The Maze Runner (2014) .... วิ่ง เพื่อให้ รอด
The Maze Runner (2014)
วิ่งเพื่อให้รอด (ไม่สปอยล์ ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
เป็นอีกเรื่องที่ฟี่ตีตั๋วไปดูนอกเหนือจากแผน เพราะไม่เคยมีความคิดว่าอยากดู และไม่เคยอ่านนิยายต้นฉบับ จวบจนกระแสก่อนฉายมันแรงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ... เกินความคาดหมายไปมากครับ ให้ความรู้สึกเดียวกับตอนที่เผลอไปดู The Hunger Games แล้วเดินออกจากโรงด้วยความบันเทิงเต็มเปี่ยม
ตัวหนังสร้างจากนิยายซีรีส์วัยรุ่นระดับ Best Seller ของ James Dashner เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกลบความทรงจำยกเว้นชื่อของตัวเอง และถูกส่งมาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเขาวงกต .. จนการมาถึงของโธมัส ที่ทำให้กฏต่างๆที่พวกเขายึดถือมากว่าสามปีต้องเปลี่ยนไป รวมถึงสถานการณ์อันตรายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ก็คงไม่มีอะไรน่าประหลาดใจไปกว่า หญิงสาวคนแรก ที่ถูกส่งตัวมา
หนังเดินเรื่องรวดเร็ว ทะยานไปข้างหน้า และเต็มไปด้วยปริศนาสมกับชื่อเรื่อง ... ตัวเอกมีอยู่ไม่กี่คน แต่ก็ล้วนมีความน่าสนใจ และสร้างความผูกพันให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นไปกับชะตากรรม การเอาตัวรอดจากเกมเขาวงกตที่เต็มไปด้วยอันตรายจากสิ่งมีชีวิต(?) สุดโหด ... แต่นั่นก็คงไม่เหี้ยมเท่ากับว่า ใครคือผู้ที่ส่งพวกเขามา พวกมันต้องการอะไร และทำไปเพื่ออะไร
การวางน้ำหนักของหนัง ระหว่างอารมณ์ที่เป็นดราม่า, ความระทึกขวัญ และฉากแอคชั่นทำได้ลงตัว ไหลลื่น และคงความติดตามได้ตลอดสองชั่วโมงของเวลาฉาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังจะไม่มีจุดอ่อน .. เพราะด้วยทุนสร้างที่ถือว่าไม่สูงนักราว 30 ล้านเหรียญ อาจจะเนรมิตงานเทคนิคพิเศษได้ดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยม บางฉากบางตอนยังดูหลอกตาอยู่บ้าง แต่ .. ก็ไม่ทำให้หนังเสียอรรถรสครับ
จุดเด่นของ #TheMazeRunner นอกจากตัวบทที่แข็งแรง เรื่องราวที่น่าติดตาม ยังต้องชมในส่วนของงานแสดงของทีมนักแสดงหลักหนุ่มน้อยทั้งหลาย แต่จะขอกล่าวถึงแค่สองคน ..
- Dylan O'Brien ในบทโธมัส ที่ทำให้นึกถึง Logan Lerman ไม่มีอะไรให้ติในบทนำ เป็นผู้มาใหม่ที่แตกต่างจากเจ้าถิ่นอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนว่า ไอ้หนุ่มคนนี้มันมีของ
- Ki Hong Lee ในบทมินโฮ หนุ่มนักวิ่งประจำกลุ่ม ผู้ทำหน้าที่สำรวจเขาวงกต และเป็นเหมือนลูกคู่สนับสนุนพระเอกของเรื่อง ... Lee โดดเด่น และเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากกกกกกกกกกกก จนแทบไม่สามารถละสายตาไปจากหน้าเท่ๆ ในทุกการปรากฏตัว ซึ่งถือเป็นความดีงามและน่าดึงดูดอย่างหนึ่งของหนังเรื่องนี้ ><"
ส่วน Kaya Scodelario ในบทสตรีนางเดียวของเรื่อง กว่าจะโผล่มาก็เกือบท้ายๆเรื่อง ภาคแรกนี้จึงไม่ค่อยมีอะไรให้นางทำเท่าไหร่ นางถูกกลืนหายไปจากเรื่องจนไม่รู้สึกถึงความสำคัญใดๆ ที่สำคัญนางดูไม่มีเสน่ห์เลย ... คิดดูว่า เด็กหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่เคยเจอเพศตรงข้ามมาตั้งสามปี หรืออย่างน้อยก็เป็นเดือนๆ กลับไม่มีใครรู้สึกพิศวาทอะไรในตัวนาง ........ เข้าใจว่า หนุ่มๆคงมัวแต่คิดถึงความอยู่รอดมากกว่ากระมัง ... ><"
หนังปิดเรื่องลง แบบเตรียมสานไปสู่ภาคต่อในนิยายเล่มถัดไป .. The Scorch Trials ... ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้มาก่อนอย่างฟี่ .... เป็นการจบเรื่องที่ ... แทบจะอยากวิ่งๆๆๆๆ ออกไปซื้อนิยายเล่มถัดไปมาอ่านโดยไว ... เพราะเล่นจบแบบโยนปริศนามากองตรงหน้า แล้วก็สะบัดบ๊อบเดินจากไปแบบเท่ๆ
ถ้าจะให้สรุป ... The Maze Runner ครบทุกรส เต็มอิ่มทุกความบันเทิง ในแบบที่คนที่ไม่ใช่คองานแอคชั่นไซไฟอย่างฟี่ ... นั่งดูด้วยความสนุกจนไม่อยากให้หนังจบ
ควรไปดู .. ถ้าคุณเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ หรือชอบงานในแบบ #TheHungerGames และอยากไปดูหนุ่มๆในเรื่อง แต่ถ้าเป็นคอหนังแนวอื่น หรือ อยากจะเน้นงานแอคชั่นไซไฟ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม ซีจีอลังการงานสร้าง บู๊กันสนั่นเรื่อง ... นี่อาจไม่ใช่คำตอบครับ .... แต่ก็อยากให้ไปดูนะ ^^
#ทิ้งท้ายแบบเวิ้น จากสิ่งที่ได้จากหนัง ...
"ปัญหาก็เหมือนเขาวงกต ถ้าเราอยู่เฉยๆ ปรับตัวให้ชิน เราก็จะยังติดอยู่กับปัญหา .. แต่ถ้าเราออกวิ่งเผชิญหน้าเข้าหามัน .... เราจะเจอทางออก ... อย่าหยุดวิ่งนะครับ"
****
พื้นที่โฆษณา แวะมาคุยกันได้ครับ ...
https://www.facebook.com/CinemaParadiso.by.Golffy
วันที่: 28 กันยายน 2557 เวลา:19:16:52 น.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed 
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
