ตามกระแสความงาม...ฉีดเฟรชเซลล์
หลังจากนักร้องสาว ทาทา ยัง เข้ารับการฉีดเฟรชเซลล์ เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย จนทำให้เธอผอมเพรียวเพราะน้ำหนักลงไปถึง 15 กิโล จึงเป็นที่มาของกระแสและการฉีดเฟรชเซลล์ก็เป็นที่พูดถึง มารู้จักศัลยกรรม ที่ชื่อเฟรชเซลล์กันค่ะ
เฟรชเซลล์ หรืออีกชื่อหนึ่ง เซลล์บำบัด (Fresh Cell Therapy) เป็นการรักษาโรคด้วยการนำเซลล์สด ๆ จากเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะของแกะ มาฉีดเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ เพื่อให้เซลล์นั้นเข้าไปเสริมสร้างเซลล์ที่บกพร่อง ทั้งยังช่วยกระตุ้นการรักษาตัวตามธรรมชาติ และบำบัดอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ให้ทุเลาลงและดีขึ้นตามลำดับ เรียกง่าย ๆ ว่า เฟรชเซลล์นั้นมีส่วนช่วยดูแลและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ และสุขภาพร่างกายโดยรวมให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อได้รับการฉีดเฟรชเซลล์ หรือเซลล์บำบัด จะเห็นผลการรักษาและความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งนับว่าเป็นวิทยาการทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว
สำหรับวิธีการรักษาด้วยการฉีดเฟรชเซลล์ จะเริ่มจากการเจาะเลือด และตรวจวิเคราะห์สุขภาพของคนไข้อย่างละเอียด จากนั้นจึงล้างพิษที่ตกค้างสะสมอยู่ในร่างกาย แล้วจึงทำการฉีดเฟรชเซลล์เข้าไปในร่างกาย และปล่อยให้คนไข้ได้พักผ่อน โดยการฉีดเฟรชเซลล์ที่ว่านี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาด้านผิวพรรณอย่าง ผิวเหี่ยวย่น ริ้วรอย โรคผิวหนัง รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพอย่าง โรคหัวใจ ระบบประสาท ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นหมัน ฮอร์โมนผิดปกติ โรคออทิสซึม โรคข้อ พันธุกรรมและพัฒนาการผิดปกติในทารกและเด็ก อาการง่วงเหงาหาวนอน นอนไม่หลับ และอาการซึมเศร้า ทั้งนี้การฉีดเฟรชเซลล์ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่ติดเชื้ออย่างรุนแรง ผู้ที่มีระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ผู้ป่วยโรคไตขั้นรุนแรง หรือผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง และผู้ป่วยหนักโดยเด็ดขาด
แต่อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์หลังการฉีดเฟรชเซลล์นั้นอาจขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยรอบตัว ได้แก่ อาการป่วย การดำเนินชีวิต และสิ่งแวดล้อมของแต่ละคน บางคนอาจต้องใช้เวลานานนับเดือน หรือยาวนานเป็นปี ๆ
การบำบัดด้วยเฟรชเซลล์เพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ
ง่วงเหงาหาวนอน นอนไม่หลับ ขาดสมาธิ ขี้ลืม วิตกกังวล ซึมเศร้า เสริมความงาม ป้องกันโรค
การบำบัดด้วยเฟรชเซลล์เพื่อการรักษาสุขภาพ
การย่อยอาหารผิดปกติ ปัญหาหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด โรคจากความชรา ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทผิดปกติ ฮอร์โมนผิดปกติ โรคออทิซึ่ม หรือ ADHS โรคข้อ โรคผิวหนัง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเป็นหมัน พันธุกรรมและพัฒนาการผิดปกติในทารกและเด็ก
Create Date : 03 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 3 มิถุนายน 2557 22:32:49 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1674 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Noyz Li Chun IP: 171.100.165.43 วันที่: 28 สิงหาคม 2558 เวลา:21:25:00 น. |
|
|
|
| |
1.ยาแต้มสิว
2.ยาฉีดสิว
3.ยาทานแก้สิวอักเสบ
4.ครีมหน้าใส หน้าขาว หน้าเด้ง
5.ครีมรักษาสิว
การสังเกตผลิตภัณฑ์ที่มีสเตียรอยง่ายๆนะคะ คือเมื่อทาผิวหน้าแล้ว ผิวหน้าของคุณที่มีปัญหา ปัญหาเหล่านั้นจะหายไปเร็วมาก หน้าจะใส เนียน ขาว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบมากครับ แต่สารสเตียรอยด์เหล่านี้จะใช้เวลาในการสะสมอยู่ในผิวเป็นเดือน หรือบางรายก็เป็นปีถึงจะแสดงอาการครับ แต่ในปัจจุบันครีมหลายยี่ห้อก็แข่งกันทำความเร็วในการรักษาเลยไม่มีใครยอมสารสเตียรอยด์น้อยกว่าใครเลยครับ ผลก็ทำให้ลูกค้าที่ใช้ครีมหรือยาหมอ เห็นผลได้เร็วขึ้นครับ ที่นี้เราก็จะได้เห็นผลข้างเคียงของความสวยมีความอันตรายและผลข้างเคียงกันนะ
**อยากสวย จัดให้ได้นะครับ
อันดับแรก ขอให้ดูรายละเอียด ผลิตภัณฑ์...!!!
Stem cell? Dr.Nathan newmen
//vimeo.com/m/54475845
//youtu.be/HFZuTmGtvSU
ดร.วรันพัชร
//m.youtube.com/watch?feature=related&v=MhCpFg9jpNA