แม้อากาศจะหนาวเหน็บเพียงใด เมื่อหัวใจเรามีเพื่อน แม้กายเราจะหนาว แต่หัวใจของเรา อบอุ่น...เสมอ...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 มกราคม 2548
 
All Blogs
 
แล้วเจ้าชายตัวจริงก็มารับเจ้าหญิง

แสงแดดแผดกล้าในยามบ่ายคล้อย

เขานั่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ข้างสนามบาส เหงื่อไหลซึมเซาะจากศีรษะ มาตามโหนกแก้มด้วยความร้อนระอุ ยังดีมีลมเฉื่อยๆ พัดมาบ้าง สายตาของเขามองตาม การเคลื่อนไหวของเพื่อนสาว ที่กำลังซ้อมชู้ตลูกบาสลงแป้น อยู่ท่ามกลางแดดจัด อย่างไม่สะทกสะท้าน ดูเธอเอาจริงเอาจังเหลือเกิน เขาไม่แปลกใจเลยที่เธอคือ หนึ่งในนักกีฬาโรงเรียนเช่นเดียวกับเขา ชายหนุ่มดึงผ้าขนหนูสีขาวพาดอยู่ที่คอขึ้นเช็ดเหงื่อ

"เฮ้ย! ฮาม ลงแล้วเว้ย! "

สาวห้าวหันมา ตะโกนบอกเขาอย่างดีใจ หลังจากที่ฝึกอยู่นาน โดยมีเขาเป็นเสมือนครูฝึก

"ฝึกมาเป็นปี พึ่งลงหรือไง " เขาตะโกนแหย่
" เออ!! ไม่เก่งเหมือนนายสักวัน ให้มันรู้ไปสิ! " เธอหันมาตะคอกใส่เขาอย่างเคืองๆ

ชายหนุ่มถอนใจ…

"เฮ้อ...ไม่เคยอ่อนหวานเล้ย! พับผ่าสิ! "

เขามองเพื่อนสาวท่าทางออกทอมบอยอย่างระอา ในความแข็งกร้าวของเจ้าหล่อน

แล้วอยู่ๆ เขาก็ต้องสะดุ้ง!

รู้สึกชาซ่านไปทั้งแถบ บริเวณแก้มด้านซ้าย หลังจากที่ถูกลูกบาสทั้งลูก วิ่งตรงดิ่งเข้ากระแทกแก้มเขาอย่างจัง

"เฮ้ย! เล่นอะไรวะ! เจ็บนะ"

ชายหนุ่มชักฉุน พลางลูบแก้มที่เป็นรอยปื้นแดง

"ก็ใครให้มัวนั่งใจลอยวะ" เธอวิ่งกลับมาเก็บลูกบาส
"ไหนดูซิ" เธอก้มเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วระเบิดเสียงหัวเราะใส่เขา
"โธ่...นิดหน่อย ยังไม่หมดหล่อหรอกน่า!"
"เอามั้งมั้ยล่ะ" เขาลุกขึ้น เข้าแย่งลูกบาสจากมือเธอ สาวน้อยหลบอย่างว่องไว

"เก่งจริงมาแย่งเซ่!!" เธอประกาศคำท้า แล้วเลี้ยงลูกออกไปกลางแดด

ฮามวิ่งเข้าไปแย่งลูกตามคำท้าทาย แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เขาก็จนปัญญาที่จะแย่งลูกจากเธอมาได้ ด้วยเหตุผลนี้เอง เธอจึงได้เป็นนักกีฬาของโรงเรียน ไม่ใช่เพราะเธอชู้ตลูกได้แม่นยำ แต่เพราะลีลาการเลี้ยงลูกที่คล่องแคล่วว่องไว การหลีกหลบอย่างมีชั้นเชิงและมีไหวพริบ

"ว่าไง...หอบแดกแล้วเหรอ" เธอถามขึ้น เมื่อเห็นเขาหยุดหอบ หายใจแรงๆ
"ปากเหรอนั่นน่ะ พูดให้มันเพราะๆ มั่งไม่ได้หรือไง"
ฮามเดินหลบเข้าร่มชมพู่พันธุ์ทิพย์ตามเดิม
สาวน้อยขมวดคิ้วเดินตามเพื่อนหนุ่มเข้าไป แล้วนั่งลงข้างๆ หยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ ขึ้นมาเช็ดเหงื่อ
"ดูสิ ผมเผ้ายุ่งเชียวไม่รู้จักดูแลซะมั่ง" เขาไม่พูดเปล่า ยื่นมือไปเสยผมคุณเธออีกต่างหาก

"เฮ้ย! มายุ่งอะไรกับหัวเราล่ะ" เธอพรวดพราดลุกขึ้น

"เป็นอะไรวะ! ฮาม!"
มาดเธอยืนจังก้า บอกอาการว่าเอาจริงเอาจังและโกรธน่าดูเลย
"เดี๋ยวก็ด่าว่าพูดไม่เพราะ เดี๋ยวก็หาว่าไม่รู้จักดูแลทรงผม ทุกทีไม่เคยเห็นว่านี่หว่า นายเป็นอะไร"

"เบาๆ สิ รีบนั่งลงเถอะ" ฮามจุปากเบาๆ ดึงมือเพื่อนสาวให้นั่งลง

"เอ๊ะ !บอกว่าไม่ชอบ!" เธอสะบัดมือชายหนุ่ม แล้วนั่งลงอย่างหัวเสีย ที่เขาถือวิสาสะมาดึงข้อมือเธอโดยพละการอย่างนี้
"โธ่.. ก็แค่....อยากให้รีมเป็นผู้หญิงเหมือนคนอื่นเขาบ้างก็แค่นั้น คงจะดูดีนะ ไม่ใช่ออกทอมๆ แบบนี้ เดี๋ยวก็ขึ้นคานหรอก"
"เราก็เป็นของเราแบบเนี้ย! ถ้าจากเนี้ย! ก็ไม่ใช่ รีม คนนี้แน่ แต่...รับรองว่า เรานะผู้หญิง 100% เต็มนะ"

ชายหนุ่มส่ายหัว เหมือนไม่อยากจะเชื่อ…

"เออ.... แล้วไอ้หุ่น ไอ้ฮก ไอ้ฮัก จำปีแล้วก็พริกสวนหายไปไหนกันหมดละ"
เธอแปลกใจที่บรรดาเพื่อนร่วมแก๊ง ต่างหายตัวไปตั้งแต่ตอนพักกลางวัน
"ยังไม่เลิกมั้ง"
"เฮ้ย! สมองกลับหรือเปล่า ก็ช่วงบ่ายห้องเราไม่มีเรียนนี่ พวกนั้นก็ห้องเดียวกับเราชัดๆ มันจะยังไม่เลิกได้ยังไง"
"มันเคยปากน่ะ ที่จริงเราก็ไม่รู้ ก็เราอยู่กับนายตลอดเวลานี่"
"อ้าว...พูดถึงก็มาพอดี" รีมเหลือบไปเห็นเพื่อนร่วมแก๊งพากันเดินมา ส่งเสียงเฮฮาดังลั่น
"แม่ง! อายุยืนฉิบ..." เธอพูดได้เพียงแค่นั้นเมื่อเขาจ้องมาเขม็ง
"กินน้ำป่าว… จะไปซื้อน้ำ"

ชายหนุ่มส่ายหน้า

สาวน้อยเดินแทบจะวิ่งไปยังร้านน้ำข้างสนามบาส และไม่ทันเห็น ชนโครม!! กับเด็กสาวคนหนึ่ง เด็กสาวเซลงไปนั่งจุมปุ๊กอยู่กับพื้น
"อุ้ย! น้อง ขอโทษจ้ะ"
รีมรีบเข้าไปพยุงเด็กสาวขึ้น

เด็กสาวยิ้ม

"ไม่เป็นไรค่ะ" ดูเธอออกจะดีใจมากกว่าเจ็บตัว

รีมคุ้นๆ หน้าเด็กสาว และนึกได้ว่าเห็นเธอมานั่งข้างสนามบาสตอนเย็นดูพวกเธอและเพื่อนๆ ซ้อมบาสเป็นประจำหลังเลิกเรียนแล้ว

รีมเดินถือแก้วน้ำกลับมาอย่างงงๆ ก็สาวน้อยคนนั้นขอเลี้ยงน้ำเธอ แถมยังสั่งน้ำโปรดให้เธอ อย่างรู้ใจทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ถามซักคำ ยิ่งกว่านั้นยังมาขอกลับบ้านพร้อมกับเธออีกต่างหาก ทำให้เธอเกิดอาการเป็นเง็งอย่างที่สุด

"เฮ้ย! ฮามนายเห็นเด็กคนนั้นมั้ย" เธอเดินกลับเข้าร่มชมพูพันธุ์ทิพย์ พลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่มช้าๆ
"อ้อ...ยัยคีย์ น้องไอ้ฮักไง" เขาบ่ายหน้าไปทางชายร่างท้วมที่นั่งคุยขโมงอยู่ในวงเพื่อนทางด้านหลัง
"มิน่าล่ะ...." รีมมองไปยังตึกที่สาวน้อยเดินหายตัวไป

ฮามคว้าแก้วน้ำจากมือเพื่อนสาวมาดื่ม แล้ววางลงที่โต๊ะม้าหิน

"เฮ้ย! ไอ้ฮัก มีน้องสาวน่ารักนี่หว่า" รีมหันไปชมเพื่อนที่หายไป ตั้งแต่พักกลางวัน เพิ่งจะโผล่หัวมาให้เห็น
"น่ารักตายเลย ขี้โรคฉิบหาย" ชายร่างท้วมบ่นถึงน้องสาวตัวเอง
"อะไรวะ ด่าน้องตัวเอง" รีมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆ แล้วหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะม้าหินขึ้นมา

"อะไรวะ! ฮาม...แม่งกินหมดเลย" มองในแก้วเหลือแต่น้ำแข็ง
"ไหนบอกไม่กินไงล่ะ"
ชายหนุ่มยิ้มกวนๆ เหมือนจะถามว่า "มีอารายอ๊ะเปล่า"
"สองคนนั้นนะ อย่ามัวเถียงกันอยู่เลย โค้ชมาแล้ว" เสียงไอ้ฮักตะโกนห้ามเมื่อเห็นว่าภูเขาไฟทำท่าจะระเบิด

ทุกคนพากันลุกขึ้น วิ่งไปรวมตัวกันเข้าแถวเป็นระเบียบอย่างเร็วปรื๋อ เมื่ออาจารย์หนุ่มใหญ่เป่านกหวีดเรียก
================

เย็นมากแล้ว…

รีมคอยหันไปมองขอบสนาม ที่เคยเห็นสาวน้อยน่ารักมานั่งมองเธอและเพื่อนๆ ซ้อมบาสอย่างเคย
"ฮาม...เย็นนี้ไม่ต้องไปส่งเรานะ" รีมพูดขึ้นขณะเดินไปนั่งพักเหนื่อย ใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
"ทำไมล่ะ" ชายหนุ่มเลิกคิ้ว "เราก็ต้องผ่านอยู่แล้ว" ในแววตานั้นสลดลงเล็กน้อย

เพื่อนสาวยิ้ม

"เจ้าหญิงนัดเจ้าชายว่าจะกลับบ้านด้วยกัน" เธอนึกถึงเด็กสาวที่วิ่งชนกันเมื่อบ่าย
"น่ารักเป็นบ้าเลย ตากลมฉายแววซื่อๆ รอยยิ้มสดใสร่าเริง"

"อะไรวะ! ไหนว่าเป็นผู้หญิง 100% เต็มไง" ฮามขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว

หญิงสาวโบกไม้โบกมือปฏิเสธพัลวัน

"ม่ายช่าย...โธ่...คิดอะไรอย่างงั้น คนเขาเอ็นดูกันน่ะ เข้าใจม้ะ คำว่าเอ็นดูน่ะ" เธอเน้นเสียง

"ขอให้จริงเหอะ"

"อาจเป็นเพราะ เราไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ หรือมีใครคิดว่าเราสำคัญต่อเขามั้ง พอมีคนมาให้ความสำคัญก็เลยอดดีใจเกินหน้าเกินตาไปหน่อย ก็เท่านั้น" รีมพูดขึ้นลอยๆ คล้ายจะกระซิบบอกตัวเอง พลางคิดว่า ทำไมคนเราถึงอยากเป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญด้วยนะ

ชายหนุ่มมองหญิงสาวนิ่งงัน

“เรานี่ไงล่ะ ที่เห็นความสำคัญของเธอที่สุดนะ และเธอ เป็นมากกว่าคำว่า "เพื่อน" นะรีม” เขาได้แต่เก็บคำเหล่านั้นไว้ในใจ และรู้ดีว่ายังไม่ควรบอกความรู้สึกที่มีต่อเธอตอนนี้ เขาอยากให้เวลากับตัวเอง เพื่อค้นหาความรู้สึกที่แท้จริงในใจ และอยากจะแน่ใจตัวเองมากกว่านี้

"ตกลงเย็นนี้จะไปกับเจ้าหญิงจริงง่ะ" ฮามถามย้ำ

"งั้น…เย็นนี้เราคงเหงา…ไม่มีคนซ้อนท้าย"

เขาเสียงเบาลงราวกับเสียงกระซิบ เมื่อเห็นรีมพยักหน้า

“โธ่เอ๊ย! ทำเป็นขี้เหงาไปได้ ก็ทำไมไม่หาฟงแฟนสักคนล่ะ นายก็ออกจะหล่อเหลา เอาการอยู่นา สาว ๆ ออกติดกันแจนี่นา”
รีมเพ่งมองใบหน้าคมเข้มของเพื่อนหนุ่มขี้เหงา

"ไม่ล่ะ! เข็ดแล้ว" เขาปฏิเสธ
"โธ่...ผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันทั้งโลกนะเว้ย! " เธอรู้ดีว่า อดีตเขาเคยผิดหวังและเสียใจอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องราวของความรัก

"ช่างเหอะ จะคนไหนก็ช่าง ไม่มีใครเหมือนรีม…"

คำพูดประโยคสุดท้ายแผ่วเบา เขาหันมาประสานสายตากับเธอตรง ๆ

สายตานั้นทำให้รีมผงะ! ไปเหมือนกัน เป็นสายตาที่ทำให้รู้สึกไม่กล้าที่จะสู้สายตายังไง ก็บอกไม่ถูก แล้วรีบทำลายความเงียบงัน กลบเกลื่อนด้วยเสียงทีเล่นทีจริง

"ยังไงวะ ไม่เหมือน"
"นายพูดมากฉิบหาย!" เขาหัวเราะ
"เวลาซ้อนท้ายเรานะ หนวกหูชะมัด" เขานึกถึงตอนที่เธอซ้อนมอร์เตอร์ไซด์เขากลับบ้าน

"ไอ้บ้าเอ๊ย!!" รีมฟาดเข้าแรงๆ ด้วยผ้าขนหนูเข้าที่ต้นแขนเพื่อนหนุ่ม

ชายหนุ่มหลบ ก่อนจะยื่นหน้ามาบอก

"มันไม่เหงาหูดีว่ะ"

"สองคนนั้นน่ะทำอะไรอยู่ หมดเวลาพักแล้ว ลงมาซ้อมต่อสิ" เสียงโค้ชตะโกนดุแหยงๆ อยู่ที่ข้างสนามด้านตรงข้าม

สองสหายรีบตารีตาเหลือก วิ่งลงสนามไป


================

เมื่อซ้อมเสร็จ เด็กสาวรีบวิ่งเข้าไปหารีมตามนัด รีมขอตัวเดินเอาข้าวของไปเก็บที่ห้องพักนักกีฬ่า

"ไปนะฮาม......เจ้าหญิงมารับเจ้าชายแล้ว" เธอยิ้มกวนๆ ใส่เพื่อนหนุ่ม ก่อนที่จะเดินออกจากห้องพักไป

ฮามได้แต่มองตามด้วยสายตาเหงาหงอย เขาไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ เก็บของเข้าล็อกเก้ออย่างเงียบเฉียบ แล้วจึงเดินไปยังลานจอดรถมอร์เตอร์ไซด์หลังตึกเรียน หยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวม มองหมวกกันน็อคอีกใบ ที่รีมเคยใส่ประจำ พร้อมกับขึ้นมาส่งเสียง โหวกเหวกโวยวายกวนประสาทเขาอยู่ข้างหลัง เขาสต๊าร์ทรถนำรถมอร์เตอร์ไซด์คู่ใจแล่นทยานออกจากโรงเรียน นึกถามหมวกกันน็อคใบนั้นว่า

มันจะเหงาบ้างไหมเมื่อขาดเธอ รีม!

สมองของเขาคิดวกวนอย่างรู้สึกสับสน ทำไมเขาถึงรู้สึกเงียบเหงาหัวใจอย่างนี้ นี่เธอมีอิทธิพลกับตัวเขาเองขนาดนี้เชียวหรือ แต่ก่อนก็ไม่เคยมีเธอนั่งซ้อนท้ายนี่หว่า พอวันนี้จะไม่มีเธอเหมือนแต่ก่อนที่เคยไม่มี ทำไมมันรู้สึกแย่อะไรอย่างนี้นะ ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบซักกะหน่อย จริง ๆ เขาชอบผู้หญิงอ่อนหวานอ่อนโยน สุภาพเรียนร้อย พูดจาเพราะรื่นหูต่างหาก เวลาได้อยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกสบายใจ น่าทะนุถนอม แต่แล้วเมื่อเขาได้พบเจอกับผิดหวังและความเจ็บปวด ทรมานแทบไม่สามารถประครองลมหายใจเอาไว้ได้ ความรู้สึกนั้นยังคงฝังรากลึกอยู่ในจิตใจ เขาเข็ดและขลาดกลัวต่อความสูญเสีย และไม่เคยคิดที่จะสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย

แต่กาลเวลาเหมือนยาสมานแผล ความคุ้นเคยและความใกล้ชิด มีผลต่อความรู้สึกที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป มันก่อใยบางๆ ห่อหุ้มและมัดหัวใจเขาไว้แน่น จนไม่อาจจะดิ้นหลุดออกมาเป็นอิสระ จากสายตาที่เคยมองเธออย่างเพื่อน เพื่อนที่สนิท เพื่อนที่รู้ใจ มันเริ่มเปลี่ยนไป อย่างที่เขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว ทั้งๆ ที่เขาเคยมองข้ามเธอมาตลอด

รีม หญิงห้าว ผมที่ซอยสั้น ทำให้เธอดูคล้ายเด็กผู้ชายซุกซนมากกว่า ที่จะเป็นผู้หญิง แม้เขาจะระอาในการพูดแบบขวานผ่าซากของเธอ แต่ทุกคำที่เธอพูดก็ตรงไปตรงมาจริงใจทุกคำ โผงผางเป็นที่หนึ่ง หัวแข็งและดื้อรั้น แต่ก็ไม่เคยมีใครโกรธ เมื่อถูกเจ้าหล่อนด่าเอาเจ็บๆ แสบๆ ทุกคนต่างเข้าใจในความเป็นเธอ ข้อดีของเธอชนะใจเพื่อนๆ ทุกคน ไม่มีใครปฏิเสธ หากบอกว่า รีม เป็นคนเปิดเผยจริงใจจริงจัง และมีน้ำใจต่อเพื่อนๆ ทุกคนสม่ำเสมอเท่าเทียมกัน

หากรีมจะลดกิริยาแข็งกร้าวแบบผู้ชายและความดื้อรั้นแบบหัวชนฝาลงบ้าง เธอคงจะน่ารักดีพิลึก แต่บางทีถ้าเธอจะเป็นอย่างผู้หญิงทั่วไปเป็น เขาคงต้องหัวเราะขำกลิ้งสี่ห้าตลบ มันคงจะดูเก้งก้างพิกล ที่สำคัญเห็นเธอห้าว ๆ อย่างนี้ แต่เธอหวงเนื้อหวงตัวน่าดูเลย เขาเคยนึกสนุกแกล้งเธอ

วันนั้นเธอและเขาซ้อมบาสอยู่จนเย็นอย่างเคย ขณะที่กำลังแย่งลูกบาสกันนั้น เขาจับทั้งมือเธอ ทั้งลูกบาสมาด้วย รีมจ้องหน้าเขาเขม็ง และรู้ว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญ และเขาจงใจแกล้งเธอ แต่สายตาเธอตอนนั้นไม่ได้นึกสนุกด้วยเลย เธอกระแทกลูกบาสเข้ากับท้องเขาอย่างแรง จนเขาจุกเซล้มไปนอนตัวงอ เธอโกรธเอามาก ๆ ไม่ยอมพูดกับเขานานเป็นเดือน

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเกือบเสียเพื่อนที่แสนดีอย่างเธอไป หลังจากนั้น เขาไม่กล้าคิดที่จะแกล้งเธออย่างนั้นอีกเลย แต่น่าแปลก ความรู้สึกดีดีที่มีต่อเธอกลับมีเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จนรู้สึกว่าขอแค่ได้ใกล้ชิด เป็นเพื่อนกับเธออย่างนี้ก็พอ แค่นี้ก็มีความสุข และไม่ต้องการอะไรจากเธออีกแล้ว..

ชายหนุ่มยิ้มอยู่คนเดียว กับเรื่องราวที่ผ่านมา…

แต่วันนี้…ตอนนี้…เวลานี้…

ทำไมเขาถึงได้รู้สึกอิจฉาเด็กผู้หญิงคนนั้น ที่ได้กลับบ้านกับเธอก็ไม่รู้…

สีหน้าของเขาหม่นลงอีก

“ไอ้บ้าเอ๊ย!!” เขาบ่นตัวเอง

เขาหักหัวรถเลี้ยวซ้าย เข้าซอยเล็กๆ


ฮามเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อมองเห็นรีม เดินกลับบ้านอยู่เพียงลำพัง เขาชะลอรถ แล้วจอดลงตรงหน้าหญิงสาว

"เจ้าหญิงไปไหนซะล่ะรีม" ชายหนุ่มยิ้มเล็กๆ หัวใจเหี่ยว ๆ เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นรื่นเริงขึ้นมาทันที

"เอ่อ...อ่า...” เธออึก ๆ อักๆ อยู่ในลำคอ… พลางหลบสายตาลงต่ำ

“ว่าไงล่ะ รีม…ทำไมกลับบ้านคนเดียว เจ้าหญิงทิ้งเจ้าชายไปไหนแล้ว” มองกิริยาของเธอตอนนี้แล้ว มันยิ่งทำให้เธอน่ารักขึ้นเป็นทวีคูณ นาน ๆ จะได้เห็นเธอลดดีกรีความห้าวลงบ้าง

“คือว่า…” เธอกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะบอกเขา กลัวเขาหัวเราะเยาะเอา เล่นมาถามแบบนี้ แถมยิ้มน่าระรื่นอีกต่างหาก มันทำให้พาลจะพูดอะไรไม่ออกเอาเสียเลย

“เจ้าชายตัวจริงมารับตัวไปแล้ว… เราก็..ก็...เลย…"

"งั้น…กลับกับเรานะ"

น้ำเสียงเขาอ่อนโยน เต็มไปด้วยความเอื้ออาทร เขาสวมหมวกกันน็อคอีกใบให้เธอ มือของเขายังค้างอยู่บนหมวกกันน็อค มองเธอนิ่ง ก่อนที่จะปล่อยมือ แล้วก้าวขึ้นรถ

“…………………….”

"อ้าว! ขึ้นมาสิ! มัวแต่ยืนเซ่ออยู่ได้" เขากระแทกเสียงเมื่อเห็นเพื่อนสาวยืนนิ่งงันงุนงงอยู่

รีมรีบกระวีกระวาดขึ้นซ้อนท้ายเพื่อนหนุ่ม

"นี่! แล้วก็หยุดฝันเฟื่อง ที่จะเป็นเจ้าชายปลอมๆ ได้แล้วเจ้าชายตัวจริงอยู่ตรงนี้ต่างหาก" เขาหันมาบอกก่อนที่จะบึ่งรถพุ่งทะยานไปข้างหน้า

รีมฟังแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเสียงดังอย่างขำสุดขีด หลังจากที่เมื่อกี๊รู้สึกเสียฟอร์มสุด ๆ

"เฮ้ย! ผู้หญิงน่ะ เขาหัวเราะเบาๆ โว้ย…!!" เขาหันมาดุ เมื่อหยุดให้รถที่สวนมาเลี้ยวไปก่อน
"นายอะเดะ!! ฝันเฟื่อง เจ้าหญิงยังไม่มีเล้ย! " เธอหัวเราะต่อ พอเขาหันมามอง จึงรีบหุบปากได้แต่อมยิ้ม

"ถ้ารีม ยอมเป็นเจ้าหญิงของเรา เราก็จะเป็นเจ้าชายตัวจริงไงล่ะ" เขาพยายามเก๊กเสียงหล่อเต็มที่ เหมือนจะหยั่งเชิงเธอ ถ้อยคำ น้ำเสียง เหมือนพูดเล่น แต่จริง ๆ มีความจริงซ่อนอยู่ในความหมายและคำพูดนั้น อย่างที่หัวใจต้องการอยากจะบอกเธอ

รีมอึ้งไปชั่ววินาที ก่อนที่จะรีบพูดกลบเกลื่อนเสียงดัง

"ไอ้บ้า! เดี๋ยวเบิ๊ดกระโหลกแตกเลย เอาไว้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ละกัน"

เขาอมยิ้ม สายตามองตรงไปยังทางข้างหน้า เขาไม่รีบที่จะขอคำตอบจากเธอ และอยากใช้เวลาให้นาน ให้ความรักค่อย ๆ ก่อตัวของมันเองขึ้นอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง

เขารู้สึกอบอุ่นใจที่มีเธอนั่งโวยวายอยู่ข้างหลังอย่างนี้ เวลานี้ เท่านี้ เพียงพอแล้ว….

แล้วรีมก็เริ่มสาธยายเล่าเรื่องสัปเพเหระให้เขาฟังเหมือนเคยไปตลอดทาง





Create Date : 03 มกราคม 2548
Last Update : 3 มกราคม 2548 18:15:24 น. 15 comments
Counter : 360 Pageviews.

 
แวะมาอ่านน่ะครับ


โดย: joblovenuk (joblovenuk ) วันที่: 3 มกราคม 2548 เวลา:18:58:54 น.  

 









เข้ามาทักทายค่ะ










เยี่ยมชม





โดย: พันหมื่นราตรี (ฟ้าพราว ) วันที่: 3 มกราคม 2548 เวลา:22:22:20 น.  

 


อรุณสวัสดิ์จ๊า..
โห..ยาวมั่กๆ^^





~welcome 2 cherry's world~



โดย: ~cherry cheerleader~ วันที่: 4 มกราคม 2548 เวลา:7:19:29 น.  

 
แวะมาอ่านครับหนุกดี


โดย: layna IP: 221.128.89.86 วันที่: 3 กันยายน 2548 เวลา:19:49:46 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ^ _ ^



โดย: ริเศรษฐ์ วันที่: 3 กันยายน 2548 เวลา:20:02:05 น.  

 
น่า รัก จัง


โดย: น้ำ IP: 202.57.180.188 วันที่: 26 ตุลาคม 2548 เวลา:0:02:55 น.  

 
น่ารักจัง

ไม่ได้ก็อปข้างบนนะตะเอง


โดย: อาราเร่ IP: 203.113.86.156 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:07:42 น.  

 
มาแล้วครับผม
เรื่องน่ารักๆ เรื่องนี้ เหมือนจะเคยอ่านที่พี่ริส่งมาให้แล้วนะคะ
ว่าแล้ว เราก็รอเจ้าชายต่อไป
เอ๊ะ..หรือเราจะไปตามหาเจ้าหญิงดีหว่า???
555


โดย: นกยูง IP: 161.200.255.161 วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:38:34 น.  

 
เรื่องของวัยใสๆ นึกกี่ทีกี่ครั้งก็อมยิ้มครับ เรื่องนี้ทำให้นึกถึงสมัย ม.ปลายจริงๆ


โดย: Champ IP: 58.10.155.145 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:23:03 น.  

 
เวปน่ารักดีเจ้าค่ะ เนื้อห่ก็น่ารักดี แต่ชอบประโยคนี้มั๊กๆๆ แล้วเจ้าชายตัวจริงก็มาเจ้าหญิง....ดูอบอุ่นจัง >


โดย: snopchan IP: 58.8.119.218 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:25:56 น.  

 
แล้วเจ้าชายตัวจริงก็มารับเจ้าหญิง.....อ่านแล้ว...อมยิ้มเรยยย..


โดย: snopchan IP: 58.8.119.218 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:29:25 น.  

 
ทำเวปสวยดีค่ะ "ถ้ารีม ยอมเป็นเจ้าหญิงของเรา เราก็จะเป็นเจ้าชายตัวจริงไงล่ะ"...ทุกคนคงอยากมีเจ้าชายตัวจริง...555 ชอบค่า...( น้องสาว snopchan )


โดย: pinku IP: 58.8.119.218 วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:47:34 น.  

 
อ่านแล้วน่ารักดีค่ะ

ฝ่ายชายเปิดใจจนยอมเป็นเจ้าชาย แล้วฝ่ายหญิงหล่ะจะคิดยังไงกับเจ้าชายคนนี้หล่ะคะ

เอิ๊กๆๆ เหมือนว่า รำพันกับตัวเองนะว่าเมื่อไหร่จะเจอเจ้าชายตัวจริงสักที เอิ๊กๆๆ
อ่านไปอมยิ้มไป น่ารักค่ะ


โดย: ดาว..กลางวัน IP: 210.246.66.37 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:17:47:23 น.  

 
ถ้าใม่มีน้องคนนั้น จะรู้ใด้อย่างใรว่า เจ้าหญิงเจ้าชายตัวจริง อยู่ตรงนี้ ใม่น่ารีบจบเลย สนุกมาก


โดย: chalee IP: 124.121.192.111 วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:21:13:13 น.  

 
WOW.
AMAZING!
Thank You!

Kub.


โดย: Idea IP: 180.180.5.171 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:23:50:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ริเศรษฐ์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ที่นี่คือบ้านแห่งมิตรภาพ
ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกำหลาบความเหงา
ถนนน้ำใจ ตำบลยอมรับ ทั้งหนักทั้งเบา
อย่าลืมอำเภอเรา อำเภอจริงใจที่สุดตลอดกาล
อ้อ! จังหวัดเป็นกำลังใจให้ตลอด
หากเธอว่างแวะมาจอดอย่ารีบผ่าน
ระหัสไปรษณีย์ “รอเธอมาเป็นเพื่อนอยู่นะ”
รอพบพาน.....
ไงก็มาสาบานเป็นเพื่อนกัน
ข้อความทักทาย s
New Comments
Friends' blogs
[Add ริเศรษฐ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.