5. นอนไม่หลับ

แทนที่จะกินยานอนหลับ ลองนอนดึกบ้างในบางคืน

ดร.ลี ริทเทอร์แบนด์ รองศาสตราจารย์ จากภาควิชาจิตเวชศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย กล่าวว่า หากนอนไม่หลับ คุณไม่จำเป็นต้องทนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ให้หาอะไรทำตามใจชอบ และเลื่อนเวลาเข้านอนออกไปอีก การนอนดึกขึ้นอีกเล็กน้อยจะช่วยให้คุณหลับสนิทขึ้น และลดการใช้ยานอนหลับ

วิธีนี้ย่อมดีกว่าการกินยา เนื่องจากยานอนหลับ เช่น แอมเบียน ไม่สามารถใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน นพ.คริสโตเฟอร์ วินเทอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของศูนย์เวชศาสตร์การนอนหลับมาร์ธาเจฟเฟอร์สัน กล่าวว่า "ยานอนหลับจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะร่างกายจะปรับตัวจนเคยชินกับยา"

วิธีบำบัดโดยไม่ใช้ยา :หากคุณเข้านอนเป็นประจำเวลา 4 ทุ่ม แต่นอนไม่หลับพลิกไปมาถึงตี 1 ลองเปลี่ยนเป็นนอนตี 1 และตื่นเช้าในเวลาเดิม หมอริทเทอร์แบนด์บอกว่า "วิธีนี้ทำให้คุณมีเวลานอนน้อยลง แต่มันทำให้คุณหลับง่าย และสนิทขึ้นในคืนถัดไป"หลังจากใช้วิธีนี้2-3สัปดาห์ เลื่อนเวลาเข้านอนให้เร็วขึ้นครั้งละ 20 นาที แล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เพื่อปรับเวลานอนให้กลับมาเป็นเช่นเดิม

6. ท้องผูก

แทนที่จะกินยาระบาย ลองหันมาพึ่งน้ำ

โดยปกติลำไส้ใหญ่ทำหน้าที่บีบตัว เพื่อขับอุจจาระให้เคลื่อนออกจากร่างกาย แต่บางครั้งลำไส้ใหญ่เคลื่อนตัวช้า หรือดูดซับของเหลวมากเกินไป (เนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น กินอาหารกากใยน้อย ไม่ค่อยออกกำลังกาย ร่างกายขาดน้ำ หรือเกิดจากยาบางชนิด) ทำให้อุจจาระคั่งค้างในลำไส้ใหญ่นาน จนกระทั่งแห้งและแข็ง ภาวะนี้เรียกว่าท้องผูก การใช้ยาระบายติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายเคยชินจนเกิดภาวะดื้อยา และต้องเพิ่มปริมาณยาสูงขึ้น (ยาระบายบางชนิดออกฤทธิ์ด้วยการทำให้ลำไส้เล็กบีบเกร็งเพื่อช่วยขับอุจจาระ)

วิธีบำบัดโดยไม่ใช้ยา :ด้วยการดื่มน้ำสองแก้วเต็มก่อนอาหารเช้า เพื่อเพิ่มน้ำในลำไส้ใหญ่ ทำให้อุจจาระพองตัวและขับถ่ายออกได้ง่าย การกินกล้วยหรือแอปเปิ้ล ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เช่นกัน "กากใยจากผลไม้เหล่านี้ทำให้อุจจาระพองตัวและกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่บีบตัว" นพ.อะบรามสันกล่าว "ยาระบายหลายชนิดมีฤทธิ์ระคายเคืองลำไส้ คุณสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้ด้วยการกินผลไม้แทน"

7. โรคหอบหืดและภูมิแพ้

แทนที่จะกินยาเป็นประจำ ลองใช้เครื่องกรองอากาศ

ยารักษาโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด จะออกฤทธิ์โดยการปรับเปลี่ยนกระบวนการตอบสนองของร่างกายต่อสารระคายเคือง ควรจัดการที่ต้นเหตุ คือควบคุมสารระคายเคืองโดยตรง

เทด ไมแอตต์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโส กล่าวว่า การติดแผ่นกรองอากาศทั้งบ้านหรือใช้เครื่องฟอกอากาศ จะช่วยลดสารระคายเคือง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการไอและหอบหืดได้ชัดเจน การศึกษาเมื่อปี 2551 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Health ระบุว่า แผ่นกรองอากาศชนิดติดตั้งในระบบปรับอากาศ ช่วยลดสารระคายเคืองจากขนแมวได้ร้อยละ 55 ลดสปอร์-เชื้อราได้ร้อยละ 75

วิธีบำบัดโดยไม่ใช้ยา :การติดตั้งแผ่นกรองอากาศให้กับระบบปรับอากาศทั้งบ้าน มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ประมาณ 27,000 ถึง 36,000 บาท ลองซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีไส้กรองเฮปา (Hepa) มาวางในห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่คุณใช้เวลาอยู่นานที่สุด ราคาไม่เกิน 4,000 บาท แต่ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานในห้องเดียว

8. ไข้หวัดใหญ่

แทนที่จะกินยาต้านไวรัส ลองเพิ่มความชื้นในบ้าน

"เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีอายุยืนยาวขึ้นในอากาศแห้ง" การศึกษาในวารสาร Environmental Health ระบุว่า การมีเครื่องทำความชื้นในห้องนอนช่วยให้เชื้อไวรัสมีจำนวนลดลงชัดเจน และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ไม่ต่างจากการกินยาด้านไวรัสทามีฟลู

วิธีบำบัดโดยไม่ใช้ยา :ในช่วงที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาด ให้วางเครื่องทำความชื้นไว้ในห้องนอนตั้งระดับความขึ้นที่ร้อยละ 50 รุ่นที่คุณภาพสูงอาจมีรังสียูวี หรือไส้กรองพิเศษที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ประโยชน์อีกข้อ คือผิวพรรณชุ่มชื้นไม่แห้งเป็นขุย

สุขภาพดีขึ้นด้วยการหลอกตัวเอง

ยาหลอกสามารถใช้ได้ผลแม้กระทั่งในรายที่รู้ว่าตนเองใช้อยู่

หากคุณยังไม่อยากกินยา ลองปรึกษาแพทย์เพื่อขอใช้ยาหลอก เทค แคปซัค นักวิจัยจากฮาร์วาร์ดได้ทดลองเรื่องยาหลอกกับผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวน โดยทดลองให้กลุ่มหนึ่งกินน้ำตาลอัดเม็ดที่ไม่มีตัวยา อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ให้ยาเลย เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ผลปรากฏว่าผู้ป่วยกลุ่มที่กินยาหลอกร้อยละ 59 บอกแพทย์ว่ามีอาการดีขึ้น ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับการรักษามีอาการดีขึ้นเพียงร้อยละ 35

ผู้วิจัย อธิบายว่า ผู้ป่วยด้วยโรคที่มีแต่อาการจากการบอกเล่าของตนเอง เช่น โรคปวดเรื้อรัง ปวดศีรษะ ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ มีแนวโน้มจะมีอาการดีขึ้นจากการใช้ยาหลอก สาเหตุอาจมาจากความศรัทธาต่อแพทย์หรือมีความรู้สึกดี หลังจากได้ทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งแพทย์บางคนเต็มใจที่จะให้การรักษาด้วยยาหลอก เช่น วิตามิน หรือแม้แต่หมากฝรั่ง ซึ่งประโยชน์ของวิธีนี้คือ ช่วยลดการใช้ยาที่ไม่จำเป็น

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง

มั่นดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ใช้ยาเท่าที่จำเป็น

ถ้าชอบโหวตหมวดสุขภาพนะคะ