|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ความฉลาดที่ไม่มีสิ้นสุด
ไปหาพี่กร นี่เป็นคำสั่งที่ฉันพูดกับดาฟล่อนให้เดินไปหาพี่สาว ดาฟล่อนใช้การเรียนรู้จากที่สมาชิกแต่ละคนในบ้านเรียกชื่อกันและกัน ดาฟล่อนสามารถจำได้หมดว่าคนไหนชื่ออะไร และสามารถเดินไปหาคนที่ต้องการให้ไปหา ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะอยู่กันคนละที่กับฉันก็ตาม บททดสอบที่ฉันกับพี่ชอบหยิบยกมาทดสอบดาฟล่อนมากที่สุดคือ การเล่นซ่อนหา และทุกๆครั้งดาฟล่อนจะหาเจอ ไม่ว่าจะหลบอยู่ซอกหลืบไหนภายในบ้าน ฉันมักจะพาดาฟล่อนไปซื้อของที่ร้านใกล้ๆบ้านและขากลับดาฟล่อนจะช่วยถือของกลับมาด้วย หรือแม้แต่เวลาปู่ฉันออกไปซื้อผลไม้ที่รถผลไม้มาจอดหน้าบ้าน ย่าก็จะให้ดาฟล่อนคาบแบงค์พันแล้ววิ่งเอาไปให้ปู่ ดาฟล่อน สามารถปฏิบัติคำสั่งได้อย่างดีไม่มีที่ติและแบงค์พันก็ไม่บุบสลาย แถมยังคาบถุงผลไม้กลับมาให้ย่าที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ถ้าคุณเดินผ่านหน้าบ้านในเวลากลางวันคุณจะได้ยินเสียงหญิงชรากับชายชรานั่งพูดคุยกัน โดยคุณอาจจะคิดว่าคนแก่ 2 คนกำลังพูดกับหลานตัวเล็กๆ ก็เป็นได้ แต่ถ้าหากคุณเดินข้ามาในบ้าน (แต่ขอแนะนำว่าอย่าดีกว่าถ้าคุณยังไม่อยากโดนหมาลาบาดอร์หนัก 40 โล กระโดดใส่) เอาเป็นว่าคุณแค่แอบมองลอดช่องประตูก็ได้ คุณจะได้เห็นหญิงชราและชายชรานั่งพูดคุยกับหมาตัวโต สีเหลืองทอง โดยที่เจ้าหมาก็นั่งฟังอย่างตั้งอกตั้งใจเหมือนกับจะรับรู้ทุกคำพูดของหญิงชรา แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ช่วงเวลาในชีวิตหนึ่งของสุนัขทุกตัวก็ย่อมต้องมีการดื้อและซน หรือการแหกกฎกติกามารยาทที่วางกันไว้บ้าง เมื่อดาฟล่อนอายุได้ประมาณ 10 เดือน จากหมาเรียบร้อยกลับกลายเป็นหมาที่ชอบแทะและชอบกัด ทั้งๆที่ก็น่าจะเลยวัยนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ดาฟล่อนจะเลือดแทะอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือรองเท้าของคุณปู่ผู้แสนจะใจดีของหลานๆทุกคน ปู่จะรักและตามใจหลานมากๆ เวลาที่พวกฉันอยากได้อะไรปู่จะหามาให้ไม่เคยขัดใจคุณปู่เป็นคนทีทำอาหารเก่งและรสชาติก็อร่อยถึงขั้นเปิดร้านอาหารได้เลยทีเดียว ในวัยเด็กด้วยความที่ฉันเป็นน้องเล็กพวกพี่ๆ 5 คน มันจะชอบแกล้งฉันบ่อยๆและก็ต้องจบลงด้วยการที่ฉันต้องรีบวิ่งมาฟ้องปู่ทันทีปู่ก็จะรีบโอ๋ฉันและไปจัดการกับพี่ๆตามระเบียบ เอาหละคะ เรามาพักเรื่องของคุณปู่ผู้แสนใจดีกันก่อนนะคะ กลับมาที่เรื่องราวของดาฟล่อนกันดีกว่าค่ะ อืม...ถึงไหนแล้ว อ้อ...ทุกครั้งที่ดาฟล่อนคาบรองเท้าปู่ไปแทะปู่ก็ต้องตามไปเก็บมาทุกครั้งและเอามานั่งซ่อม แต่พอวันต่อมาดาฟล่อนก็คาบเอาไปแทะอีกเป็นอย่างนี้อยู่ทุกวันจนสุดท้ายปู่เลยตัดใจยกรองเท้าให้ดาฟล่อนเอาไปนอนกกนอนกอดอย่างสบายใจ ส่วนย่าหรอค่ะนั่งหัวเราะชอบอกชอบใจกับศึกแย่งชิงรองเท้าระหว่างคนกับหมา ดีใจจังวันนี้กลับบ้านไปจะได้กินเนื้อแดดเดียวฝีมือคุณปู่ ฉันคิดพร้อมกับเปิดประตูข้าบ้านมาก็เห็นพ่อครัวใหญ่นั่งหน้าหงิกรอฉันอยู่หน้าบ้าน (เอ...มันยังไงกันหว่า) วันนี้มีเนื้อแดดเดียวใช่มั้ยค่ะปู่ ฉันร้องถามปู่ด้วยความตะกละ เอ้ย...ด้วยความหิวต่างหากเล่า ไม่มี...หมาแกกินไปหมดแล้ว ตอบกลับมาด้วนน้ำเสียงหงุดหงิด ม่ายย...จริง เป็นไปไม่ได้ ความหวังพังทลายต่อหน้าต่อตา ใช่ฉันฟังไม่ผิดเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน ปู่ของฉันนำเนื้อออกมาตากแดดหวังว่าบ่ายๆจะมาเก็บเพื่อนำไปทอดให้หลานได้ลิ้มรส แต่พอมาดูอีกทีมันหายไปแล้ว หายไปหมดเหลือแต่ถาดใส่เนื้อในตอนนั้น ปู่โกรธมาหาว่าคนานของอาเขยแอบมาขโมยเนื้อ คนงานก็ปฏิเสธกันเป็นพัลวัน ระหว่างที่กำลังโต้เถียงกันไม่หยุดสถานการณ์กำลังตึงเครียดอยู่ดีๆดาฟล่อนก็เดินเข้ามากลางวงสนทนาพร้อมทั้งคายเนื้ออกมาทั้งหมดต่อหน้าต่อหน้าผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาและนั่งทำหน้าสำนึกผิด เพียงแค่นี้เหตุการณ์ที่กำลังตึงเครียดมีแต่เสียงทุ่มเถียงกันก็แปรเปลี่ยนไปเป็นเสียงหัวเราะเข้ามาแทน เจ้าขโมยตัวดีนั่งทำหน้าสำนึกผิดพร้อมทั้งของกลาง สุดท้ายปู่ก็ต้องน้ำเนื้อกองนั้นกลับไปล้างแล้วนำไปต้มให้ดาฟล่อนกินสมใจหมาลาบาดอร์ (ก็แหมใครจะไปกล้ากินต่อหละหรือว่าคุณกล้า)
Create Date : 25 กันยายน 2548 |
|
1 comments |
Last Update : 25 กันยายน 2548 16:39:21 น. |
Counter : 354 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ปุ้ม IP: 61.91.193.70 26 กันยายน 2548 11:18:48 น. |
|
|
|
| |
|
|