ลิขิตรัก ลวงใจ...ตอนที่ 2
|
| ตอนที่ 2
เก๋งคันงามเลี้ยวเข้ามาภายในบ้านสินทราปณาวุธ...ตัวบ้านเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่รูปทรงยุโรป ตั้งอยู่ภายในเนื้อที่มากกว่า 20 ไร่ มีบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงหน้าบ้าน บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเหล่าไม่พุ่มไม้ประดับที่ถูกจัดเรียงเป็นพุ่มและถูกดัดให้เป็นรูปทรงต่างๆ เหล่าไม้ดอกต่างก็บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมโชยระรื่นจมูก
ประตูรถถูกเปิดออกโดยชายคนขับรถที่รีบกุลีกุจอเข้ามาเปิดประตูให้ จากนั้นชายหนุ่มในชุดสูทสีดำก็ก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
คนรับใช้สาวคนหนึ่งรีบเข้ามาตรงนั้นเพื่อรายงานด้วยท่าทียิ้มแย้ม คุณหนูคะ ตอนนี้คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงรออยู่ด้านในแล้วคะ
เขาพยักหน้าเป็นการรับทราบก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน ภายในห้องรับแขก รังสรรค์ประมุขของบ้านและภรรยาต่างรีบลุกขึ้นเมื่อเห็นบุตรชายเดินเข้ามา เป็นไงลูก กลับจากเมืองนอกคราวนี้ดูสดใสขึ้นนะ คุณรังสรรค์เปิดยิ้มกว้างไม่แพ้ภรรยา
สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ชายหนุ่มรีบเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าของผู้มีพระคุณทั้งสองก่อนจะก้มลงกราบ
ลูกแม่...แม่คิดถึงแทบแย่ไหนเข้ามาใกล้ๆ แม่หน่อยสิลูก กันทิมาประคองบุตรชายให้ลุกขึ้นแล้วมานั่งใกล้ๆ กับหล่อน
ลำบากไหมลูกอยู่ที่นู้น... ผู้เป็นมารดามิวายถามอย่างห่วงใย ขณะที่ชายหนุ่มเปิดยิ้มไม่ซีเรียสกับคำถามเหล่านั้น
โธ่แม่ครับ ผมโตแล้วนะครับ และที่ผ่านมาผมก็ดูแลตัวเองได้จนรอดกลับมาแบบนี้ แม่จะเป็นห่วงผมไปทำไมอีก เปล่าหรอกจ๊ะ ลูกรู้ไหมตั้งแต่ลูกจากแม่กับพ่อไป ลูกรู้ไหมแม่คิดถึงลูกแทบแย่ ส่วนพ่อเขานะเกือบจะเดินทางไปหาลูกตั้งหลายครั้ง
ผู้เป็นภรรยาเอ่ยเย้าสามีถึงเรื่องความคิดถึงบุตรชาย...ต่อจากนั้นจึงเรียกเสียงหัวเราะให้กับคนทั้งสามเป็นการใหญ่เมื่อคุณรังสรรค์เอ่ยเย้าภรรยากลับคืนถึงเรื่องที่คิดจะทำอะไรแผลงๆ เพื่อเอาใจบุตรชายในการกลับมาจากต่างประเทศครั้งนี้ ลูกรู้ไหมเที่ยงนี้เราต้องทรมานนั่งทานอาหารของแม่อีกแล้ว
คุณรังสรรค์เอ่ยอย่างขบขัน ดังนั้นจึงทำให้คุณกันทิมาค้อนให้ประหลับประเหลือกก่อนจะตีผัวะเข้าที่แขนของสามีเป็นการแก้เก้อ จริงเหรอครับแม่ เออใช่สิผมคิดถึงรสมือของแม่มากเลยครับ รับรองว่าวันนี้ผมจะไม่ยอมลุกจากโต๊ะอาการไปไหนแน่ ชายหนุ่มเอ่ยเอาใจมารดา ขณะที่คุณกันทิมากลับเปิดยิ้มสีหน้าภาคภูมิใจ
เห็นไหมคุณ ลูกชอบอาหารที่ฉันทำต่างหากล่ะ ใช่ไหมลูก นางหันมาหากำลังเสริมที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
ใช่ครับ ต่อจากนั้นภายในครอบครัวต่างก็คุยกันอย่างออกรส เพราะความคิดถึงที่ห่างกันมานานจึงทำให้ประมุขของบ้านและภรรยาต่างคุยกับบุตรชายโดยไม่เบื่อหน่าย เพื่อชดเชยในความคิดถึงที่ตนและภรรยาต่างรอมานาน
บรรยากาศภายในบ้านสินทราปณาวุธวันนี้ดูสดชื่นกว่าทุกวันเพราะบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของบ้านได้กลับมาเติมเต็ม เออ...คิมหันต์ คุณรังสรรค์เอ่ยเรียกบุตรชายท่าทางกันเอง
ครับพ่อ ชายหนุ่มเปิดยิ้มหันมาทางบิดาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
ปีนี้พ่อคงจะต้องวางมือเสียที ลูกคงพร้อมแล้วนะที่จะเข้าไปบริหารงานในบริษัทของเรา ประมุขของบ้านเปิดประเด็นในการส่งมอบงานให้กับบุตรชายเข้าไปบริหารงานแทนเขา...ไม่แน่ถ้าให้คนหนุ่มเข้าไปบริหาร บริษัทของเขาอาจจะก้าวหน้าไปมาก โดยเฉพาะคนที่จบนอกมาอย่างคิมหันต์...ที่ผ่านมาชายหนุ่มปฏิเสธถึงข้อเสนอนี้ แต่เวลานี้เขาพร้อมแล้ว พร้อมที่จะเข้าไปสานต่องานของบิดา
ได้ครับ...ผมเคยบอกพ่อแล้วนะครับว่าถ้าผมจบโทจากนอกมาเมื่อไหร่ผมจะเข้าไปบริหารงานแทนพ่อเอง เวลานี้ผมพร้อมแล้วครับพ่อ ชายหนุ่มตอบตกลงด้วยสีหน้าที่หมายมั่น
ดีลูก บริษัทของเราคงจะก้าวหน้าถ้าคนจบนอกอย่างลูกเข้าไปบริหารงาน คุณรังสรรค์เอ่ยบอกบุตรชาย ที่ผ่านมาเขาทำมันจนเต็มอิ่มแล้วถึงเวลาที่จะต้องปล่อยวางเสียที
เออพ่อครับ... คิมหันต์นึกอะไรขึ้นมาได้จึงถาม เจ้าเหมละครับ ตั้งแต่ผมมายังไม่เห็นมันเลย ชายหนุ่มถามหาน้องชายอีกคน...เหมันต์
เจ้าเหมนะเหรอตอนนี้คงอยู่ที่ทำงานนั่นแหล่ะ เห็นว่าวันนี้ได้นัดพบกับลูกค้าเลยไม่ว่างไปรับพี่ชาย คุณรังสรรค์เอ่ยถึงบุตรชายอีกคนที่ติดงานต้องพบปะลูกค้าอยู่เป็นประจำ นานครั้งถึงได้อยู่บ้านสักวันหนึ่ง
น้องเขาบอกว่าอยากจะไปรับลูกอยู่เหมือนกัน แต่เพราะวันนี้นัดลูกค้าเอาไว้จึงไปรับไม่ได้ กันทิมาช่วยเสริมอีกคน
ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่เจ้าเหมได้งานอะไรครับ คิมหันต์เริ่มสนใจในงานของน้องชายเพราะตลอดมาเจ้าคนนี้ตอนที่เขาอยู่เมืองไทยมันก็ไม่เคยสนใจงานอะไร แม้กระทั่งงานในบริษัทของบิดา
งานเกี่ยวกับกิจการโรงแรมอะไรพวกนี้แหล่ะของน้าพิมายเขา ใช่จ๊ะ เจ้าเหมมันชอบไปประจบประแจงเขานัก ดังนั้นน้าพิมายจึงจัดการให้เข้าไปเป็นรองผู้จัดการ แถมยังพ่วงงานรับเหมาที่เจ้าเหมมันชอบอีกงานหนึ่ง
โหแม่คราวนี้มันก็อานสิครับ คิมหันต์เอ่ยถึงน้องชายอย่างขบขัน คนที่ไม่เคยเอางานอย่างนายเหมันต์เมื่อเจองานแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น
จะไม่ใช้อานได้ยังไงลูก อาทิตย์หนึ่งเจ้าเหมถึงจะได้เข้าบ้านสักครั้ง สะใจผมจริงๆ ครับคุณพ่อคุณแม่ เมื่อก่อนคุณพ่อจะให้มันเข้าไปทำงานสบายๆ ในบริษัทของเรามันกลับไม่สน หาว่าต้องการหาเอง เป็นไงครับเจอแบบนี้รับเละเลย
ชายหนุ่มหัวเราะออกมาได้ ขณะที่ทั้งสองบิดาและมารดาก็พลันยิ้ม...จริงอย่างที่คิมหันต์ว่า เมื่อก่อนบุตรชายคนรองไม่ขอรับงานอะไรของบริษัท แต่พอได้งานทั้งทีก็ต้องเจอหนักแบบนี้
อาทิตย์หน้าพ่อจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูก ลูกอย่าปฏิเสธเลยนะส่วนเจ้าเหมพ่อจะดึงตัวให้มันมาให้ได้ คุณรังสรรค์เอ่ยดักคอบุตรชายเพราะกลัวว่าคราวนี้คิมหันต์จะไม่ตอบรับและปฏิเสธ
ก็ได้ครับ... ชายหนุ่มเอ่ยตกลงในที่สุดก่อนจะขอตัวแยกออกไปพักผ่อน
คุณพ่อคุณแม่ครับผมขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะครับเหนียวตัวเต็มที ชายหนุ่มพูดได้แค่นั้นก็ลุกยืนแล้วเดินขึ้นบันไดไป...ตลอดเวลาหลายปีเขาไม่เคยลืมบ้านหลังนี้เลย ห้องของเขาอยู่ที่ไหนก็ยังคงอยู่ที่นั่นไม่เปลี่ยนแปลง
ประตูห้องถูกเปิดออกชายหนุ่มถอดชุดสูทวางลงที่เตียงพร้อมกับสำรวจไปทั่วห้องของตัวเอง...ภายในห้องนี้ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ห้องนี้ถูกจัดให้อยู่ในแบบสไตล์ของเขา มันยังคงเป็นอยู่เช่นนั้น สายตาของเขาสำรวจไปทั่วห้องอย่างคุ้นเคย ชายหนุ่มสาวเท้าตรงไปที่ตู้ใบหนึ่งเปิดมันออกแล้วหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
ในมือของเขาคือรูปของชายคนหนึ่งที่มีโครงหน้าและแววตาเหมือนกับชายหนุ่ม จิตใจของเขาห่อเหี่ยวและอ้างว้างเขาค่อยๆ เอามือไปลูบตรงกรอบรูปเบาๆ
เขาตกอยู่ในห้วงเวลานั้นเนิ่นนาน...สองตาของเขาจ้องนิ่งไปที่บุคคลในรูปพลันนั้นเปลวไฟชนิดหนึ่งก็ประทุออกมา แต่มันก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเขาก็สามารถข่มและเก็บมันเอาไว้อย่างมิดชิด ก่อนจะค่อยๆ เก็บรูปใบนั้นลงในตู้เช่นเดิม
ในเวลานั้นรถสองคันก็ได้เลี้ยวเข้าโรงแรมด้วยความรีบเร่ง รังสิยาหัวเสียอย่างหนักเมื่อรถของเธอเฉี่ยวชนเข้ากับรถอีกคันที่เลี้ยวเข้ามาในความเร็วระดับเดียวกัน โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ มีเพียงที่รถของทั้งสองฝ่ายที่เสียหายนิดหน่อยเท่านั้นเอง
รังสิยาก้าวเท้าลงจากรถด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเพราะตัวเองกำลังรีบแต่ดันเจออุบัติเหตุ นี่คุณคะ ขับรถยังไงถึงได้เข้ามาเฉี่ยวรถของดิฉันแบบนี้
รังสิยาเปิดฉากด่าขณะที่คู่กรณีก้าวลงจากรถด้วยอารมณ์เดือดไม่แพ้กัน ต่อเมื่อเห็นเป็นผู้หญิงสาวเขาจึงเปิดยิ้มกล่าวขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ ครับที่ขับรถไม่ทันระวัง ด้วยเพราะเห็นคู่กรณีเป็นผู้หญิงเหมันต์จึงกล่าวด้วยเสียงสุภาพ
คือผมรีบครับ.... นายรีบฉันก็รีบเหมือนกัน...ทำไมไม่ดูบ้างละยะ หญิงสาวยังอารมณ์เดือดเหมือนเดิมเมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้เธอกลับไม่ชอบขี้หน้าของเขาเอาเสียเลย...
ผมขอโทษอีกครั้งเลยเอ้า...ว่าแต่คุณจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ครับ ชายหนุ่มเปิดยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าตัวเองไม่ผิดชายหนุ่มก็ยังยินดีชดใช้ให้ ตรงข้ามกับหญิงสาวที่แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาเพราะคิดว่าเธอเป็นฝ่ายที่ถูกอย่างเดียว
งั้นเราค่อยติดต่อกันทีหลัง ตอนนี้ฉันรีบ... หญิงสาวยังไม่ลดราวาศอกก่อนจะยื่นนามบัตรของตัวเองให้แล้วรีบขึ้นรถและขับเข้าไปภายในโรงแรมทันทีท่ามกลางอาการงุนงงของชายหนุ่มที่เปิดยิ้มมองตามหลัง
อะไรจะรีบปานนั้น... ชายหนุ่มพูดได้แค่นั้นก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ตายแล้ว...งานนี้คงโดนลูกค้าเล่นงานแน่ เขาเอ็ดตะโรได้แค่นั้นก็รีบหันหลังขึ้นรถแล้วบึ่งเข้าไปในโรงแรมในทันทีเช่นกัน
เมื่อประตูเปิดออกรังสิยาที่นั่งรออยู่ในนั้นมีอันต้องเบิกตาโตเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางรีบร้อนทะลึ่งตัวเข้ามา
ขอโทษครับพอดี... เขากลืนคำต่อมาลงคอไปเมื่อสายตาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาเปิดยิ้มกว้างอย่างดีใจที่มีโอกาสพบเธออีกครั้ง
นี่นาย... รังสิยาพูดออกมาไม่เชื่อในสายตาของตัวเอง
คุณ...เจอกันอีกแล้วนะครับ เหมันต์เปิดยิ้มท่าทางกรุ่มกริ่มก่อนจะเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว
คุณรังสิยาใช่ไหมครับ... ชายหนุ่มเอ่ยเสียงสุภาพ ขณะที่หญิงสาวใบหน้าเข้มจัดส่งค้อนให้กับเขาวงใหญ่ไม่นึกเชื่อเลยว่าจะได้เจอกับเขาในสถานที่แบบนี้อีกครั้ง
คะ... หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆ ค่อยๆ ยื่นเอกสารให้กับเขาด้วยหัวใจที่สั่นรัว
ชายหนุ่มนั่งนิ่งจ้องมองกิริยาของหญิงสาว รู้สึกถูกชะตากับเธอขึ้นมาในทันที หัวใจที่อ้างว้างบอกว่าเธอคนนี้แหล่ะที่สามารถจะมาเติมเต็มให้กับเขา ขณะที่รังสิยาแสร้งหันมองไปด้านอื่นเสียเมื่อหัวใจของเธอก็เต้นรัวไม่แพ้กัน แต่ด้วยทิฐิที่มีในหัวใจจึงทำให้เธอระงับอารมณ์ทั้งหมดไว้ได้
ต่อเมื่อชายหนุ่มนั่งอ่านเอกสารจนหมดแล้วเขาก็ปิดแฟ้มลงแล้วหันมองมาทางหญิงสาวที่นั่งตัวลีบอยู่ฝั่งตรงข้าม ตกลงผมรับงานของคุณนะครับ
รังสิยารู้สึกอึดอัดเต็มทีกับท่าทีของชายหนุ่มที่บอกกลับมา ถึงจะดีใจแค่ไหนที่งานของตนผ่านไปด้วยดีแต่ด้วยอารมณ์เดือดเมื่อครู่ที่เพิ่มขึ้นมาอีกครั้งกับใบหน้าของชายหนุ่มจึงทำให้เธอเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่แข็งกระด้าง
ค่ะ...เรื่องนี้จบลงแล้วใช่ไหมคะ ใช่ครับ...ตกลงผมรับงานของคุณ ชายหนุ่มกล่าวเสียงนุ่มทุ้ม ขณะที่หญิงสาวมีแววตาที่เปลี่ยนไป
งั้นก็มาเริ่มเรื่องของเราได้แล้ว เรื่องอะไรครับ เขายังงุนงงกับน้ำเสียงที่เอ่ยบอกของหญิงสาว
หน๋อยทำไก๋นะยะ...ก็เรื่องรถของเราไง คุณเธอเปิดประเด็นถึงเรื่องที่ทำให้เธออารมณ์เดือด รถของเราเลยหรือครับ...
ชายหนุ่มเอ่ยบอกอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม ขณะที่รังสิยาแสดงสีหน้าเข้มจัดอีกครั้งอารมณ์โกรธที่รถสุดที่รักของเธอบุบสลายเพราะเขาเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง รถของฉันยะ...
หญิงสาวตอบเสียงสะบัดแล้วลุกขึ้น เจอกันที่นี่ก็ดีจะได้คุยกันจบๆ ไปสักที...เร็วฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณนาน เธอเบื่อเต็มทีกับสายตาที่เขามองมาด้วยแววชนิดหนึ่ง
จะรีบไปไหนครับ...ยังไงเราก็ต้องร่วมงานกันแล้วนี่ครับ หรือจะให้ผมไม่ตกลง เขาเอ่ยพาดพิงไปถึงงานที่หญิงสาวนำมาเสนอจนทำให้เธอสะดุ้งมานิดหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของเขาเธอจึงไม่อยากจะแสดงอะไรออกมามาก
ไม่ตกลงฉันก็จะไปหาคนอื่น...เอาเอกสารมา รังสิยายื่นมือไปดึงแฟ้มจากชายหนุ่ม แต่เหมันต์ก็ได้ยึดเอาไว้จนแน่นจนหญิงสาวพยายามเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ ดังนั้นจึงทำให้ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่แบบนั้น
นี่นาย จะเอายังไงกันแน่ คุณก็ปล่อยก่อนสิครับแล้วมาพูดกันดีๆ เหมันต์ยังคงเปิดยิ้มอย่างเหนือชั้น ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มอบให้กับหญิงสาวที่ไม่อยากจะรับมันสักเท่าไหร่นัก
ก็ได้...มีอะไรก็พูดมา รังสิยายอมในที่สุดก่อนจะล้มตัวนั่งลงที่เดิม
การตกลงของทั้งสองเป็นไปอย่างเชื่องช้าเพราะเหมันต์ต้องการอยู่ใกล้ชิดกับเธอให้นานที่สุดเขาจึงพูดโยกโย้ให้หญิงสาวต้องอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งหมดก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีท่ามกลางอารมณ์บูดของหญิงสาวที่เดินออกจากห้องมา
ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ขี้เก๊ก...เชอะ เมื่อออกมาจากห้องได้รังสิยาจึงพูดด้วยเสียงที่ลอดไรฟันก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วเดินจากไปในทันที
ในห้องเหมันต์นั่งมองตามหญิงสาวที่เปิดประตูออกไปด้วยสีหน้าที่ขบขัน...ความน่ารักของเธอในยามโกรธฉายแววออกมาจนทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ความที่ได้พูดจากับเธอทำให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วภายในจิตใจของเธออ่อนไหวแค่ไหน...แต่ในเวลานั้นเขาก็หยุดความคิดไว้แค่นั้นเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเห็นเบอร์ก็เปิดยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วกดรับสาย
หวัดดีครับพ่อ... ชายหนุ่มกรอกเสียงนุ่มทุ้มลงไปที่เครื่องโทรศัพท์ ว่าแต่พี่คิมมาถึงหรือยังครับ
มาถึงแล้ว... คุณรังสรรค์กรอกเสียงตอบกลับมาด้วยอารมณ์ที่ยินดีไม่แพ้กัน งั้นเย็นนี้ผมจะเข้าบ้านนะครับ กะว่าจะพาพี่ชายไปทานข้าวนอกบ้านสักมื้อ...คุณพ่อกับคุณแม่จะต้องไปด้วยนะครับ
เขาเปิดประเด็นในการชวนบุคคลทั้งสองและพี่ชายไปทานข้าวในทันที เออ...เจ้าคิมมันก็อยากจะพบลูกอยู่เหมือนกัน... คุณรังสรรค์พูดได้แค่นั้นก็กดวางสายลงเมื่อไม่อยากจะรบกวนเวลางานของบุตรชายนาน
เท่านี้ก่อนนะลูกเย็นนี้เจอกันนะ ครับ...
เหมันต์พูดจบก็รีบลุกออกจากห้องนั้นไปในทันทีเมื่อเขาสำนึกได้ว่ายังมีงานอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและสะสางให้เสร็จเพราะเย็นนี้มันจะเป็นเวลาที่พิเศษสำหรับครอบครัวของเขา ...โปรดอ่านต่อในตอนต่อไป...
Create Date : 02 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 12:55:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 504 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
พะเยา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ข้อตกลง 1. กรณีที่ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่แต่งโดยผู้ลงผลงานเอง ลิขสิทธิ์ของผลงานนี้จะเป็นของผู้ลงผลงานโดยตรง ห้ามมิให้คัดลอก ทำซ้ำ เผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ลงผลงาน
2. กรณีที่ผลงานชิ้นนี้กระทำการคัดลอก ทำซ้ำ มาจากผลงานของบุคคลอื่นๆ ผู้ลงผลงานจะต้องทำการอ้างอิงอย่างเหมาะสม และต้องรับผิดชอบเรื่องการจัดการลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว
3. ผู้ใดพบเห็นการลงผลงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดแจ้งเจ้าของบล็อกทันที
|
|
|
|
|
|
|