--[รักแรก!!]--
วันนี้ กระผม นายสมันน้อย เบอร์ 14 จะมาเล่าให้ฟังถึง

"ความรักครั้งแรก" หรือที่เค้าเรียกกันว่า "First Love"

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมเรียนอยู่ ม.5 เทอม 2
ช่วงนั้น มีการแข่งขันกีฬาสีประจำปีของโรงเรียน
ก็แน่นอน สีอื่นเค้ามี รุ่นพี่ ม. 6 เป็นประธานสี แต่ไม่รู้จับผลัดจับผลูยังไง ที่ สีผม ดันไม่มี ม. 6!!!!!

ก็มันจะมีได้ยังไง ม.6 มีอยู่แค่ 3 ห้อง ในขณะที่สีมีอยู่ 4 สี T_T

นี่ก็แสดงได้ว่า โรงเรียนผม ได้รับความนิยมจากบรรดาผู้ปกครอง ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน!!!

ก็ขนาดห้องผมยังมีอยู่แค่ 18 คน จริง ๆ แล้ว ตอนแรกที่เข้ามา ม.4 เนี่ย ห้องผมมีกันอยู่ เกือบ ๆ 40 คนเชียวนะ

แต่ไป ๆ มา ๆ พวกผมเนี่ย บังเอิญเป็นคนนิสัยดี เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ รักสันติ (ดวงสว่าง)
มันก็ทำให้ คนอื่น ๆ ที่นิสัยไม่ดี เห็นแก่ตัว เริ่ม ทะยอย ๆ ย้ายห้องไปเรียนห้องอื่นหมด
ไป ๆ มา ๆ เหลือที่รักกันจริง ๆ อยู่แค่ 18 คน T_T

และ ไอ้ 18 คนนี่แหล่ะ ที่ทำให้โรงเรียนที่เค้าสงบสุขกันมาหลายสิบปี กลับลุกเป็นไฟ!!!!!

เนื่องจากว่า หาเรื่องมาให้โรงเรียนได้ ไม่เว้ณแต่ละวัน!!!
วันดีคืนดี ก็มีนักเรียนจากโรงเรียนอื่น ยกพวกมาปิดโรงเรียน

ซึ่ง พวกผม ไม่รู้เรื่อง!!!! อาจารย์บอก พวกมรึงนั่นแหล่ะ!!!


มาอีกวัน ตำรวจมาตามหาตัว คนขับมอเตอร์ไซด์แข่งกันในยามค่ำคืน

พวกผมก็ไม่รู้เรื่อง !!!! อาจารย์ บอก พวกมรึงนั่นแหล่ะ!!!


วันดีคืนดี ผู้ปกครองของเด็กมาเอาเรื่องกับโรงเรียน เพราะลูกชายที่เค้าคิดว่า
เป็นเด็กดี โดนรุมกระทืบปางตาย

พวกผมก็ไม่รู้เรื่องอีกแหล่ะ!!! อาจารย์บอก มรึงจะหนีไปไหน!!!

ก็บอกแล้ว พวกผมคนดี T_T (ดีตรงไหนวะนั่น)
ม.5/2 ของผมนี่ อาจารย์ฝ่ายปกครองบอกว่า

"ฉันละอยากจะยุบห้องพวกเธอ วันละหลาย ๆ รอบ"


เอ้า ลืมไป ผมจะเล่าเรื่อง First Love นี่หว่า ไป ๆ มา ๆ ไมกลายเป็นเรื่องความชั่วของตัวเองไปได้ฟระ!!!

อ่ะ กลับเรื่อง ๆ ถึงไหนแล้วนะ ......... อ้อ ถึงตอนที่พวกผมเป็นประธานสี
จำได้ว่าตอนนั้น อยู่สีม่วงครับ สีแม่หม้ายเนี่ยแหล่ะ
ทีนี้ มันก็ต้องมีการแข่งขันกีฬา ก็แน่อยู่แล้ว ชื่อก็บอกอยู่ว่ากีฬาสี มรึงจะให้เค้าเป่ากบไงวะ!!!

กีฬามีหลายประเภทครับ ทั้ง ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล บาสเก็ตบอล แบดมินตั้น ตะกร้อ ว่ายน้ำ วิ่งมาราธอน

พวกผมในฐานะห้องประธานสี ก็ต้องแบ่งๆ กันไปให้แต่ละคนรับผิดชอบ ค้นหาตัวนักกีฬาประเภทต่าง ๆ
บังเอิญว่า ตอนนั้น ผมมีความสามารถทางด้านกีฬา แบดมินตั้น เป็นนักแบดมินตั้น 1 เดียวของโรงเรียน
อย่าแปลกใจครับ ทั้งโรงเรียน มีผมอยู่คนเดียว T_T (น่าสมเพชยิ่งนัก)

ไม่รู้ว่าผมไปเป็นนักกีฬาแบดมินตั้นได้ไง ทั้งๆ ที่ตัวผมเอง ไม้แบดยังไม่มี!!!!
ต้องขอยืมอาจารย์ไปแข่งทุกครั้ง ก็แหม ไม้มันแพงจะตาย อันละตั้งหลายร้อย
ลำพังเงินจะแดรกแต่ละวัน ก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อไม้แบด!!!!
จนอาจารย์แกคงสงสาร ต้องยกไม้ส่วนตัวของแกให้ผมไว้ซ้อม ไว้แข่ง

ทุกวันนี้ ไม้แบดยีห้อ โยเนกซ์ อันนั้นของอาจารย์ ผมเอาไปตีหัวชาวบ้าน พังชิบหายไปแล้วครับ!!!!

เอาล่ะลืม ๆ มันไปซะ ก็ด้วยความเก่งฉกาจของผมในกีฬาชนิดนี้ มันก็ทำให้
ผมได้รับผิดชอบกีฬาแบดมินตั้น ในการคัดเลือกนักกีฬาทั้ง ชาย และ ก็หญิง ของสี
ผมก็เปิดรับสมัคร ได้รับความสนใจจาก น้อง ๆ จำนวนมากเขียนใบสมัครกันแทบไม่ทัน
เยอจริงๆ เปิดรับอยู่ 2 อาทิตย์ มีคนมาสมัคร 7 คนถ้วน!!!! (เยอะตรงไหนฟระนั่น)

ผมต้องการ ชาย ม.ต้น 1 คน หญิง ม.ต้น 1 คน ชาย ม.ปลายไม่ต้องการ
เพราะผมเล่นอยู่แล้ว แล้วก็ หญิง ม.ปลายอีก 1 คน พอปิดรับสมัคร ผมก็นัดคัดตัว

วันคัดตัว ผมเป็นกรรมการ ให้คนที่มาสมัครในแต่ละรุ่น แข่งกันเอง หาผู้ชนะ ใครชนะ ก็ได้เป็นตัวแทนสี

คัดผู้ชาย ม.ต้นได้แล้ว ผู้หญิง ม.ปลายได้แล้ว ทีนี้ เหลือ ผู้หญิง ม.ต้น

มีน้อง ม.ต้น ผู้หญิง มาสมัครกันแค่ 2 คน ก็ง่ายเลยครับ ไม่ต้องคัดหลายรอบ
คัดรอบเดียวรู้เรื่องไปเลย แพ้ก็กลับบ้านไป ชนะก็ได้เล่น!!!

จริง ๆ แล้วมันน่าจะง่าย แต่มันไม่ง่ายอย่างที่ผมคิดน่ะสิครับ
ทำไมเหรอ ก็ไอ้น้องคนนึ่ง มันดัน หมวย....ใส่แว่น....!!!!!! โห.......น้องเล่นมา สเปกนี้ พี่จะทำใจได้ไง

น้องครับ ..... หน้าตาน้อง กระแทกเบ้าตาพี่อย่างแรง ตะลึงไปแปดวิ
ให้กับความ ขาว หมวย ใส่แว่น (เมื่อก่อนผมโรคจิตครับ ชอบคนใส่แว่น ทุกวันนี้ก็เห็นไม่ค่อยจะได้)

หลังจากตะลึงไปแปดวิ ผมก็เรียกน้องทั้งสองคนมาอธิบายกติกา ว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง

วิธีการบอกของผม คือ บอกทุกอย่าง ยกเว้นเส้นออก!!!!
ถ้าใครเคยเล่นแบด จะรู้ว่า เส้นออก ของประเภทเดี่ยว และคู่ มันไม่เหมือนกัน มันมีอยู่ 2 เส้น

อธิบายเสร็จ ผมก็เอาเลย สั่งเริ่มแข่งทันที

ผมเป็นคนยุติธรรมครับ ไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งสิ้น ต้องทำตัวให้สมกับเป็นรุ่นพี่
ทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้!!!



"น้องหมวย สู้ ๆ น้องหมวย สู้ ๆ" ตัดสินไป ใจก็คิดอย่างนี้ไป
(ไอ้เวน มรึงยุติธรรมตรงไหนฟระ!!!!)


อ่ะนะ เพื่อน้องหมวยของพี่ ยังไง พี่ต้องให้น้องชนะให้ได้!!! นี่คือปณิธานที่ตั้งไว้ตอนนั้น
และด้วยความเป็นคน ยุติธรรมของผมเอง ทำให้ผมตัดสินอย่างตรงไปตรงมา

น้องหมวยตีออก ไอ้หมัน บอก "ลง!!!!"
ฝั่งตรงข้ามตบลง ไอ้หมัน บอก "ออก!!!"

ตรงน้องหมวยอย่างเดียว ตรงมาก ออกนอกหน้ามาก ๆ จนเพื่อนที่มาด้วยเดินมาสะกิด

“เฮ้ย มรึงตัดสินยังไงของมรึง”
“เรื่องของกรู งานนี้น้องหมวยต้องชนะ” ยุติธรรมเชี่ย ๆ เลยแหล่ะครับ

น้องอีกคนคงเซงแหล่ะ ดีนะน้องเค้าไม่รู้กติกาเท่าไหร่ ไม่งั้นละก็ ผมโดนไม้แบดเพ่นกะบาลแหกแน่ๆ

เอาเป็นว่า ผมตัดสินอย่างยุติธรรมก็แล้วกัน ยุติธรรมจริงจริ๊งงง
ผลปรากฎว่า น้องหมวยชนะ เย้!!!!!!! เก่งจริง ๆ น้องหมวยเนี่ย
(สาดดด ไม่ให้ชนะได้ไง ก็มรึงเล่นขานลูกลงตลอด ทั้ง ๆ ที่ออกเห็น ๆ)

ในที่สุด ทีมแบดมินตั้น สีผม ก็มีน้องหมวย เป็น 1 ในนั้นจนได้ (ด้วยฝีมือผมล้วน ๆ)
"เอาน่า ของอย่างนี้มันฝึกกันได้ เดี๋ยวพี่เทรนน้องเองเป็นการส่วนตัว"
(ส่วนตัวบ้านเตี่ยมรึงสิ เดินกับน้องเค้าที ตัวห่างกันเป็นเมตร!!!!!!)

หลังจากนั้น ผมเหมือนคนบ้า อะไรๆ ก็น้องหมวย
หายใจเข้า ก็ น้องหมวย หายใจออก ก็น้องหมวย

ผมตามจีบน้องหมวยอยู่เป็นเดือนเหมือนกันนะ จนกีฬาสีจบไปแล้วนั่นแหล่ะ ผมถึงได้เป็นแฟน

เป็นแฟนกันยังไง สมัยก่อน ไม่เหมือนสมัยนี้นะครับ ที่เป็นแฟนกันแล้ว ก็เอากันเลย T_T
สมัยก่อนนั่นน่ะ จะจับมือกันนี่ถ้าไม่คบกันนานจริง ๆ ไม่มีสิทธิ์ครับ หมดสิทธิ์จับมือ

ไปเที่ยวกันนี่ต้องนัดล่วงหน้าเป็นเดือน ไม่งั้นอด

พอเป็นแฟนกันแล้ว ผมก็เทียวรับ เทียวส่ง วิธีการรับของผมก็คือ

1. ตอนเช้า ไปยืนรอที่หน้าปากซอยทางเข้า แล้วก็เข้าไปด้วยกัน
2. ตอนเย็น เดินไปส่งน้องหมวยขึ้นรถ ที่ป้ายรถเมล์

การกระทำทั้ง 2 อย่างข้างต้นนั้น กระทำกันภายในระยะ 5 เมตร!!!!!
ยังไงคือระยะ 5 เมตร

ก็คือ ไม่ได้เดินติดกันนะครับ น้องหมวยเดินหน้า ผมตามหลัง ในระยะ 5 เมตร
ถ้ามองผ่าน ๆ เหมือนไม่ได้มาด้วยกัน
ตอนไปส่งน้องหมวยขึ้นรถที่ป้ายรถเมล์ ผมก็นั่งห่างจากน้องหมวย ประมาณ 3 เก้าอี้ได้

โอ้ย ถ้าสมัยนี้นะ แทบจะอุ้มขึ้นรถเมล์ไปเลยแหล่ะ

นั่นแหล่ะครับ ผมทำอย่างนั้น ทุกวันนี้ยังคิดอยู่ว่า ห่างกันขนาดนั้น คุยก็ไม่ได้คุย แล้วผมจะไปส่งทำไม
บ้านเค้าก็กลับเองเป็น ผมจะไปส่งทำไม ผมไปส่ง ผมก็ต้องถ่อสังขารกลับมาอีก จะไปทำไม


เพื่อน ๆ อาจจะถามว่า อ้าว ไม่ได้คุยกัน แล้วคบกันได้ยังไง ผมมีวิธีครับ ไม่ได้คุยกันที่โรงเรียน
แต่กลับมาคุยที่บ้าน ความรักของผม ต้องขอบคุณการสื่อสารแห่งประเทศไทยที่เอื้อเฟื้อตู้โทรศัพท์
ไว้ให้ผมใช้ในการติดต่อสื่อสารกับน้องหมวย

ความสัมพันธ์ของผมกับน้องหมวย เกิดขึ้นเพราะ โทรศัพท์สาธารณะล้วน ๆ
ตกเย็นเป็นโทร โทร ๆ ๆ ๆ ๆ บังเอิญว่า บ้านผมจนได้เงินไปกินข้าวไม่เท่าไหร่

ผมก็จะเก็บไว้ 5 บาท เอาไว้หยอดตู้โทรศัพท์ หยอด 5 บาท คุยได้ 15 นาที

ครับ ........ ผมคุยกับน้องหมวย วันละ 15 นาที
ไม่รู้ว่า คบกันได้ยังไง คุยกันวันละ 15 นาที ทุกวันนี้ ถ้าต่ำกว่าครึ่ง ชม. นี่ เรียกว่า ไม่เอาใจใส่นะครับ

แต่ผมก็คบกันมาจนได้ เทศกาลอะไรที ผมต้องเก็บเงินเป็นเดือน ๆ ถึงจะมีของมาให้น้องหมวยได้
น้องหมวยก็ดีนะครับ ไม่อยากได้อะไรจากผมหรอก แต่ผมก็นะ อยากจะให้เหมือนคนอื่นๆ เค้า

ผมคบกับน้องหมวย ตั้งแต่ ม.5 เทอม 2 จนจบ ม. 6
ซึ่ง น้องหมวย ก็จบ ม. 3 พอดีเหมือนกัน

ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ผมเคยไปดูหนังกับน้องหมวยมากมายนับได้ 1 ครั้งถ้วน!!!
(แสดดดดดดดดดด มากตรงไหนฟระ)

แล้วก็นั่งห่างกันเป็นวา ประมาณว่า มีเพื่อนๆ น้องหมวยคั่นอยู่ประมาณ 8 คนได้

(ทำไมมรึงไม่ขนมานั่งคั่นกรูทั้งห้องเลยล่ะวะ)

นั่งห่างกันขนาดนั้น อย่าว่าแต่จับมือเลย นั่งตรงไหน ผมยังหาไม่เจอ T_T

"เอ่อ น้องครับ น้องหมวยนั่งอยู่ตรงไหนเนี่ย" ผมหันไปถามน้องคนนั่งข้าง ๆ
"โน่นค่ะพี่หมัน หมวยมันนั่งอยู่ริมสุด"

"ริมสุด!!!!!!!!!" ฮือออ กรูจะไปทำไมเนี่ย

ดูหนังเสร็จออกมากินข้าว ก็นั่งกันคนละโต๊ะ ไม่รู้เค้าเรียกนัดกันตรงไหน

เอาเถอะครับ เพื่อความรัก จะยังไงก็ได้
จนวันเวลาดำเนินมาถึง วันที่ ผมกับน้องหมวย ต้องแยกย้ายกันไปศึกษาต่อ ณ.สถาบันอื่น

ผมได้เรียนต่อ ปวส. ที่โรงเรียนใกล้ ๆ บ้าน ส่วนน้องหมวย ได้เรียนต่อ ม.4 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ..............
สวนกุหลาบไหน ไปเติมกันเอาเองแล้วกันนะ

ความสัมพันธ์ของผมกับ น้องหมวย ยังดำเนินต่อไปได้อีกประมาณเกือบ ๆ 3 เดือน
ก็ยังคุยกันทุกวันแหล่ะครับ วันละ 15 นาที เหมือนเดิม

จนวันสิ้นสุดมาถึง เมื่อมีวันหนึ่งน้องหมวยให้ผมไปรับที่หน้าโรงเรียน
ผมก็ถ่อไป (ไกลชิบหาย) เพราะไม่ได้เจอมาหลายเดือนมากแล้ว พอไปถึง
ก็พาไปกินข้าว พาไปส่งบ้าน ก่อนแยกกัน น้องหมวยหันมาบอกผมว่า


"พี่หมันคะ"
"หืม มีไรครับ"

"หมวยเพิ่งตัดสินใจได้ค่ะ"
"ตัดสินใจอะไรครับ"

และแล้ว คำที่ผมไม่คิดว่าน้องหมวยจะเอ่ยออกมาเลยทั้งชีวิต มันก็หลุดออกจากปากน้องหมวย ทะลุทะลวงเข้าไปกลางกระบาลผม กระแทกเส้นประสาทอย่างแรง น้องหมวย ตอบมาว่า ....................














"หมวยเป็นทอมค่ะ"

"หมวยเป็นทอม!!!!!! งั้นพี่ก็ เจอรี่อ่ะดิ" (แสดดดด ยังตลกไม่เลิก)


คำตอบของน้องหมวย เล่นเอาผมอ้าปากค้าง แดรกข้าวไม่ลงไปหลายวัน
ก็น้องหมวยเล่นไม่ให้โอกาสแก้ตัวกันเลย จะแก้ตัวยังไง แฟนใหม่เค้าก็ไม่ได้มี
คนมาจีบเค้าก็ไม่มี ที่บ้านรึก็ไม่ได้ห้าม เพื่อน ๆ รึก็สนับสนุนกันดี

แต่นี่ น้องเล่นแปลงร่างจากสาวน้อยน่ารัก กลายเป็น "ทอม"
มีทางเดียวที่ผมจะคบกับน้องหมวยได้ต่อคือ ผมต้องแปลงร่างเป็น "ดี้"


แสดดดดด แล้วผมไม่ใช่ผู้หญิง ผมจะเป็นดี้ได้ไง พูดอะไรไม่คิด T_T




ทุกวันนี้คำ ๆ นี้ยังกังวานอยู่ในหัวผมอยู่เลย


"หมวยเป็นทอม หมวยเป็นทอม หมวยเป็นทอม หมวยเป็นทอม"

แสดดดด เป็นทอม ฮือออออ


ทำไมครับ ทำไม พี่ไม่ดีตรงไหน ฮือออ มีแฟนใหม่ไปเลยซะยังจะดีกว่า
น้องเล่นปิดโอกาสพี่เลยนี่หว่า ฮือออออ เป็นทอม ฮืออออ
น้องหมวยครับ จับพี่ไปนอนพาดกับรางรถไฟ ให้รถไฟทับตายห่าไปเลยดีกว่าครับ
ดีว่าน้องมาบอกพี่อย่างนี้ ฮืออออออออออ


"หมวยเป็นทอม" ฮืออออ




สรุป คบกันมา 2 ปี มือไม่เคยจับ ตัวไม่เคยโดน น้องหมวยที่น่ารักของพี่
ก็แปลงร่าง กลายเป็น "ทอม" ไปเลย แสดดดดดดดด




สมันน้อย เบอร์ 14



Create Date : 23 เมษายน 2550
Last Update : 23 เมษายน 2550 22:26:44 น.
Counter : 866 Pageviews.

11 comments
  
ขำขำนะ กีฬาสี ตอนม.ปลาย มันส์ดีนะคับ คิดถึงสมัยมัธยม
โดย: frank3119 วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:23:02:15 น.
  
555 มาขำรักแรกของคุณหมันอ่ะค่ะ หมวยเป็นทอม กร๊ากกก
สงสัยน้องหมวยเพิ่งมาเปลี่ยนใจเพราะคุณหมันแน่ๆเลย ฮ่ะๆๆๆ

ขอเม้าท์มั่งนะค่ะ อืม...แต่ก่อนการเป็นแฟนกันนั้นคบกันแบบนี้จริงๆเนอะ แม้แต่เส้นผมยังไม่ได้สัมผัสกันเล้ย... ถึงชอบสังคมแต่ก่อนไงค่ะ ความรักของวัยเรียนนั้นน่ารัก สดใส ไม่ต้องการตัว แต่แค่ได้ดูอยู่ห่างๆก็พอ รักที่เป็นการให้ ไม่ใช่ต้องการจากเขาอย่างเดียว ดูแล้วช่างแตกต่างจากปัจจุบันซะเหลือเกิน...

โดย: fonrin วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:23:25:20 น.
  







ก็แค่หมวยเป็นทอมเอง..







โดย: wilmington วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:23:54:40 น.
  
หมวยเข้ามาได้ยังไง บังเอิ๊ญบังเอิญ แต่หมวยนี้ไม่ทอมนะ

อ่าน blog คุณแล้วขำมาก ซูฮก จ๊กมก
โดย: fOn IP: 202.91.18.192 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:0:52:07 น.
  
ดีนะที่น้องเค้าบอกว่า หมวยเป็นทอม


ไม่บอกว่า หมวยเป็นหวัด เจ็บคอ


โดย: Still Alive IP: 124.120.103.22 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:14:28:28 น.
  
สบายดีนะคะ?

กลับมาแล้ว แต่เตรียมตัวไปต่อ

ร้อนจิ๊บเป๋งเล้ยโคราช

ศุกร์นี้ได้ไปใต้ เค้าว่าหน้าฝนน่ะ

นอนเต๊นท์ด้วย เฮ่อ ครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ย

กลับปู๊น 5 นู่นแน่ะ

ปล. วันเกิดก็ต้องทำงานทั้งที่เป็นวันหยุด น่าอิจฉาตรงไหนเนี่ย
โดย: พิมรัก วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:19:40:21 น.
  
ขอ add blog นะคะ..น้าหมัน
โดย: wilmington วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:22:16:49 น.
  
คุ้นๆว่าก่อนหน้านี้เคยอ่านแล้วนะ แต่อ่านซ้ำก็ ฮา เหมือนเดิม

สู้ๆ ค่ะ
โดย: BB IP: 124.120.151.207 วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:15:45:34 น.
  
เอิ๊กๆๆ ชีวิตน้องหมันนี่ มันส์จริงๆ
โดย: ladybear วันที่: 26 เมษายน 2550 เวลา:23:45:16 น.
  
ฮิฮิ น่าสงสารจริงๆ คงเสียselfน่าดูนะคะน้า
โดย: Princess Vertebra วันที่: 28 เมษายน 2550 เวลา:10:31:28 น.
  
Description

Nokia N97 combines a large 3.5" touch display with a full QWERTY keyboard, providing an 'always open' window to favorite social networking sites and Internet destinations.Nokia's flagship Nseries device introduces leading technology - including multiple sensors, memory, processing power and connection speeds - for people to create a personal Internet and share their 'social location.

* Nokia N97 32GB
* 1 Battery
* 1 Charger
* 1 Data Cable
* 1 User's Guide
โดย: FOR SALE:Nokia N97 32GS Mini (Unlocked Free Sim) IP: 114.127.246.36 วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:18:49:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมันน้อย เบอร์ 14
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

:: หลังไมค์หาผมได้ครับ ::


Custom Search



เมษายน 2550

1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
 
 
23 เมษายน 2550
All Blog
MY VIP Friend