ธันวาคม 2554

 
 
 
 
1
3
4
6
7
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
30
31
 
All Blog
เป้าหมายการลงทุน

ได้ดูโฆษณากระทิงแดงทีไร แล้วรู้สึกหึกเหิมทุกทีไป โดยเฉพาะวลีเด็ดโดนใจที่ว่า "เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" แน่นอนว่าชีวิตคนเรานั้นต้องมีเป้าหมาย เป้าหมายที่เป้นดั่งธงชัยไว้ให้เราเคลื่อนที่ไปข้างหน้า การใช้ชีวิตไปวันๆแบบไม่มีเป้าหมาย ปล่อยตัวไหลไปตามครรลองของเวลา นั้นย่อมทำให้ชีวิตขาดความทะเยอทะยาน ขาดไฟในการขับดันให้ไปสู่ความสำเร็จ


การลงทุนก็เช่นกันครับ ไม่ว่าจะลงทุนสั้นหรือยาว เป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญในการวางแผนบริหารจัดการทางการเงิน แต่เท่าที่ผมสังเกตเห็น แมงเม่าไทย ส่วนมากไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ส่วนมากมักหวังสูง บางคนบอกว่าอยากได้ผลตอบแทนเดือนละ 10% ไม่มากไม่มาย แต่ขอโทษเถอะพ่อคุณถ้าบวกลบคูณหารออกมาแล้ว ปีละ 120% เชียวนะครับ บางคนก็คิดจะได้ปีละ 50 60% นั้นก็ไม่น้อยเช่นกัน 







คนที่ไม่รู้จักตลาดหุ้นอาจจะฟังแล้วขำ เมื่อเอาไปเทียบกับดอกเบี้ย ธนาคารปีละ 2-3 % แต่จริงๆแล้วตลาดหุ้นสามารถเนรมิตรให้ทันได้มากกว่านั้นครับ ถ้าเอาแบบเสี่ยงจัดๆก็ DW วันละ 50-100% ทำได้อยู่แล้ว หรือถ้ามองเป็นรอบสัปดาห์ก็มีหุ้นเล็ก หุ้นร้อนรายวัน Warrant หรือ DW หลายตัวที่เคลื่อนที่เฉลี่ยสร้างผลตอบแทนถึง 50% ต่อสัปดาห์ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เมื่อแมงเม่าเข้ามาสัมผัสกลิ่นเงินในตลาดทุนแห่งนี้จึง อาจจะเคลิ้มฝันมากมายเกินตัวไป 








แต่ถ้าสะดุ้งตื่นสู่โลกความเป็นจริง จะพบว่าหนทางที่ได้มานั้นก็ไม่ง่ายดาย โอกาสสำเร็จมีไม่มาก ส่วนมากเมื่อเข้าไปยุ่งก็มักจะเสียเงินเสียทอง มากกว่าที่จะได้ (ไม่งั้นทุกคนที่เล่นหุ้นเก็งกำไรในตลาดคงรวยเป็นเศรษฐีไปหมดแล้ว ใช่ไหมครับ) เข้าสโลแกนที่ว่า "High Risk High Return" 








ดังนั้นการตั้งเป้าหมายที่ดี ควรจะตั้งเป้าหมายที่อยู่บนพื้นฐานความน่าจะเป็น ชัดเจน สอดคล้องเหมาะสมกับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ เป้าหมายผลตอบแทนเราอาจจะแบ่งเป็น ระยะสั้น ระยะยาว เช่นเป้าหมายระยะสั้นระดับไตรมาส(3 เดือน) เป้าหมายระยะยาวระดับ 1 ปี การมีเป้าหมายผลตอบแทนนอกจากจะใช้ในการวางกลยุทธ เพื่อบริหารการลงทุนแล้ว เรายังสามารถใช้เพื่อประเมินผลการลงทุนเปรียบเทียบกับ ผลตอบแทนโดยรวมของตลาดหุ้นได้ 








ยกตัวอย่าง เป้าหมายผลตอบแทนของผม ผมมองว่าปีหนึ่ง ผลตอบแทนในพอร์ตการเก็งกำไรของผมต้องได้ ผลตอบแทนที่ 40% (ฟังดูเหมือนจะเยอะนะครับ แต่มันมีทางเป็นไปได้) โดยมีผลตอบแทนระยะสั้นรายไตรมาส ประมาณ 10% อธิบายภาษาชาวบ้านก็คือ ใน 3 เดือนเก็งกำไรรายรอบให้ได้ 10% ต่อรอบก็พอ 1 ปีเล่น 4 รอบก็ทะลุเป้าหมายแล้ว




 








ตัวอย่างในภาพเป็นหุ้นตัวหนึ่งพื้นฐานดี มั่นคง ผมเทรด 4 รอบต่อปี เฉลี่ยแล้วผลตอบแทนอยู่รอบละ 12 % เท่านี้เราก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้เบื้องต้นแล้ว แน่นอนว่าการบริหารความเสี่ยงคงไม่ได้เทรดแค่หุ้นตัวเดียว แต่ผมอยากจะบอกว่าหุ้นทุกตัวมันมีรอบของมันที่เราเข้าไปทำกำไรได้ โดยสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ก็คือ การจับจังหวะการลงทุน เพื่อให้สามารถเก็งกำไรรายรอบ ตามทิศทางของ Fundflow ได้ ที่สำคัญถ้าอยากให้ดี นักลงทุนควรศึกษาเครื่องมือแบบ Technical analysis เอาไว้จะพบว่ามีประโยชน์มาก โดยท่านไม่ต้องเก่งเป็นเทพเดาอนาคตได้ ขอแค่สามารถอ่านเครื่องมือ จับการสังเกตการเคลื่อนที่ของราคา และการอ่านแนวโน้มหุ้นได้ก็เพียงพอ







เห็นไหมครับ จริงๆแล้วการตั้งเป้าหมาย นี้เป็นแรงขับดันที่ดีมาก แต่อย่าพยายามเอาความโลภมาหลอกตัวเอง ตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินตัวไป จะทำให้เราเสี่ยงมาก เสี่ยงแบบขาดสติ สุดท้ายท่านก็จะกลายเป็นผู้แพ้ในที่สุด สำหรับมือใหม่หัดเทรด หัดเก็งกำไรก็ไม่จำเป็นที่ต้องตั้งเป้าหมายให้สูง มาก เดี่ยวจะท้อแท้หมดแรงหมดกำลังใจไปซะก่อนการตั้งเป้าหมายผลตอบแทน ควรประเมินจากกำลัง ความสามารถ ของตัวเรา เบื้องต้นเอาแค่ชื่นใจเมื่อทำได้ แต่ขอทำให้ได้อย่างยั่งยืน สม่ำเสมอทุกปีก็พอครับ

อ้างอิงบทความจาก 


//cway-investment.blogspot.com/2011/12/blog-post.html












Free TextEditor



Create Date : 02 ธันวาคม 2554
Last Update : 2 ธันวาคม 2554 12:18:41 น.
Counter : 871 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

coffee4you
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



พูดคุยติดตามเรื่องราวเทคนิคการเล่่นหุ้น
Free Ebook