Group Blog
 
<<
เมษายน 2560
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 เมษายน 2560
 
All Blogs
 

โรคชอบดองหนังสือ





คุณเคยเป็นไหมคะ

ชอบซื้อหนังสือมาดองทิ้งไว้ ทั้ง ๆ ที่หนังสือเล่มเก่า ๆ ในตู้ก็แทบไม่เคยได้อ่าน นี่คืออาการดองหนังสือที่หลายคนเป็น แต่ก็แอบไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม งั้นมาลองเช็กเหตุผลลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในใจของคุณกัน





Tsundoku...เป็นภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงการเสาะหาหนังสือหรือเอกสารมาอ่าน...จากนั้นก็กองทิ้งไว้ ไม่ได้อ่าน (มาจากคำว่า อ่านหนังสือ+หาของมาเตรียมไว้ภายหลังและจากไป) ที่มา : https://en.wikipedia.org/wiki/Tsundoku

เป็นคำที่ตรงไปตรงมาที่สุดกับพฤติกรรมนี้ เทียบเท่ากับที่คนไทยใช้คำว่า "ดองหนังสือ"

ส่วนในภาษาอังกฤษไม่ได้มีคำเฉพาะเสียทีเดียว...โดยคำที่ตรงที่สุดก็จะเป็น Book Buying addiction : เสพติดการซื้อหนังสือ ซึ่งชื่อเน้นไปที่การซื้อ...แต่ว่ากลุ่มที่สนใจเรื่องนี้ก็จะบ่นเหมือน ๆ กันคือ ชอบซื้อมาแต่ไม่ได้อ่าน

แต่แม้ว่าทางกลุ่มที่ใช้ภาษาอังกฤษจะไม่มีคำเฉพาะถึงการซื้อหนังสือมาดอง ทว่าปัญหานี้มีอยู่จริง ถ้าเราค้นหาในอินเทอร์เน็ตก็จะพบว่ามีคนมีปัญหานี้มากมาย





ทำไมคนเราบางคนจึงชอบซื้อหนังสือแต่ไม่อ่านหรืออ่านไม่จบ

1. เรากลัวว่าเราจะไม่เจอหนังสือนี้อีก (ตามธรรมชาติ)

หลายครั้งเราเจอหนังสือที่เราสนใจ ไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีไหม...จากนั้นเมื่อกลับไปหาอีกก็ไม่เจออีกแล้ว มนุษย์เป็นสัตว์ที่ชอบเก็บสิ่งของ เพื่อเตรียมตัวไว้สำหรับอนาคต ซึ่งความรู้สึกที่ว่าได้เจอบางสิ่งบางอย่างแล้วไม่ได้เก็บไว้ จากนั้นเมื่ออนาคตมาถึงเราต้องใช้แต่ไม่มี มันจะทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างมาก ๆ บางคนจึงมีความอยากซื้อทันทีที่เห็นหนังสือที่รู้สึกถูกใจ

2. เรากลัวว่าเราจะไม่เจอหนังสือนี้อีก (เพราะสำนักพิมพ์ไม่พิมพ์เพิ่ม)

ในกลุ่มนักอ่านหนังสือบางประเภท จะรู้กันดีว่ามีหนังสือบางกลุ่มที่เมื่อพิมพ์ออกมาแล้วมักจะไม่มีโอกาสได้พิมพ์อีกเป็นครั้งที่ 2...และอาจจะไม่มีทางเจอมันอีกเลย เพราะเฉพาะกลุ่มจนกระทั่งร้านหนังสือใหญ่ ๆ ไม่อยากนำมาขาย ดังนั้นกลุ่มนักอ่านกลุ่มนี้จะซื้อหนังสือพวกนี้มาตุนไว้

3. เราอยากได้ความสุขจากการซื้อ

คนเรามีความสุขเมื่อได้เลือก และได้จ่ายเงิน เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีอำนาจและควบคุมชีวิตเราเองได้ บางคนจะรู้สึกดีเมื่อเห็นหนังสือที่ตนซื้อมา (คล้าย ๆ กับคนที่ชอบซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับมาเก็บ)

4. เรามีความสุขกับการจินตนาการสิ่งที่จะได้จากการอ่านหนังสือ

บางคนอยากพัฒนาตนเอง ก็จะซื้อหนังสือพัฒนาตนเองมาเก็บไว้ และคิดว่าเมื่อได้อ่านแล้วจะมีชีวิตที่ดีขึ้น บางคนเห็นไอดอลของตนซื้อหนังสือมาอ่าน ตนอยากเก่งแบบนั้นบ้าง จึงหาหนังสือมาดองไว้ กะว่ามีเวลาจะอ่าน จะได้เก่งแบบนั้นบ้าง

ซึ่งข้อที่ทำให้แตกต่างกันคือ ถ้าเรา "มีความสุขกับการจินตนาการว่าจะได้ประโยชน์จากหนังสือ" มากกว่า "ความตั้งใจได้ประโยชน์จากหนังสือ" ความอยากอ่านของเราจะลดลงเพราะเราได้ความสุขจากการซื้อไปแล้ว

5. สิ่งที่ทำให้เราอยากซื้อนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว

ตัวของเราตอนที่ซื้อ เป็นคนละอารมณ์และความรู้สึกกับตัวเราในตอนนี้ บางเรื่องเป็นเรื่องหายากในอดีต เราจึงอยากอ่าน...แต่เวลาผ่านไป คนอ่านเอามาเขียนต่อมีเยอะ เราก็ลดความอยากอ่าน บางเรื่องเป็นนิยาย เราเจอเพื่อนสปอยล์ เราก็ไม่อยากอ่าน

6. ไม่มีเวลาแต่เราหวังว่าเราอยากจะอ่าน

ตรงไปตรงมา คือเราให้เวลากับอย่างอื่นมากกว่า และเราหวังว่าเมื่อมีเวลาจะแบ่งให้ เราก็จะอ่านหนังสือ แต่เมื่อเรายังเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่า เราก็จะไม่แบ่งเวลาให้การอ่านหนังสือจนทำให้เราไม่ได้อ่านสักที

7. อยากให้คนอื่นเห็นเราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ

ซื้อมาถ่ายปกอัพ/ซื้อมาเป็นเครื่องประดับบ้าน (จริง ๆ ข้อนี้ไม่นับ เพราะแบบนี้คือเราไม่ได้ตั้งใจจะอ่านมันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว)



ผลของการ "ดองหนังสือ" ที่มีต่อเรา แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรงมาก แต่การดองหนังสือไว้มาก ๆ ก็อาจจะไม่ดีกับตัวของเราได้ ยกตัวอย่างเช่น

1. ทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตนเอง

การ "ซื้อ" หนังสือจะทำให้เรารู้สึกว่าเราได้สัญญากับตนเองว่าจะอ่าน พอเราไม่ได้อ่าน ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับเราโกหกตนเอง ผิดสัญญากับตนเอง...บางคนจะเกิดความรู้สึกด้อยค่า อาย ไม่พอใจตัวเอง หรือลดความรู้สึกเคารพในตัวตนของตนเอง

2. มีผลต่อความสัมพันธ์

หนังสือเต็มบ้าน แย่งที่เก็บของของคนอื่น และถ้ามีคนมาต่อว่าว่า "ซื้อมาแต่ไม่ยอมอ่าน"  มันก็จะเป็นการเปิดบาดแผลในข้อ 1


แล้วเราจะทำอย่างไรดี...




วิธีแก้ไข

1. ก่อนซื้อทุกครั้ง หาสาเหตุของการซื้อก่อน...และตั้งกติกา

          - ถ้าคุณซื้อเพราะต้องการคุณค่าจากการอ่าน - ให้ตั้งใจ ตั้งกฎกับตนเองเลยว่าจะอ่านมันตอนไหนยังไง
          - ถ้าคุณตั้งใจจะซื้อ เพราะมีความสุขจากการซื้อ แต่คิดได้ว่าไม่ได้อยากอ่าน ก็ยั้ง ๆ ไว้นิดก่อนซื้อ
          - ถ้าตั้งใจจะซื้อ เพื่ออัพลง Social...ไปที่ร้านหนังสือ ถ่ายปกก็พอ

2. เช่าหนังสือ

          คนจำนวนไม่น้อย อ่านหนังสือรอบเดียวแล้วไม่กลับมาอ่านอีก
          การเช่าหรือยืม จะเป็นการกำหนดเวลาไปในตัว เสียเงินไม่มาก และท้ายที่สุดเราไม่เปลืองที่เก็บ

3. หาเวลาบังคับอ่านหนังสือในแต่ละวัน ไม่อ่านขาดและไม่อ่านเกินเวลาที่กำหนด

          หาเวลา 15 นาที ที่จะไม่ทำอะไรเลยนอกจากอ่านหนังสือ คนส่วนมากที่ไม่มีเวลา จริง ๆ มีเวลา แต่เขาให้ความสำคัญกับการอ่านไม่มากพอ...หรือบางคนอาจจะไม่มีเวลาจริง ๆ เพราะว่าการส่องเฟซเพื่อน การอ่านข่าวเรื่องทั่วไป ซุบซิบดารา ดูบอล ดูหนัง ดูละคร ดูเกมโชว์ มันสำคัญกว่าการอ่านหนังสือสำหรับคนคนนั้น

          คืออย่าเข้าใจว่าที่ว่ามาทำไม่ได้นะ แต่อยากให้เรียงความสำคัญกับตนเอง...ว่าเราเห็นอะไรสำคัญกว่า (รอบ ๆ ตัว มีคนหลายคนที่ให้ความสำคัญกับการดูละครและเกมโชว์มากกว่าการอ่านหนังสือ เพราะสำหรับชีวิตเขา การดูละคร มีผลต่อรายได้มากกว่าที่การอ่านหนังสือจะทำได้)

          สำหรับคนที่คิดว่าอ่านหนังสือสำคัญ แบ่งเวลาไว้ 15 นาที แล้วอ่านทุกวันติดกันสักเดือนนึงไม่ต้องอ่านเกิน 15 นาที...อย่าอ่านสะสมแล้วบอกตนเองว่าวันนี้ไม่อ่านเพราะเมื่อวานอ่านแล้ว

          ทำจนเป็นนิสัยสักเดือน แล้วตัดสินใจเองว่าจะอ่านต่อยังไงหรือไม่

4. อ่านอย่างมีจุดหมาย

          ขีดเส้น highlight จดโน้ตย่อ มนุษย์เราไม่มีทางจำทุกอย่างได้หมด...ยังไงก็ต้องจด ยังไงก็ต้องบันทึก เพื่อการกลับมาอ่านใหม่หรือหาข้อมูลซ้ำจะได้ทำได้ง่าย การทำโน้ตย่อจะทำให้เรารู้สึกว่าเราอ่านแล้วได้อะไรบางอย่างกลับมา ไม่รู้สึกสูญเปล่า จะได้อ่านใหม่

5. ซื้อ Ebook/ซื้อออนไลน์/ซื้อมือสอง

          การทำในข้อนี้ จะช่วยลดตัวกระตุ้นความอยากซื้อเพราะกลัวว่าจะหาซื้ออีกไม่ได้

          การเข้าไปดูในออนไลน์จะช่วยให้เราเห็นว่า จริง ๆ หนังสืออาจจะไม่ได้หายากอย่างที่เรากลัว

เป็นแบบนี้ผิดปกติหรือไม่ จะเป็นโรคจิตไหม

          เวลาคุยถึงเรื่องนี้ จะมีคนชอบไปอ้างถึงภาวะ Bibliomania คือคำว่า Bibliomania เป็นอาการทางจิตในกลุ่มย้ำคิดย้ำทำ ที่มีความอยากได้หนังสืออย่างแรงกล้า ถ้าไม่ได้จะมีความรู้สึกทุกข์ทรมาน ต้องซื้อหรือขโมยหนังสือ...และจะซื้อแม้ว่าจะมีปัญหาทางการเงิน...เอาหนังสือมาเก็บไว้จนมีปัญหาเรื่องพื้นที่ หรือทะเลาะกับคนในครอบครัว ซึ่งหากเป็นระดับนี้ต้องรักษา การที่คนเอาคำว่า Bibliomania มาใช้โยงเข้ากับการ "ดองหนังสือ" ทั้งที่มันเป็นคนละเรื่องกัน เลยทำให้คนอ่านเข้าใจผิดไปจนถึงกังวลว่าจะเป็นโรคจิต หรือกังวลว่าคนใกล้ตัวกำลังเป็นโรคจิตโดยไม่รู้ตัว

          Bibliomania คือการย้ำคิดย้ำทำ เสาะแสวงหาหนังสือมาโดยก่อให้เกิดปัญหา ต่างจากการดองหนังสือ ที่เกือบทั้งหมดเป็นแค่การรักหนังสือ (Bibliophile) เพียงแต่เราไม่มีเวลาหรือไม่ได้อ่านมันเท่านั้นเอง

ถ้าไม่ได้ไปขโมยใครมา ไม่ได้ซื้อจนการเงินขัดสน ไม่ได้ซื้อแล้วไปสุมจนมีหนูมาขึ้นบ้าน ก็ไม่ต้องกังวล ค่อย ๆ หาเวลาอ่านกันไปก็พอ





ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียน


หวังให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ





 

Create Date : 19 เมษายน 2560
33 comments
Last Update : 19 เมษายน 2560 14:08:03 น.
Counter : 2169 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณเรียวรุ้ง, คุณninicraft, คุณหอมกร, คุณก้นกะลา, คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณmambymam, คุณnewyorknurse, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณmariabamboo, คุณรัชต์สารินท์, คุณmoresaw, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณALDI, คุณชมพร, คุณเนินน้ำ, คุณปรัซซี่, คุณกาปอมซ่า, คุณhaiku, คุณkae+aoe, คุณmcayenne94, คุณOldbuff 1222, คุณRinsa Yoyolive

 

เคยค่ะ ซื้อมาเก็บไว้จนไม่ได้อ่าน ผ่านไปก็ลืม จะจำได้อีกทีก็ตอนเก็บห้องค่ะ 5555

 

โดย: life for eat and travel 19 เมษายน 2560 18:43:34 น.  

 

พี่ก็เป็นค่ะ ซื้อมาดองด้วยหลายเหตุผลเลย

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
haiku Art Blog ดู Blog
Mintra-april Craft Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 19 เมษายน 2560 21:18:31 น.  

 

เข้ามายกมือเป็นโรคนี้ค่ะ
คิดว่ายากเกินเยียวยาอะ
แต่โชคดีนะยังไม่ถึงขั้นไม่ซื้อแล้วจะทุกข์ทรมาน
รุ้งน่ะมีความสุขแค่เพียงเห็นมันเรียงรายบนชั้นเท่านั้นเอง
แล้วเวลาเพื่อนคุยว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้สนุกเราก็ เออ!มีเหมือนกันเนอะ
แต่ร่วมคุยไม่ได้นะเพราะไม่ได้อ่านอิอิ

โหวตสุขภาพค่ะ

 

โดย: เรียวรุ้ง 20 เมษายน 2560 7:29:44 น.  

 

เป็นเหมือนกันค่ะ ชอบซื้อ ไม่ได้อ่านหลายเล่ม แต่ก็พยายามอ่านให้ได้ทุกวัน วันละนิด วันละหน่อย บางเล่มก็อ่านไม่จบ

 

โดย: ninicraft 20 เมษายน 2560 7:48:10 น.  

 

pantawan Health Blog ดู Blog
โรคนี้กำลังเป็นอยู่นะคะ ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว

 

โดย: หอมกร 20 เมษายน 2560 13:10:26 น.  

 

สวัสดีจ้า
ก้นกะลาก็มีหลายเล่มเหมือนกันที่ซื้อมาแล้วก็เก็บไว้เฉยๆไม่ได้อ่าน ...แต่หวง

 

โดย: ก้นกะลา 20 เมษายน 2560 21:01:55 น.  

 

ซื้อมาเหมือนกันครับ แต่อ่านช้าไปหน่อยครับ55

 

โดย: สองแผ่นดิน 20 เมษายน 2560 23:46:18 น.  

 

โรคดองหนังสือยอมรับว่าเป็นบ้างค่ะน้องปาน
เรื่องกินพื้นที่ก็เห็นด้วย ต้องรวบรวมบริจาคเป็นระยะเลยค่ะ
โหวตค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 21 เมษายน 2560 0:23:00 น.  

 


ส่วนมากซื้อหนังสือก็อ่านจบทุกเล่มค่ะ
แต่ก็ไม่ใช่หนอนหนังสือ ซื้อแต่เรื่องทีน่าสนใจ
และชอบค่ะ

โหวดค่ะ

 

โดย: newyorknurse 21 เมษายน 2560 8:56:08 น.  

 

พี่ก็เป็นจ้ะ ซื้อเอาไว้แล้วไม่ได้อ่านด้วยหลายเหตุผล
แต่ถ้ามีเวลาก็ทะยอยอ่านไปเรื่อยๆจ้ะ

pantawan Health Blog

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 21 เมษายน 2560 13:43:25 น.  

 

โรคนี้เป็นกันเยอะเหมือนกัน

 

โดย: mambymam 21 เมษายน 2560 15:25:34 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Hobby Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


อ่านแล้ววิเคราะห์ตัวเอง
นอกจากจะดองหนังสือ ดองบลีอก ดองเอกสาร หลัง ๆ มาเริ่มไม่เกี่ยว 555 ไม่เคยดองเงินเลยค่ะ

 

โดย: mariabamboo 21 เมษายน 2560 21:09:26 น.  

 

เมื่อก่อนเป็นมากค่ะ เดี๋ยวนี้ซื้อน้อยลง

 

โดย: รัชต์สารินท์ 22 เมษายน 2560 5:51:46 น.  

 

สวัสดีครับคุณปาน
อดีตเคยเป็นโรคนี้ เหมือนกัน แต่ปัจจุบันหายแล้ว
ไม่่ค่อยได้ซื้อหนังสือเท่าไหร่น้อยมาก เพราะมันแพง


 

โดย: moresaw 22 เมษายน 2560 6:38:06 น.  

 

มีด้วยเหรอ.... คนแบบนี้ ด้วยความเคารพครับ ท่าน แหะ ๆ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...

ผมเองไม่ค่อยชอบเก็บหนังสือเท่าใด ปลวกเยอะครับ แต่บาง
ครั้ง มีหนังสือไม่ได้เปิดอ่านก็มีบ้าง พวกธรรมมะ อุ๊บ ส์..

คือมีเยอะเกิน ไม่ได้ซื้อ มีคนนำมาฝาก... คงจะรู้ว่าเป็นคนไกลวัด
มั้ง 555


pantawan Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 22 เมษายน 2560 8:49:38 น.  

 

ตั้งแต่ติดโซเชียล ไม่ได้สะสมหนังสือไว้ดองเลยค่ะ

pantawan Health Blog ดู Blog

 

โดย: ALDI 22 เมษายน 2560 21:48:03 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Review Food Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog

 

โดย: ชมพร 22 เมษายน 2560 23:34:47 น.  

 

ชอบซื้อหนังสือเหมือนกันค่ะ
แต่พี่อ่านทุกเล่มนะคะ
แม้บางเล่มจะไม่ครบทุกหน้าก็เถอะ 555

 

โดย: เนินน้ำ 23 เมษายน 2560 14:06:38 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณปาน ^^

 

โดย: ปรัซซี่ 23 เมษายน 2560 18:19:15 น.  

 

ซื้อมา อาจอ่านช้า . . . แต่จะแบ่งเวลาอ่าน


แต่ก็ยังไม่ค่อยทันค่ะ



อ่านแล้วบริจาค . . . เก็บไว้บ้าง


 

โดย: กาปอมซ่า 23 เมษายน 2560 22:25:46 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตด้วยจ้าน้องปาน

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 24 เมษายน 2560 20:26:00 น.  

 

pantawan Health Blog

จริงดิ....มีโรคแบบนี้ด้วย นึกถึงเพื่อนบล็อกเราหลายคน 55555

มี้เป็นโรคชอบซื้อมาให้ซีอ่าน ซื้อเยอะๆ ดองๆ เรียนว่าเป็นโรคนี้ไหมค่ะ ซื้อแต่ไม่ได้อ่านเองซื้อให้ลูก

 

โดย: kae+aoe 25 เมษายน 2560 10:42:16 น.  

 

ไม่ได้ซื้อหนังสือนานมากแล้วค่ะ
หนังสือที่เคยมีก็รื้อไปทิ้งแทบจะหมดบ้านแล้วค่ะ

 

โดย: mcayenne94 25 เมษายน 2560 18:24:34 น.  

 

ไม่ได้ดองแต่หนังสือละม้างงงงง อิอิ

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 25 เมษายน 2560 19:44:54 น.  

 

ซื้อมาจนอ่านไม่ทัน อิอิ


** บาคาร่า **

 

โดย: natee (สมาชิกหมายเลข 2955550 ) 25 เมษายน 2560 20:35:27 น.  

 

โหวตให้กับข้อมูลดีๆค่ะ
โชคดีเกดไม่เป็นเพราะไม่ชอบซื้อหนังสือ ชอบยืมหรือไม่ก็เช่าเอาค่ะ 555+

 

โดย: Raizin Heart 27 เมษายน 2560 8:37:50 น.  

 

แต่ก่อนซื้อเยอะมากครับ..(อ่านทุกเล่ม)..
จนเจอปัญหาการเก็บรักษาและหนังสือดีๆก็มีราคาสูงขึ้นมาก
ก็เลยต้องเพลาๆ แก้ปัญหาโดยการยืมจากห้องสมุดมาอ่าน..ครับ

 

โดย: ควายเฒ่า 27 เมษายน 2560 19:18:38 น.  

 

ขอบคุณโหวตจ้ะคุณปาน

 

โดย: mambymam 27 เมษายน 2560 21:25:38 น.  

 

555 เคยเป็นอยุ่น้า แต่ไม่มาก
แบบว่าซื่อมาก่อน ค่อยอ่านทีหลังไรงี้
เอาข้าจริงๆ ก็ไม่ได้อ่านเสียที
แต่เล่นเฟสบุ๊คได้ทุกวัน 555



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สองแผ่นดิน Fanclub Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Home & Garden Blog ดู Blog
ปลาแห้งนอกกรอบ Travel Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Review Travel Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Literature Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Klaibann Blog ดู Blog
moresaw Funniest Blog ดู Blog
ตุ๊กจ้ะ Fanclub Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog



 

โดย: Rinsa Yoyolive 27 เมษายน 2560 22:31:13 น.  

 

ขอบคุณสำหรับโหวตจ้าน้องปาน

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 28 เมษายน 2560 4:26:32 น.  

 

ขอบคุณโหวตค่ะ น้องปาน

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 28 เมษายน 2560 22:57:20 น.  

 

สวัสดีจ้า
ขอบคุณที่ไปโหวตให้ก้นกะลาจ้า..

 

โดย: ก้นกะลา 29 เมษายน 2560 0:22:38 น.  

 

ขอบคุณน้องปานมากค่ะสำหรับกำลังใจ
นอนหลับฝันดีนะคะ

 

โดย: Sweet_pills 29 เมษายน 2560 0:30:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pantawan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




free counters
เริ่มทำ Blog ครั้งแรกเมื่อ 27 ก.ค.54
เริ่มนับ 2 มี.ค.55
ขอบคุณภาพประกอบจากบล็อค คุณญามี่ คุณยายเก๋า คุณนุช oranuch_sri กรอบภาพจากบล็อค คุณ Lozacat คุณ KungGuenter
New Comments
Friends' blogs
[Add pantawan's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.