กองทัพเรือ ทำพิธีปล่อยเรือหลวงพฤหัสบดีลงน้ำ ณ อู่ยูนิไทย
วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมากองทัพเรือทำพิธีปล่อยเรือลำใหม่ของกองทัพเรือลงน้ำครับ เรื่องนี้เป็นข่างเงียบ ๆ ไม่หวือหวาเท่าไหร่ตามหลักของข่าวยุทโธปกรณ์ในประเทศไทยที่มีเนื้อหาสัก 5 บรรทัดก็บุญแล้ว เรือลำนี้ไม่เชิงเรือรบเสียทีเดียว แต่ก็พอมีเรือน่าสนใจอยู่เหมือนกันครับ เชิญชมครับ
เรือหลวงพฤหัสเป็นเรือใช้งานทางอุทกศาสตร์และต่อต้านทุ่นระเบิด รวมถึงทำหน้าที่ฝึกกำลังพลของกองทัพเรือและหน่วยที่เกี่ยวข้องครับ โดยกองทัพเรือได้เซ็นสัญญาจ้างบริษัทซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท ยูนิไทย ซิปยาร์ด แอนด์เอนจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท Schelde Naval Shipbuilding จากเนเธอแลนด์ให้ทำการจัดสร้าง ณ อู่ของบริษัทยูนิไทย ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีการทำพิธีวางกระดูกงูเรือไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2549 เรือใช้เวลาราวปีกว่าจึงสร้างเสร็จครับ
เรือได้ฤกษ์ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เองครับ ถือว่าเป็นฤกษ์ดีที่เดียว โดย นางพรเพ็ญ เกยานนท์ ภริยาของผู้บัญชาการทหารเรือ ทำพิธีปล่อยเรือ ตามประเพณีของชาวเรือที่ต้องให้สุภาพสตรีทำพิธีครับ ต่อจากนี้เรือจะทำการทดสอบในทะเล (Sea Trial) และทำการปรับแก้จุดที่บกพร่องเพื่อนำเข้าประจำการต่อไป
สำหรับรายละเอียดของตัวเรือ เรือหลวงพฤหัสบดีมีความยาว 66 เมตร กว่าง 13 เมตร 20 เซ็นติเมตร กินน้ำลึก 3 เมตร 25 เซ็นติเมตร ระวางขับน้ำปกติ 1,344 ตัน เต็มที่ 1,636 ตัน ทำความเร็วสูงสุดได้ 12 น็อต ระยะในการปฏิบัติการ 3,000 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 10 น็อต ปฏิบัติการในทะเลได้นาน 15 วัน ใช้งบประมาณในการต่อทั้งสิ้น 944,061,000 บาท โดยในยามปกติเรือหลวงพฤหัสบดีจะทำหน้าที่สำรวจทะเลเพื่อทำแผนที่ สำรวจทางสมุทรศาสตร์เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ใช้ในการฝึกกำลังผลและพลเรือนในหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง สนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน และในภาวะสงครามเรือสามารถทำการกิจกวาดทุ่นระเบิดได้ครับ
ชื่อว่า "เรือหลวงพฤหัสบดี" หรือ "HTMS Pharuehatsabodi" นี้มีที่มาครับ
กองทัพเรือได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการขอพระราชทานชื่อเรือจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดังนี้ครับ
เรือพิฆาต ตั้งตามชื่อตัว ชื่อบรรดาศักดิ์ หรือชื่อสกุลของบุคคลที่เป็นวีรบุรุษของชาติ เช่น ร.ล.ปิ่นเกล้า เรือฟริเกต ตั้งชื่อตามแม่น้ำสายสำคัญ เช่น ร.ล.คีรีรัฐ ร.ล. ตาปี เรือคอร์แวตต์ ตั้งตามชื่อเมืองหลวงหรือเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่นร.ล.สุโขทัย ร.ล.รัตนโกสินทร์ เรือเร็วโจมตี แบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือเรือเร็วโจมตี (อาวุธปล่อยนำวิถี) ตั้งชื่อตามเรือรบในสมัยโบราณ เช่น ร.ล.ราชฤทธิ์ ร.ล.วิทยาคม ร.ล.อุดมเดช และเรือเร็วโจมตี (ปืน) เรือเร็วโจมตี (ตอร์ปิโด) ตั้งตามชื่อวังหวัดชายทะเล เรือดำน้ำ ตั้งตามชื่อผู้มีอิทฤทธิ์ในนิยายหรือวรรณคดีเกี่ยวกับการดำน้ำ เช่น ร.ล.มัจจานุ เรือทุ่นระเบิด ตั้งตามชื่อสมรภูมิสำคัญ เช่น ร.ล.บางระจัน ร.ล.หนองสาหร่าย เรือยกพลขึ้นบก เรือลำเลียง และเรือลากจูง ตั้งตามชื่อเกาะ เช่น ร.ล. อ่างทอง เรือหลวงสิมิลัน เรือตรวจการณ์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ -เรือตรวจการณ์ (ปืน) ตั้งชื่อตามอำเภอชายทะเล เช่น ร.ล.หัวหิน ร.ล.แกลง -เรือตรวจการณ์ (ปราบเรือดำน้ำ) ตั้งตามชื่อเรือรบในลำน้ำสมัยโบราณที่มีความเหมาะสมแก่หน้าที่ของเรือนั้น เช่น ร.ล.พาลี ร.ล.คำรณสินธุ เรือสำรวจ ตั้งชื่อตามดาวสำคัญ เช่น ร.ล.จันทร ร.ล.ศุกร์ เรือหน้าที่พิเศษ ตั้งชื่อด้วยถ้อยคำที่มีความหมายเหมาะสมแก่หน้าที่ของเรือนั้น ๆ เหมือนกับเรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ชื่อเรือนั้นให้ขอพระราชทาน และให้ใช้ว่าเรือหลวงนำหน้า
สำหรับเรือที่มีขนาดเล็กกว่า 200 ตัน ให้ตั้งชื่อด้วยอักษรย่อตามชนิดและหน้าที่ของเรือ มีหมายเลขต่อท้ายอักษร กองทำเรือเป็นผู้ตั้งให้ เช่น เรือ ต. 91 เรือต. 991 เป็นต้น
ฉะนั้นในกรณีนี้ เรือลำนี้เป็นเรือสำรวจ จึงต้องชื่อตามดวงดาว และเป็นที่มาของชื่อพฤหัสบดีครับ
ยังไงก็อยากให้กองทัพเรือใช้โมเดลนี้ต่อไปครับ คือให้อู่ไทยจับคู่กับอู่ต่างชาติในการยื่นประมูลงานต่อเรือของกองทัพเรือ อู่เอกชนไทยก็จะได้ผลงาน ได้เทคโนโลยีด้วยครับ เพราะถ้ารัฐไม่ช่วย อู่เอกชนก็ลำบาก ยังไงถ้ารัฐมีงานอยู่ในมือที่อู่ในประเทศสามารถดำเนินการต่อได้ ก็ควรจะให้อู่ในประเทศต่อ ถึงแม้จะแพงกว่าการไปต่อในจีน ก็ควรจะยอมจ่ายแพง ถ้างบไม่พอรัฐก็ควรช่วยจ่ายเพิ่ม (เหมือนคราวเรือชุดเรือ ต.991 ที่รัฐหางบมาเพิ่มจนต่อเรือ ต. 992 และ ต.993 เพิ่มได้อีก 2 ลำในประเทศไทย) เพราะมันก็เหมือนเป็นการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมการต่อเรือในประเทศครับ
ในปีนี้กองทัพเรือจะดำเนินการต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำใหม่อีก 1 ลำทดแทนเรือรุ่นสงครามโลกที่ต้องปลดประจำการไป ตามข่าวคือกองทัพเรือจะดำเนินการต่อเองในอู่ของกองทัพเรือครับ เรือยังไม่ได้กำหนดชื่อ คงยังต้องรอข่าวต่อไปครับ
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
18 comments |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2551 13:32:29 น. |
Counter : 4621 Pageviews. |
|
|
|