ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
18 กุมภาพันธ์ 2556

ทำอย่างไรไม่ให้อุกกาบาตพุ่งชนโลก?



นาซาได้ออกมาเตือนว่าในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040 หรืออีก 27 ปีข้างหน้าโลกอาจจะมีโอกาสเผชิญอุกกาบาตพุ่งชนโลก และบรรดานักวิทยาศาสตร์ก็กำลังหาวิธีป้องกัน


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซียวันนี้ (15 ก.พ.56) เป็นการตอกย้ำว่าการเกิดปรากฏการณ์อุกกาบาตพุ่งชนโลก ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในหนังหายนะวันสิ้นโลกอย่าง 2012 หรือ อาร์มาเกดอนตามที่เราๆ เข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ทุกวัน และก็มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตอาจมีเหตุอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก ที่อาจทำให้เกิดหายนภัยทำลายล้างโลก หรืออย่างน้อยก็สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับมนุษย์ได้


ล่าสุดนาซาได้ออกมาเตือนว่าในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040 โลกอาจจะมีโอกาสเผชิญอุกกาบาตโหม่งโลกที่จะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน แม้ว่าโอกาสที่อุกกาบาตจะชนโลกจะมีเพียง 1 ใน 625 แต่นาซาและทางยูเอ็นก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาทางเบี่ยงเบนทิศทางอุกกาบาตดังกล่าว หากในเวลานั้นมันจะพุ่งเข้าชนโลกจริงๆ


สำหรับวิธีที่นักวิทยาศาสตร์ของนาซาคิดค้นขึ้นมาเพื่อป้องกันอุกกาบาตพุ่งชนโลก มีอยู่หลากหลายทฤษฎี โดยหนึ่งในทฤษฎีที่นาซาคาดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นทฤษฎีเดียวกับที่ปรากฏในหนังอาร์มาเกดดอน นั่นก็คือการส่งยานอวกาศไปยังอุกกาบาต ขุดหลุมลงไปในแกนหลางอุกกาบาตนั้น และฝังระเบิดเพื่อทำลายอุกกาบาตเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะพุ่งชนโลก วิธีการนี้ดูเหมือนจะเป็นวิธีแบบง่ายๆ ตรงไปตรงมา แต่นาซาบอกว่าเป็นไปได้น้อยมากในทางปฏิบัติ เนื่องจากซับซ้อนและเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินไป


แต่วิธีที่เป็นไปได้มากกว่าก็คือการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ยิงใส่อุกกาบาต ไม่ใช่เพื่อทำลายก้อนอุกกาบาตที่มักจะมีขนาดใหญ่ยักษ์ แต่เพื่อหันเหทิศทางไม่ให้มันพุ่งเข้าชนโลกของเรา โดยการขนนิวเคลียร์ออกไปยิงอุกกาบาตนอกโลกอาจจะทำโดยใช้ยานแบบปราศจากคนบังคับ จึงแน่ใจได้ว่าจะไม่มีวีรบุรุษกู้โลกแบบบรูซ วิลลิสในอาร์มาเกดดอนแน่ๆ


สำหรับใครที่คิดว่าการใช้นิวเคลียร์ออกจะเป็นวิธีฮาร์ดคอร์เกินไป ยังมีอีกวิธีการในการหันเหทิศทางอุกกาบาต นั่นก็คือการ "เพนท์สี" วิธีการนี้ใช้หลักการเดียวกับที่คนมักใส่เสื้อสีอ่อนกลางแดด เพื่อให้เสื้อสะท้อนแดดมากกว่าดูดซับแดดและความร้อนเหมือนเสื้อสีเข้ม การเพ้นท์อุกกาบาตข้างหนึ่งให้เป็นสีขาวด้วยฝุ่นชอล์ก จะทำให้ด้านนั้นสะท้อนพลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้น จนเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิมได้อย่างง่ายดาย


อีกวิธีที่ดูเหนือความคาดหมายจนแทบจะเป็นหนังการ์ตูนหรือเกมส์คอมพิวเตอร์ ก็คือการส่งหุ่นยนต์ไป "กิน" อุกกาบาต แต่นาซามีโครงการทดลองศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ภายใต้ชื่อว่า MADMEN หรือคนบ้า หุ่นยนต์จะทำหน้าที่คล้ายระเบิดแต่ไม่ต้องใช้สารเคมีหรือตัวตั้งต้นระเบิดใดๆ เพียงแค่ใช้หุ่นยนต์พลังงานนิวเคลียร์ทำการย่อยหรือกินพื้นผิวอุกกาบาต เมื่ออุกกาบาตเสียรูปทรงและมีมวลน้อยลง ก็จะเปลี่ยนทิศทางไปจากโลกของเรา


วิธีการเหล่านี้ อาจจะฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ที่จริงต้องใช้ทั้งงบประมาณมหาศาลและการค้นคว้าวิจัยมากมาย ซึ่งแม้แต่นาซาเองก็อาจจะต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะคิดค้นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงเป็นผลสำเร็จ ก็ได้แต่หวังว่าจะทันก่อนถึง Doom's Day วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040



ที่มา
//news.voicetv.co.th/global/63280.html


Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2556 21:54:18 น. 0 comments
Counter : 2373 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]