวัญฟ้าประคองมืออลิสาขึ้นจูบอย่างแสนรัก...

ooooooo

งานเลิกแล้ว อลิสากับอติศักดิ์เดินไปส่งราชฤทธิ์กับศรีสว่างที่ห้องพัก ศรีสว่างชมว่างานเลี้ยงคืนนี้สนุกมาก ทุกอย่างเลิศหรูไม่มีที่ติ เอ่ยขอบคุณอติศักดิ์กับอลิสาอย่างซึ้งใจ

"ได้ยินคุณหญิงชมอย่างนี้ ผมรู้สึกโล่งใจหน่อย เห็นแขกบางท่านที่มาในงานไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่" อติศักดิ์พูดแขวะโยธิน ราชฤทธิ์ชื่นชมว่างานสนุกดี ทุกคนคงทั้งเหนื่อยทั้งง่วง แล้วมองไปทางเจ้าขวัญฟ้า บอกว่าท่าทางจะง่วงกว่าคนอื่น

พอทุกคนมองไปทางเจ้าขวัญฟ้า เจ้าตัวก็รีบพูดออกตัวว่าแค่เพลียๆนิดหน่อยเอง

ภิรมยาเอ่ยขอตัวไปส่งโยธิน อติศักดิ์ชมประชดว่า "คู่รักที่เขารักกันมากๆเป“นอย่างนี้นี่เอง รักกันมากจนไม่อยากห่างจากกันแม้แต่นาทีเดียว"

"ผมลากลับก่อนนะครับ" โยธินตัดบท ยกมือไหว้ลาราชฤทธิ์และศรีสว่างแล้วเดินไปกับภิรมยา

"คุณโยธิน" อติศักดิ์เรียกแล้วเตือนเมื่อเขาหยุดฟัง "แล้วอย่าลืมบอกความจริงกับคุณภิรมยาล่ะครับ บอกซะคืนนี้คุณจะได้นอนหลับสนิทเสียที ป”ดบังความจริงคุณภิรมยา

มานานแล้วนะครับ"

ภิรมยาถามว่าความจริงอะไร อลิสาพูดแทรกขึ้นว่า "พี่ชายจะไปทราบอะไรคะ คุณโยธินมีเวลาอยู่กับคุณภิรมยาทั้งคืน คงบอกทุกอย่างไปหมดแล้วล่ะค่ะ จริงไหมคะคุณโยธิน ถ้าแอบไปทำอะไรผิดไว้ คงต้องรีบสารภาพกับคุณภิรมยาไปแล้ว โทษจะได้ลดลงกึ่งหนึ่ง"

"โยธินไม่มีวันทำอะไรผิดหรอกค่ะ คุณชายเป“นคนรับรองเองไม่ใช่เหรอคะว่า โยธินเป“นผู้ชายที่ซื่อสัตย์มาก คุณชายอย่าแกล้งมาแหย่ให้เราทะเลาะกันเลยค่ะ ไม่มีทางหรอกค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะทุกๆคน"

ภิรมยาเดินไปกับโยธินอย่างเริงร่า อลิสามองตามไปแล้วอดนึกเวทนาไม่ได้

เมื่อไปส่งโยธินที่ทับหน้าแล้ว ภิรมยาบอกว่าพรุ่งนี้จะรีบมาหาแต่เช้า โยธินรีบบอกว่าตนไปหาเธอดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานเสร็จเมื่อไร

ภิรมยาสังเกตเห็นเขาสีหน้าเศร้าหมอง ปลอบใจเขาว่าพรุ่งนี้ก็เจอกันแล้วจะเศร้าไปทำไม โยธินจึงเปรยๆว่า เขาอยากให้เธอรับรู้ว่าไม่ว่าเขาได้ทำอะไรลงไป ขอให้เข้าใจว่าทุกอย่างทำไปเพราะรักและเป“นห่วงเธอ ไม่อยากให้เธอเจ็บปวดไปกับตนด้วย

"โยธินพูดอะไรคะ ภิรมยาไม่เข้าใจ"

"แล้วพรุ่งนี้คุณจะเข้าใจเอง พรุ่งนี้ผมคงจะพร้อมแล้วที่จะบอกทุกอย่างกับคุณ คุณจะได้รู้ว่าทำไมผมถึงไม่ส่งข่าวถึงคุณ ทำไมผมต้องมาอยู่ที่นี่ คุณจะได้รู้ทุกอย่าง ผมขออย่างเดียว ขอให้คุณเข้าใจผม จำไว้นะครับว่า ผมรักคุณ ภิรมยา" พูดแล้วก้มหอมแก้มเธออย่างอ่อนโยนก่อนผละไป ภิรมยามองตามงงๆ

ooooooo

เมื่อกลับถึงที่พักในทับหน้า โยธินเดินไปดูรูปถ่ายของภิรมยาในกรอบที่โต๊ะ คิดถึงคำเย้ยหยันของอติศักดิ์ที่ว่าเขาเป“นคนซื่อสัตย์ต่อคนรักมาก คิดถึงคำยืนยันอย่างภูมิใจของภิรมยาที่ว่าเขาไม่เคยโกหกตนแม้แต่สักครั้งเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวดคับแค้นใจ

ในที่สุด ความอดกลั้นมาตลอดทั้งคืนของโยธินก็พังทลายลง เขาทรุดฮวบลงกับพื้น พอดีเฒ่าเหมยเอาอ่างน้ำเข้ามาเห็นเข้าตกใจรีบเข้าประคอง พบว่าเขาตัวร้อน เฒ่าเหมยเป“นห่วงจะไปเอายาแก้ไข้ให้ โยธินหมดความอดทนอดกลั้น เขาตะโกนเสียงดังให้เฒ่าเหมยออกไป

พอเฒ่าเหมยออกไปงงๆ โยธินก็นั่งกองอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพเหมือนร่างที่ไร้ชีวิตจิตใจ...

ฝ่ายสีโบ บอกเจ้าขวัญฟ้าแล้วว่าคืนนี้จะไปหาที่ห้องเป“นสัญญาณชี้เป็นชี้ตายกันแล้ว คืนนี้ก็รับใช้อสิสาอย่างใจไม่อยู่กับงาน ทำอย่างรีบเร่งรวบรัด พออลิสาบอกว่าออกไปได้แล้ว เพราะวันนี้ช่วยงานทั้งวันคงเหนื่อยมากแล้ว

"ขอบคุณคุณหญิงเจ้า ขอบคุณเจ้า" สีโบรีบขอบคุณ แอบส่องกระจกในห้องก่อนออกไป

ท่าทางรีบร้อนเริงร่าของสีโบ ทำให้อลิสามองตามไปอย่างแปลกใจ

อึดใจเดียว สีโบก็ไปผลักประตูห้องพักของเจ้าขวัญฟ้า สีโบดีใจจนแทบตัวลอยเมื่อประตูไม่ได้ลงกลอน รีบผลุบเข้าไปในห้อง เจ้าขวัญฟ้าทำทีเดินหนี แต่พอสีโบโผเข้ากอดโลมเล้าอย่างรุ่มร้อนเสน่หา ครู่เดียว เสื้อผ้าของทั้งสองก็กองอยู่ข้างเตียง...

ooooooo

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น โยธินรีบเร่งไปที่คอกม้าจนไม่ได้ยิน เฒ่าเหมยที่กวาดลานทับหน้าอยู่ร้องทักทาย เขาเดินผ่านเฒ่าเหมยไปเหมือนคนไร้ชีวิตจิตใจ

ครู่เดียว ภิรมยาในชุดสวยก็มาที่ห้องพักที่ทับหน้า เธอหอบกุหลาบมาเต็มมือ เจอเฒ่าเหมยถือป”่นโตเดินออกมา เธอถามว่าโยธินพักอยู่ที่นี่ใช่ไหม เฒ่าเหมยบอกว่าใช่ แต่

ตอนนี้เขาไม่อยู่ไปที่คอกม้าแล้ว

"งั้นเหรอจ๊ะ งั้นเดี๋ยวฉันจัดดอกไม้เสร็จแล้วจะตามไปหาคุณโยธินที่คอกม้าแล้วกัน" พูดแล้วเข้าไปในห้องพัก จัดแจกันจัดโต๊ะให้โยธินอย่างมีความสุข

เฒ่าเหมยเอาป”่นโตไปให้โยธินที่คอกม้า พูดอย่าง ห่วงใยว่าเมื่อเช้าเขาดื่มกาแฟแก้วเดียว ตนจึงเอาป”่นโตมาส่ง เร่งให้เขากินอะไรสักหน่อย โยธินตอบสั้นๆอย่างไร้อารมณ์ว่า "ฉันไม่หิว"

เฒ่าเหมยถามถึงงานเมื่อคืนถามว่าสนุกไหม คุยถึงงาน ที่ม่อนผาหลวงว่าจัดงานทีไรสนุกทุกที ตนเองก็ได้เห็นคนแต่งตัวสวยๆงามๆ โดยเฉพาะแขกผู้หญิงที่มางานแต่ละคนแต่งตัวสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์

เฒ่าเหมยคุยเพลิน แต่โยธินไม่ได้ฟัง เขาง่วนอยู่กับการกวาดคอกม้า แต่ในใจคิดแต่เรื่องภิรมยา

ooooooo

เช้าวันเดียวกัน เจ้าขวัญฟ้าที่สะดุ้งตื่นสะบัดมือ ที่กอดสีโบอยู่แล้วลุกพรวด เร่งให้สีโบรีบออกไปเสียก่อนที่ใครจะมาเห็น สีโบโอ้เอ้พิรี้พิไรไม่ยอมออก จนเจ้าต้องหลอกล่อว่า

"เจ้าออกไปก่อน ข้าก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ไปไหน เจ้าอยากจะเจอข้าอีกเมื่อไหร่ก็ได้ รีบออกไปเร็วเข้า"

สีโบยอมออกไป แต่มีข้อแม้ว่าเจ้าต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงอื่นอีก ตนยอมให้คนเดียวคืออลิสา ครั้นเจ้าทำทีอ้อนถามว่าตนจะมีใครได้อีก สีโบระบุชัดเจนว่าภิรมยาลูกสาวรัฐมนตรี นั่นไง แล้วขู่ว่า

"เจ้าพี่อย่าคิดว่าจันทร์แก้วไม่เห็นนะ เจ้าพี่ไม่เคยยอมหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนไหน แต่ตอนนี้เจ้าพี่ต้องหยุดได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าพี่จะต้องเสียใจ"

พูดเสร็จสีโบยอมลุกไปจากเตียงออกไป เจ้าขวัญฟ้า มองตามอย่างไม่พอใจที่ถูกข่มขู่ควบคุม

ooooooo

ภิรมยาเข้าไปจัดห้องของโยธินอย่างมีความสุข เห็นตุ๊กตาไม้รูปทหารหลายสิบตัวที่โยธินแกะวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะก็อุทานอย่างตื่นเต้น

"อุ๊ย น่ารัก โยธินนี่เข้าใจทำ"

เธอจัดข้าวของบนโต๊ะให้เรียบร้อย เป”ดลิ้นชักรวบรวมกระดาษเขียนจดหมายเก็บให้เป“นระเบียบ เห็นจดหมายเป“น ป–กอยู่ในลิ้นชักแล้วก็ดีใจ ปลื้มใจจนบอกไม่ถูกเมื่อเห็นว่าเป“น จดหมายที่โยธินเขียนถึงตน ยิ้มอย่างมีความสุขพลางหยิบอ่าน...

เป“นจดหมายที่โยธินเขียนรำพันความรักความคิดถึงที่มีต่อเธอ ทุกข์ทรมานใจกับการรอคอยวันเวลาที่จะได้กลับไปเจอกัน ยิ่งอ่านภิรมยาก็ยิ่งซาบซึ้งซึมซับความรักของโยธินจากข้อความในจดหมาย

จนถึงข้อความที่เขาเขียนว่า "รอให้ผมทำภารกิจสำคัญ นี้ให้เสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ผมจะกลับไปหาคุณทันที แค่ป•เดียวเท่านั้น เราก็จะได้พบกันแล้ว"

"แค่ป•เดียวเท่านั้น หมายความว่ายังไง" ภิรมยาเอะใจ หยิบอีกฉบับหนึ่งขึ้นอ่านอย่างเร็ว

"ภิรมยาที่รักของผม...ยิ่งผมรักคุณมาก ผมก็ยิ่งเจ็บปวดที่ผมต้องป”ดบังความจริงกับคุณ ภิรมยา ผมโกหกคุณ ที่ผมต้องจากคุณมา เพราะผมต้องมาชดใช้หนี้แทนคุณพ่อ ไม่ได้มาติดต่อธุรกิจอย่างที่ผมบอกคุณไป มันเป“นหนี้แค้นระหว่างสันตติวงศ์ กับอัศวรัช มีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะชดใช้หนี้ครั้งนี้ได้"

ภิรมยาหน้าซีดเผือด ยิ่งอ่านก็ยิ่งช็อก น้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจที่รู้ว่าถูกโกหก

"เพื่อชดใช้หนี้แค้นที่ผมไม่ได้ก่อ ผมจึงจำเป“นต้องยอมเป“นเชลยของสันตติวงศ์เป“นเวลาหนึ่งป• ผมต้องทนทรมานกับการเป“นทาสรับใช้สันตติวงศ์ที่ม่อนผาหลวง ผมหมดสิ้นศักดิ์ศรีจนแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยว ผมไว้ ต่อลมหายใจให้ผมคือคุณ...ภิรมยา..."

ภิรมยาช็อก อึ้ง มือที่ถือกระดาษจดหมายสั่นเทา ร้องออกมาอย่างขวัญเสียแล้ววิ่งออกไป

"ไม่จริง...ไม่จริง มันไม่ใช่เรื่องจริง ไม่จริง!"

เป“นเวลาเดียวกับที่เฒ่าเหมยเพิ่งนึกได้เรื่องที่ภิรมยาไปหาโยธินที่ทับหน้าเมื่อเช้า และเข้าไปในห้องพักเขาบอกว่าเดี๋ยวจะตามมาที่คอกม้า โยธินตกใจแทบสิ้นสติ เขาวิ่งอ้าวกลับไปที่ห้องพักทันที

ooooooo

โยธินวิ่งอ้าวกลับมาที่ทับหน้า เจอกับภิรมยาที่วิ่งเตลิดออกจากห้องพักของเขา พอเผชิญหน้ากัน ภิรมยาปาจดหมายที่ถือมาใส่หน้าเขาถามว่า "นี่มันอะไรกัน ตอบภิรมยามาว่านี่มันเรื่องอะไรกัน"

โยธินพยายามชี้แจงขอร้องให้เธอใจเย็นๆ แต่ภิรมยาอารมณ์พลุ่งพล่านจนไม่อาจฟังอะไรได้แล้ว ความโกรธ ความอับอาย ความน้อยใจ เสียใจ พรั่งพรูออกมาราวกับแผ่นดินถล่มทลาย

เธอด่าโยธินว่าเป็นคนโกหกหลอกลวง เห็นตนเป็นตัวอะไรถึงได้กล้าทำอย่างนี้ ตัวเองอับอายทำตัวไม่มีศักดิ์ศรีไม่พอ ยังพาตนมาอับอายไปด้วย มิน่าเล่าคุณชายอติศักดิ์กับคุณหญิงอลิสาจึงได้ดูเหมือนยิ้มเยาะตนตลอดมา ตนกลายเป็นตัวตลกให้คนหัวเราะเยาะ

โยธินพยายามหาช่องชี้แจง ปลอบใจเธอว่า

"จะไปสนใจคนอื่นทำไมล่ะครับ คนพวกนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร"

"ฉันเป็นใคร ฉันเป็นลูกสาวรัฐมนตรีราชฤทธิ์ ฉันไม่ ทนให้คนอื่นดูถูกหรอกนะ ฉันมันโง่เองที่หลงเทิดทูนคุณ คิดว่าคุณเป็นผู้ชายที่รักและซื่อสัตย์ต่อฉัน แต่แท้ที่จริงแล้วคุณเป็นผู้ชายโกหกตลบตะแลง ตอนนี้ในสายตาฉันคุณหมดสิ้นทุก อย่างแล้ว หมดสิ้นทั้งเกียรติทั้งศักดิ์ศรี หมดสิ้นทั้งความเป็นคน ฉันเคยรักผู้ชายอย่างคุณไปได้ยังไง ฉันเกลียดคุณโยธิน ฉันเกลียดคุณ..."

ภิรมยาพ่นอารมณ์ใส่แล้วร้องไห้วิ่งออกไป กระนั้นโยธินยังพยายามร้องขอให้เธอฟังตนก่อน เขาวิ่งตามไปจนถึงหน้าตึกม่อนผาหลวง เจออลิสาเดินออกจากตึกมาพอดี

โยธินพยายามรั้งภิรมยาไว้ ถูกเธอสะบัดอย่างรังเกียจสุดแรง

"ภิรมยา ฟังผมอธิบายก่อน ได้โปรดเถอะครับ ฟังผมก่อน ผมไม่ได้ตั้งใจโกหกคุณ"

"ไม่ฟัง ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น..."

"ผมไม่ยอมให้เรื่องของเราจบลงแบบนี้ ภิรมยาฟังผมก่อน..."

"เรื่องของเรามันจบลงแล้ว ออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว"

"ภิรมยา...ผมรักคุณ..." โยธินพยายามบอกยํ้าให้เธอ ได้ยั้งคิด แต่ผลที่ได้รับคือถูกภิรมยาหันมาตบหน้าสุดแรงแล้ววิ่งร้องไห้สวนกับอลิสาเข้าไปในตึก

โยธินยืนอึ้ง ชาที่รอยตบ แต่เจ็บและชาไปทั้งหน้ากับสายตาและรอยยิ้มหยันของอลิสาที่มองมาและพูดเหมือนคมมีดที่กรีดไปถึงหัวใจเขาว่า

"ดูเหมือนว่าความรักของนายจะไม่สามารถฝ่าฟันทุกอย่างไปได้อย่างที่นายฝันไว้นะ ฉันเสียใจด้วยจริงๆนายโยธิน"

โยธินหันหลังเดินออกไปเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ อลิสาเหยียดยิ้มมองตามไปอย่างสะใจ

ooooooo

ไม่เพียงเท่านั้น อลิสายังตามโยธินไปถึงทับหน้า โยธินหันมาถามอย่างเจ็บแค้นใจว่าเธอยังต้องการอะไรอีก อยากเห็นตนเจ็บปวดทรมานก็ได้เห็นแล้ว ยังต้องการอะไรอีก หรือต้องการเห็นตนล้มลงตายไปต่อหน้าจะได้สาแก่ใจ โยธินพูดอย่างชอกชํ้าเจ็บแค้นว่า "ผมขอแสดงความยินดีด้วยนะครับคุณหญิง ที่แผนการชั่วร้ายที่ต้องการทำลายความรักของผมกับภิรมยาสำเร็จแล้ว"
"ถ้าหากความรักของนายเป็นรักแท้ที่มั่นคงก็ไม่มีวันที่ใครจะไปทำลายได้หรอกนายโยธิน นายน่าจะขอบคุณเราด้วยซํ้าที่ช่วยพิสูจน์ความรักของนายกับคุณภิรมยาให้ ที่จริงนายก็น่าจะเห็นใจคุณภิรมยาเธอบ้างนะ เพราะคงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทนรักผู้ชายที่ยอมขายศักดิ์ศรีอย่างนายได้หรอก นี่นะ ถ้านายมีความเป็นลูกผู้ชายสักนิด บอกความจริงคุณภิรมยาไปตั้งแต่แรก นายอาจจะไม่พบจุดจบแบบนี้ก็ได้ แต่มันก็สายไปแล้วล่ะนายโยธิน"
อลิสายิ้มเยาะแล้วหมุนตัวเดินกลับไป โยธินทนยืนอยู่ไม่ไหวทรุดตัวฮวบลงกับพื้น อลิสาหันมามองตกใจรีบเข้า ไปดู ร้องถาม
"โยธิน! นายโยธิน นายเป็นอะไรไป นายโยธิน!"
เฒ่าเหมยเปิดประตูเข้ามาพอดี รีบเข้าไปประคองโยธินขึ้นมา อลิสาถอยไปยืนดู
"คุณโยธินตัวร้อนจี๋เลยครับคุณหญิง สงสัยไข้จะขึ้นสูง คุณโยธินคงไม่สบายตั้งแต่ตอนที่กลับจากในเวียง ก็ขี่ม้า
ตากฝนเป็นวันๆ กลับมาก็ทำงานไม่ได้หยุดหย่อน ต่อให้แข็งแรงแค่ไหนก็ล้มป่วยกันได้ละครับ"
อลิสาอึ้ง เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้โยธินป่วย
ฝ่ายภิรมยากลับไปถึงห้องพักก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟาย ศรีสว่างกับราชฤทธิ์เข้าไปถามไถ่ก็ไม่ยอมพูด เฝ้าคร่ำครวญแต่ว่า
"โยธินเป็นคนโกหกหลอกลวง เขาทำกับภิรมยาอย่างนี้ได้ยังไง ทำได้ยังไง..."
"โยธินโกหกอะไรลูก" ราชฤทธิ์ถาม
"ภิรมยาไม่อยากพูดถึงมัน อย่าพูดถึงชื่อโยธินให้ภิรมยาได้ยินอีก ภิรมยาเกลียดเขาค่ะ เกลียดที่สุด" พูดแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป
ooooooo
อลิสากับอติศักดิ์ต่างสะใจนักที่รู้ว่าเวลานี้ โยธินชอกชํ้าใจจนเจียนตาย อติศักดิ์ชวนน้องสาวไปดูให้เห็นกับตา พูดเยาะหยันว่าคงไม่ถึงกับหนีไปฆ่าตัวตายกระมัง อลิสาพูดอย่างสะใจว่า
"เขาไม่ต้องไปฆ่าตัวตายที่ไหนหรอกค่ะ ตอนนี้เขาก็เหมือนกับตายทั้งเป็นแล้ว ทุกข์ทรมานกว่าตายไปเสียจริงๆ เป็นไหนๆ"
ทันใดนั้นอานนท์วิ่งเข้ามาบอกว่าโยธินป่วยหนักตัวร้อนเป็นไฟ เฒ่าเหมยกำลังต้มยาให้กิน เสนอทั้งสองว่าอาการโยธินน่าเป็นห่วงมากให้เรียกหมอมาดูดีไหม อติศักดิ์ไม่ตอบแต่กลับยิ้มเหี้ยมชวนอลิสาไปดูกัน
อลิสาเดินไปกับอติศักดิ์เธอไม่พูดอะไรทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าโยธินป่วยหนักจริงๆ แต่ลึกๆแล้วยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่
ไปถึงทับหน้า เฒ่าเหมยกำลังประคองโยธินให้ลุกขึ้นมากินยา พอโยธินเห็นทั้งสองเข้ามาก็พยายามฝืนใจแข็งใจ ช่วยตัวเอง บอกเฒ่าเหมยให้ออกไปก่อน ส่วนอติศักดิ์ก็บอกให้อานนท์ออกไปด้วย อานนท์ไม่อยากไป แต่พอเห็นสายตาของอติศักดิ์ก็จำต้องเดินตามเฒ่าเหมยไป จากนั้นอติศักดิ์หันมาพูดกับโยธินอย่างเลือดเย็นว่า
"ไม่สบายเป็นอะไรไปหรือครับคุณโยธิน เห็นอานนท์บอกว่าคุณไม่สบายมากถึงกับนอนซม ไม่นึกเลยนะครับว่าคนเป็นไข้ใจนี่อาการจะหนักได้ขนาดนี้ อาการอย่างนี้หมอที่ไหนคงรักษาไม่หาย อย่างนี้ผมคงต้องเชิญภิรมยามาช่วยรักษามังครับ"
โยธินขบกรามแน่นกับการเยาะหยันของอติศักดิ์ ส่วนอลิสาพูดซํ้าเติมโยธินแต่บอกพี่ชายว่าเขาเจอเรื่องหนักๆมามากแล้วเราให้เขาพักผ่อนก่อนดีไหม พรุ่งนี้เขาอาจจะต้องเจออะไรที่หนักหนาสาหัสกว่านี้ก็ได้
อติศักดิ์ยังไม่สะใจพอ เล่าสภาพของภิรมยาให้ฟังว่า "หลังจากคุณภิรมยารู้ความจริง เธอก็เอาแต่ร้องไห้เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เธอดูจะเสียใจผิดหวังมาก ก็จะไม่ให้เสียใจได้ยังไงล่ะครับ เธอออกจะมั่นใจในความรักความซื่อสัตย์ของคุณเหลือเกิน เธอช่างไม่รู้จักอัศวรัชเสียเลย"
"พี่ชายคะ..." อลิสาพยายามจะขัดจังหวะ แต่อติศักดิ์ไม่ฟัง ยังคงพูดต่อด้วยแววตาร้ายกาจ
"เธอไม่รู้เลยว่า พวกอัศวรัชไม่เคยมีความซื่อสัตย์ มีแต่ความปลิ้นปล้อนตลบตะแลง แค่โกหกเล็กๆน้อยๆว่ามาทำงานแทนพ่อ แต่กลับมาเป็นเชลยเลี้ยงม้าให้สันตติวงศ์
มันเป็นแค่เศษเสี้ยวความเลวของอัศวรัช...อัศวรัชเคยทำเรื่องตํ่าทรามกว่านั้น ก็ที่เคยใส่ร้ายป้ายสีทำลายชีวิตคนอื่นจนย่อยยับไงล่ะคุณโยธิน"
อานนท์ที่แอบฟังอยู่หลังประตูข้างนอกตกใจมาก
คิดไม่ถึงว่าอติศักดิ์จะร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้
ส่วนโยธิน แม้จะไข้สูงจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ก็ยังพยายามยืนขึ้นประจันหน้ากับอติศักดิ์ ดวงตาแดงกํ่าจ้อง
อติศักดิ์เขม็ง แต่ไม่ตอบโต้แม้แต่คำเดียว
"แล้วตอนนี้กรรมมันก็ได้ตามสนองแล้ว คุณคงกำลังรู้สึกเจ็บปวดทรมานใจจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ท่านพ่อของผมก็ทรงเคยรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่ความเจ็บปวดของคุณในครั้งนี้ยังไม่เพียงพอ เพราะชีวิต มันต้องชดใช้ด้วยชีวิตเท่านั้น!"
โยธินกัดฟันแข็งใจพูดทั้งที่แทบจะไม่มีแรงเพราะพิษไข้ "ผมพร้อมจะชดใช้สันตติวงศ์ทุกอย่าง จะทรมาน
กลั่นแกล้งอะไรผมอีกเชิญได้เลยครับ ผมขออย่างเดียว อย่าได้ ลากภิรมยามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก เธอเจ็บปวดมามากพอแล้ว อย่าได้ใช้เธอเป็นเครื่องมือ อย่าได้ทำร้ายเธออีกเลย ผมขอร้อง.."
อติศักดิ์ฟังแล้วอึ้งไปนิดหนึ่ง อลิสามองโยธินที่ยืนโงนเงนอาจล้มลงในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง เธอเอ่ยกับพี่ชายเบาๆ "แขกของเราคงกำลังรอเราอยู่ เรากลับกันเถอะค่ะพี่ชาย"
อานนท์รีบวิ่งออกไป ส่วนอติศักดิ์ยอมเดินออกไปอย่างคิดไม่ถึงว่าโยธินจะไม่ตอบโต้อะไรตน อลิสาเดินตามพี่ชายไป อดไม่ได้ที่จะแอบมองโยธินด้วยแววตาเป็นห่วง
โยธินหมดแรงทันที เขาทิ้งตัวลงบนเตียงราวกับท่อนไม้ ที่ล้มครืน....
ooooooo
อานนท์ร้อนใจมากถามอลิสาว่าไปตามหมอหรือยัง เธอพูดอย่างใจเย็นว่าดูไปอีกสักพักถ้าอาการแย่ค่อยตามหมอ เท่าที่ดูตอนนี้ก็เหมือนแค่มีไข้ธรรมดาเท่านั้น
อานนท์รับไม่ได้ต่อว่าอลิสาว่าถึงโยธินจะเจ็บหนักแค่ไหนเธอก็คงไม่ไปตามหมอใช่ไหม ที่จริงเธออยากให้โยธินตายไปเสียด้วยซ้ำ พออลิสาถลึงตาถามว่าพูดอะไร อานนท์ ระบายความอัดอั้นออกมาว่า
"ที่คุณพี่กับคุณอติศักดิ์ไปเยี่ยมคุณโยธินก็เพื่อไปทำร้ายเขาให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม พวกคุณพี่ใจดำจริงๆ คนนอนป่วยอยู่ก็ยังไปพูดจาร้ายๆใส่เขา ถึงเขาจะติดหนี้เรามากมายแค่ไหนก็ไม่ควรทำกับเขาอย่างนั้น"
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้อานนท์ เธอยังเด็กอยู่ เธอไม่เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่"
"ผมเข้าใจ ผมได้ยินทุกคำที่พวกคุณพี่พูด คุณโยธินกำลังชดใช้หนี้ให้คุณพี่อยู่ไม่ใช่เหรอครับ คุณโยธินล้มป่วยก็เพราะคุณพี่นั่นแหละ ผมโกรธคุณพี่แล้ว คุณพี่ใจร้ายที่สุด" อานนท์วิ่งออกไปอย่างเสียใจ
อลิสาฟังแล้วรู้สึกผิดมากขึ้น...
ไม่นานนัก ราชฤทธิ์กับศรีสว่างก็ไปหาโยธินที่ทับหน้า ตำหนิติเตียนโยธินอย่างรุนแรงที่ทำเรื่องอัปยศอดสูทำลายเกียรติยศชื่อเสียงของพวกตน
โยธินทั้งขอโทษ ทั้งแสดงความเสียใจ แต่ไม่ทำให้ราช-ฤทธิ์กับศรีสว่างอ่อนข้อลงเลย ในที่สุดราชฤทธิ์พูดกับโยธินอย่างตัดบัวไม่เหลือใยว่า
"โยธิน ถ้าเธอยังพอมีสามัญสำนึกอยู่บ้าง ต่อไปอย่ามาติดต่อเกี่ยวข้องกับภิรมยาอีก ลูกสาวของฉันจะต้องมีอนาคตที่ดี แต่งงานกับคนดีๆ คนหมดสิ้นเกียรติยศและศักดิ์ศรีอย่างเธอไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน"
ราชฤทธิ์กับศรีสว่างหันหลังเดินออกไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย โยธินมองตามด้วยสีหน้าแววตาที่หมดสิ้นแล้วทุกสิ่ง
ทุกอย่าง...เหลือแต่ลมหายใจที่ทำให้ต้องอยู่ทุกข์ทรมานต่อไป...
ooooooo
อลิสากลับมาที่ห้องนั่งเล่นตึกม่อนผาหลวง ได้ยินเสียงเจ้านกแก้วร้องเจื้อยแจ้ว
"โยธิน...โยธินวีรบุรุษสงคราม โยธินเก่งที่หนึ่งเลย... โยธินวีรบุรุษสงคราม..."
อลิสาเดินเข้าไปมองเจ้านกแก้ว ไม่ได้รู้สึกขัดหูขัดตาอย่างที่เคย พอดีเจ้าขวัญฟ้าเดินตามเข้ามา เจ้าหัวเราะที่ได้ยินนกแก้วร้อง ถามขำๆว่าใครสอนเจ้านกแก้วพูด คงต้องสอนใหม่แล้วเพราะตอนนี้โยธินเป็นวีรบุรุษคอกม้า หรือไม่ก็โยธินวีรบุรุษตกยาก
อลิสาถามเจ้าหน้านิ่งๆว่าเจ้าต้องการอะไร เจ้าออดอ้อนว่าเดินตามหาคุณหญิงเสียทั่ว คุณหญิงเป็นอะไรหรือ อลิสาบอกว่าตนแค่เหนื่อยเล็กน้อย เจ้าชวนแอบไปเที่ยวกันสองคนดีไหมจะได้พักผ่อน เพราะต้อนรับแขกมาเหน็ดเหนื่อยมากแล้ว และไม่มีเวลาให้ตนเลย
อลิสาปฏิเสธ อ้างว่าต้องคอยดูแลรัฐมนตรีกับครอบครัว ตอนนี้มีเรื่องวุ่นวายกันอยู่ยิ่งไปไหนไม่ได้ แล้วขอตัวไปดูอาหารกลางวันให้แขก เป็นจังหวะที่สีโบเดินเข้ามาบอกว่าอากู๋ให้มาตามไปถามเรื่องอาหารกลางวันของแขก อลิสาฉวยโอกาสไปทันที
เจ้าขวัญฟ้าเห็นท่าทางหงุดหงิดของอลิสาแล้วหันมองสีโบถามขู่ๆว่าไปพูดอะไรกับเธอหรือเปล่า ทำไมคุณหญิงถึงดูแปลกๆไป ถ้าพูดแม้แต่นิดเดียวจะไม่เอาไว้ให้รกหูรกตาเลย

"ถ้าเจ้าพี่รักษาสัญญาที่ให้กับจันทร์แก้วไว้ว่า ในชีวิตของเจ้าพี่จะมีเพียงคุณหญิงกับจันทร์แก้วเท่านั้น จันทร์แก้วก็จะปิดปากเรื่องของเราให้สนิทเจ้า เจ้าพี่อย่าผิดคำมั่นที่ให้ไว้ก็แล้วกันเจ้า"

สีโบตอบอย่างถือไพ่เหนือกว่า เจ้าขวัญฟ้าได้แต่ หงุดหงิดที่โกรธแค้นแค่ไหนก็ทำอะไรสีโบไม่ได้

ooooooo

เมื่อเกิดเรื่องโยธินขึ้นเช่นนี้ ศรีสว่างรุกฆาตทันที ยุภิรมยาว่าผู้ชายเลวๆอย่างโยธินไม่มีค่าพอที่จะคู่กับลูก กลับไปครั้งนี้จะประกาศถอนหมั้น และริบของหมั้นทั้งหมดเป็นค่าเสียหายของฝ่ายเรา

เท่านั้นไม่พอ ยังยุให้รีบหาคนใหม่เร็วๆ เพราะผู้ชายคนใหม่จะช่วยให้ลูกหายเจ็บปวดหัวใจเร็วขึ้น ย้ำว่า

"เราหาคนใหม่ก็ต้องเป็นนายพันนายพลไปเลย หรือจะเป็นผู้ชายสูงศักดิ์มีเชื้อมีสาย อย่างเจ้าขวัญฟ้ายังไงล่ะลูก เจ้าขวัญฟ้าเหนือกว่าโยธินทุกอย่าง"

"พอได้แล้วค่ะคุณแม่ หยุดพูดสักที ภิรมยาไม่อยากจะฟังแล้ว ชาตินี้ภิรมยาคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว"

พูดแล้วภิรมยาวิ่งออกจากห้อง เจออานนท์ที่ทนดูโยธินเพ้อถึงภิรมยาไม่ได้ ขออนุญาตอลิสามาตามภิรมยาไปพบเผื่อจะช่วยโยธินได้เข้าพอดี อานนท์ขอร้องภิรมยาว่า

"ให้โอกาสเขาอีกสักครั้งนะครับคุณภิรมยา ถ้าคุณโยธินไม่ป่วยหนักขนาดนี้ ผมจะไม่ขอร้องคุณอย่างนี้ ไปเถอะนะครับ"

ในที่สุดภิรมยายอมไปพบโยธิน เธอปล่อยให้โยธินรำพันถึงความรักที่มีต่อเธอ ขอให้เธอยกโทษให้ด้วย ขอโอกาสตนอีกสักครั้ง ฟังโยธินแล้วเธอตอบอย่างเลือดเย็นว่า

"ฉันรักคุณ รักมากแล้วก็เกลียดมาก เกลียดจนไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีกต่อไป ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกคุณด้วยตัวเองว่า ฉันขอถอนหมั้นจากคุณ" พูดแล้วถอดแหวนหมั้นขว้างใส่หน้าโยธิน พูดใส่หน้าว่า "เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้วโยธิน ลาก่อน"

โยธินพยายามอ้อนวอนให้คิดถึงความรักที่เราเคยมีต่อกัน แล้วเธอจะทิ้งความรักนั้นไปง่ายๆหรือ

"ฉันไม่ได้มีชีวิตอยู่ด้วยความรักเพียงอย่างเดียว ฉันต้องอยู่อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ตอนนี้คุณไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย แล้วฉันจะอยู่กับคนอย่างคุณได้ยังไง" พูดแล้วสะบัดหน้าวิ่งออกไปทันที

อลิสาก้าวออกจากมุมหนึ่งมองโยธินจากข้างหลัง เห็นแผ่นหลังและไหล่เขาไหวสะท้านอย่างแรง แม้ไม่เห็นน้ำตาแต่ก็เดาได้ว่ามันไหลพรากพรั่งพรูขนาดไหน...

ooooooo

ภิรมยาวิ่งเตลิดออกไป สมองสับสนวนเวียนอยู่กับภาพในอดีตที่หวานชื่น ความอาวรณ์โหยหาระหว่างเขาลามาม่อนผาหลวง กระทั่งมารู้ความจริงที่เจ็บปวดของเขา ความรักมีเท่าไร ก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ เกลียด ชัง แค้น มากเท่านั้น...เธอวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปจนหลงป่าโดยไม่รู้ตัว...

การหายไปของภิรมยากลายเป็นเรื่องร้อนใจของทุกคน ในม่อนผาหลวง อติศักดิ์ออกตามหาทั่วบริเวณก็ไม่เจอ หนานมีกับสีโบตามหาทุกซอกมุมในม่อนผาหลวงก็ไม่เห็น หนานเมืองกับเฒ่าเหมยเลาะไปตามชายป่าก็ไม่มีวี่แวว เฒ่าเหมยตั้ง

ข้อสังเกตว่าภิรมยาอาจหลงเข้าไปในป่าก็ได้ ทำให้ศรีสว่างตีโพยตีพายกลัวลูกจะเป็นอันตราย

"ผมว่าเราทุกคนออกไปตามหาแถวนี้อีกสักรอบดีกว่าไหมครับ แล้วไม่เจอจริงๆค่อยตามไปหาที่ชายป่ากัน" อติศักดิ์เสนอ แล้วก็พากันแยกย้ายไป ยกเว้นอลิสากับศรีสว่างยังคอยฟังข่าวอยู่ที่พัก

จนกระทั่งค่ำ คณะผู้ค้นหาพากันกลับมาด้วยความผิดหวัง อติศักดิ์ยิ่งร้อนใจบอกให้ช่วยกันไปตามหาที่ชายป่ากัน โดยให้ ราชฤทธิ์ไปกับตน ส่วนเจ้าขวัญฟ้ากับหนานเมืองและเฒ่าเหมยไปอีกทางหนึ่ง นอกนั้นให้ไปคอยรับใช้บนตึก

สีโบแอบกระซิบไม่ให้เจ้าขวัญฟ้าไปเพราะมีคนไปมากมายแล้ว และเจ้าก็เหนื่อยแล้วด้วย ถูกเจ้าขวัญฟ้าตวาดเบาๆไม่ให้ยุ่ง ปรามว่าอย่าทำอย่างนี้อีกเดี๋ยวความแตกจนได้ ไล่ให้รีบขึ้นไปรับใช้บนตึกเสีย แล้วเจ้าขวัญฟ้าก็รีบเดินตามเฒ่าเหมยไป

ooooooo

อานนท์ยังเฝ้าดูแลโยธินอยู่ พออานนท์บอกเขาว่าภิรมยาหายไปยังตามหากันไม่เจอ โยธินพรวดขึ้นมาบอกว่าจะไปตามหาภิรมยา แต่พอลุกขึ้นก็เซล้มลง ดีที่อานนท์รีบเข้าประคองไว้ทัน พามานอนที่เตียง

จนครู่ใหญ่ อลิสามาที่ทับหน้า พูดปรามอานนท์ว่านึกแล้วว่าต้องอยู่ที่นี่ รีบกลับไปที่ตึกใหญ่เดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ตนต้องเป็นห่วงอีกคน

อานนท์บอกว่าโยธินตัวร้อนมากถ้าไข้สูงกว่านี้อาจตายได้ ตนต้องคอยเช็ดตัวให้เขา พอเห็นอลิสาชะงัก อานนท์ขอให้มาช่วยกันเช็ดตัวให้เขาไข้จะได้ลดเร็วๆ อลิสารับผ้ามาเช็ดที่แขนให้โยธิน ทำท่าเหมือนไม่เต็มใจแต่มีอาการเขินๆ

ระหว่างนั้น โยธินเพ้อร้องเรียก "ภิรมยา...ภิรมยา...อย่าไป ผมรักคุณภิรมยา..." พลางคว้ามืออลิสาไปกุมไว้แน่น อลิสาต้องปล่อยให้เขากุมมือไว้อย่างนั้นเพื่อให้ผ่อนคลาย...

ooooooo

คณะตามหาภิรมยา ส่วนที่เจ้าขวัญฟ้าไปกับเฒ่าเหมยและหนานเมืองนั้น ปรากฏว่าเดินไปเดินมาเจ้าขวัญฟ้าเดินแยกไปโดยไม่ได้บอกทั้งสอง แต่กลายเป็นเรื่องดี เพราะเจ้าขวัญฟ้าเดินไปเจอภิรมยากำลังหวาดกลัวร้องขอความช่วยเหลือเสียงสั่นกลัว เจ้ารีบเดินเข้าไปหา พอเห็นเป็นเจ้าขวัญฟ้า ภิรมยาโผเข้ากอดไว้แน่นด้วยความดีใจสุดชีวิต

อติศักดิ์กับราชฤทธิ์และคนรับใช้ชายอีกสองคนออกตามหาจนค่ำ อติศักดิ์ชวนกลับแต่ราชฤทธิ์ไม่ยอมกลับจนกว่าจะตามหาภิรมยาเจอ อติศักดิ์จึงพูดให้คลายกังวลว่า
"ผมคิดว่าคุณภิรมยาคงไม่ได้มาทางนี้แน่นอนครับ ไม่เห็นร่องรอยว่ามีคนผ่านมาแถวนี้เลย ผมคิดว่าคุณภิรมยาคงเดินหลงไปอีกทาง ทางที่เจ้าขวัญฟ้าไปน่ะครับ"

"งั้นแสดงว่าเจ้าขวัญฟ้าอาจจะหาภิรมยาเจอแล้วล่ะสิ" ราชฤทธิ์มีความหวังขึ้นมา

"ผมก็หวังว่าอย่างนั้นครับ ไอ้จ้อย ไอ้ดำ หาให้เจอ ถึงจะต้องหาทั้งคืนก็ต้องหาให้เจอ" อติศักดิ์สั่งคนงานทั้งสองแล้วชวนราชฤทธิ์ "ไปเถอะครับท่าน"

เมื่อกลับถึงตึกม่อนผาหลวงครู่ใหญ่ หนานเมืองกับเฒ่าเหมยก็กลับมาบอกว่าเจ้าขวัญฟ้าหายไป อลิสาตกใจ สีโบอยู่ใกล้ๆรีบขยับมาเงี่ยหูฟัง ส่วนศรีสว่างตีโพยตีพายยกใหญ่ อติศักดิ์จึงสั่งหนานเมืองให้ตามคนงานทั้งหมดมาที่หน้าตึก เราจะต้องตามหาเจ้าขวัญฟ้ากับภิรมยาให้เจอให้ได้

ooooooo

หารู้ไม่ว่าภิรมยากับเจ้าขวัญฟ้าเจอกันแล้ว ในภาวะที่ภิรมยากำลังหวาดกลัวนี้ เธอฝากชีวิตไว้กับเจ้าขวัญฟ้า เมื่อเจ้าหว่านเสน่ห์โอบอุ้มอ่อนโยนอบอุ่น ทำให้ภิรมยาเคลิ้มไหวไปกับคำหวานและรสสัมผัส จนในที่สุดปล่อยใจไปตามปรารถนาของกันและกัน

จนเช้าวันรุ่งขึ้น ภิรมยาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเจ้าขวัญฟ้า เธอรีบผลักเจ้าขวัญฟ้าและขยับตัวออก หันหลังให้ คร่ำครวญด้วยเสียงสะอื้น

"เจ้าคงเห็นภิรมยาเป็นผู้หญิงใจง่าย แค่เจ้าพูดคำหวานๆไม่กี่คำ ภิรมยาก็ยอมเป็นของเจ้า ทำไมภิรมยาถึงขาดสติอย่างนี้"

"คุณภิรมยาอย่าโทษตัวเองเลยครับ ถ้าจะโทษก็โทษผมคนเดียว ผมเป็นคนที่ขาดสติไม่ใช่คุณ ผมขอโทษนะครับ เรารีบหาทางกลับม่อนผาหลวงกันดีกว่า ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ คุณคงเป็นห่วงแย่แล้ว"

เจ้าขวัญฟ้าดึงภิรมยาเข้าไปเช็ดน้ำตาที่แก้มให้อย่างอ่อนโยน กอดปลอบใจก่อนลุกเดินไปด้วยกันว่า

"ทำใจให้สบายๆเถอะนะครับ แล้วทุกอย่างจะดีเอง"

ooooooo

รุ่งเช้า บรรดาผู้ค้นหาเตรียมออกเดินทาง อลิสาขอตามพี่ชายไปด้วย เมื่อไปถึงชายป่า เฒ่าเหมยชี้ให้ ดูรอยเท้าสองรอยที่คาดว่าอาจเป็นรอยของเจ้าขวัญฟ้าและภิรมยา ทันใดก็ได้ยินเสียงคนเดินมา

ทุกคนพากันเดินไปทางเกิดเสียง เจอภิรมยากับ

เจ้าขวัญฟ้าจริงๆ ภิรมยาโผเข้ากอดราชฤทธิ์ด้วยความดีใจ ส่วนเจ้าขวัญฟ้ากับอลิสาก็เดินเข้าหากัน เจ้าจับมืออลิสาไว้ บอกว่าดีใจที่รอดตายได้กลับมาเห็นหน้าคุณหญิงอีกครั้ง

ภิรมยาแอบมองเจ้าขวัญฟ้าที่แสดงความรักความห่วงใยต่อกันกับอลิสา เจ้าพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติสุดฤทธิ์

ศรีสว่างดีใจจนบอกไม่ถูกที่ลูกสาวกลับมาอย่างปลอดภัยแอบดีใจมากกว่านั้นที่กลับมากับเจ้าขวัญฟ้า บอกลูกสาวอย่างคาดหวังบางอย่างว่า เจ้าได้ช่วยชีวิตไว้ครั้งนี้เป็นบุญคุณ เหลือเกิน ลูกต้องรีบหาทางตอบแทนเจ้าโดยเร็ว ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไรลูกต้องให้ได้ทุกอย่างแม้แต่ชีวิต

"คุณหญิงอย่าพูดอย่างนี้เลยนะครับ ผมทำในสิ่งที่ควรทำและก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่ต้องตอบแทนผมถึงขนาดนั้น ชีวิตของคุณภิรมยามีค่าเกินกว่าจะยกให้ใครง่ายๆ" เจ้าขวัญฟ้าออกตัวอย่างให้เกียรติ

"ถ้าชีวิตภิรมยามีค่าขนาดนั้น ก็คงต้องเป็นเจ้าคนเดียวที่จะดูแลภิรมยาได้ ไหนๆเจ้าก็ดูแลภิรมยามาแล้ว ก็ฝากดูแลลูกสาวดิฉันต่อไปด้วยนะคะ" ศรีสว่างยัดเยียดนิ่มๆจนอลิสามองอย่างแปลกใจ

ราชฤทธิ์ตัดบทว่าภิรมยาเหนื่อยเต็มทีแล้ว ให้ศรีสว่างพาลูกไปพักเสียดีกว่า

ศรีสว่างพาภิรมยาออกไป เจ้ามองตามอย่างกังวลใจ พอหันมาเจอสีโบจ้องเขม็งก็รีบหลบตามองไปทางอลิสา เจอเธอมองอยู่พอดี เจ้าขวัญฟ้าเสียวสันหลังวาบกับแววตานิ่งๆเย็นๆคู่นั้น

ooooooo

ศรีสว่างพาภิรมยาเข้าห้องพักแล้วก็เซ้าซี้ถามมากมายว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้หนีเข้าป่าไปอย่างนั้น เจ้าไปเจอได้อย่างไร เจอเมื่อไร ตั้งแต่เมื่อคืนหรือเมื่อเช้า แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ศรีสว่างถามจนภิรมยาบอกว่าตนเหนื่อยขอพักก่อนขอร้องแม่ให้ออกไปก่อนตนอยากพักผ่อน พูดแล้วล้มตัว

ลงนอนหันหลังให้แม่ ทำเหมือนพักผ่อนแต่สมองคิดหนักเรื่อง เจ้าขวัญฟ้าเมื่อคืนนี้...

ส่วนอลิสาเห็นว่าเจ้าขวัญฟ้าเงื่องหงอยเงียบเหงาคิดว่าเหนื่อยจึงทำซุปให้ แต่เจ้ากินไม่กี่คำก็วางช้อน อลิสาจะไป ทำอย่างอื่นให้เพิ่มก็ไม่เอา อ้างว่าเหนื่อยกินอะไรไม่ค่อยลง

"จริงสิ คุณภิรมยาก็คงไม่ได้รับประทานอะไรด้วยเหมือนกันใช่ไหมคะ" อลิสาถาม เจ้าสะดุ้งใจพยายามซ่อนสีหน้ากังวลตอบผ่านๆว่าก็คงอย่างนั้น แต่พออลิสาเปรยๆว่าเธอคงหิวแย่ เจ้าก็เล่าว่า

"แต่เธอคงอยากนอนพักผ่อนมากกว่ามังครับ ตอนที่ผมเจอเธอ เธอกำลังขวัญเสียตื่นตกใจมาก เธอไม่ยอมหลับยอมนอนทั้งคืนเลยครับ กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด แค่ลมพัดใบไม้ไหวก็ยังกลัวเลยครับ ผมก็เลยต้องหลอกล่อเล่าเรื่องโน้น เล่าเรื่องนี้เบนความสนใจเธอ"

สีโบเงี่ยหูฟังตลอดเวลา เมื่อเจ้าวางช้อนบอกว่าเหนื่อยอลิสาจึงเชิญเจ้าไปพักผ่อน เมื่อเจ้าขวัญฟ้าไปแล้ว สีโบเข้ามาเก็บโต๊ะช้าๆเริ่มใส่ไฟยุแหย่ว่า

"เจ้าขวัญฟ้าดูแปลกๆไปนะเจ้า คุณหญิงยังไม่ถามเรื่องคุณภิรมยาสักคำ เจ้าก็รีบเล่าทำยังกะว่ากลัวคุณหญิงจะไม่เชื่อใจงั้นแหละเจ้า"

พออลิสาถามว่าจะไม่เชื่อใจอะไร สีโบยุแหย่ว่าผู้หญิงกับผู้ชายอยู่กันทั้งคืนจะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยหรือ ยิ่งภิรมยาสวยออกอย่างนั้น ผู้ชายคนไหนอดใจได้ก็ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว

ใส่ไฟแล้วสีโบเก็บถ้วยชามออกไป ปล่อยให้อลิสาคิดกรุ่นอยู่ตรงนั้น

ooooooo

จบตอนที่ 13
เครดิต ไทยรัฐ



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2553 22:43:01 น. 0 comments
Counter : 316 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com