ถ้ำเล-สเตโกดอน ทุ่งหว้า จ.สตูล แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดสตูล
สวัสดีค่ะ
ความเดิมจากบล็อกที่แล้ว สาวได้เปิดทริปสตูลด้วยภาพถ่ายยามเย็นที่ละงู วันนี้เป็นภาคต่อในยามเช้าที่ทุ่งหว้า และวันนี้สาวจะพาทุกคนไปเที่ยวถ้ำค่ะ นั่นคือ ถ้ำเล-สเตโกดอน ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล
ถ้ำเล-สเตโกดอน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดสตูล เป็นถ้ำหินปูนที่มีความโดดเด่นทางด้านธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีลักษณะเป็นถ้ำธารลอด (stream cave) ที่มีความยาวมากไม่ต่ำกว่า 3 กิโลเมตร และยังมีการก่อตัวของหินงอกหินย้อยลักษณะสวยงามแปลกตามากมาย อาทิ หลอดหินย้อย หินปูนฉาบ และม่านหินย้อย เป็นต้น จึงถือได้ว่าเป็น ถ้ำเป็น (live cave) และที่สำคัญมีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์มีกระดูกสันหลังจำนวนมากบริเวณพื้นลำธารตลอดความยาวของถ้ำ เช่น ขากรรไกรพร้อมฟันกรามล่างของช้างโบราณสเตโกดอน อายุประมาณ 1.8 ล้านปี ถึง 10,000 ปีก่อน แผ่นฟันกรามของช้างโบราณเอลิฟาส กรามแรดโบราณ และเขากวาง เป็นต้น ถือได้ว่าเป็นถ้ำที่มีความโดดเด่นทั้งทางด้านธรณีสัณฐานและด้านซากดึกดำบรรพ์เป็นอย่างมาก
ซึ่งฟอสซิลดังกล่าว ถูกพบเมื่อปี 2551 ในถ้ำวังกล้วย อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ถ้ำเลสเตโกดอน หลังจากที่ชาวบ้านได้เข้าไปหากุ้ง หาปูในถ้ำตามวิถีปกติ และได้พบซากดึกดำบรรพ์ที่มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลไหม้ น้ำหนักประมาณ 5.3 กก. ยาวประมาณ 44 ซม. สูงประมาณ 16 ซม. เมื่อตรวจสอบจากทางสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลิมพระเกียรติ และกรมทรัพยากรธรณีแล้วจึงทราบว่าเป็นกระดูกฟันกรามของช้างสเตโกดอน โดยปัจจุบันทาง อบต.ทุ่งหว้าได้เก็บรักษาไว้ในศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ทุ่งหว้า
ขอบคุณที่มา เว็บไซด์อุทยานธรณี ประเทศไทย และเว็บผู้จัดการ
ส่วนตอนแรก ตามไปได้ที่นี่ค่ะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skybeach&month=08-02-2015&group=17&gblog=1
ก่อนไปเที่ยวในถ้ำ เรามาดูบรรยากาศยามเช้าที่ๆ พักของสาวนั่งคือ อุทยานฯ หมู่เกาเภตรากันก่อน
สาวตื่นสายค่ะ เลยถ่ายรูปที่พักมาได้แค่นี้
มื้อเช้าวันนี้เราแวะกินกันที่ตลาดทุ่งหว้า (ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมา)
ทุ่งหว้าเป็นอำเภอเล็กๆ ที่สงบ มีตึกเก่าแนวชิโนโปรตุกีสประปราย
ร้านยาร้านนี้คงหลายปีแล้ว ^^
หลังมื้ออาหาร เจอเด็กน้อยคนนี้ ขอถ่ายรูป อายใหญ่
ก่อนอำลา
จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อ จนถึงทางเข้าถ้ำที่บ้านคีรีวง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล รถจะจอดด้านหน้า และเดินเท้าไปตามสะพานประมาณ ๒๐๐ เมตร พรีเซนเตอร์ของสาว พี่วิ วิริยา แก่นแก้ว ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย สำนักงานตรัง
เมื่อถึงหน้าถ้ำ ก่อนเข้าไปภายในเราได้ นายณรงค์ฤทธิ์ ทุ่งปรือ นายก อบต.ทุ่งหว้า มาช่วยบรรยาย
ปากถ้ำ
จากนั้นก็ต้องใส่เสื้อชูชีพ หมวก สำหรับเดินทาง
ได้เวลาเดินทางด้วยเรือค่ายัค
ถ่ายรูปถ้ำว่ายากแล้ว เจอถ้ำที่ต้องนั่งเรือที่ต้องขึ้นๆ ลงๆ ตลอดทาง 4 กิโลเมตร สุดๆ เลย ^^
โชคดี ได้ไปกับพี่ช่างภาพที่เก่ง สาวเลยพลอยมุมกล้อง
พี่เค้าขอยืมตะเกียงมาด้วย ได้น้องนักศึกษาจากมอ. มาช่วยถือ
ระยะทางสี่กิโลเมตร มีหินงอกหินย้อยสวยมากมาย
ระยิบระยับเลย
หินคนคู่
จำชื่อไม่ได้ คล้ายดอกไม้เป็นช่อ
มาดูอีกฝั่ง
ตรงนี้ก็สวย
ในที่สุดก็เจอฟอสซิลที่เห็นชัด เป็นปลาหมึก
อยู่ใกล้ทางออก
มาถึงสุดปลายอุโมงค์ เราจะเห็นหัวใจอยู่ปลายถ้ำ
ถือเป็นการปิดทริปที่น่าประทับใจมาก ต้องไต่ลงมานิดนึง ทางลง
เมื่อถึงทางออก นั่งเรือไปอีกประมาณ 50 เมตร
เพื่อเปลี่ยนเป็นเรือหางยาว ล่องไปในคลองวังกล้วย
สุดทางที่ท่าอ้อย ปิดทริปวันนี้
สรุปแล้วประทับใจ แต่เหนื่อยหน่อย เพราะเราไปหน้าแล้ง น้ำแห้ง ต้องขึ้นๆ ลงๆ หลายรอบ
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2558 15:13:47 น. |
|
34 comments
|
Counter : 3391 Pageviews. |
|
|
|
อยากไปแบบนี้บ้างจังค่ะ