Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
ใครที่คิดจะไปเที่ยวฝรั่งเศสคนเดียว...ระวัง!!! ตอนที่ 1

ระวังจะ...เหงาค่ะ เพราะมันเป็นเมืองโรแมนติกมั่ก ๆ เดินคนเดียวก็เหงาจะแย่อยู่แล้ว ยังต้องเห็นภาพของคู่รักที่โคตะระสวีทกัน อยู่เต็มเมืองไปหมดอีก

ไปมาเมื่อวันที่ 1-8 กุมภา 2005 (ดีนะไม่อยู่ถึงวาเลนไทน์ ไม่งั้นอาจจะเศร้ากว่านี้ ) เคยโพสต์ลงในพันทิปไปแล้ว เพิ่งจะมีเวลามาโพสต์ลง Blog พร้อมกับได้โอกาส เพิ่มรูป+ย่อรูปใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ก่อนไปก็มาโพสต์ถามข้อมูลใน BP มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ มาให้ข้อมูลไว้เพียบ ต้องขอขอบคุณไว้ก่อนนะที่นี้

ที่ไปมามี Paris, Pau ละก็ Lyon ค่ะ ออกเดินทางคืนวันที่ 30 ถึงตอนเช้าตรู่วันที่ 1 กุมภา... เช็คอินแล้วก็ต้องตรงเข้าออฟฟิศ... แล้วเข้าประชุมจนห้าโมงเย็น เวลาที่บ้านเรามันก็ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว jet lag อย่างแรง เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ไม่กล้านอน กลัวปรับเวลาไม่ได้ ได้เข้านอนอีกที ตอนตี 4 เวลาบ้านเรา

รูปนี้ ถ่ายจากรร.เรา (Le Meridian Hotel)ไปหา รร. Concorde Lafayette ตอนกลางคืนเค้าจะเล่นไฟยังเงี้ยะ สวยมากค่ะ



เช้าตื่นมาตี 4 เพื่อเตรียมตัวบินต่อไป Pau เพื่อเข้าประชุมต่ออีกตอน 9 โมงเช้า พอเก็บของใส่กระเป๋าเรียบร้อย เตรียมปิด ปรากฏว่าล๊อกกระเป๋าหัก เวง... อยู่มาหนึ่งวันหนึ่งคืน เพิ่งมารู้ตัวเอาตอนจะเช็คเอาท์ เราเลยรีบโทรไปที่เคาท์เตอร์ เผื่อเค้าจะมีสายรัดกระเป๋าให้ยืม เพราะกลับจาก Pau เราจะมาเช็คอินที่รร.นี้อีกที แต่เค้าไม่มี มีแต่เชือกห่อพัสดุ แบบว่าเชือกป่านสีน้ำตาลน่ะค่ะ เอาวะ...ดีกว่าไม่มี จากกระเป๋ายี่ห้อ Pierre Cardin สีเงินสุดหรู กลายร่างมาเป็นชะลอมพจมาน เพราะต้องมัดวนหลายรอบมากเพื่อความชัวร์ ตอนรอรับกระเป๋าที่สนามบิน กระเป๋าเราเด่นมาแต่ไกลเลยค่ะ ไม่มีหลง
กระเป๋าใบนี้แถมบัตรเครดิตมาค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่มีเหมือนกันก็ระวังไว้ด้วยนะคะ คงจะเป็นของจีนแดงอ่ะ ห่วย...

เข้าประชุมอีกจนห้าโมง เฮ้อ... ไม่มีเวลาให้หาย jet lag เลย นอนที่ Pau หนึ่งคืนค่ะ รร. สวยมาก ๆ ถึงแพงแต่ก็สมราคา (แต่ถ้าจ่ายเองคงไม่ได้นอนยังเงี้ยะอ่ะค่ะ )



สระว่ายน้ำค่ะ เล็กแต่สวย เพิ่งรู้ว่ามีตอนจะเช็คเอาท์อีกแล้ว... แป่ว



เปิดทีวีมา ก็จะมีชื่อเราอยู่บนจอ Welcome Mrs.... เฮ้ย..ใส่คำนำหน้าเราผิดด้วย แฟนก็ยังไม่มี มาเรียกเราเป็นนางซะแล้ว..



วันที่สองผ่านไป ประชุมถึงห้าโมงอีกแล้ว ตอนเย็นเค้าพาไปกินข้าว กินกันตั้งแต่สองทุ่มจนเที่ยงคืน... กินข้าวเฉย ๆ นะเนี่ย คนฝรั่งเศสพิถีพิถันกับการกินมาก ๆ คุยเยอะด้วย สามวันแรกที่เราทำงาน บริษัทที่เราไปเค้าเลี้ยงข้าว พักเที่ยง 2 ชม.ตลอดเลย อาหารฟลูคอร์สตลอด แถมไวน์ด้วย ไม่รู้ว่าคนฝรั่งเศสเค้าพักเที่ยงยังงี้เป็นปกติ รึเป็นเพราะเราเป็นแขกไปเยี่ยม

ไหน ๆ ก็เข้าเรื่องกินมาแล้ว ก็ขอต่อเลยละกัน
ในช่วงที่เรา visit ออฟฟิศของพาร์ทเนอร์บริษัทเราที่นู่น เค้าเลี้ยงข้าวเที่ยงสามวันเป็นฟูลคอร์สตลอดเลยอ่ะ เหนื้อย...เหนื่อย... ถ้าไปกินอาหารตามร้านอาหารปกติ เค้ามักจะมีเมนูพวก appitizer ก่อน ก็จะเป็นพวกสลัด ซุป รึอะไรเบา ๆ ตามด้วย main course พวกเนื้อสัตว์ ของหนัก แล้วก็ของหวานตบท้าย แต่นี่เค้าเพิ่มออเดิร์ฟก่อนหน้า appitizer ไปอีกอย่าง เอาเข้าไปดิ แถมอาหารมันมาทีละอย่าง พอเรากินเสร็จ เค้าก็ยกอย่างใหม่มาให้ มันทำให้เรากะไม่ถูกอ่ะ ไอ้จานแรกก็อร่อยซะ ทำให้ไม่รู้ควรจะออมแรงไว้กินที่สองรึเปล่า จะกินจานแรกแค่ครึ่งเดียวก็เสียดาย... เฮ้อ..เรื่องกลุ้มของคนมีอันจะกิน (ฟรี)

ที่ขาดไม่ได้ก็คือไวน์ กินกับทุกมื้ออาหาร หวานคอแร้ง...อิอิ ตอนแรกเจ้าภาพเค้าถามเจ้านายเราว่าเอาไวน์ขาวไวน์แดง แต่เจ้านายเราเลิกดื่มแอลกอฮอล์ไปนานแล้ว แอบนึกในใจ อดแน่ตู T_T โชคดีที่เค้าหันมาถามเรา โฮะ ๆ ๆ ไม่มีปฎิเสธค่ะ :)

ช่วงสามวันแรก กินเยอะมาก ๆ (เพราะฟรี) แต่กลับมาน้ำหนักไม่ขึ้นเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเดินเยอะ อีกอย่างน่าจะเป็นเพราะอาหารเค้า healthy มากด้วย ถ้าเทียบกับอาหารอเมริกันมันคนละเรื่องเลยอ่ะ คือมันจะไม่มีอะไรมัน ๆ ทอด ๆ ของเค้าดีจริงค่ะ

เมนูที่นู่นส่วนมากเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษก็มีบ้าง แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ เพราะถึงรู้ว่าส่วนประกอบมีอะไร แต่เราเดาไม่ออกว่าอาหารมันจะประกอบออกมายังไงอ่ะ อย่าว่าแต่กระเหรี่ยงอย่างเราเลย คนฝรั่งเศสเค้าก็ไม่รู้เหมือนกันแหล่ะ เพราะเมนูอาหารเค้าก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วแต่กุ๊กอยากจะเอาอะไรมายำกับอะไร ไม่เหมือนบ้านเรา ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว จะสูตรต่างกันแค่ไหน สุดท้ายมันก็ออกมาคล้ายกันแหล่ะ

พูดถึงอาหารฝรั่งเศส เคยนึกถึงหอยทากกันมั้ยคะ ตัวเองไม่เคยคิดจะกินเลยคะ แต่มันเป็นเมนูบังคับ เพราะสองวันที่เราประชุมอยู่ที่ Pau เค้าสั่งอาหารเตรียมไว้เลย... วันแรกปลอดภัยค่ะ แต่วันที่สอง มันมากับออเดิร์ฟ เห็นมันดำ ๆ ตอนแรกยังไม่แน่ใจ เลยถามเค้า.. ใช่มันแน่แล้ว... ก็ต้องกินอ่ะค่ะ ไม่อยากเสียมารยาท รสชาดมันก็ธรรมดา ไม่ได้อร่อยจะเป็นจะตาย ของกินอื่นมีตั้งเยอะ ทำไม๊จะต้องไปเอามันมากิน... กรรมของหอยจริง ๆ

อาหารพิเศษหน่อยที่เพิ่งมากินครั้งแรกที่นี่ คือ ฟัวกรา รึตับเป็ดบด (ถ้าจำผิดก็ช่วย ๆ แก้ด้วยละกันนะคะ) จะว่าไปกินที่ฝรั่งเศสก็คงไม่ถูกเท่าไหร่ เพราะจริง ๆ เรากินบนเครื่องตอนขากลับ ก็ดีค่ะ เหมือนกินตับที่มันละเอียด ๆ เนื้อเนียน ๆ ดีกว่าหอยทากเยอะ... รู้สึกว่าเป็ดมันตายได้คุ้มค่ากว่าอ่ะค่ะ เสียดายทริปนี้ยังไม่เริ่มบ้าถ่ายรูปอาหาร เลยไม่มีรูปมาให้ดูกันเลย

เช้าระหว่างรอรถมารับ เพื่อไปประชุมอีกเป็นวันที่สาม เดินดูวิวรอบ ๆ รร. หน่อยดีกว่า



Pau เป็นเมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เล็ก ๆ สงบ ๆ ทุ่มกว่า ๆ เค้าปิดบ้านนอนกันหมดแล้ว




ขอบอกไว้ก่อน ว่ารูปที่ถ่ายมา คือเพื่อเป็นที่ระลึกอย่างเดียวอ่ะค่ะ ไม่มีฝีมืออะไรเลย เพราะก่อนไป ไปดูกระทู้เก่า ๆ ที่เพื่อนถ่ายกันไว้ รูปสวยกันมาก ๆ อยากจะถ่ายให้ได้อย่างนั้นแต่อากาศไม่เอื้ออำนวยเลย ช่วงที่ไปก็ประมาณ 1-5 องศา อากาศค่อนข้างครึ้ม โดยเฉพาะที่ปารีส (จริง ๆ แล้วถึงอากาศดี ก็ติดที่ฝีมืออยู่ดีอ่ะค่ะ... ห่วย :P)

วันที่สามจบลง 5 โมงครึ่ง... Yeah!! ต่อไปนี้คือเที่ยวอย่างเดียวแล้ว ก่อนบินกลับ paris ตอนสองทุ่ม พี่บริษัทเราที่ไปฝึกงานที่นู่นชวนไปกินข้าวที่บ้าน อาหารไทยช่วยชีวิต ขนาดไม่ได้กินมาแค่ 3 วันนะเนี่ย

น้องอองรีค่ะ ลูกพี่เค้า เกิดที่ฝรั่งเศส อายุยังไม่ถึงขวบเลย น่ารักมาก ๆ



ช่วงนั้นเพลงเด็กดอยใจดีกำลังดัง น้องเค้าแอบ in trend สังเกตมือซ้าย ถือแครอทไว้ด้วย



กลับมาถึงปารีส 4 ทุ่ม นอนเอาแรงเพื่อวันพรุ่งนี้ zzzzzzz....

เช้าวันที่ 4 พร้อมออกเดินทางเก้าโมง ในกระทู้ที่เราถามไปใน BP มีคนแนะนำบอกว่าเดินเที่ยวก็ได้ ง่ายจัง เอาวะ... เดินก็เดิน สรุปว่าเดินจากเก้าโมงจนสามทุ่ม จากรร. Meridien Etoile ไป Arc De Triomphe ต่อด้วย Place de La Concorde, Louvre, Notredame จบด้วยล่องเรือตามแม่น้ำ Seine เดินไปก็แอบอิจฉาชาวบ้านไป เฮ้อ...



เริ่มที่ Arc De Triomphe จะมีป้ายบอกเป็นระยะว่ามีทางเดินลอดใต้ถนนเข้าไปที่ประตูชัยนะ เป็นภาษาฝรั่งเศสซะด้วย แล้วเดี๊ยนท่อง A B C เป็นภาษาฝรั่งเศสยังไม่ได้เลย เลยอาศัยดูรูป แล้วก็เดินมั่ว ๆ ไป สุดท้ายก็เจอทางลงจนได้ ถ้าใครจะขึ้นไปข้างบนประตู จะมีที่ขายตั๋วดักก่อนถึงทางออก ถ้าไม่ขึ้นก็ออกไปได้เลย... ทริปนี้ ที่ไหนเป็นบันได ขอผ่านค่ะ เก็บแรงไว้เดิน



รูปด้านใต้ประตูค่ะ คาดว่าจะเป็นรายชื่อของผู้ที่เสียชีวิตในสงครามอะไรประมาณนั้นรึเปล่าคะ คือที่ไปเที่ยวเนี่ย ไม่มีความรู้อะไรเลย ไปคนเดียวด้วย



ถ่ายรูปเป็นที่พอใจ ก็ออกเดินไปตามถนน Champs Elysees เพื่อไป Place de La Concorde



Place de La Concorde ไม่รู้ประวัติตามเคย แต่ตรงฐานของมันจะมีรูปตอนขนย้ายมา คาดว่าประเทศไหนซักที่คงให้มาเป็นของที่ระลึกรึเปล่าค่ะ มั่วอีก



ช่วงที่ไปฟ้าครึ้มเกือบตลอดเวลา ถ่ายอะไรมันก็อึมครึมไปหมด เข้ากับอารมณ์คนโสดได้ดีจริง ๆ

จาก Concorde จะมองเห็นหอไอเฟลอยู่ไกล ๆ ค่ะ



จาก Concorde จะเดินผ่านสวนสาธารณะ นกตรึมค่ะ



นกอารายไม่ทราบเหมือนกันค่ะ
ที่ปารีส นอกจากขี้หมาเยอะแล้ว ขี้นกยังเยอะด้วย :P



ก่อนถึง Louvre ค่ะ เพื่อนเราที่มาเที่ยวก่อนหน้านี้ ก็มีรูปถ่ายมุมนี้กับรูปปั้นตัวนี้เหมือนกัน แถมยังมีนกเกาะอยู่ที่หัวรูปปั้นเหมือนกันด้วย เลยคิดกันว่าจริง ๆ แล้วทางพิพิธภัณฑ์ เค้าใช้รูปปั้นนี้เป็นที่ให้อาหารนกรึเปล่า



เอ้า! ถึงซะที Lourve



ช่วงที่ดูบรรยากาศภายนอก ก็ยินเสียงกลอง ตีป๊อก ๆ แป๊ก ๆ ดังไปทั่วบริเวณ ตอนแรกไม่ได้สนใจ แต่สักพักมันเริ่มรำคาญ เลยมองหาต้นตอเสียง ต๊าย...ลูกใครไปเล่นซน ตีกลองอยู่บนนั้น



โบรชัวร์ของที่ Lourve ทำไว้ดีมากเลยค่ะ มีแทบทุกภาษาเลย ยกเว้ยภาษาไทย อ่านเข้าใจง่าย มาถึงอันดับแรก ก็ต้องไปเยี่ยมเจ๊โม้นากันก่อนเลย คนเยอะมากค่ะ กว่าจะเบียด ๆ เข้าไปถ่ายได้



จากนั้นก็จะไปเยี่ยมเจ๊วีนัส แต่เดินหลงมาเจอ The Winged Victory of Samothrace ซะก่อน โชคดีค่ะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว เราชอบงานศิลปะชิ้นนี้ที่สุดเลย ในรูปอาจไม่สวยเท่าไหร่ แต่ของจริงเค้าจัดแสงได้สวยมาก เพดานโปร่ง แล้วแสงมันตกมาที่รูปปั้นพอดี สุดยอด



ตามมาด้วยเจ๊วี...



ดูด้านหน้าแล้ว ดูตูดเจ๊ด้วย..



จบตอนที่ 1 ไว้แค่นี้ค่า ไว้มีเวลาจะทะยอยเอาตอนต่อ ๆ ไปมาลง รวมถึงทริปอื่น ๆ ด้วย...

ขอบคุณที่ติดตามชมค่า


Create Date : 03 ตุลาคม 2548
Last Update : 3 ตุลาคม 2548 2:24:36 น. 5 comments
Counter : 1623 Pageviews.

 
นี่ขนาดบอกรูปไม่สวยนะคะเนี่ย ออกมาน่าดูทั้งนั้นเลย ที่ประตูชัยนั้น ถ้าปีนขึ้นไป มองลงมาจะเห็นถนนเป็นรูปแฉกดาวเลยค่ะ สวยมากๆ ปารีสดูอลังการจริงๆ



โดย: pilgrim (navyblue ) วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:5:24:10 น.  

 
คุณ pilgrim
ขอบคุณสำหรับ comment ค่า
เห็นรูปในโปสการ์ดที่ถ่ายจากมุมสูงบริเวณประตูชัยเหมือนกันค่ะ
สวยมาก เป็นรูปห้าแฉกอย่างที่ว่า
ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีกรอบ จะฟิตร่างกายไปใหม่
จะได้มีแรงเดินขึ้น


โดย: Sleeping_B วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:6:08:09 น.  

 
แหม นึกว่ากลัวขโมย ที่แท้ก็เป็นเช่นฉะนี้เอง ภาพสวยดีค่ะ


โดย: Fruit_tea วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:9:57:39 น.  

 
มีเรื่องดีๆภาพสวยๆมาฝากกันอีกแล้วชอบ.. ชอบ...


โดย: Bamboocrossing วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:23:58:54 น.  

 
คุณ Fruit_tea
ขอบคุณสำหรับคำชมค่า

คุณ Bamboocrossing
เรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ดีใจที่ชอบค่ะ ไว้ว่าง ๆ จะทะยอยเอามาลงเรื่อย ๆ อย่าเพิ่งเบื่อก่อนละกัน


โดย: Sleeping_B วันที่: 4 ตุลาคม 2548 เวลา:2:48:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sleeping_B
Location :
Norman, OK United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Sleeping_B's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.