แอบดู Project 21630 ..... "เรือรบรัสเซีย" ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ยังจำพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 50 ได้ไหมครับ พระองค์ท่าน ทรงพระราชดำรัสถึง "เรือรบรัสเซีย" ที่มีขนาดเล็ก และมีแนวคิดที่เหมาะสมกับประเทศไทย ตรงตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน
แม้ว่าพระองค์ท่าน จะมิได้ทรงเอ่ยถึงชื่อของเรือ แต่มองไปมองมาในกองทัพเรือรัสเซีย ก็ดูจะมี Project 21630 นี่แหละครับที่เข้าคุณสมบัติตามพระราชดำัรัสมากที่สุด
วันนี้ เราลองมาดูเรือลำนี้กันคร่าว ๆ ดูดีกว่าครับ
Project 21630 หรือ Buyan-class Small Gunnery Ship เป็นเรือปืนขนาดเล็กของกองทัพเรือรัสเซียครับ โดยใช้ปฏิบัติการในแม่น้ำ ชายฝั่งทะเล และในทะเลแคสเบียนเป็นหลัก เรือมีระวางขับน้ำ 500 ตัน และติดอาวุธปืน รวมถึงจรวดต่อสู้อากาศยาน (SAM) ด้วยครับ โดยรัสเซียวางแผนที่จะสร้างเข้าประจำการจำนวน 10 ลำ
เรือมีอาวุธหลักคือ ปืนเรือ ขนาด 100 ม.ม. แบบ A-190 เป็นปืนหลักบริเวณหัวเรือครับ ........ ปืน A-190 ผลิตโดย Burevestnik Central Research Institute ครับ ตัวปืนถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา และติดตั้งบนเรือที่มีระวางขับน้ำเล็ก ๆ ได้ดี สามารถยิงเป้าหมายในทะเลและบนฝั่งได้ โดยออกแบบให้ลดการถูกตรวจจับได้จากเรด้าร์ครับ
ปืนรองเป็นปืนรุ่น AK-306 6 ลำกล้อง โดยติดตั้งจำนวน 2 กระบอก ....... AK-306 มีขนาดลำกล้อง 30 ม.ม. ทำการยิงได้แบบอัตโนมัติต่อเป้าหมายทั้งบนบก ในทะเล หรือในอากาศ ที่ไม่มีความเร็วสูงมากนัก บรรจุกระสุน 500 นัด และมีอัตราการยิงสุงสุดที่ 5,000 นัดต่อนาที
โดยรวมแล้ว AK-306 จะทำหน้าที่คล้าย ๆ Mk.15 Phalanx ของสหรัฐครับ แต่จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าในบางจุด
อาวุธอีกชิ้นหนึ่งคือระบบ Gibka quadruple Air Defense missile ซึ่งติดตั้งจรวดต่อสู้อากาศยานแบบ Igla-1M ครับ ...... โดยระบบจะมีท่อยิง Igla-1M จำนวน 4 ท่อ ........ Igla-1M ถือเป็น SAM พิสัยใกล้ที่ดีที่สุดแบบหนึ่งของโลก มีระยะยิง 5.2 กม. ตัวจรวดเดินทางด้วยความเร็ว 2 มัค
นอกจากนั้น ตัวเรือยังมีที่ว่างสำหรับติดตั้งปืนกลขนาด 7.62 ม.ม. จำนวน 3 กระบอก และปืนกลขนาด 14.5 ม.ม. อีก 2 กระบอก นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ Grad-M สำหรับภารกิจสนับสนุนการรบทางบกได้อีกด้วย
เรือลำนี้ของรัสเซีย ถือเป็นเรือปืนที่ติดอาวุธค่อนข้างมาก และมีประสิทธิภาพสูง สามารถป้องกันตนเองจากภัยคุกคามในระดับต่ำ - ปานกลาง เช่น อากาศยาน เรือขนาดเล็ก เรือปืน เป็นต้น
เทียบกับเรือ ต.991 แล้ว เรือ ต.991 ติดอาวุธที่เบากว่ามาก คือติดปืนกลขนาด 30 มม. 2 กระบอก และปืนกล .50 นิ้วอีก 2 กระบอก .......... แต่ทั้งนี้ เรือทั้งสองชั้นมีภารกิจที่ต่างกันบ้าง เพราะเรือ ต. 991 มีภารกิจในการลาดตระเวนชายฝั่ง คุ้มครองเรือประมง ป้องปรามการกระทำผิดกฏหมายทางทะเล แต่ Project 21630 ต้องการมีเรือที่สามารถสนับสนุนการรบบนบกหรือแนวชายหาด ซึ่งต้องติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นมา
แต่ทั้งนี้ นัยยะของพระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานมา คงไม่ใช่การจัดซื้อเรือรบจากรัสเซีย แต่พระองค์ท่าน ทรงยกตัวอย่างของเรือลำนี้ เป็นแนวทางและแนวคิดในการขยายแบบและปรับปรุงเรือในชุดเรือ ต. 991 ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ก็จะทำให้กองทัพเรือ สามารถเพิ่งพาตนเองได้มากขึ้น และมีเรือขนาดเล็กที่เหมาะสมกับภารกิจคุ้มครองพี่น้องชาวประมงของเรา
ในปีนี้ มีข่าวว่า กองทัพเรือ เตรียมจัดสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งขึ้นเองจำนวน 1 ลำ โดยอาจจะใช้อู่ของกองทัพเรือเอง หรืออู่ของเอกชนไทย ในการต่อเรือ เพื่อทดแทนเรือรุ่นสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เตรียมจะต้องปลดประจำการอีกหลายลำ ทั้งนี้ เรายังไม่ีเห็นแบบแผน หรือ ความต้องการของเรือในชุดนี้ ........... แต่ถ้าจะให้คาดเดา ก็น่าจะเป็นการปรับปรุงแบบของเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งในชุดเรือหลวงปัตตานี ซึ่งกองทัพเรือออกแบบเอง แต่จัดสร้างในประเทศจีน เนื่องจากกองทัพเรือได้ใช้งานเรือในชุดนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว น่าจะทราบถึงข้อดีข้อเสียของแบบเรือนี้ และน่าจะสามารถทำการปรับปรุงแบบให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ หรืออาจจะเป็นการขยายแบบของเรือ ต. 991 ในทุกมิติ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถรองรับอาวุธและภารกิจที่หลากหลายมากขึ้น
มีข่าวลือมาเหมือนกันว่า เรือที่จะต่อใหม่นี้ อาจจะไม่มีดาดฟ้าที่สามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ได้แบบเรือหลวงปัตตานี เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีในการทำดาดฟ้าในลักษณะนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้ว อยากจะเสนอว่า ถ้ากองทัพเรือจะเปิดประมูลให้อู่เอกชนเข้ายื่นประมูลในการสร้างเรือลำนี้ ก็น่าจะกำหนดให้อู่เอกชนจับคู่กับอู่ต่างชาติเป็นกิจการร่วมค้าเพื่อเข้ายื่นซอง โดยมีเงื่อนไขที่จะต้องให้อู่ต่างชาติสร้างเรือลำนี้ในอู่เอกชนของไทย พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีบางส่วนให้ ซึ่งจะทำให้กองทัพเรือได้รับเรือลำใหม่ ในขณะที่อู่เอกชนได้รับงาน รวมถึงเทคโนโลยี ที่จะเป็นผลงานในการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวบริษัท ในการยื่นประมุลแข่งขันเพื่อรับงานจากต่างประเทศ เหมือนการที่อู่มาร์ซัน สามารถชนะการประมูลการต่อเรือเร็วโจมตี (อาวุธปล่อยนำวิถี) จากกองทัพเรือปากีสถานได้
กองทัพเรือมีโครงการที่จะต่อเรือในชุดเรือ ต. 991 เพิ่ม และจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เพิ่มเติมจำนวน 4 ลำ เพื่อทดแทนเรือรุ่นเก่าที่จำเป็นต้องปลดประจำการไป
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
ภาพผนวก
ด้านล่างนี้คือ รายละเอียด ความต้องการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ในแผนการจัดหาอาวุธในภาพรวม (แผนฯ 9 ปี) เก่า ซึ่งถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งที่จะต่อใหม่ ก็น่าจะมีคุณสมบัติตามนี้ครับ
-------------------------------------------
บันทึก 3 รายละเอียดความต้องการเรือตรวจการไกลฝั่งของ ทร. 3.1 ประเภท : เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง 3.2 โครงการ : 4 ลำ, ระยะเวลาโครงการ : 2552-2555 3.3 ขีดความสามารถที่ต้องการ 3.3.1 ลาดตระเวนตรวจการณ์ทางทะเล 3.3.2 ค้นหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล 3.3.3 ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในทะเล 3.4 คุณลักษณะทั่วไปที่สำคัญ 3.4.1 ระวางขับน้ำ 1,000 - 2,000 ตัน 3.4.2 ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 25 นอต 3.4.3 ระยะปฏิบัติการ (ที่ความเร็วมัธยัสถ์ไม่ต่ำกว่า 15 นอต) ไม่น้อยกว่า 3,500 ไมล์ทะเล 3.4.4 ปฏิบัติการในทะเลต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 20 วัน 3.4.5 ปฏิบัติการในทะเลได้ถึง Sea State 5 3.4.6 มีดาดฟ้า ฮ. พร้อมอุปกรณ์รับ-ส่ง ฮ. ได้ถึงขนาด 22,000 ปอนด์ 3.4.7 ระบบขับเคลื่อน เป็นเครื่องจักรใหญ่ดีเซล 3.4.8 ระบบอาวุธ : ปืนหลัก ขนาด 76 มม. พร้อมระบบของควบคุมการยิง : ปืนรอง และอาวุธปืนระยะประชิด ขนาด 20 มม. และ .05 นิ้ว : สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-พื้น, พื้น-สู่-อากาศ และแท่นยิงเป้าลวงในอนาคตได้ 3.4.9 ระบบตรวจการณ์และพิสูจน์ทราบ สนับสนุนการปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน 3.4.10 มีสายการผลิตอะไหล่สนับสนุนการซ่อมบำรุงให้สามารถปฏิบัติการได้เนื่องอย่างน้อย ๓๐ ปี
Create Date : 23 มกราคม 2551 |
|
30 comments |
Last Update : 23 มกราคม 2551 7:39:44 น. |
Counter : 10747 Pageviews. |
|
|
|
เหมาะกับ ประเทศไทย มาก หึหึ
ขอสัก 6 ซิ