อีกไม่เกิน 10 ปีพม่าจะสามารถมีระเบิดนิวเคลียร์ได้ครับ

อันนี้กะประมาณกันเล่น ๆ ครับ

คือต้องบอกก่อนว่า มีแต่บ้านเราเท่านั้นเองที่มีพวก NGO มาประท้วงต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เวียดนาม พม่า อินโดนิเซีย มาเลเซีย ต่างกำลังจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กันทั้งนั้น ถ้าใครที่จะกลัวมันตูมตามขึ้นมาน่ะ ถึงแม้มันไม่ตูมตามในบ้านเรา แต่ถ้ามันตูมที่เวียดนาม เราก็ไม่รอดหรอกครับ และเอาเข้าจริงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มันก็ไม่ได้ตู๊มง่ายขนาดนั้น

แต่พม่าสิครับ นอกจากจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้ว ยังอาจจะมีการดำเนินการอย่างอื่นอีกด้วย ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมไม่มี NGO หน้าไหนไปประท้วงพม่าบ้าง

พูดแบบนี้อาจจะเป็นการกล่าวหาพม่าเกินไป แต่มีข้อน่าสงสัยหลายประการในเรื่องของการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายสัมพันธ์ของพม่ากับเกาหลีเหนือ

เทคโนโลยีนิวเคลียร์สมัยนี้หาได้ง่ายครับ และยิ่งจะเอามาทำระเบิดก็ไม่ได้ยากนัก ถ้าพม่าจัดหาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ทางทหารมาจริง ต้องพูดตรงนี้ได้เลยว่า ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจครับ

โดยเฉพาะเกาหลีเหนือที่พร้อมจะขายเทคโนโลยีเพื่อนำเงินตราต่างประเทศเข้าประเทศอยู่แล้ว เอาเข้าจริงแล้ว หลายคนกลัวกันด้วยซ้ำว่า เจ้าเครือข่ายอุโมงใต้ดินที่พม่าสร้างเอาไว้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นพื้นที่สำหรับวิจัยด้านนิวเคลียร์

ยิ่งพม่ามีแหล่งยูเรเนียมในประเทศด้วย ก็การันตีวัตถุดิบได้ทันที และการสร้างโรงงานเสริมสมรรนะแร่ยูเรเนียมก็ไม่ใช่เรื่องยาก

แน่นอนพม่าปฏิเสธเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งมันก็แน่อยู่แล้วถ้าใครสักคนคิดจะทำนิวเคลียร์ ไม่มีใครยอมรับก่อนหรอกครับ

เพียงแต่ว่า ... หลักฐานที่ทุกคนได้รับนั้น มักจะมาจากผู้ลี้ภัยชาวพม่ามาให้ข้อมูล ความน่าเชื่อถือจะมากน้อยแค่ไหนนั้นยังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา

คือโดยรวมแล้วต้องตามดูกันต่อไป จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ ๆ เข้ามา

แต่ถ้าเรามาตั้งสมมุติฐานกันว่า พม่ากำลังพัฒนานิวเคลียร์จริง ๆ ล่ะ?

เรื่องเวลาผมมั่นใจว่าไม่เกิน 10 ปีครับ พม่าจะสามารถมีระเบิดนิวเคลียร์ได้ 10 ปีนี้เป็นเวลาสำหรับการซื้อเทคโนโลยีสำเร็จรูปและฝึกฝนคนขึ้นมา ทันแน่นอนครับ

และต้องอย่าลืมว่ามีระเบิดแล้วก็ต้องมีจรวดที่จะเอาระเบิดไปบอมบ์เป้าหมาย ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ยากอีกนั้นแหละ เกาหลีเหนือก็มีจรวดหลายรายการให้เลือกซื้อหา ประเภทที่ยิงไกลครึ่งโลกก็มี

แล้วเราจะทำอย่างไร?

ปัญหามันอยู่ที่ว่าเราอยากจะเห็นอะไรครับ ... ถ้าเราคิดว่าพม่าไม่เป็นภัยคุกคามใด ๆ ต่อประเทศและภูมิภาค เรื่องนี้ก็ไม่ต้องห่วงมากนัก

แต่ถ้าไม่ใช่ ก็มีหลายทางเลือก อาจจะเลือกทางเลือกในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์กับเขาบ้าง เพื่อที่จะได้สร้างสมดุลทางทหารให้เกิดขึ้น เมื่อทั้งสองฝ่ายมีอาวุธที่สามารถทำลายล้างอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอนและอีกฝ่ายก็สามารถตอบโต้การโจมตีนั้นได้จนทั้งสองประเทศย่อยยับไปกับตา สงครามขนาดใหญ่ก็จะไม่เกิด ตามทฤษฎี Mutual Assured Destruction

แต่ผมคิดว่า ยังเร็วเกินไปและเสี่ยงเกินไปที่จะเลือกตัวเลือกนี้ คุณจะรับประกันได้อย่างไรว่าประชาคมโลกจะสนับสนุนให้ไทยเป็นรัฐวิเคลียร์ไปอีกประเทศ

ถ้าเป็นอีกกรณีนึงล่ะ คือการสร้างระบบโล่ห์ป้องกันภัยจากขีปนาวุธข้ามทวีปแบบสหรัฐ? .... โอ้โห สยองขวัญแน่ครับ เพราะมันต้องพูดถึงเงินหลักแสนล้านในระยะเวลาหลาย ๆ ปี ลืมเรื่องรถไฟฟ้าหรือรถไฟรางคู่ไปได้เลย คิดง่าย ๆ ว่าเราต้องมีจรวดแบบ Patriot อีกหลายกองพัน มีเรือติดขีปนาวุธแบบ SM-2 ไม่ต่ำกว่า 6 - 8 ลำ ตายครับ มันลงทุนสูงเกินไปโดยไม่จำเป็น ส่วนตัวผมไม่เลือกทางนี้เหมือนกัน

แล้วจะเอายังไง?

คือผมว่าเราต้องกลับไปมองดูก่อนว่า บทบาทของระเบิดนิวเคลียร์นั้นมันคืออะไร

ว่ากันว่ามันมีอาวุธสามอย่างที่ทำหน้าที่มากกว่าอาวุธ นั่นก็คือปืนเล็กยาว เครื่องบินขับไล่ และระเบิดนิวเคลียร์

ปืนเล็กยาวและเครื่องบินขับไล่นั้น มันเป็นอาวุธเชิงสัญลักษณ์ คุณใช้ปืนของประเทศใดหรือเครื่องบินของค่ายไหน เท่ากับว่าคุณเลือกข้างที่จะร่วมหัวจมท้ายไปกับค่ายนั้น ๆ ซึ่งมันสื่อถึงความสัมพันธ์เชิงการฑูตและการเมืองระหว่างประเทศด้วย

แต่ระเบิดนิวเคลียร์มันเป็นมากกว่าสัญลักษณ์ เพราะในตัวของมันเองมันทำหน้าที่เป็นฑูตด้วยตัวของมันเอง มันสามารถบังคับให้รัฐอื่นทำตามที่มันประสงค์ (หรือในอีกแง่คือทำตามที่คนที่เป็นเจ้าของมันประสงค์) ได้อย่างไม่ยากเย็น

ถ้าระเบิดนิวเคลียร์มันเป็นฑูต เราก็ต้องใช้วิธีทางการฑูตในการจัดการครับ

โอเคล่ะ หลายท่านอาจจะเถียงว่า จะไปเจรจากับเขา มันก็ต้องมีปืนหนีบเอวไว้บ้าง ไม่งั้นใครเขาจะฟัง

นั่นก็จริง ... แต่ใช้ว่าคุณจะไม่มีอะไรไปต่อรองกับเขาเสียเลย

กองทัพพม่าไม่ใช่ขี้เหร่ แต่กองทัพของเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ย่ำแย่เหมือนกัน ยิ่งถ้าเกิดสถานการณ์พัฒนาไปจนเกิดสงคราม มีความเป็นไปได้ที่รัฐเพื่อนบ้านของพม่าอาจจะยอมให้ประเทศอย่างสหรัฐเข้ามาตั้งกองกำลังหรือใช้เป็นฐานปฏิบัติการในการโจมตีพม่า ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าประเทศรอบข้างก็จะมีอเมริกันเป็นด่านหน้าคอยทำตัวเป็นโล่ห์ขีปนาวุธและใช้กำลังมหาศาลของอเมริกันเองลุยเข้าไป ไม่รอดหรอกครับ นิวเคลียร์ก็นิวเคลียร์เถอะ พม่าก็รู้เรื่องนี้ดี

แต่จะว่าไป เรายังโชคดีที่พม่าเป็นประเทศสมาชิกอาเซียน ยังคบค้าสมาคมกับชาวโลกมากกว่าประเทศเพี๊ยน ๆ อย่างเกาหลีเหนือ เรายังมีกลไลในระดับภูมิภาคมากมายที่จะพูดคุยกับพม่า

อย่าลืมว่า แม้พม่าจะเพี๊ยน ๆ ไปบ้าง แต่เขาก็ยังมีสติดีในหลาย ๆ เรื่อง การกดดันในกรอบของการเจรจา การฑูต การเมืองระหว่างประเทศ และทางเศรษฐกิจ น่าจะสร้างแรงกดดันให้พม่าได้ไม่มากก็น้อย

ในหลายครั้งพม่ายังพูดรู้เรื่อง และจนบัดนี้ เรายังค่อนข้างแน่ใจได้ว่า ถ้าโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของพม่านั้นมีอยู่จริง ก็ยังอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น ยังพอมีเวลาและมีพื้นที่ให้เล่นได้ ซึ่งถ้าต้องเล่นจริง ๆ งานนี้ไทยไม่ได้เล่นคนเดียวแน่นอนครับ แต่ทั้งอาเซียนและมหาอำนาจนอกภูมิภาคอาจเข้ามาช่วยกดดันด้วยอีกแรงหนึ่งแน่นอน

ที่จะบอกก็คือว่า รอดูต่อไปอย่างระมัดระวัง แต่อย่าตื่นตกใจ ถ้าเขามีการพัฒนานิวเคลียร์ทางทหารจริง อีกไม่นานก็ได้สนุกกันแน่ครับ ไม่ต้องห่วง

Create Date : 26 กันยายน 2553		8 comments
Last Update : 26 กันยายน 2553 23:38:45 น.
Counter : 4578 Pageviews.
Share Tweet