--[รักสนุกไม่ผูกพัน สู่ รักสนุกทุกข์ถนัด]-- ผมคิดอยู่หลายตลบว่า ผมจะตั้งกระทู้นี้ดีหรือไม่?? เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะคาบเกี่ยวกับความถูกต้องและศีลธรรมในการกระทำของผม และ เพื่อน ๆ และ อาจจะทำให้ภาพพจน์ของตัวเอง ที่ดีเลิศประเสริฐศรี (จริงเหรอวะ) ต้องมามัวหมองด้วยเรื่องราวต่อไปนี้ แต่มาคิด ๆ ดูแล้ว กรณีเช่นนี้ ในปัจจุบัน มันคงเป็นเรื่องที่เราจะปฎิเสธกันแทบไม่ได้เลย กับการไปเที่ยวในสถานบันเทิงต่าง ๆ แล้วได้ผู้หญิงกลับบ้าน (ในทางกลับกัน ผู้หญิง (บางคน) ก็ประสบความสำเร็จ มีผู้ชายพากลับบ้านเช่นเดียวกัน) และแน่นอนอีกเช่นเดียวกัน ผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่ผมครับ!!! T_T ด้วยที่ว่า หน้าตาผมค่อนข้างเป็นอาวุธชั้นเลิศ ที่หญิงเห็นหญิงกรี๊ดสลบ!! หน้าตาดีครับ ดีขนาดที่ผู้หญิงที่ว่า เมาจัด ๆ เห็นหน้าผมก็หายเมาได้นั่นแหล่ะ T_T ดีขนาดที่ว่า ยันฮีส่ายหัว บอกคุณตัดหัวทิ้งจะง่ายกว่า!! ไม่ดีไม่ว่า แถมยัง no option อีกต่างหาก T_T เอาล่ะครับ ก่อนจะออกทะเลไปซะก่อน ผมจะขอเล่าเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ สอนหญิง และ สอนชายทั้งหลาย ที่เข้าไปเที่ยว หรือ สถานการณ์ใดก็แล้วแต่ แล้วได้ผู้หญิง หรือ ผู้ชายกลับบ้าน เข้าทำนอง "รักสนุก ไม่ผูกพันธ์" "On Night Fan" "น้ำแตกแล้วแยกทาง" อะไรก็ว่ากันไป ว่าให้ดูทิศทางลมกันให้ดี เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะมีเหตุการณ์เหมือนกับที่พวกผมเจอกันมาได้ เรื่องมันเกิดมาเมื่อประมาณ กลางเดือนที่ผ่านมาแล้วครับ (ใช้เวลาคิดนานมากว่าจะเล่าดีหรือไม่เล่าดี T_T) ผมกับเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ไม่บอกว่าเป็นที่ไหนก็แล้วกันครับ เพราะไม่ว่ามันจะเป็นที่ไหน มันก็เกิดได้เหมือนกันหมดแหล่ะ!! ผมกับฝูงเพื่อน อีก 5 คน มีนัดกันไปเที่ยวประจำเดือน ขอบอกไว้ก่อนว่า ฝูงเพื่อน ๆ ผมทั้ง 5 คนนั้น หน้าตาดีทุกคน บางคนจัดเข้าขั้นหล่อมาก อืมมมม มาคิด ๆ ดูแล้ว ขอเปลี่ยนเป็น หน้าตาเป็นที่ต้องการของสาว ๆ ส่วนมากดีกว่าครับ ขืนบอกว่าหล่อ เดี๋ยวก็จะมีการถามกันอีกว่า หน้าตาอย่างไหนถึงเรียกว่าเหล่อ เพราะบรรทัดฐานความหล่อของหนุ่ม ๆ สำหรับสาว ๆ ไม่เหมือนกันซะด้วย เอาเป็นว่า เป็นหน้าตาที่สาว ๆ ชอบก็แล้วกันครับ เดี๋ยวจะมีการขอดูรูป แล้วจะมาแขว่ะผมทีหลังว่า นี่หรือที่เรียกว่าหล่อ ถ้าอย่างนี้เรียกหล่อ กุก็เทพแล้ว อะไรประมาณนี้กันอีก T_T (ผมรู้แล้วว่าพวกมันคบผมไว้เพื่ออะไร ก็เพื่อที่ เมื่อมีผมอยู่ในกลุ่ม มันจะทำให้พวกมันดูดีขึ้นอีก 100 เปอร์เซนต์) บางคนมีแฟนแล้ว บางคนยังไม่มีแฟน แม้หน้าตาจะเป็นที่ต้องการก็ตามที และที่สำคัญ ไม่ได้เป็นเกย์อีกต่างหาก แน่นอนครับหน้าตาอย่างนี้ เรื่องได้หญิงก็คงเป็นเรื่องปกติของพวกมัน ใครที่สามัญสำนึกยังดีอยู่ก็ดีหน่อย แต่ถ้าใครที่สามัญสำนึกหลุดโลกไปแล้ว ก็คงไม่คิดอะไร มีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร!!! พวกมันเที่ยวกันบ่อยครับ แต่ผมนาน ๆ ไปทีเพราะไม่ค่อยมีกะตังค์ (ถึงมีก็ไม่ค่อยได้ไปเพราะไกลเหลือเกิน) วันนั้นที่ยกฝูงกันไป ก็เพราะว่า ต่างคนต่างเครียดกันเรื่องงาน แล้วดันมาเครียดพร้อม ๆ กันหมด เลยนัดกันไป โดยไปรวมตัวกันที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่ง อยู่ใกล้กับที่เที่ยวมากที่สุด ห่างประมาณ 10 นาทีจากที่เที่ยว แล้วก็ขานรับมาตรการประหยัดของรัฐบาล คือ จอดรถไว้บ้านเพื่อนให้หมด แล้ว ขับรถไปคันเดียว ถ้าใครไปที่เที่ยวที่เดียวกับผมวันนั้น ก็จะเห็นฝูงควาย 6 ตัว อัดแน่นกันอยู่ในรถ Honda Civic คันเล็ก ๆ T_T ไปถึงที่แห่งนั้นก็ประมาณ 4 ทุ่มกว่าเข้าไปแล้วครับ แต่ไม่เป็นไร แม้จะไปดึก แต่ที่แห่งนี้ ปิดตี 4!! ไม่รู้ว่ามันปิดในเวลาอย่างนี้ได้อย่างไร แต่มันก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ผมไปเที่ยวที่นี่กันบ่อยครับ ที่แห่งนี้ขึ้นชื่อกันเรื่องการตีกัน ตีกันบ่อยมาก ยังพูดกับเพื่อนอยู่เลยว่าทำไมมันไม่เปิดเป็นสนามมวยไปเลยวะ รู้แล้วรู้รอด แม่ม ตีกันจังเลย คนมาเที่ยวสนุก ๆ แป๊บ ๆ เมิงตีกันอีกแล้ว เดินชนไหล่กันก็ตีกันได้ เมิงบ้าหรือเปล่า เอ่อ ออกนอกเรื่องอีกแล้ว ขออภัยครับ (และมันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน) มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไปนั่งไม่ถึง 10 นาที เหล้ายังไม่หมดซักแก้ว ก็ต้องทะยอยกันกลับบ้าน เพราะพี่แกยิงกันตายซะงั้น เวรกำ คนที่โดนยิง นั่งถัดจากผมไป 2 โต๊ะเท่านั้นเอง เห็นแล้ว เข็ดต่อการเที่ยวไปหลายเดือน T_T นั่นแหล่ะครับ วันนั้นพวกผมไปถึงกันตอนประมาณ 4 ทุ่ม ต่างคนต่างเครียดว่าจะทำยังไงกับงานดี ไอ้นั่นก็เจ้านายด่า ไอ้นี่ก็ทำเอกสารหาย มีผมคนเดียวที่ชิว ๆ ที่สุด ไม่เครียดอะไรกับเค้าเลย ก็ได้แต่เยาะเย้ยมันไปว่า กุสบายสุด ชิวสุด เป็นไงล่ะ ทำงานเงินเดือนเยอะ ๆแล้วต้องมาเครียด เอาอย่างกุดิ ทำงานเงินติ๊ดเดียว ไม่เครียดแถมสบายใจอีกต่างหาก (ยังมีหน้าไปคุยกับเค้าอีกนะ T_T) ไปถึง ก็ปรากฎว่า คนเต็มครับ มาเที่ยวกันเพียบเลย จนไม่มีโต๊ะนั่ง ยืนรอกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะได้เข้าไปในร้าน ยังบอกกับเพื่อนว่า ทำไมเราต้องมานั่งรอด้วยวะ ร้านอื่นเยอะแยะ ก็เพราะว่ามันปิดตี 4 นี่แหล่ะครับ คนถึงได้เยอะขนาดนั้น ระหว่างที่ยืนรอกันอยู่ ก็มีสาวน้อยนางหนึ่ง หรือ นางสาวหนึ่ง นั่งอยู่ด้านใน จากที่เห็น คือ นั่งอยู่ตรงระเบียงที่เค้าจัดไว้ให้สูบบุหรี่ แต่น้องคนนี้ไม่ได้สูบ เธอจ้องมองมาที่กลุ่มผม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก็อย่างที่บอกว่า พวกมัน หน้าตาเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากในช่วงนี้!!! ก็สะกิดให้กันดู ถ้าเป็นเวลาปกติ ไม่ใครก็ใครซักคนคงเดินเข้าไปคุยแล้ว แต่บังเอิญว่า วันนั้นมันดันเป็นเวลาที่ไม่ปกติเพราะแต่ละคนก็หน้าดำคร่ำเครียด ไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งกับใคร จุดประสงค์หลักคือ มาปลดปล่อย กินเหล้า และ แด้นซ์กันอย่างเดียว รออยู่ได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็ได้โต๊ะจนได้ พวกผมก็เดินเข้าไปในร้าน เดินผ่านน้องหนูคนนั้น ซึ่ง เห็นได้ชัดว่ากำลังมองเพื่อนผม ที่หน้าตาเป็นที่ต้องการของตลาดที่สุดในกลุ่ม!!! แต่มันไม่สนใจ (ทั้งที่ปกติไม่น่าจะรอด ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมาก ๆ) เพราะคงกำลังคิดถึงชีวิตตัวเองว่าจะรอดวิกฤตการณ์ในชีวิตไปได้หรือเปล่า เพิ่งรู้ว่า คนหน้าตาดีก็เครียดเป็น!!! สภาพข้างในร้าน เหมือนสลัมบอมเบย์ มากกว่าจะเป็นสถานบันเทิง เพราะแม้แต่ที่จะนั่งยังไม่มี โต๊ะที่ว่างก็เป็นเพียงโต๊ะกลมเล็ก ๆ มีที่ว่าเพียงไม่ถึง 1 เอเคอร์รอบ ๆ โต๊ะ เพื่อที่จะให้ฝูงควาย 6 ตัวยืนรอบ ๆ เหมือนกำลังประกอบพิธีคารวะ Red เรเบิ้ล + โซดา + น้ำเปล่า + โค้ก + น้ำแข็ง!! อะไร ๆ ก็ดี แต่มิกซ์แพงอิ๊บอ๋าย T_T แพงอย่างนี้ ปล้นกันเลยดีกว่าไหม!!! ผมคนนึงล่ะ ที่เคยหนีออกจากสภาพบรรยากาศอย่างนี้มาแล้วที่ Slim เมื่อปีที่แล้ว แถมด่าเพื่อนว่า พากุมายืนเมื่อยอยู่ได้ ที่นั่งก็ไม่มี มันก็ด่ากลับมาว่า เมิงนี่แก่แล้วแก่เลยนะ เดี๋ยวนี้เค้าไม่นั่งกินกันแล้วโว้ย เค้ายืนกิน ยืนเต้น ผมก็เลยบอกมันกลับไปอีกว่า "งั้นคราวหลัง ชวนกุไปกิน ป.กุ้งเผาก็ได้นะ เพลงก็มีฟังเหมือนกัน สาดดดดด" แต่คราวนี้ผมหนีไม่ได้ เพราะก็อย่างที่บอก ว่า พวกมันเครียดกันหมดมีผมคนเดียว ที่ตลกบริโภคที่สุดในกลุ่ม ขืนปล่อยมันไปด้วยกัน มีหวังกลับมาฆ่าตัวตายกันหมดแน่ ๆ T_T ไอ้พวกนี้ยิ่งเป็นโรควิตกจริตเหมือนกันหมดอยู่ด้วย เอาวะ แน่นก็แน่น ดีเหมือนกันจะได้ดูกลมกลืน ไม่แก่จนเกินไปนัก!!!! กิน ๆ ไปก็ตามสเตปเดิมที่ไปกับไอ้พวกนี้แหล่ะครับ สาวโต๊ะโน้นโต๊ะนี้มองมากันไม่ขาดสาย มีเดินมาสี ๆ ด้วยนะ บางคนยกแก้วให้ ก็ไม่รู้จะยกให้ทำไม แก้วพวกผมก็มี ยกให้แล้วพวกคุณจะเอาแก้วที่ไหนกินกัน!!! (พยายามจะตลกนะเมิงนะ มุกแป่ก ๆ พรรณนี้ก็ยังจะเล่น) เป็นในเวลาปกติ พวกมันก็กระดี๊กระด้าเผ่นออกจากโต๊ะไปแล้ว ทิ้งกุไว้เฝ้าโต๊ะคนเดียวประจำ แล้วก็จะมีกระเทยมาขอนั่งด้วยประจำ ทำไมชีวิตกุเป็นอย่างนี้ฟระ เคยมีผู้หญิงเมามากหลงมานั่งคนนึง แล้วก็หายเมาเป็นปลิดทิ้ง เดินกลับโต๊ะไปเฉยเลย ในใจน้องเค้าคงคิดแหล่ะครับ ว่า อะไรกันวะเพื่อนเมิงหน้าตาดีกันหมด แล้วเมิงโผล่มานรกขุมไหนเนี่ย T_T ก็ได้แต่บอกให้น้องทำใจ แหม น้องเอ๋ย หล่อ ๆ น่ะมีเยอะ แต่หน้าอย่างพี่นี่ มีคนเดียวในโลกนะจ๊ะ T_T (นอกเรื่องอีกแล้ว เห็นไหมครับ T_T) เวลา และ การบรรเลงเพลงผ่านไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเธอก็โผล่มา!!!! เธอมาจากโต๊ะไหนไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่า เธอถือแก้ว เดินมาจ่อมอยู่ที่โต๊ะผม แล้วไม่ยอมกลับ!! เธอแสดงเจตนารมย์อันชัดเจน ซึ่งน่านับถือในเรื่องนี้ ว่าจะเอาเพื่อนผมกลับบ้านให้ได้ ทำทุกอย่างที่เกวียนของเธอจะบรรทุกมาได้ เธอคนนี้เป็นคนเดียวกับที่นั่งมองหน้าเพื่อนผมตั้งแต่ตอนอยู่หน้าร้านนั่นเอง เธอมากับใครไม่มีใครรู้ เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารัก สูงประมาณ 160 กว่า ๆ ผิวค่อนข้างขาว ใส่กางเกงสั้นเสมอเป้าสีขาว เสื้อสายเดี่ยวราดหน้าสีดำ ก็เป็นเรื่องปกติของผู้ชายทั่วไปที่อยู่กันเป็นฝูง และ รวมกันอยู่ในวงเหล้า เมื่อมีผู้หญิงใจกล้า เข้ามาร่วมวงด้วย วงสนทนาก็ครื้นเครงขึ้น ผมรู้สึกเสียเซ้วนิดหน่อยที่ไม่มีนมบึ้ม ๆ ไม่มีตูดงอน ๆ พอจะให้พวกมันครื้นเครงเหมือนน้องผู้หญิงคนนี้ T_T แด้นซ์ ๆ กิน ๆ กันอยู่ได้ซักพัก ผมก็ขอตัวออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก เพื่อนผมอีก 4 คน ยกเว้ณไอ้คนที่น้องหนูคนนั้นล็อคตัวไว้ ก็ตามกันออกมา และ วงสนทนา นินทากาเลก็เกิดขึ้น (แม้มันจะดูหน้า.....ตัว......mea (ซึ่งก็ยอมรับ) แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่เอาผู้หญิงในที่เที่ยวมาพูดถึงลับหลังในกรณีเช่นนี้ ผมไม่รู้ว่า ในทางกลับกัน ถ้าเป็นสาว ๆ พวกเธอจะเอาพวกหนุ่ม ๆไปนินทาอย่างที่พวกผมทำหรือเปล่า T_T) "ท่าทางจะเอาไอ้ A แน่ว่ะ" (ขอตั้งชื่อเพื่อนผมคนนั้นว่า A นะครับ) เพื่อนผมคนนึงพูดขึ้น "มาจากไหนวะนั่น" ผมถาม "กุก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดี ๆ ก็เดินมาขอนั่งด้วย" "อืมมม กล้าดีนะ" "แล้วนี่ไอ้ A มันจะว่าไงวะ" "กุก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูท่าแล้วคงไม่เอาหรอก เห็นมันทำหน้าแปลก ๆ" พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้ A ก็โผล่มา หน้าเครียดมาเชียว "ใครรู้จักผู้หญิงคนนี้มั่งวะ" มันยิงคำถามมาอย่างเร็ว "..........................." เงียบกันหมด แสดงว่าไม่มีใครรู้จัก "ทำไมวะ" "ป่าว ก็เห็นอยู่ดี ๆ เดินมาขอนั่งด้วย กุก็นึกว่าพวกเมิงรู้จัก" "รู้จักส้งติงอะไรล่ะ กุก็เพิ่งเคยเห็น" "...................." "แล้วตกลงยังไงล่ะเมิงมาสีขนาดนั้นแล้ว" ผมถามมันไป "สีเสออะไรกัน sarddddddd" มันแก้ตัว "เอา ไม่เอา" "ไม่อ่ะ วันนี้ไม่อยากวุ่นวาย" มันตอบกลับมาซะพวกผมบรรลุธรรม "จริงดิ" "เออ รู้สึกแปลก ๆ ว่ะ" มันตอบกลับมา "อะไรวะ" "ไม่รู้ดิ แต่รู้สึกแปลก ๆ" "แล้วนี่ใครเฝ้าโต๊ะ" "ก็น้องคนนั้นแหล่ะ กุหนีออกมา" "อ้าว เวรเดี๋ยวมันก็ล่อเหล้าจนหมดหรอก กินโคตรเก่งเลย เห็นแล้วกลัวเลย" "เออ กลับเข้าไปดีกว่า" แล้วพวกผมก็ทะยอยกันเข้าไปทีละคนสองคน น้องคนนั้นก็ยังอยู่ เหล้าหมดไปครึ่งขวด!!!!! ตกลงกินหรืออาบจ๊ะน้องสสาววววววววว T_T เวลาผ่านไป ๆ จนในที่สุดก็ถึงตี 2 ดูอาการแล้ว คงไม่ไหวกันล่ะ เลยชวนกันกลับบ้าน ทุกคนเห็นด้วย รวมถึงน้องคนนั้นเช่นเดียวกันที่เห็นด้วย เพราะเธอแสดงเจตนารมย์ชัดเจนว่า จะกลับด้วย!!! เอาแล้วไงล่ะ งานเข้าเพื่อนผมซะแล้ว เธอก็เมาแล้วด้วย เมามากขนาดเดินไปห้องน้ำยังใช้เวลาเป็น 10 นาที เพื่อนผมถามไปตรง ๆ ว่าจะให้ไปส่งบ้านหรือเปล่า อารมณ์นั้นคือไปส่งจริง ๆ ไปกันหมดทั้งกลุ่มนี่แหล่ะ (ไม่รู้ว่าจะอัดกันเข้าไปในรถได้ยังไงเหมือนกัน) แต่วินาทีนั้น ด้วยความรักเพื่อนของพวกผม อยากให้เพื่อนมีความสุข จึงเรียก A มาคุยกันตรง ๆ เพราะมันก็กรึ่ม ๆ อารมณ์คงเปลี่ยนแล้วล่ะ "เฮ้ย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จัดไปอย่าให้เสีย" "ไม่เอาอ่ะ" "โห มันทอดสะพานจนจะทับกระบาลเมิงอยู่แล้ว อย่าให้สะพานขาด" "ไม่อ่ะ" "น่ารักนะโว้ย ตรงสเปกเมิงเลย นมเบ่อเร่อ!!!" "จะดีเหรอ" "ดีดิ เมิงไม่เห็นหรือน่ะน้องเค้าสีเมิงจนตัวจะถลอกมาตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วนะ" "ไม่ดีมั้ง" "ตกลงเอาไม่เอา" พวกผมถามกันตรง ๆ "เอา" สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แถวบ้านเรียก แอลกอลฮอลล์ลงไข่ครับอาการอย่างนี้ ก็โอเค เอาก็เอา พวกผมจึงเสียสละกลับแท็กซี่กัน ปล่อยให้มันขับรถไปไหนต่อไหนกับน้องเค้าตามแต่มันต้องการโดยลำพัง บังเอิญว่า ผมลืมหนังสือทิ้งไว้ในรถมันตอนที่ลงจากรถ ผมจึงเดินตามไปที่รถด้วยเพื่อเอาหนังสือ น้องคนนั้น ตอนนี้เดินแทบจะไม่ไหวแล้ว ต้องให้เพื่อนผมอุ้ม!!!! ที่จอดรถอยู่ตีนสะพาน ผมเดินไปเปิดรถ และส่งมันขึ้นรถพร้อมน้องคนนั้น ก็คงไม่มีอะไรต้องเตือนกัน กับไอ้พวกนี้ พูดไปก็จะเหมือนสอนหนังสือให้สังฆราชไปซะ ก็พอดีที่โทรศัพท์ของ A ดังพอดี มันจึงยืนคุยอยู่ ยังไม่เข้าไปในรถ (แต่น้องคนนั้นอยู่ในรถแล้วเรียบร้อย) ผมเดินย้อนกลับมาหาเพื่อนที่นั่งรออยู่ พอหันหลังกลับและเดินผ่านมา ผมสังเกตุเห็นมอเตอร์ไซด์คันหนึ่ง จอดอยู่ตีนสะพาน ตอนแรกก็ไม่สนใจอะไร แต่พอดูดี ๆ มันกำลังมองเพื่อนผม (ไอ้ A) อยู่นี่หว่า เพื่อความแน่ใจ เผื่อจะเข้าใจผิด เค้าอาจจะมองไปที่อื่นก็ได้ ผมจึงเดินเลยมานิดนึง แล้วก็หันกลับไปดู ใช่ครับ เค้ากำลังมองไปที่ไอ้ A จริง ๆ ด้วย ผมเริ่มเห็นท่าไม่ดี จึงทำทีเดินย้อนกลับไปหาไอ้ A อีกครั้ง!!! "เฮ้ย A" "มีไร" "เมิงเห็นมอไซด์คันนั้นไหม" "เออเห็น" "เออ มันมองเมิงอยู่ ท่าจะไม่ดีล่ะ เอางี้เดี๋ยวเมิงขับออกไปแล้วก็คอยดูด้วยแล้วกัน ว่ามันขับตามเมิงไปหรือเปล่า แล้วโทรหากัน" "โอเค" พูดจบ มันก็เข้าไปในรถ ส่วนผมเดินย้อนกลับมา แล้วทำทีไปยืนฉี่อยู่ริมถนน มองดูว่า พอรถออกแล้ว มันจะขับตามหรือเปล่า ไอ้ A ขับรถออก ไปแบบช้า ๆ มอเตอร์ไซด์เห็นดังนั้นแล้วก็สตาร์ทเครื่อง ขับตาม!!!!!! "เอาแล้วไง" ผมคิดในใจเดินย้อนกลับมาหาเพื่อน พลางยกโทรศัพท์กดหาไอ้ A "เฮ้ย A มันขับตามเมิงหรือเปล่าวะ" "ตามว่ะ ปิด ๆ เปิด ๆ ไฟ" "โอเค เมิงขับไปก่อนนะ เดี๋ยวกุไปหาไอ้พวกนั้นก่อน แล้วเดี๋ยวโทรหา" "เออ" 1 นาทีหลังจากนั้น ผมก็เดินมาหาเพื่อน ๆ และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง หายเมากันเป็นปลิดทิ้ง เพื่อนผมคนหนึ่งที่นักเลงที่สุดในกลุ่ม กดโทรศัพท์หาไอ้ A "เฮ้ย มันยังตามเมิงอยู่หรือเปล่า" "ตามว่ะ" "เอางี้ เมิงลองยูเทิร์นนะ ดูดิ๊มันจะยูเทิร์นตามเมิงไหม" "....................." รอซักระยะ "ตามว่ะ" "โอเค งั้นเมิงขับวนไปเรื่อย ๆ ก่อน พอให้มันตามทันนะ เดี๋ยวพวกกุจะกลับบ้านไปเอารถออก แล้วขับตามเมิงไป อย่าไปไกลนักล่ะ" หลังจากวางสาย พวกผมก็พากันขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปเอารถออก!!!! ระหว่างที่อยู่บนแท็กซี่ก็คิดกันว่า มันตามไอ้ A ไปทำไม และก็โทรถามมันเป็นระยะ ๆ ว่า ยังโดนตามอยู่ไหม??? ก็ปรากฎว่า ยังตามอยู่ ไม่รู้เจตนาที่ตาม รู้แต่ว่าไม่ได้ตามดีแน่ ๆ ไปถึงบ้านเพื่อน ต่างคนต่างหยิบอาวุธขึ้นรถ ถ้าวันนั้นโดนตำรวจเรียกก็คงโดนจับกันหมดทั้งรถแหล่ะครับ T_T คนมีอยู่ 5 คน แต่มีไม้เหล็กแป๊บเป็น 10 อยู่ท้ายรถ!!! เอารถออกจากบ้าน โทรหาไอ้ A อีกครั้ง ถามมันว่าอยู่ตรงส่วนไหน และมันยังตามอยู่หรือเปล่า ก็ได้ความว่า ยังขับตามมาอยู่ ด้วยอารมณ์รักเพื่อนพ้อง วิญญาณช่างกลเข้าสิง เพื่อนผมที่ดูเป็นนักเลงที่สุดในกลุ่มก็บอกออกมา "เดี๋ยวเมิง ยูเทิร์นกลับมาที่ ...... นะ กุจะขับไปหา" "เออ" หลังจากนั้น ปฎิบัติการณ์ไล่ล่าจึงเกิดขึ้น โชคดีของเพื่อนผมที่รถไม่ติดเลยในวันนั้น ประกอบกับรู้จักเส้นทาง จึงขับวนไปได้เรื่อย ๆ ผมแนะนำให้มันขึ้นทางด่วยไปจะได้รู้แล้วรู้รอด เพราะมอเตอร์ไซด์ตามขึ้นทางด่วนไม่ได้อยู่แล้ว แต่เพื่อนผมที่ดูเป็นนักเลงคนนั้น บอก ไม่ได้ มันจะทำเพื่อนเรา เราต้องเอาคืน!!!! มันพูดมาก็ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า เมิงมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไงวะ!!! "เอา ต้องเอาให้ตาย เคลียร์ง่ายหน่อย" มันพูดออกมาตอนอยู่ในรถ "เอางั้นเลยเหรอ" ผมถามกลับไป "เออดิ มันจะทำเพื่อนเรานะโว้ย" "เออ กุรู้ ไม่ใช่ว่ากุปอดหรอกนะ แต่เมิงคิดดูดิ ว่าทำไมมันถึงต้องตาม" "คิดอะไร แม่มตามอย่างนี้ก็จุดประสงค์ร้ายแล้ว" "เอางี้ เดี๋ยวกุลงไปถามมันเองว่ามันตามทำไม" "แล้วถ้าเผื่อมันมีปืนล่ะ" "กุว่านะ ถ้ามันมีปืน มันคงยิงไอ้ A ไปแล้วล่ะ คงไม่เสียเวลาขับตามมาตั้งนานหรอก" ผมตอบมันไป เมื่อขับรถตามมาจนเห็นท้ายรถไอ้ A ก็กดโทรศัพท์ไปบอกให้เลี้ยวเข้าซอย ๆ หนึ่งที่ค่อนข้างจะเปลี่ยว มันเลี้ยวเข้าไปทันที พวกผมก็เลี้ยวตามไปด้วย เมื่อถึงช่วงที่เปลี่ยวพอสมควรแล้ว ไอ้คนขับคันผมก็เร่งเครื่องเทียบมอเตอร์ไซด์คันนั้น แล้วเบียดจนตกลงไปในป่าหญ้าริมถนน!!! รถล้ม คนล้ม แต่ไม่เป็นอะไร เนื่องจากเป็นป่าหญ้าคา เมื่อเบียดเสร็จก็จอดรถด้วยความเร็วไม่ให้มอเตอร์ไซด์ทันตั้งตัวผมก็ถือมีดเดินลงไปทันที พร้อมทุกคนที่อยู่ในรถ!!! มอเตอร์ไซด์พยายามจะลุกขึ้นมา แต่โดนพวกผมล้อมไว้หมดแล้ว ไอ้เพื่อนผมที่บอกว่าต้องเอาให้ตาย เผ่นจะเข้าตี แต่ผมขวางไว้ซะก่อน "เมิงตามเพื่อนกุทำไม" มันเอา.....ชี้หน้าถาม ผมมองไปที่คนขับมอเตอร์ไซด์ เห็นได้ชัดว่า ตกใจ และ กลัว "เฮ้ย ใจเย็น ๆ ดิวะ คุยกับมันก่อน" ผมบอกเพื่อนแล้วหันไปทางคนขับมอเตอร์ไซด์ "เฮ้ยถอดหมวกออกก่อนดิ๊" เมื่อมันถอดหมวกออก ปรากฎว่า เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งอายุไม่น่าจะเกิน 25 ปีหน้าตาเรียบร้อยจนเกินเชื่อ สายตาหวาดกลัว "พี่อย่าทำอะไรผมเลยครับ" น้องคนนั้นยกมือไหว้ ระหว่างนั้นเอง ไอ้ A ก็วกรถกลับมาจอดข้าง ๆ แล้วลงจากรถมายืนดูอยู่ด้วย ส่วนน้องผู้หญิงอยู่ในรถ!!! "น้องขับตามเพื่อนพี่ทำไม" ผมถามไอ้น้องคนนั้น "ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนผมครับ" ตอบกลับมาเสียงอ่อย ๆ เหมือนจะร้องไห้!! "น่านไง กุว่าแล้ว" ผมพูดออกมาเบา ๆ "แล้วยังไง แล้วจะตามไปทำไม ถ้าพวกพี่ไม่ขับรถตามมาน้องจะตามไปถึงไหน" ผมถามอีกครั้ง "ผมอยากไปเห็นว่า แฟนผมทำไมถึงได้ทำกับผมอย่างนี้ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร" มันตอบออกมาทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถาม เพื่อนผมที่จะเอาเรื่อง ดูเหมือนจะไม่เชื่อ ตะคอกออกมาเสียงดัง "เมิงเป็นแฟนอีนั่นเหรอ" "ครับ" "เออ เดี๋ยวกุจะดูสิว่ามันจริงหรือเปล่า" ว่าแล้ว มันก็ลากน้องผู้ชายคนนั้น ไปที่รถไอ้ A ที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ในรถ เปิดรถออกมา ก็เห็นได้เลยว่า น้องผู้หญิงกำลังร้องไห้อยู่!!! "น้อง ไอ้ผู้ชายคนนี้ มันบอกว่ามันเป็นแฟนน้อง จริงหรือเปล่า" เพื่อนผมถาม น้องผู้หญิงคนนั้น ไม่ตอบเพื่อนผม อาการเมาดูเหมือนจะหายไปแล้ว ไม่รู้ว่าเมาจริง หรือเมาหลอก แต่หันไปหาน้องผู้ชายคนนั้น!!! "เธอตามมาทำไม" เธอหันไปถาม "ก็อยากรู้ว่า เธอจะทำกับเราอย่างนี้อีกกี่ครั้ง" น้องผู้ชายคนนั้นตอบ เรื่องราวหลังจากนั้น ทำเอาพวกผมคอตกกันหมด มีดตก ไม้ตก ....ตก หมดความห้าว ยืนฟังคน 2 คนทะเลาะกัน เหมือนดูหนังช่อง 7 มันเป็นเรื่องราวของ ผู้ชายคนหนึ่ง ที่รักผู้หญิงคนหนึ่งจนหมดหัวใจ กับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยังรักสนุก ยังค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยที่ยังเก็บผู้ชายคนนั้นไว้ ไม่ยอมปล่อยไป (แน่ล่ะ ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันก็ไม่ยอมไปเสียด้วย) ด้วยความข้องใจ ผมจึงถามน้องผู้ชายไป ตอนที่ทะเลาะกันแล้วเรียบร้อยน้ำตานองหน้าว่า "น้องตามอย่างนี้มากี่ครั้งแล้วเนี่ย" ทุกอาทิตย์แหล่ะครับพี่ เค้าไปเที่ยวทีไร ผมก็ต้องตามอย่างนี้ทุกที!!! "เค้ารู้หรือเปล่าว่าเราตาม" "ไม่รู้หรอกครับ" แล้วคำถามโลกแตกที่ถ้าเอามาตั้งในห้องนี้เพื่อน ๆ ก็คงถามเหมือน ๆ กันว่า "เค้าทำกับน้องขนาดนี้แล้วทำไมน้องถึงยังไม่เลิก ๆ ไปซะ" "ก็ผมเป็นห่วงเค้าน่ะครับ ที่ตามมาก็เพราะกลัวว่าเค้าจะโดนหลอก ผมตามมาเผื่อจะช่วยได้ทัน!!" ได้ฟังคำตอบก็รู้สึกได้ว่า ชีวิตตัวเองมันบัดซบเหลือเกิน ยุเพื่อนให้พาผู้หญิงคนนี้มา หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป ผมแนะนำว่า ให้พาแฟนน้องกลับไปเลยดีกว่า ตอนแรกน้องผู้หญิงจะไม่ยอมกลับ แต่ไอ้เพื่อนโหดของผม บอก ถ้าไม่ไปก็ทิ้งไว้นี่แหล่ะ น้องเค้าเลยซ้อนมอเตอร์ไซด์ของแฟนเค้ากลับไป ก่อนจะพากันกลับไป พวกผมก็ไม่ลืมที่จะเตือนน้องผู้ชายคนนั้นไปด้วยว่า "คราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีก มันอันตรายนะน้อง คราวต่อไปอาจจะไม่เจออย่างพวกพี่ก็ได้ (แน่นอน ถ้าคราวนี้ผมไม่ติดรถไปด้วย ไอ้น้องผู้ชายคนนี้มีหวังตายแหง ๆ ไอ้เพื่อนผมมันยิ่งโหด ๆ อยุ่ด้วย ไม่รู้ใครสั่งใครสอนมันมา T_T)" ซึ่ง น้องผู้ชายคนนั้นก็ได้แต่รับคำไป ไม่รู้ว่าจะทำจริงหรือเปล่า แต่สิ่งที่อยากให้ทำมากกว่าก็คือ ตัดใจจากผู้หญิงคนนี้ซะเถอะ (รู้ว่าทำยาก และถ้าทำได้คงทำไปนานแล้ว) ฝ่ายหญิงเค้ามีความสุขอยู่กับ ผู้ชาย (คนอื่น คนอื่น และ คนอื่น) ในขณะที่เราต้องมาขับมอเตอร์ไซด์ตาม เสี่ยงตีน เสี่ยงตายอยู่อย่างนี้!!! เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านมาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว เรื่องนี้ก็คงบอกอะไรเพื่อน ๆ ได้หลายอย่าง ให้ระวังกันเอาไว้ เพราะมันอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนกับที่พวกผมเจอกันก็ได้ ผู้ชายคนนั้นอาจจะมีปืน ผู้ชายคนนั้นอาจจะสิ้นคิด ผู้ชายคนนั้นอาจจะหมดทางเลือก ผู้ชายคนที่ขับรถออกไปอาจจะไม่รู้ตัว อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ผมไม่ได้อยากจะมาบอกว่า พวกผมเจ๋ง ใจถึง เพราะนาทีนั้นถ้าเป็นเพื่อนเราเจอ ผมว่าหลาย ๆ คนก็คงทำเหมือนพวกผม ผมคงไม่กลับบ้านมานั่งลุ้นว่า เพื่อนผมจะเจออะไรมาบ้างว้า พรุ่งนี้มันจะมีชีวิตรอดกลับมาเล่าให้กุฟังหรือเปล่าว้าหรอกครับ!! ผมไม่ได้อยากบอกว่า ตัวผมเป็นคนดี ที่ไม่ยอมให้เพื่อนผมทำอะไรน้องคนนั้นก่อน เพราะหลาย ๆ ครั้งผมเองนี่แหล่ะที่เป็นตัวเปิดประเด็นในการหาตีนใส่ตัวทั้งที่เพื่อน ๆ ก็ห้ามปราม (แต่ห้ามไม่ไหว) T_T และ ผมไม่ได้บอกว่า ผู้หญิงคนนั้นเลว ไม่ดี เพราะในทางกลับกัน ผู้ชายที่ทำตัวอย่างนี้ก็มีเยอะ และเลวพอ ๆ กัน เพียงแต่เรื่องที่ผมประสบมา มันดันมาในมุมของผู้หญิงที่เป็นฝ่ายกระทำ จะโทษไอ้ A หรือก็ไม่สนิทปากนัก เพราะมันก็ไม่ได้ไขว่คว้าไปหามา ดาวดันตกลงมาใส่กะบาลมันเองโดยมันไม่ได้ร้องขอหรือสอยลงมา จะโทษไอ้น้องผู้ชายคนนั้นก็ไม่เต็มที่ เพราะหัวอกแฟนที่รักแฟนจนยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำ เป็นผม ผมก็ทำอย่างที่น้องผู้ชายคนนั้นทำเหมือนกัน ถ้ายังไงก็อยากให้ระวังตัวกันไว้ ผมว่า กรณีอย่างนี้มีอีกเยอะ ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้เที่ยว ไม่ได้ห้ามไม่ให้ไปจีบหญิงที่ที่เที่ยวแล้วพากลับ หรือ ไม่ได้ห้ามให้ไปจีบหนุ่มในที่เที่ยวแล้วให้เค้าพากลับ!!! เพียงแต่อยากให้ระมัดระวังกันนิดนึงเท่านั้น รักสนุกไม่ผูกพันธ์ ใครจะทำก็ทำไป ผมไม่ว่า เพียงแต่ว่า ถ้าหากมีแฟนอยู่แล้ว และไม่อยากให้แฟนเสียใจ และไม่อยากให้เรื่องราวมันเลยเถิดถึงขั้นกับชีวิตซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นได้ใครจะรู้!! เพราะเพียงแค่คุณถูกใจ และ อยากลองของใหม่ ในขณะที่สติคุณไม่เต็มที่ ผมว่า มันก็คงไม่คุ้มกัน อย่าเอาสวรรค์แค่ 7 วินาที มาแลกกับชีวิต ความเชื่อใจ ความรัก และ ความเป็นห่วงจากคนที่รักเราเลยครับ!!! ก็แค่นั้นแหล่ะ ปล.ต้องขออภัย หากน้ำจะเยอะกว่าเนื้อ ผมเพียงต้องการให้เรื่องราวไม่เครียดจนกลายเป็นวาระแห่งชาติเกินไปนัก อยากให้อ่านกันสบาย ๆ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทุก ๆ วันในสถานที่เที่ยว ที่เค้าบอกกันไว้ว่า "การขอเบอร์โทรศัพท์ในที่เที่ยว ก็คือ การขอมี SEX แบบสุภาพนั่นเอง" ด้วยความปรารถนาดี สมันน้อย เบอร์ 14 น้องเค้าคงไม่รู้ว่ามีคนรักเค้าถึงขนาดนั้น
โดย: airz IP: 58.9.180.235 วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:15:23:44 น.
อ่านกระทู้ตั้งแต่เมื่อวาน
โชคดีจริงๆนะเจอพวกพี่หมัน โดย: นายแมมมอส วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:15:38:09 น.
อ่า...เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อยากสนุก ซื้อมากินที่ห้องดีก่า มิกซ์ไม่แพง เพลงได้ตามใจ ไม่ต้องเบียดใครให้เปลือง(ตัว)
เที่ยวกลางคืนเนี่ย น่ากลัวจิงๆ บรื๊ออ... โดย: กระปุกปุยเมฆ วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:17:32:00 น.
เหมือนอ่านนิยายเลยอ่ะ เล่าได้สนุกมาก ๆ ^^
โดย: ืnamnak IP: 118.173.218.245 วันที่: 6 ตุลาคม 2552 เวลา:21:52:48 น.
ขอเอาเรื่องนี้ไปทำเป็นหนังสั้นได้มั๊ยครับ ดูเป็นอุทาหรณ์ดีแล้วก็สนุกด้วยอ่ะ
ยังไงรบกวนตอบด้วยนะครับ ที่ matefoolmoon@hotmail.com matefoolmoon@gmail.com และ block ผมที่ //foolmoonstudio.exteen.com ครับผม โดย: akiyama IP: 58.8.238.177 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:10:47:59 น.
ตอนแรกเข้ามาว่าจะไม่เม้น
แต่พอดีมาเจออีตัวสแลมดั้งบอกให้เม้น ก็เลยเขียนซะหน่อยแล้วกันนะ เรื่องนี้ โน คอมเม้นค่ะ โดย: กระเฉดน้ำ วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:14:44:03 น.
โดย: {- _-} (noikb ) วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:19:50:59 น.
เจอแต่เรื่องไม่คาดฝันทั้งนั้นเลย
แต่อ่านสนุกมาก :D โดย: BakedMonkey วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:22:36:50 น.
สงสารน้องผู้ชายคนนั้นว่ะเพราะกรูก็เคยเจอแบบนี้เพราะว่าเคยเก็บนักร้องมาเลี้ยง
โดย: กวาง IP: 192.168.0.4, 58.8.47.42 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:0:06:44 น.
อิจฉาคนที่มีคนที่รักเรามากขนาดนี้เนอะ เฮ้อ! เมื่อไหร่จะมีใครๆ สักคนที่เป็นของเรา เมื่อไหร่จะมีใครๆ สักคนนะที่รักเรา เท่านี้ที่ต้องการ ขอเกินไปตรงไหน เมื่อไหร่จะมีใครๆ สักคนที่เคียงข้างเรา แค่อยากจะมีคนที่ ทำให้ใจไม่ต้องเหงา ไม่รู้ต้องเมื่อไหร่ เหมือนมันยังห่างไกล... (เข้ามาบ่นอะไรเนี้ย โทษทีนะคะ) อ่านแล้วอิจฉาน้องผู้หญิงคนนี้อะ
โดย: keng IP: 203.144.198.242 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:13:13:51 น.
พี่หมันสุดยอดไปเลย เขียนเรื่องหนุกๆอย่างนี้ให้อ่านอีกเยอะนะคะ
ชอบแนวพี่หมันเขียนมากๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่า คนดูท่าทางเรียบร้อยอย่างพี่หมันจะสุโค่ยยยย โดย: เสื้อขาวลายดอกฟ้า IP: 58.10.155.56 วันที่: 15 ตุลาคม 2552 เวลา:11:08:44 น.
เล่าได้สนุกดีค่ะ เห็นภาพเลย อ่านมาหลายเรื่องเเล้ว เอาไปเขียนหนังสือขาย หรือลงในนิตยสารได้เลยนะคะเนี่ย
โดย: momoko IP: 58.64.53.50 วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:20:37:07 น.
เพิ่งโงหัวออกมาจากกองงาน ... สมองเบลอมาก แต่อยากเม้น
เจ๋งง่ะน้าหมัน เรื่องนี้พุทราชอบ ^ ^ โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:21:06:54 น.
ดีคะ ไม่เคยเที่ยวลากหาง ไม่เคยลากหางใคร รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน เที่ยวเอามันส์ๆๆ กับฝูงเพื่อนอย่างเดียว อยุ่บ้านได้อ่าน เรื่อง ของพี่หมัน ดีค่ะ เตือนตัว เตือนฝูงเพื่อน ขอบคุณคร่า . .
โดย: เก่งง่ะ IP: 118.172.146.187 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:48:25 น.
อ่านเพลินเลย คุณสมันน้อย เป็นนักเขียนรึปล่าวค่ะ
เขียนได้ดีจัง แมวสามสีน่ารักจัง น่าอุ้ม^^ โดย: แอน IP: 180.183.243.69 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:18:41:05 น.
............................................
โดย: ถนนสายนี้เปรี้ยว วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:1:55:37 น.
ลืมเรื่องเครียดที่ทำงานกันไป !!!
โดย: mariya IP: 193.92.222.228 วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:2:21:59 น.
|
สมันน้อย เบอร์ 14
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Custom Search
Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |