คุณรอเจนนี่สักครู่นะคะ เจนนี่ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวเจนนี่จะลงมาคุยด้วยนะคะ
เจนจิราลุกขึ้นหลังจากที่ได้ทายาให้กับเขาเรียบร้อยแล้ว
ครับ
คิมหันต์ตอบสั้นๆ เขามองร่างสวยสมสัดส่วนของหญิงสาวที่ขึ้นบันไดไป
เมื่อลับร่างของเจนจิราไปแล้ว ในเวลานั้นแววตาของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันคร้ามคม
ชายหนุ่มลุกขึ้นก่อนจะแหงนมองไปรอบๆ บริเวณนั้นอีกครั้ง ความคุ้นเคย ความอบอุ่นที่เคยมีถูกตีแผ่เข้ามากระทบจิตใจของเขาให้สะอื้น
ร่างสูงก้าวเดินออกจากที่ก่อนจะไปหยุดอยู่ตรงมุมห้องด้านหนึ่ง พร้อมกันนั้นภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาให้ได้เห็น
...รอยยิ้มของเด็กน้อยวัยแปดขวบปรากฏชัดก่อนจะค่อยๆ วิ่งเล่นไปจนรอบห้องแห่งนั้นพร้อมกับมีร่างของหญิงชายคู่หนึ่งที่วิ่งไล่จับบุตรชาย
จากนั้นภาพเงาที่เลือนรางก็ค่อยๆ จางหายไป คล้ายดั่งหนังเรื่องเก่าที่ถูกตัดออกจากฉากนั้นไป
คิมหันต์เปิดยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นบุคคลทั้งสาม แต่ก็เป็นไปเพียงชั่วครู่รอยยิ้มนั้นก็จางหายไปเมื่อภาพจากหนังแผ่นเก่าถูกตัดออกไป เขาก้าวเดินออกจากมุมนั้นอีกครั้งเมื่อสายตาไปสะดุดอยู่กับตู้โชว์ที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งไม่ไกลกันนัก ในนั้นมีสิ่งของถูกจัดวางกันอย่างเป็นระเบียบ และสิ่งที่เขาเห็นชัดมากที่สุดในเวลานั้นก็คือรูปกรอบหนึ่งที่ตั้งเด่นอยู่ภายในตู้
ชายหนุ่มเข้าไปชะโงกหน้ามองรูปนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บแปลบ แววตาที่ขุ่นขวางเริ่มพร่าเลือนด้วยเพราะหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอทั้งสองข้าง มือหนาค่อยๆ เอื้อมไปจับที่ตู้กระจกอย่างอาลัย
ใบหน้าของบุคคลทั้งสามในภาพนั้นเด่นชัดเสมอในหัวใจของเขา ถึงแม้กาลเวลามันจะผ่านมานานเท่าไหร่...หัวใจของเขาก็ไม่เคยลืมมันเลย
ใช่สิ...ความเจ็บปวดในครั้งนั้นมันยิ่งฝังแน่นจนยากที่จะลบเลือนไปได้อีกแล้ว
ใบหน้าอันคร้ามคมของชายหนุ่มจ้องนิ่งอยู่ที่ภาพนั้นเนิ่นนาน เขาใช้แต่เพียงสายตาอันคมกล้าเท่านั้นสื่อสัมพันธ์กับบุคคลในภาพ
มองอะไรคะ คิมหันต์
เสียงหวานใสของเจนจิราดังขึ้นข้างหลัง บัดนั้นมันจึงทำให้ชายหนุ่มถูกฉุดกลับมาสู่โลกของความเป็นจริงอีกครั้ง คิมหันต์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่มันเริ่มจะเอ่อนองออกไปให้หมดและพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วจึงหันมาทางหญิงสาวที่ยืนยิ้มอยู่
เปล่าครับ ผมแค่สงสัยเท่านั้น คนในรูปพวกนี้คือใครครับ ผมไม่คุ้นหน้าเลยและก็ไม่มีใครเหมือนคนในครอบครัวของคุณเลยสักคน
ชายหนุ่มพยายามเค้นน้ำเสียงให้เป็นปกติ
เจนจิราเปิดยิ้มด้วยอารมณ์แจ่มใส หญิงสาวพาร่างบางระหงเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม
รูปนี้หรือคะ...
เธอชี้มือไปที่รูปกรอบใหญ่ที่ตั้งอยู่ในตู้กระจก
ครับ
คิมหันต์ตอบแต่เพียงสั้นๆ ก่อเกิดความรู้สึกชนิดหนึ่งขึ้นมาภายในจิตใจ
ทั้งสามคนเป็นญาติของคุณพ่อคะ...คุณลุงมาวิน คุณป้าริสาและพี่นฤมินทร์คะ ทั้งสามคนเป็นอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ พอคุณลุงคุณป้าท่านเสียบ้านหลังนี้ก็เลยตกมาเป็นของคุณพ่อ เพราะท่านทั้งสองไม่มีญาติที่ไหนเลยจะมีแต่คุณพ่อที่เป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดมากที่สุด
เมื่อได้ฟังคำตอบจากหญิงสาว แววตาของชายหนุ่มก็เริ่มจะแข็งกร้าวอย่างน่ากลัว สายตาที่คมกล้ามีเปลวไฟชนิดหนึ่งลุกโชนอยู่ในนั้น
แล้วลูกชายของเขาล่ะครับ ความจริงสมบัติน่าจะตกเป็นของลูกชายมากกว่านะ
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เข้มแกมเยาะ
เจนนี่ก็ไม่รู้เหมือนกันคะว่าความจริงมันเป็นอย่างไรแน่ แต่ที่เจนนี่รู้มาก็คือพี่นฤมินทร์เธอหายตัวไปเกือบจะยี่สิบปีแล้วล่ะคะ ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง คุณพ่อท่านก็สั่งให้คนตามหามาจนบัดนี้แต่ก็ไม่ได้ความอะไร
หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับชายหนุ่มโดยไม่ยอมปิดบังสักน้อยนิด เธอยอมรับว่าเมื่อเอ่ยชื่อของคนในครอบครัวนี้ทีไรหัวใจของหญิงสาวก็เศร้าไม่แพ้กัน...เศร้ากับชะตาชีวิตของบุคคลในครอบครัวนี้
ตามหาเพื่ออะไรครับ...กำจัด หรือว่าให้เขากลับมาครอบครองที่นี่เหมือนเดิม
คิมหันต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เข้มจัด แววตาที่ฉายออกมานั้นมันยิ่งทำให้ผู้พบเห็นคร้ามกลัว แต่มันก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นชายหนุ่มก็สามารถข่มมันลงได้
คุณพูดอะไรคะคิมหันต์
เธอฟังไม่ชัดจึงถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เข้าใจ
อ้อ...เปล่าครับ ผมแค่อยากรู้ก็เท่านั้นว่าลูกชายของคุณลุงของคุณเขาไปอยู่ที่ไหน
คิมหันต์พยายามปกปิดท่าทีให้มิดมากที่สุดก่อนจะแสร้งถามกลับไปด้วยสีหน้าสงสัย
เจนนี่ไม่รู้คะ คุณพ่อท่านก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ารู้เจนนี่เชื่อว่าพี่นฤมินทร์ก็คงจะได้รับในสิ่งที่เป็นของเขากลับคืนไป...สองสามวันมานี้เจนนี่ก็เห็นท่านเครียดนะคะ คงจะเป็นเรื่องการตามหาพี่นฤมินทร์นั่นแหล่ะคะ
เจนจิราผ่อนลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายปานว่าเธอจะรับภารพทั้งหมดจากิดามาไว้เสียหมด
แล้วถ้าพี่ชายของคุณกลับมาละครับ คุณจะทำยังไง
เสียงลองเชิงถามจากชายหนุ่มดังกระทบโสตหูของหญิงสาวจนทำให้เธอรู้สึกชาวาบไปทั่วร่างกาย เธอยอมรับว่าคำถามของเขามีอิทธิพลต่อหัวใจของเธอเป็นอย่างมากจนทำให้เธอไม่สามารถที่จะตัดสินใจพูดไปในทางใดทางหนึ่งได้
เมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งเงียบ คิมหันต์ก็เปิดยิ้มขึ้นอย่างเยือกเย็น สายตาเยาะหยันก่อเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเช่นเดิม
ขอโทษครับที่ผมละลาบละล้วงเรื่องของครอบครัวคุณจนเกินไป งั้นเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่านะครับคุณจะได้ไม่เครียด
เจนจิราช้อนตามองเขาอย่างไม่เข้าใจ หัวใจที่ว้าวุ่นสับสนกลับดีขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากชายหนุ่ม หญิงสาวเปิดยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยเสียงใส
ก็ได้คะ...งั้นเราพูดถึงเรื่องงานฉลองครบรอบสามสิบปีของบริษัทของคุณพ่อดีกว่าไหมคะ เจนนี่ยังไม่ได้ปรึกษากับคุณพ่อเลยว่าจะจัดงานแบบไหนดี คุณช่วยเจนนี่คิดหน่อยได้ไหมคะว่าจะต้องทำยังไงบ้าง
ชายหนุ่มเปิดยิ้มเยือกเย็น เขานั่งฟังหญิงสาวที่เล่ารายละเอียดของบริษัทของตนให้กับชายหนุ่มฟังอย่างละเอียด
ทุกครั้งที่ฟังเรื่องของหญิงสาว คิมหันต์ก็ได้แต่เก็บกดอาการทั้งหมดให้อยู่ในส่วนลึกโดยไม่ยอมให้มันแสดงออกมาให้หญิงสาวได้เห็น ถึงแม้บางครั้งเขาก็ไม่อาจจะทนได้ จึงได้แค่ระบายมันออกมาทางสายตาในบางครั้งเท่านั้น
*****
สายลมยามราตรีพัดพลิ้วไหวเย็นสบาย แสงไฟจากหลอดนีออนแข่งกันสาดแสงให้ความสว่างแทนแสงอาทิตย์ในยามค่ำคืน เวลานี้ถึงจะไม่ดึกมากนักแต่มันก็เป็นเวลาที่เหล่านักเที่ยวกลางคืนต่างออกมาปล่อยตัวปล่อยใจร่ายรำวาดลวดลายกันในห้องแอร์ของผับแห่งนึ่งกันอย่างสนุกสนาน
แสงไฟหลากสีทอกระทบร่างของเหล่ามนุษย์กลางคืนที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอวดลีลาของตนไปตามจังหวะของเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณห้องแออัดแห่งนั้น
บัดนี้ร่างงามระหงของสาวนักเรียนนอกอย่างพิมาลากำลังวาดลีลาเต้นด้วยสรีระที่เย้ายวนต่อสายตาของใครต่อใคร...ร่างสูงเพรียวเซ็กซี่ของหญิงสาวเต้นแดนซ์อยู่ตรงกลางฟอร์ของห้องที่มีแสงไฟส่องแสงอยู่ระยิบระยับจับร่างของเธอเป็นที่เดียว ใบหน้าเปรี้ยวได้ใจส่งสายตาเชิญชวนและเย้ายวนไปหาชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งดื่มเบียร์อยู่ที่โต๊ะไม่ห่างนัก
ริมฝีปากได้รูปห่อเข้าหากันอย่างได้อารมณ์ สาวนักเรียนนอกกระพริบแพรขนตายาวงอนหนึ่งครั้งก่อนจะพาร่างบางระหงเดินเข้าไปหาเขาคนนั้นพร้อมกับเอ่ยชวน
ไปเต้นกับพิมมี่สักเพลงสองเพลงสิคะ เจนภพ
ประโยคท้ายเรียกชื่อของเขาอย่างสนิทสนม พร้อมกับเรียวนิ้วที่ลูบไล้ลงบนไหล่กว้างของเขาอย่างแผ่วเบา
อย่าเลยครับ คุณเต้นไปเถอะ
หนุ่มหล่อบอกปฏิเสธไหนเลยสาวเหนือชั้นอย่างพิมาลาจะยอมได้
ทำไมล่ะคะ หรือว่าคุณเต้นไม่เป็น
น้ำเสียงหยามเหยียดดังขึ้นพร้อมกับแววตาที่เชิญชวน
เมื่อถูกดูหมิ่นเช่นนั้น คนอย่างนายเจนภพจึงไม่ยอมอย่างเด็ดขาด เขาส่งสายตาอันแข็งกร้าวขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่อย่างดูแคลน
รู้จักนายเจนภพน้อยไปเสียแล้วแม่สาวสวยเปรี้ยวจี๊ด...วันนี้แหล่ะเขาจะลองเคี้ยวส้มผลใหญ่ให้ดู
เมื่อถากถางเธอด้วยสายตาแล้ว ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นในทันที...คนอย่างนายเจนภพไม่ชอบให้ใครมาสบประมาทแบบนี้ง่ายๆ หรอก
ก็ได้ครับ...เดี๋ยวคุณก็หาว่าผมไม่มีน้ำยาอีก ที่แท้ผมมีมันเต็มพิกัดเลยล่ะครับคุณพิมาลา
สายตาหนุ่มมองหญิงสาวอย่างมีความหมายก่อนจะเอื้อมมือไปดึงร่างของเธอและพากันออกมาเต้นแดนซ์กันกลางแสงไฟด้วยอารมณ์ที่เร่าร้อนเกินที่หญิงสาวได้คาดเอาไว้
สนุกจังนะคะ
สาวนักเรียนนอกเอ่ยบอกเสียงกระเส่า สายตาเชิญชวนยังคงจ้องนิ่งอยู่ที่ใบหน้าคมของคู่เต้น
ครับ
เจนภพเปิดยิ้มเจ้าเล่ห์ สองมือเริ่มซุกไล้นวลเนื้อของหญิงสาวตามจังหวะเสียงเพลงที่ดังขึ้นอย่างเร้าใจ
คุณเต้นเก่งจังนะคะ พิมมี่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเต้นได้เก่งถึงขนาดนี้...แต่ก็ไม่รู้ว่าอย่างอื่นคุณจะเก่งจริงรึเปล่า
ใบหน้าเปรี้ยวแดงจัดด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์ ร่างบางระหงเปิดลีลาเต้นอย่างพลิ้วไหว สองมือโอบกอดคอของชายหนุ่มเอาไว้จนแน่น
เก่งไม่เก่ง...ถ้าอยากรู้คุณก็ต้องลองดูสิครับ
สายตากรุ่มกริ่มเจ้าเล่ห์จ้องมองหญิงสาวไม่วาง อารมณ์เสียวซ่านก่อเกิดเมื่อมือของชายหนุ่มได้แตะต้องกายสาว
จริงเร้อคะ...ปากเก่งอย่างนี้ที่ผ่านมาพิมมี่ไม่เห็นใครเอาจริงเลยสักคน
สาวนักเรียนนอกเอ่ยสบประมาทอย่างพองามก่อนจะเบี่ยงกายอันเร่าร้อนเดินจากเขาออกมา ท่ามกลางสายตาของชายหนุ่มที่มองตามอย่างเสียดาย...ความท้าทายของเธอทำให้เขาอยากจะเข้าไปพิสูจน์เสียแล้วสิ
ชวนผมออกไปเต้น ทำไมคุณถึงหนีกลับมาก่อนละครับ
เจนภพเดินมาถึงพร้อมกับเอ่ยถามเสียงทุ้ม
พิมมี่ซักจะเบื่อแล้วสิคะ...
หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมกับค่อยๆ ยกขาขึ้นมาพาดกับอีกข้างหนึ่งในท่าไขว่ห้าง เผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลที่โผล่ออกมาจากกระโปรงชุดแซกส์สีแดงเพลิงที่แหวกขึ้นอย่างจงใจ
ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างเมื่อเห็นเรียวขาของหญิงสาว สายตาเจ้าเล่ห์ฉายแววชนิดหนึ่งพร้อมกับมองนิ่งอยู่เช่นนั้นไม่วาง
คืนนี้คุณพิมมี่สวยจังนะครับ
เขาควงแก้วเหล้าผสมให้เข้ากันก่อนจะกระดกขึ้นดื่ม
จริงหรือคะ...อุ้ยพิมมี่ดีใจจังที่คุณชม นึกว่าจะไม่ได้รับคำชมจากคุณแล้วซะอีกคืนนี้
หญิงสาวใช้จริตจะก้านแต่พองาม สายตาคู่สวยจ้องมองหน้าคมของชายหนุ่มอย่างรู้ความหมาย
ครับ...วันนี้คุณพิมมี่สวยที่สุดเลยครับ
ชมครั้งเดียวก็ได้คะ เท่านี้พิมมี่ก็ดีใจแล้ว
สาวนักเรียนนอกถ่อมตัวอย่างพองามก่อนจะยกขวดเหล้าขึ้นพร้อมกับเทบริการให้กับชายหนุ่ม
แก้วนี้สำหรับมิตรภาพของเราคะ
เธอยกแก้วขึ้นชนกับแก้วของชายหนุ่มพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวน
ครับ...เพื่อมิตรภาพของเรา
เจนภพเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาที่มีความหมายมองสำรวจร่างของหญิงสาวที่ซุกอยู่ในชุดเซ็กซี่ นึกวาดไปถึงร่างงามตรงหน้าที่เปลือยเปล่า มันช่างเร่าร้อนน่าดุถ้าหากเขาได้สัมผัสแล้วรสชาติของหญิงงามผู้นี้มันจะเป็นอย่างไร
คุณพิมมี่มาเที่ยวที่นี่บ่อยหรือเปล่าครับ
ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้มๆ
ไม่หรอกคะ พิมมี่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
เสียงหวานเย้ายวนเอ่ยบอก ใบหน้าสวยเฉี่ยวเริ่มเข้มจัดด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ที่เริ่มจะเพิ่มพิกัดความเร่าร้อนภายในกายสาวขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้หญิงสาวเริ่มส่ายร่อนร่างกายไปมาด้วยความรัญจวนใจ
ทำไมหรือคะ
เปล่าหรอกครับผมแค่อยากจะทราบเท่านั้นถึงว่าผับในค่ำคืนนี้ถึงได้มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม เหมือนว่าคุณได้มาเติมสีสันให้กับมันเลยนะครับ
คุณเจนภพก็ว่ามากเกินไปนะคะ
หญิงสาวทำท่าเนียมอาย สายตาคมวาวมองออกไปด้านหน้ามองเหล่าเพื่อนพ้องที่กำลังวาดลวดลายกันอย่างได้อารมณ์
จริงสิครับ...วันนี้คุณสวยจริงๆ ดูสิครับเหล่าหนุ่มๆ มองตามกันจนเป็นแถว คุณรู้ไหมสายตาพวกนั้นมันทำให้ผมหึงคุณแล้วนะครับ
ชายหนุ่มป้อแป้ตามสมองที่สั่งการมาในเวลานั้น...ถึงแม้หัวใจมันจะไม่เป็นเช่นนั้นเลยแต่ในเวลานี้อารมณ์แห่งห้วงดำฤษณาทำให้เขาต้องการร่างของเธอมาแนบชิดอยู่ตลอดเวลา
จริงหรือคะที่คุณหึงพิมมี่
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง พร้อมกับรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา
แทนคำตอบชายหนุ่มได้เอื้อมมือไปจับมือบางของหญิงสาวเอาไว้แน่น พร้อมกับกระชับมันเพื่อย้ำเจตนาของเขา
จริงสิครับ
เขาส่งสายตาอันมีความหมายที่ลึกซึ้งไปให้หญิงสาวตรงหน้า หัวใจของชายหนุ่มเริ่มเต้นแรงเมื่อเธอส่งสายตาเชิญชวนกลับมา
ถ้าอย่างนั้นเราไปพูดกันที่อื่นดีกว่ามั้ยคะ เราจะได้มีโอกาสได้คุยกันให้สะดวกมากกว่านี้
ว่าจบร่างสวนเซ็กซี่ก็ลุกขึ้น สองมือเกี่ยวก้อยมือของชายหนุ่มเชิญชวนให้เขาลุกขึ้นแล้วตามหล่อนไปอย่างว่าง่าย
...โปรดอ่านต่อในตอนต่อไป...