Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Museum of Siam (Discovery Museum) 1

ช่วงนี้ถ้าใครได้ผ่านไปแถวๆ วัดเชตุพนวิมลมังคลารามหรือวัดโพธิ์ กรมการรักษาดินแดน สวนสราญรมย์ จะเห็นตุ๊กตารูปคนรูปร่างพิลึกๆ สีแดงๆ ยืนอยู่ตามทางเท้า หรือวงเวียน

พวกเขาคือ presenter ของ Museum of Siam นั่นเองครับ










แล้วตุ๊กตาเหล่านี้ มีที่มาอย่างไร ??


ตุ๊กตาเหล่านี้ได้มาจาก ตราสัญลักษณ์ของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาตินั่นเอง จากเว็บไซต์ของ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ Museum of Siam แห่งนี้ กล่าวว่า


คนทุกคนมีกำเนิดมาตัวเปล่าทั้งนั้น ยุคแรกเริ่มยังไม่รู้จักทำเครื่องนุ่งห่ม จึงเป็นคนเปลือย เลยถูกเรียกจากคนอื่นที่มีอารยธรรมสูงกว่าว่า นาค (นาคก็คืองู ไม่มีขน ไม่มีเกล็ด มีแต่หนังหุ้มและลอกได้ ตามกำหนด ทั้งหมดเท่ากับเปลือยเปล่า และเป็นสัญลักษณ์ของน้ำที่อยู่ใต้ดิน คือบาดาล กับบนฟ้า คือสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในอุษาคเนย์ต้องการเพื่อใช้เพาะปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารตามฤดูกาล)

ฉะนั้น ตราสัญลักษณ์ จึงเป็นรูปคนที่ไม่ระบุเพศและเผ่าพันธุ์

รูปคนยืนกางแขน กางขา ทำท่าเป็นกบ เพราะกบ (รวมทั้งอึ่งอ่าง คางคก เขียด) เป็นสัญลักษณ์ของน้ำ โดยเฉพาะน้ำฝน จึงมีรูปกบอยู่บนหน้ากลองทอง (สัมฤทธิ์) หรือมโหระทึกของอุษาคเนย์ เพราะเป็น เครื่องมือเครื่องใช้ประโคมตีในพิธีกรรมขอฝนเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของชนทุกเผ่ายุคดึกดำบรรพ์ ไม่น้อยกว่า 3,000 ปีมาแล้ว

นอกจากยกย่องกบเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว คนในชุมชนยังร่วมกันเต้นฟ้อนทำท่าเป็นกบด้วย มีภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตาม เพิงผา และเถื่อนถ้ำตั้งแต่เขตมณฑลกวางสีถึงบริเวณประเทศไทย

พิพิธภัณฑ์จึงแสดงเรื่องราวของ "คน" เพื่อให้รู้และเข้าใจรากเหง้าเหล่ากอความเป็นมาของบรรพชน ซึ่งล้วนเป็นคนพื้นเมืองของภูมิภาคอุษาอาคเนย์โบราณ คนพวกนี้ประสมประสารกันทางเผ่าพันธุ์ สังคม และ วัฒนธรรม แล้วก่อบ้านสร้างเมืองขึ้นเป็นแว่นแคว้นหรือรัฐ จนเป็นอาณาจักร แล้วดำรงเป็นประเทศสืบมาถึงทุกวันนี้


เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปชมอาคารที่เขาใช้จัดแสดงนิทรรศการถาวร "เรียงความประเทศไทย" นะครับ


ซุ้มประตูทางเข้า


อาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเรื่อง เรียงความประเทศไทย


สำหรับอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรหลังนี้ แต่เดิมคืออาคารของกระทรวงพาณิชย์เดิม ที่สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2465 โดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ มาริโอ ตามาญโญ ซึ่งออกแบบร่วมกับวิศวกรกอลโล สปิญโญ และสถาปนิกกวาเดรลลิ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เป็นตึก 3 ชั้น แผนผังเป็นรูปตัว E กล่าวคือ เป็นอาคารยาวที่มีมุขยื่นออกมาที่ปลายอาคารและตรงกลางอาคาร บัวหัวเสาของอาคารเป็นแบบ Ionic และมีการประดับรูปหน้าสตรีบริเวณยอดซุ้มโค้งหน้าต่างระเบียง







แต่อย่างไรก็ตาม ประวัติการใช้พื้นที่บริเวณกระทรวงพาณิชย์หลังนี้ก็ยังสามารถสืบค้นย้อนหลังกลับไปได้จนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ... ใครใคร่รู้ต้องเข้าไปชมนิทรรศการภายใน ในห้อง "ตึกเก่าเล่าเรื่อง" (Building Exhibition) ครับ


ร่องรอยของสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเปิดเผยเมื่อคราวที่มีการบูรณะอาคาร
ซึ่งเมื่อบูรณะอาคารเรียบร้อยแล้ว ก็ยังเปิดเผยให้เห็นให้ผู้สนใจเดินมาดูได้


ต่อไปก็จะเป็นภาพบรรยากาศภายในอาคาร ก่อนที่จะเข้าไปชมนิทรรศการถาวร


บันไดภายในอาคารที่มีโครงสร้างฝากไว้กับผนังอาคาร โดยไม่มีเสารองรับน้ำหนัก
ทำให้ดูเหมือนบันไดนั้นลอยอยู่ได้อย่างน่าแปลกใจ












ปิดท้ายบล้อกนี้ด้วยรูปคนเต้นท่ากบนับร้อยนับพันที่แขวนห้อยอยู่ตรงกลางช่องว่างของบันไดบริเวณปีกขวาของตึก


แล้วเดี๋ยวจะเอารูปการจัดแสดงในห้องนิทรรศการถาวรมาให้ดู เผื่อใครว่างๆ วันหยุดเสาร์ - อาทิตย์นี้ จะได้มีทางเลือกไปเที่ยวพักผ่อน แถมยังได้ความรู้ด้วย อ้อ ... ตอนนี้เขายังเปิดให้เข้าชมฟรีนะครับ อีกไม่นานก็คงจะเก็บค่าเข้าชม

อย่าพลาดล่ะครับ



Create Date : 15 พฤษภาคม 2551
Last Update : 16 มิถุนายน 2551 0:07:38 น. 8 comments
Counter : 2225 Pageviews.

 
แวะมาทักทายนะคะ


โดย: p'กุ้ง (สงบเสงี่ยมเจียมตัว ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:29:09 น.  

 


รูปง้ามมม งาม ชอบมากท่าแหกขา

คุงเปงเปรี้ยวจัยของครัยเนี่ยะ
เราจะไปทำงานแระ


โดย: Nagano วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:48:29 น.  

 
เอ๊ พี่ ตึกนี้เค้าเคย ถ่าย ละครเปล่า อ่า


โดย: ไม้ยมก&แหนมมัด วันที่: 15 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:51:54 น.  

 
หิหิ..คิดหาเหตุผลให้โลโก้ซะสวิงสวายเวียนเฮดไปไม่น้อย...

แปลกที่ presentation ออกจะดูกราฟฟิกจ๋า แต่สถานที่ so traditional... เข้ากันดีพิลึก...หุๆๆ

ยังไม่ทราบเรยว่ามิวเซียมอันนี้เอาไว้โชว์อะไร??

กระนั้น ก็ออกจะทึ่งกับตึกเกร๋นี้เป็นอันมาก ไม่น่าเชื่อว่ายังมีหลงเหลืออยู่ใน กทม. (ตรงส่วนไหนอะ ไปไม่ถูก..)

ชอบมุมมองของตากล้อง ช่างสรรหาอะไรสวยๆ งามๆ มาให้ชมกันประจำ

ขอบคุณที่นำมาแนะนำนะจ๊ะ.. จะพาทัวร์เมื่อไรก็บอกด้วย...


โดย: พี่หมี (Bkkbear ) วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:20:07 น.  

 
ตุ๊กตาสีแดง ไอเดียดีมากๆเลยค่ะ


โดย: Suessapple วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:22:21 น.  

 
ไปมาแล้วค่ะ แต่ทำไมพี่ถ่ายรูปสวยกว่าง่ะ


โดย: butbbj วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:27:53 น.  

 
ภาพแจ่มจริง .. เด๋วไปมั่ง อยู่ตรงเยื้องวัดโพธิเหยอครับ


โดย: Duo วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:30:09 น.  

 
พลาดไปแล้ว เสียดายๆๆๆๆๆ


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:38:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทายาทตระกูลหยี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




10 Blogs ล่าสุดสุริยุปราคาบางส่วน จากเมืองจันทบุรี แกลเลอรี่ภาพถ่าย
แค่อยากจะร้อง : Superman ร้องเพลง
แค่อยากจะร้อง : Listen ร้องเพลง
นับถอยหลังรอวันสูญของบาตรบุแห่งชุมชนบ้านบาตร จิปาถะ
เห็ดแชมเปญที่น้ำตกคลองนารายณ์ จันทบุรี แกลเลอรี่ภาพถ่าย
เมืองน่านจากวัดพระธาตุเขาน้อยตอนกลางคืน แกลเลอรี่ภาพถ่าย
แค่อยากจะร้อง : Out of reach ร้องเพลง
สิมวัดเชียงทอง หลวงพระบาง แกลเลอรี่ถาพถ่าย
ซ้อมใหญ่ริ้วกระบวนพระอิสริยยศฯ 2 พ.ย. 2551 แกลเลอรี่ภาพถ่าย
เพราะอะไร : piano by tutu pianist ร้องเพลง





free website stats
Friends' blogs
[Add ทายาทตระกูลหยี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.