วันนี้เมื่อสองปีก่อน เราได้เจอผู้ชายคนนึงที่เห็นหน้าค่าตาผ่านทางรายการทีวีเพียงแค่ไม่ถึง 10 วินาที กับเพลง Kimi e no love song 10 nen saki mo!! แวบแรกที่เห็นจริงๆแล้วไม่คิดจะสนใจด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ว่าผู้ชายที่เห็น หน้าตาน่ารัก ตัวผอม ดูไปดูมาก็เหมือนเกย์ควีนอยู่เหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ น่าเอ็นดูดี อีกอย่างเพลงที่ออกมาตอนนั้นก็เพราะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ด้วยความที่อยากฟังต่อก็เลยลองไปหา เพราะดูจากตอนนั้นไม่มีปัญญาค่ะ ทั้งชื่อเพลง ก็อ่านยาก ชื่อศิลปินอีก โอ้ยยคันจิล้วนตอนนั้นภาษาญี่ปุ่นกากแบบขั้นสุด อ่านไม่ออกซักตัวเลยค่ะ มารู้ทีหลังว่านางชื่อว่า "Matsushita Yuya" นะเนี่ยย อื้มๆๆๆ

ตอนที่เสิร์ชชื่อยูยะในอากู๋ใหม่ๆ เรามาเจอบ้านของยูยะใน popcorn ในนี้จะมีรูปมีประวัติ แล้วก็มีบทสัมภาษณ์ของยูยะที่เป็นภาษาไทย สิ่งแรกที่ประทับใจตอนที่ได้อ่านประวัติก็คือ "เห้ย เจ๋งอ่ะค่ะ มีความฝันเป็นของตัวเองตั้งแต่ที่อายุยังน้อย แล้วก็เป็นคนที่แน่วแน่แล้วก็มั่นคงในความฝันของตัวเอง และพยายามที่จะทำมันให้เป็นจริง ตอนนั้นเวลาที่ยูยะอายุเพียงแค่ 12 ปี ถือว่าเป็นคนที่คิดเร็วกว่าเด็กวัยเดียวกันมากสำหรับเรานะ เพราะตอนนั้นหนูจำได้ว่ายังกระโดดเชือก กะเล่นหนังยางกับเพื่อนอยู่เลยอ่ะเค่อะ ฮ่าๆๆๆ แล้วมีเหมือนกันนะ ที่ผู้ใหญ่ชอบถามว่า โตขึ้นหนูอยากจะเป็นอะไรคะ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดเลย แต่ก็ดันพูดลอยๆออกมา หนูอยากเป็นหมอค่ะ และก็พูดแค่นั้นแต่ก็ไม่มีความกระตือรือร้นที่อยากจะทำหรืออยากจะเป็นเลย จนมาถึงตอนนี้โตมาจนจะแก่ตายก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะเป็นอะไร ถือว่าคนที่รู้ตัวเองได้เร็วอย่างยูยะนี่สุดยอดจริงๆเลยล่ะนะ ซักวันนึงก็อยากทำได้แบบนั้นบ้างจังแฮะ" 

แล้วก็ดันมาอ่านเจอประวัติอีกอันนึง มัตสึชิตะ ยูยะ เล่นเป็น เซบาสเตียน ในละครเวทีคุโรชิซึจิ เอ๊ะ!! คุโรชิซึจิ เดี๋ยวนะเรื่องนี้คุ้นๆ เหมือนเพิ่งดูจบไปเมื่อสามสี่วันก่อน บังเอิญจังเนาะ ทั้งที่ปกติแล้วเราเป็นคนที่ไม่ติดการ์ตูนเลยค่ะ หลังจากตอนขึ้นม.ปลาย ก็เลิกอ่าน เลิกดูการ์ตูนมาตลอด จนถึงช่วงนั้นที่ดูการ์ตูนมันแบบมาราธอนไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว อะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น 55 ก็เลยเอาซักหน่อยลองดูซิว่าภาคคนแสดงมันจะเป็นยังไงนะ ตอนนั้นคุโรชิซึจิที่ดู เป็นมิวภาค 2 ค่ะ ตอนแรกที่เปิดมาเจอ ไม่ได้เปิดเจอยูยะนะคะ แต่ไปเจอทาคุยะก่อนเลย แล้วชอบมาก นางเล่นเป็นเกรล แล้วร้องเพลงอะไรซักอย่าง แต่มันมีแบบติดเรทด้วย 55 แรดจริงอะไรจริง ต่อมาถึงมาเจอยูยะ แต่ตัวเป็นคนพ่อบ้าน แวบแรกที่เห็น เออมันใช่อ่ะ เพราะเซบาสเตียนจะมีผมข้างหน้าเด้งๆออกมาหน่อยนึงตอนที่ดู วิกใช้ได้เลย 55 แต่ตอนที่ประทับใจที่สุด ตอนที่ฟังเสียงของยูยะชอบตอนที่ยูยะคุงดัดเสียงเข้มมากค่ะ ดูมีเสน่ห์ดีหลงเลย แล้วก็ตอนที่ร้องเพลง น่าจะเป็น Hallucination ถ้าจำไม่ผิด เป็นคนร้องเพลงเพราะมาก ฟังตอนแรกทั้งขนลุก มือสั่น ใจสั่นไปหมด ไม่ได้เว่อร์นะคะอันนี้แต่เป็นจริงๆ หรือเราตามหาคนที่มีเสียงแบบนี้มานานก็ไม่รู้ฟังแล้ว ใช่เลย นี่ล่ะเพราะในแบบที่เราชอบ ร้องเพราะกว่าเคตะ (w-inds)อีก ในความรู้สึกนะคะ ก่อนที่จะมาเจอยูยะเราชอบวง w-inds มาก ตามวงนี้มาประมาณ 11 ปีได้ แต่พอมาเจอยูยะก็เลิกสนใจ w-inds ไปเลย แล้วพอเริ่มรู้จักยูยะเรื่อยๆ ตอนที่ดูพีวี Naturally เห็นสเต็ปแดนซ์แบบเทพ ที่ไม่ใช่B-boy เหมือนเรียวเฮเต้น ตอนนั้นแปลกตามากๆ เลยเกิดสนใจแบบจริงๆจังๆ เพราะชอบคนเต้นเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อิอิ บวกกับๆ ยูยะร้องภาษาอังกฤษเป๊ะมากชัดถ้อยชัดคำ สำเนียงเริ่ดเว่อร์ ทึ่งจริงๆค่ะอันนี้ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นเป็นยังไง 55 อันนี้ยอมรับว่าเจ๋งจริงอะไรจริงผู้ชายคนนี้ อิอิ

ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ แอร๊ยยยย เน่าซะ 55

จริงๆแล้วตามนั้นเลยนะ ฮ่าๆๆ พอรู้จักยูยะมากขึ้นเรื่อยๆทุกคนที่เป็นแฟนยูยะจะรู้เลยว่า นิสัยนางน่ารักมาก กินเก่ง ยิ้มง่าย ขี้เล่น รักเด็ก รักสัตว์ ที่สำคัญชอบป่าวประกาศบอกชาวบ้านว่าตัวเองเป็น โด เอส (พวกซาดิสต์) 555 ไม่เฉพาะนิสัยที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่ด้วยไลฟ์สไตล์แบบอินดี้ของผู้ชาย แบบที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านซักเท่าไหร่ ทำให้มองว่าเออแปลกดีแฮะ ดูเป็นจุดสนใจดีฮ่าๆๆ น่ารักๆ ถ้าใครได้รู้จักผู้ชายคนนี้รับรองได้ว่าจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียวค่ะ!!

การที่เราจะรักศิลปินคนนึงได้อย่างยั่งยืน มันคืออะไร??

จริงๆแล้วพูดกันตามตรง ถ้าลำพังแค่ชอบยูยะ เราตอบได้เต็มปากว่าไม่มีทางที่จะชอบได้เกิน 1 ปีค่ะ อาจจะเห่อเป็นพักๆแล้วเลิกไปแต่ที่เพราะอยู่ได้จนมาถึงทุกวันนี้ก็เป็นเพราะว่าสังคมของคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน ตอนที่รู้จักยูยะคุงแรกๆ เราเองก็ได้มาเจอกับสังคมเล็กๆของยูยะ ตอนนั้นจำได้บ้านหลังนี้มีสมาชิกแค่ร้อยนิดๆ ชื่อบ้านว่า Matsushita Yuya [Thai] Fan Club บ้านนี้แอดมินน่ารักมาก แจกไฟล์ โพสต์รูป อิอิ ถ้า ณ ตอนนั้นถือว่าเป็นบ้านที่ข้อมูลของยูยะแน่นที่สุดในเมืองไทยเลยจริงๆ แฟนคนไทยยูยะทุกคนก็นิสัยดี ตอนนั้นมินเจ เป็นคนดูแลเพจอยู่ สร้างกลุ่มprivate ย่อยๆเอาไว้แทะโลมผู้ชาย 555 จำความได้ว่าตอนนั้นสนุกมากค่ะ พี่ๆคุยกันเก่งมากขยันแทะโลมยูยะไอ้เราก็หัวเราะสนุกสนาน นึกถึงเวลาตอนนั้นรู้สึกดีจริงๆเลยนะเนี่ยได้มาเป็นแฟนคลับยูยะพี่ๆน่ารักกันทุกคนเลย แต่นั่นแหละงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เพราะบางคนก็เลิกชอบยูยะคุง บางคนก็ยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาที่จะมาดูแล ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็สนุกกันแท้ๆ ความรู้สึกที่รับรู้ว่ามีคนเลิกชอบและไม่สนใจยูยะแล้วมันเจ็บปวดที่สุด ช่วงนั้นแทบอยากจะร้องไห้ อยากจะพูด อยากจะบ่น แต่ก็พูดอะไรกับใครไม่ได้ มันเป็นอารมณ์ที่น้อยใจแบบสุดๆ แต่พอคิดได้ว่ายังไงแฟนคลับยูยะก็ยังจะต้องมีต่อไป ถึงใครจะไม่สนใจแล้วแต่เราในฐานะแฟนเพลง ก็ต้องทำให้มีคนมารักมาชอบยูยะคุงให้มากกว่าเดิมให้ได้ หลังจากนั้นเราก็ขออนุญาติมาสานงานเป็นแอดมินเพจต่อ โพสต์รูปทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น พยายามจะอัพเดทข่าวให้ไว สร้างทั้งเฟสบุค ทวิตเตอร์สำหรับแฟนคลับ จนทำให้รู้จักเพิ่อนต่างชาติมากมาย มีเพื่อนที่คุยด้วยแบบจริงๆจังๆที่เป็นคนญี่ปุ่นอยู่ 2-3 คน คนไทยก็มีคุยบ้างเหมือนกัน แต่ว่าการเป็นแอดมินมันไม่ได้สบายเลย บางทีก็โดนด่า โดนจิก จากแฟนเพลงประเทศอื่น เราก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน บางทีโดนหาว่าทำตัวเด่นบ้างก็มี บางทีก็เซงๆที่คนในเพจไม่ชอบคุยกัน มันท้อไปหมดเลย แต่ที่อยู่ได้เพราะว่า เพื่อนๆที่คอยให้กำลังใจตลอดมา ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องเศร้า เขาก็จะพยายามบอกเราตลอดว่าไม่เป็นไรนะ อย่าคิดมาก ทั้งที่บางทีเราก็รู้ตัวว่าเราทำผิด บางทีโดนแกล้งแรงมาก แต่ก็ได้เพื่อนๆ คอยยืนหยัด คอยเข้าข้าง ทำให้รู้สึกว่ามันยังมีความโชคดีในความโชคร้าย รู้สึกขอบคุณยูยะที่ทำให้เรารู้จักเพื่อนดีๆ แม้จะไม่เคยเห็นหน้าค่าตากัน แต่ก็ยังมีความจริงใจมอบให้เสมอมา ตอนนั้นพูดกับตัวเองว่าจะรักยูยะไม่ใช่แค่ว่าเป็นศิลปินที่ชอบแต่จะรักยูยะเพราะยูยะเป็นคนนำพาความสุขมาให้ นำพาสิ่งดีๆมาให้ บางทีในฐานะแฟนคลับ เราเองก็รู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้ทำหน้าที่แฟนคลับที่ดีซักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับแฟนเพลงที่ญี่ปุ่นแล้วดูเขาจะรักยูยะเอามากๆ รักกว่าเราหลายเท่าตัวเลยด้วยซ้ำ ณ สถานะตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากสนับสนุนยูยะตามที่กำลังของเราจะทำได้ พยายามจะป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า ยูยะมีแฟนเพลงมากมายอยู่ที่เมื่องไทย อยากให้ซักวันนึงยูยะได้รับรู้ว่ามีคนไทยรออยู่ที่ประเทศไทยและรักยูยะเสมอมา ถึงแม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่จะรักยูยะมากที่สุด แต่ก็ขอรักยูยะให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพราะยูยะเป็นมากกว่าคำว่าศิลปิน เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้องชาย คำบางคำของยูยะทำให้เราคิดได้ รอยยิ้ม คำพูด การกระทำของยูยะทำให้เรามีกำลังใจในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้า เป็นคนที่สามารถให้กำลังใจเราได้มากที่สุด โดยที่เจ้าตัวแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เห็นหน้ายูยะแค่นี้ก็มีความสุข สองปีผ่านไป กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่3 อยากจะรักยูยะอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถึงใครจะว่าบ้าก็ตามแต่ เพราะเรามีความสุขกับการได้ทำแบบนี้ทุกๆวันกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต รักยูยะมาก จากแฟนเพลงคนไทย ปีนี้ฝากตัวด้วยนะคะเพื่อนๆ ยูยะ มาพยายามเพื่อความฝันด้วยกัน!!

ปล.จริงๆมีเรื่องจะพูดเยอะกว่านี้แต่จำไม่ได้ว่าจะพูดเรื่องอะไร ถ้าจำได้จะมาบ่นใหม่ค่ะ 555 เพลงแรกที่ได้เจอยูยะคุง kimi e no love song ชอบเพลงนี้มาก ฟังเพลงนี้ทุกวันตั้งแต่เจอยูยะ มาวันนี้เราฟังเพลงนี้มาครบสองปีพอดีเลยค่ะ ชอบแอบไปร้องโคเว่อร์บ่อยๆด้วย 55 ใครอยากฟังรีเควสมานะจะปล่อยเสียงเหียกๆให้ฟังแบบลืมอายกันเลยทีเดียว 55