ดินแดนแห่งจินตนาการ...
จินตนาการแห่งสายลม...
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

เล่ห์ร้ายหัวใจลวง...ตอนที่ 10

ตอนที่ 10

หลังเลิกงานคิมหันต์ได้โทร. นัดแนะให้เจนจิราออกไปเที่ยวกับเขา...เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทั้งสองหนุ่มสาวก็มาเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

ร่างบางระหงในชุดสบายๆ สีหวานเดินแหวกผู้คนเข้ามาหลังจากที่เธอใช้สายตามองหาเขาไม่นานก็เจอเขายืนรออยู่ที่มุมหนึ่งของหน้าห้าง

“รอนานหรือเปล่าคะ”

หญิงสาวเอ่ยเสียอ่อนโยน พร้อมกับสายตาขอโทษ

“ไม่หรอกครับ ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”

คิมหันต์พูดเพื่อจะไม่ให้เธอรู้สึกผิด และเป็นกังวน

“เราไปกันเถอะคะ...”

เจนจิราเป็นคนเอ่ยบอกเขาพร้อมกับเดินนำหน้าเข้าไปในห้าง

หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เดินพากันเข้าไปซื้อของตามใจชอบ ส่วนมากสินค้าที่หญิงสาวซื้อจะเป็นพวกเสื้อผ้าแฟชั่น...เมื่อเห็นแล้วก็อดใจซื้อมาไหว

ความสุขของสองหนุ่มสาวในการเลือกซื้อสินค้าจะยังคงดำเนินต่อไปถ้าหากไม่ถูกใครคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน

เขาคนนั้นเดินตรงเข้ามาหาบุคคลทั้งสองก่อนจะกระชากแขนของเจนจิราให้ออกห่างจากชายหนุ่ม

“เจนนี่...”

เมื่อดึงร่างของหญิงสาวให้ห่างออกมาแล้ว ชายคนนั้นก็ได้บันดาลโทสะปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของคิมหันต์ในทันทีโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว

ผัวะ...!!

ใบหน้าคมของชายหนุ่มสะบัดตามแรงชก รู้สึกชาวาบขึ้นมาในทันทีตรงรอยหมัดที่วิ่งผ่าน ในเวลานั้นแววตาที่อ่อนโยนของเขากลับแปรเปลี่ยนไปในทันที เขาเงยหน้ามองชายหนุ่มแปลกหน้าจนอีกฝ่ายถึงกับคร้ามกลัวต่อแววตานั้น หากแต่เขาได้หันมาทางเจนจิราด้วนสายตาแข็งกร้าว

“เจนนี่...เพราะไอ้คนนี้ใช่มั้ยที่ทำให้คุณเปลี่ยนไป”

เพี๊ยะ!

แทนคำตอบฝ่ามืออันเรียวบางของหญิงสาวก็ฟาดไปที่หน้าของเขาคนนั้นในทันที

“คุณมันบ้าไปแล้วเจนภพ...กลับไปซะ เราไม่มีอะไรจะพูดกันอีกแล้ว คุณมันหมาบ้าชัดๆ”

หญิงสาเดือดสุดๆ ที่เห็นอดีตของเธอสร้างเรื่องขึ้นแบบคนที่เห็นแก่ตัว

“เจนนี่!”

เจนภพเริ่มเสียงดังเมื่อเห็นหญิงสาวขึ้นเสียงใส่เขาโดยที่ไม่สนใจใยดี

ทางด้านของหญิงสาวไม่ได้พูดอะไรมาก หญิงสาวได้วิ่งไปหาคิมหันต์ที่ยืนงงอยู่ด้วยความห่วงใย

“เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะคิมหันต์”

มือบาง ค่อยๆ ลูบไปที่ใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน

“ไม่เป็นอะไรครับ...”

ชายหนุ่มบอกปัด แต่ก็ยังไม่วางสายตาที่มองฝ่ายตรงข้ามอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ...เขามีสติพอที่จะไม่สร้างเรื่องบนที่สาธารณะแบบนี้

เจนภพรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาภายในใจเมื่อเขาได้เห็นภาพที่บาดตาบาดใจของคนทั้งสองที่ไม่เคยเกรงใจเขาที่ยืนอยู่เลยสักนิด เขาอยากจะเข้าไปตะบันหน้ามันผู้นั้นอีกสักครั้งเพื่อให้หายอารมณ์เดือด

“คุณเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เจนนี่”

“ฉันไม่เคยเปลี่ยนหรอกเจนภพ คุณต่างหากที่เห็นแก่ตัว คุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมาก่อนจะมาโทษฉันได้ยังไง เจนภพคุณกับฉันต่อนี้ไปเราไม่ใช่คนที่รู้จักกันแล้ว คุณไปซะ ตัดใจจากฉันคนนี้เสียที...ไปเถอะคะคิมหันต์”

เพื่อพูดในสิ่งที่ต้องการจบ เจนจิราก็ลากแขนของคิมหันต์ให้เดินจากไปในทันที เมื่อเดินผ่านผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นคิมหันต์ไม่วายจะส่งสายตาชนิดหนึ่งไปให้จนอีกฝ่ายนึกคร้ามกลัวอยู่ในที

“เรื่องมันไม่จบแค่นี้หรอกเพื่อน”

*****
‘คราวนี้นายรู้แล้วใช่ไหมว่าความเจ็บปวดที่ได้รับแท้จริงมันเป็นยังไง นายเป็นคนทำกับเขาก่อนนี่เจนภพ’

ถึงแม้ทั้งสองจะเดินจากไปแล้วแต่เจนภพก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นึกสะใจตัวเองที่ได้รับความเจ็บปวดอย่างสาสม

‘นายมันโง่เองที่ไปเลือกคนอื่น เพชรงามอยู่ในมือแท้ๆ นายยังทิ้งมันไป นายมันโง่...งี้เง่าอย่างที่เธอว่าจริงๆ’

ความเจ็บปวดที่บาดลึก เขาก็เพิ่งรู้มันในวันนี้ว่าจริงๆ แล้วมันเป้นอย่างไร เขาอยากจะร้องไห้ออกมาให้เสียงดังที่สุด แต่ทำไมนะ ทำไมมันถึงไม่มีน้ำตาออกมาสักน้อยนิด

“เจ็บมากละสิคุณ”

ในเวลานั้นได้มีเสียงของใครคนหนึ่งก็ได้ทำลายความคิดและความเจ็บปวดภายในใจของเขาลง ชายหนุ่มค่อยๆ ไล่สายตาที่อ่อนล้าไปทางต้นเสียงนั้น ก่อนจะพบกับร่างสูงเพรียวของหญิงสาวคนหนึ่งในชุดที่เซ็กซี่เย้ายวนสายตาเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเยาะ

“...คุณมาเกี่ยวอะไรกับผมด้วย”

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่ว เขาหลบสายตาลงต่ำเพราะไม่อยากจะเห็นอาการยิ้มเยาะของอีกฝ่าย

“มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไงถ้าหากผู้หญิงของคุณไม่มาแย่งแฟนของฉันก่อน”

หญิงสาวตอบเสียงฉะฉาน

เจนภพถึงกับตาโตขึ้นมาในทันที เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากหญิงสาว...เธอเป็นใคร ทำไมถึงพูดออกมาเช่นนั้น...

“อย่าพูดกันตรงนี้เลยคะ มันคงไม่สะดวกนัก...มาซิค่ะตามฉันมาสิ”

พูดจบหญิงสาวก็เดินเข้ามาจูงมือของเขาให้ตามหล่อนไปอีกทางหนึ่ง ทั้งสองมุ่งตรงไปที่ร้านอาหารของห้างฯ หญิงสาวเลือกตรงมุมสุดเป็นที่นั่งในการสนทนาในครั้งนี้

“ฉันชื่อพิมาลาคะ เรียกพิมมี่เฉยๆ ก็ได้”

หญิงสาวแนะนำตัวด้วยจริตมารยาชนิดหนึ่ง

“ผมชื่อเจนภพครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพิมมี่”

เขาเรียกชื่อของเธอพร้อมกับส่งสายตากรุ่มกริ่มไปให้จนอีกฝ่ายหนาวสะท้านเกือบจะละลายไปกับสายตาคู่นั้น

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันคะ”

พูดจบพิมาลาก็ส่งสายตาที่เย้ายวนและเชิญชวนไปให้กับเขาเช่นกัน

“คุณบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผม เรื่องอะไรครับ”

เขาถามด้วยเสียงสุภาพ พิมาลาเปิดยิ้มอย่างเก๋ไก๋แล้วบอก

“อย่าเพิ่งใจร้อนสิคะ เรายังมีเวลาคุยกันตั้งเยอะแยะ รับรองว่าทันจะเป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างแน่นอนเลยคะ ส่วนตอนนี้เรามาทานอาหารกันก่อนดีกว่า...”

หญิงสาวหันไปสั่งอาหารและเครื่องดื่ม...จากนั้นทั้งสองก็จัดการกับอาหารและพูดคุยกันอย่างถูกคอและในที่สุดแผนการทั้งหมดก็ผุดขึ้นมาในเวลานั้น

“ถ้าคุณอยากจะได้เธอกลับคืนมา คุณจะต้องช่วยฉันก่อน เมื่อถึงเวลานั้นมันจะเป็นผลดีสำหรับเราไม่ใช่เหรอคะ”

หญิงสาวใส่จริตมารยาในการพูดพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่มองเขาอยู่ตลอดเวลา ชนิดที่จะไม่ยอมให้เขาคลาดเคลื่อนไปไหน

“ช่วยยังไงครับ...”

เจนภพถามพร้อมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ ขณะที่อีกฝ่ายค่อยโน้มหน้าเขามากระซิบบอก...

****
ขณะเดินทางกลับบ้าน ภายในรถของคิมหันต์ ชายหนุ่มนั่งมาเงียบๆ ไม่พูดอะไร จนก่อเกิดความสงสัยให้กับเจนจิราเป็นอย่างมาก ใบหน้าสวยจ้องมองเขาอยู่เช่นนั้นก่อนจะเอ่ยถามเขาอย่างห่วงใยในที่สุด

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคิมหันต์”

น้ำเสียงของหญิงสาวดูอ่อนโยนจนชายหนุ่มรู้สึกได้

คิมหันต์ผินใบหน้าคมเข้มที่มีรอยหมัดปรากฏอยู่บนนั้นมาทางหญิงสาวช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ

“ไม่หรอกครับ...”

“เจนนี่ต้องขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ ที่เขาทำกับคุณอย่างไม่มีเหตุผล”

เจนจิราเอ่ยขอโทษแทนเจนภพ ถึงแม้เขาจะเป็นอดีตไปแล้วสำหรับเธอ แต่เธอก็ยินดีขอทาเพราะเหตุทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราะเธอ

คิมหันต์จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาชนิดหนึ่ง แต่มันก็เป็นเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นเมื่อเขาสามารถที่จะเก็บมันลงได้อย่างรวดเร็ว เขาพารถเข้าจอดข้างทางก่อนจะหันมาทางหญิงสาวอีกครั้ง

“เขาเป็นใครครับ”

ชายหนุ่มพยายามข่มเสียงให้เป็นปกติ

“เขาหรือคะ...มันเป็นอดีตของเจนนี่คะ เจนนี่พยายามจะลืมเขาแล้วแต่เขาก็กลับมาให้เจนนี่เห็นอีก”

เจนจิราเอ่ยถึงอดีตด้วยความข่มขื่น หัวใจยิ่งเจ็บแปลบเข้าไปอีกเมื่อเธอพูดถึงเรื่องนี้

“เจนนี่...”

เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นพร้อมกบฝ่ามือหนาได้เอื้อมไปวางแปะลงบนหัวไหล่ของหญิงสาวเป็นการปลอบโยน

“ผมขอโทษที่ทำให้คุณไม่สบายใจ ผมไม่น่าถามเรื่องนี้เลย”

สายตาที่อ่อนโยนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ที่กำลังคลอไปด้วยน้ำตา

“เจนนี่ต่างหากที่จะต้องขอโทษคุณ...เจ็บมากไหมคะ”

นิ้วเรียวบางของหญิงสาวค่อยๆ ไล้ไปที่แก้มสากของชายหนุ่มอย่างนุ่มนวล ส่งผ่านความห่วงใยผ่านนิ้วมือที่ลูบไล้ปลอบโยน

ภายในรถเงียบสนิทเพราะบัดนี้บุคคลทั้งสองต่างก็ใช้หัวใจในการสื่อสารกัน ความอบอุ่น ความโหยหาถูกส่งมอบให้แก่กันและกัน ในเวลานั้นใบหน้าคร้ามคมของชายหนุ่มก็ค่อยๆ โน้มลงมาหาหญิงสาว เขาประกบปากลงบนริมฝีปากสีสดและอวบอิ่มของหญิงสาวอย่างช้าๆ ส่งมอบความหอมหวานรัญจวนผ่านปลายลิ้นที่ซอกไซ้เข้าไปหาความอวบอิ่มในกระพุ้งปากของหญิงสาว

เจนจิราหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข หญิงสาวส่งเสียงอู้อี้ออกมาแต่เพียงน้อยนิด ความซาบซ่านก่อเกิดขึ้นมาในทันทีที่มือหนาซอกซอนซุกซน

หญิงสาวเปิดเปลือกตากว้างเมื่อรับรู้ถึงมืออุ่นที่กำลังจะกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง พลันนั้นก่อนสติที่หลงเหลือของเธอจะดับวูบไปด้วยไฟอามรมณ์ เจนจิราก็ได้ตัดใจผลักอกกว้างของเขาออกห่างเมื่อเธอไม่อยากจะให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้

“พอเถอะคะ มันยังไม่ถึงเวลาสำหรับเรา”

เสียงแผ่วดังขึ้น พร้อมกับสายตาที่เสียดายที่ช้อนขึ้นมองชาหนุ่ม ถึงแม้จะเสียดายมันขนาดไหน แต่เธอก็ให้มันเป็นไปมากกว่านี้ไปได้

“ผมขอโทษครับ...”

คิมหันต์เอ่ยขอโทษ ก่อนจะตัดสินใจเคลื่อนรถออกจากที่อีกครั้ง

รถยุโรปคันงามจอดสนิทที่หน้าบ้านไพศาลสุรวุธ คิมหันต์จ้องมองตัวบ้านพร้อมกับจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความคิด...ก่อเกิดความเสียใจและดีใจสลับกันจนยากที่จะทานทนได้ จนทำให้กิริยาทั้งหมดแสดงออกทางสายตา

เมื่อเห็นเขานิ่งอีกครั้งเจนจิราจึงร้องเรียก

“คิมหันต์คะ คิมหันต์”

ชายหนุ่มมีท่าทีที่สะดุ้งนิดหนึ่งต่อเสียงเรียกนั้นก่อนจะหันมาทางหญิงสาว

“ครับ...อะไรครับ”

“คุณเป็นอะไรคะ เห็นนั่งนิ่งอยู่นานจัง”

เจนจิราถามเขาอย่างห่วงใย ขณะที่คิมหันต์รู้ตัวก่อนจะรีบกลบเกลื่อนกิริยาทั้งหมดด้วยการเปิดยิ้มออกมา

“ไม่ครับ...”

เขากล่าวปฏิเสธพร้อมกับสายตาที่อ่อนโยนมองไปทางหญิงสาว

“เราลงไปกันเถอะคะ”

หญิงสาวเอ่ยชวนเขาให้ลงไปจากรถ

“ไม่หรอกครับ คุณลงไปเถอะ เดี๋ยวผมจะกลับแล้ว”

“อย่าเพิ่งไปสิคะ เข้าไปในบ้านก่อน เจนนี่จะทายาให้...นะคะ”

เจนจิราเอ่ยชวนเมื่อเห็นเขายังลังเล

“นะคคิมหันต์...อย่าให้เจนนี่ได้รู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลย คุณเข้าไปทายาในบ้านก่อนเถอะค่ะ”

เมื่อโดนรบเร้าแถมเจนจิรายังหาเหตุผลมาอ้าง คิมหันต์จึงตอบตกลงในที่สุดและเปิดประตูตามหญิงสาวลงจากรถ

ก้าวแรกที่ย่างเหยียบลงพื้นชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแปลบตรงที่หัวใจ สายตาที่อ่อนโยนมองไล่ไปที่ตัวบ้านอย่างช้าๆ ถ้าหากใครมองเข้าไปที่ดวงตาของเขาในเวลานี้ก็จะเห็นหยาดน้ำตาที่เอ่อนองอยู่ในนั้น

ความรู้สึกที่เขาเป็นอยู่นี้คล้ายดั่งว่าชายหนุ่มได้กลับสู่บ้านเกิดอีกครั้ง เพียงแต่การกลับมาในครั้งนี้มันต่างกัน...บัดนี้เขาคือแขกของบ้าน

เจนจิราพาชายหนุ่มเข้ามานั่งในห้องรับแขกก่อนจะหันไปเรียกคนรับใช้เก่าแก่ของบ้านเพื่อนำน้ำมาต้อนรับแขก

“ป้าเวียนคะ เจนนี่ขอน้ำสองที่คะ”

มีเสียงตอบอันคุ้นหูดังขึ้นก่อนจะหายเงียบไป สักพักจึงได้เดินออกมาพร้อมกับน้ำดื่ม

คิมหันต์แหงนมองอาณาบริเวณโดยรอบด้วยสายตาที่คุ้นเคย ก่อนที่เขาจะไปหยุดสายตาอยู่ที่หญิงชราคนหนึ่งวัยใกล้จะหกสิบที่เดินถือถาดแก้วน้ำเข้ามาในที่นั้น สายตาที่อ่อนโยนของชายหนุ่มมองหญิงชราคนนั้นตลอดจนนางเดินมาถึง

“น้ำมาแล้วคะ”

ถึงจะเป็นแขกที่ตนไม่รู้จัก แต่ป้าเวียนก็ยังเปิดยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่ม

วูบหนึ่งนางรู้สึกคุ้นเคยต่อสายตาที่มองมา แต่นางก็หาคำตอบไม่ได้สักทีว่าสายตาคู่นั้นเป็นใคร เพราะมันนานมาแล้วที่นางจะจดจำได้ชัดเจน

“นี่ป้าเวียนคะ แม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่”

เจนจิราเอ่ยแนะนำชายหนุ่ม

“ยินดีที่ได้รู้จักคะ...เอ่อ คุณอะไรคะ”

หญิงชราเปิดยิ้มอย่างมีเมตตา ดวงตาสีน้ำข้าวของแม่บ้านเก่าแก่จ้องนิ่งอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่ม

“สวัสดีครับ...ผมชื่อคิมหันต์ครับ”

คิมหันต์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม กิริยาทุกท่วงท่าของชายหนุ่มยิ่งตอกย้ำให้หญิงชราได้คิด

“ป้าเวียนคะนี่คุณคิมหันต์ที่เจนนี่เคยเล่าให้ฟังว่าเขาได้ช่วยชีวิตคุณพ่อ คุณแม่และเจนนี่ในครั้งนั้น”

“ป้าขอขอบคุณ คุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยคุณท่านเอาไว้”

หญิงชราไม่วายจะยกมือขึ้นพนมไหว้ชายหนุ่ม

“โอ๊ะ! อย่าครับ”

ชายหนุ่มตกใจเมื่อเห็นผู้ที่แก่กว่ายกมือไหว้ เขาจึงรีบเข้าไปจับมือของป้าเวียนเอาไว้ก่อนจะพานางมานั่งที่โซฟา

“อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ เดี๋ยวผมจะอายุสั้น”

ชายหนุ่มเอ่ยปรามทีเล่นทีจริงพร้อมกับสายตาที่อ่อนโยนจนแม่บ้านเก่าแก่ถึงกับรู้สึกร้อนวูบวาบต่อสายตาคู่นั้น ถึงแม้มันจะเป็นสายตาที่อ่อนโยนแต่มันกลับแฝงไว้ด้วยแววชนิดหนึ่งเอาไว้

เจนจิราเปิดยิ้มออกมาได้เมื่อเห็นความสนิทสนมของบุคคลทั้งสอง ถึงแม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ตาม

“เจนนี่ดีใจคะที่คุณสนิทสนมกับป้าเวียนได้...ป้าเวียนเธอเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ของเจนนี่เลยนะคะ”

หญิงสาวเอ่ยบอกอย่างกันเอง ขณะที่ป้าเวียนได้แต่ยิ้มจางๆ

“อย่าพูดเช่นนั้นเลยคะคุณหนู เดี๋ยวขี้กลากจะกินกบาลป้าไปเสียก่อนที่จะแก่ตาย”

ป้าเวียนพูดอย่างคนที่ถ่อมตน ก่อนจะขอตัวกลับออกไป

“ป้าทำงานค้างเอาไว้ คงต้องขอตัวไปก่อนนะคะคุณคิมหันต์ คุณหนู”

พูดจบแม่บ้านวัยดึกก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปพร้อมกับคำถามที่ถามตัวเองอยู่ในใจที่ว่า...หล่อนเคยเห็นแววตาของผู้ชายคนนี้ที่ไหนกันนะ...

“ป้าแกก็เป็นแบบนี้แหล่ะคะ อย่าถือสาแกเลย”

เจนจิราพูดแก้ต่างให้กับแม่บ้านของตัวเอง

“ไม่หรอกครับ...”

คิมหันต์เปิดยิ้มอย่างอารมณ์ดี ในเวลานั้นเจนจิราก็เบาใจก่อนจะคิดอะไรขึ้นมาได้

“ตายแล้ว...ลืมไปเสียสนิทว่าจะทายาให้กับคุณ รอเดี๋ยวนะคะ”

เธอลืมไปเสียสนิทเรื่องที่ชายหนุ่มถูกต่อย ก่อนจะขอตัวลุกไปเอายาแล้วกลับมาอีกครั้ง

“มาคะ...เดี๋ยวเจนนี่ทายาให้ คุณยังเจ็บอยู่ใช่ไหมคะ”

เธอถามพร้อมกับละเลงยาลงบนนิ้วก่อนจะป้ายลงบนแก้มขงเขาตรงจุดที่เป็นรอยแดงจากรอยหมัดของเจนภพ แล้วก็ค่อยๆ ไล้และนวดมันเบาๆ อย่างนุ่มนวล

...โปรดอ่านต่อในตอนต่อไปครับ...




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2553
1 comments
Last Update : 5 กันยายน 2555 20:37:38 น.
Counter : 472 Pageviews.

 


แวะมาทักทาย

 

โดย: nonthon 19 กรกฎาคม 2553 16:29:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ภีมภูริ...
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ข้อตกลง
1. กรณีที่ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่แต่งโดยผู้ลงผลงานเอง ลิขสิทธิ์ของผลงานนี้จะเป็นของผู้ลงผลงานโดยตรง ห้ามมิให้คัดลอก ทำซ้ำ เผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากผู้ลงผลงาน

2. กรณีที่ผลงานชิ้นนี้กระทำการคัดลอก ทำซ้ำ มาจากผลงานของบุคคลอื่นๆ ผู้ลงผลงานจะต้องทำการอ้างอิงอย่างเหมาะสม และต้องรับผิดชอบเรื่องการจัดการลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

3. ผู้ใดพบเห็นการลงผลงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ โปรดแจ้งเจ้าของบล็อกทันที




Friends' blogs
[Add ภีมภูริ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.