|
ความรัก ณ วันที่ 21 ก.ค. 53
วันนี้วันที่ 21 แล้วสินะ ..........อีก 1 วันเราก็จะแก่ขึ้นอีกปีแล้ว....แต่ชีวิตยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ความว่างเปล่า กับชีวิตความรักที่ล้มเหลว ไม่มีชิ้นดี...
เมื่อวานกลับออกจากออฟฟิศตอน 3 ทุ่มกว่าแล้ว งานก็เยอะด้วยนั่นแหละ อีกอย่างก็ไม่อยากจะกลับบ้านเอาซะเลย เบื่อบรรยากาศที่บ้าน ที่ตลบอบอวนไปด้วยความเงียบ...
เมื่อวานตอน 6 โมงเย็น กว่าๆ แล้วล่ะตาตี่เอ็มมาถามว่าวันนี้จะกลับบ้านกี่โมง เดี๋ยวจะไปรอรับ วันนี้กินก๋วยเตี๋ยวกันนะ อยากกินก๋วยเตี๋ยวกับตาโต เราตอบไปว่า เราไม่หิว กินไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ จากนั้นก็ทะเลาะไร้สาะเรื่องกิน ไม่กิน อยู่เสียนานเลยล่ะ สรุปแล้ว ตาตี่ก็บอกว่า อ่ะไม่กินก็ไม่กิน ....
ตาตี่มารับแล้ว เราถามว่าวันนี้กินอะไรไป "ข้าวผัดครับ" อร่อยมั้ย "ก็พอกินได้"..... จากนั้นก็มีแต่ความเงียบจนถึงบ้าน .....
พอถึงบ้านเราก็อาบน้ำ กินยา นอน แต่ตาตี่ยังดูทีวีอยู่ สักพักก็ปิดไฟเข้ามาในห้องนอน พร้อมกับเอ่ยถามว่า "วันนี้ไม่ good night กันเหรอครับ" เราตอบไป ว่าไม่เป็นไร นอนเถอะ ...... ก็เหมือนๆ จะป่วยอ่ะ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ตัวก็ร้อนอีกต่างหาก ตาตี่บอกว่า ถ้าจับไข้กลางดึกต้องเรียกนะ ว่าเงียบ เดี๋ยวเป็นอะไรไป รู้มั้ย เราก็ได้แต่พยักหน้า จากนั้นตาตี่ก็รั้งเราเข้าไปกอด ตาตี่บอกว่า "ไม่ต้องร้องไห้แล้ว วันเสาร์เสาร์นี้ไปไหว้พระกันนะครับ" เราตอบว่า "ไม่ไปอ่ะ เก็บเงินไว้ใช้จ่ายเถอะ ไปก็หมดเงินเยอะ" ตาตี่ตอบว่า "ก็อยากจะพาตาโตไปไหว้พระนี่ครับ ตั้งใจจะพาตาโตไปไหว้พระ" เราก็เลยกอดตาตี่ เอาอีกล่ะ น้ำตาเจ้ากรรมไหลออกมาอีกล่ะ ร้องไห้อีกแล้วเรา ตาตี่พูดต่อไปว่า "จะทนอยู่ทำไม เจ็บขนาดนี้ เพราะยังไงก็ลืม ต. เค้าไม่ได้ ไม่ได้อยากจะลืม และอยากจะสร้างครอบ อยากจะใช้ชีวิตคู่กับ ต." อ้าว นี่ไล่เราอีกแล้วเหรอนี่ ทำไมทำกันแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่านะ รับเรากลับมาแล้วก็ไล่เราให้ออกไป
เราตอบกลับไปว่า "สัญญาไว้กับตัวเองแล้วว่าถ้าได้กลับมาจะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม และจะไม่เดินออกไปอีก ถ้าตาตี่คิดว่าเรื่องบ้านเป็นปัญหาก็ไม่ต้องกังวล เพราะถ้าไม่มีตาตี่อยู่ด้วยจริงๆ ถ้าตาตี่ต้องออกไปใช้ชีวิตคู่กับ ต. แล้ว เราก็จะผ่อนบ้านเองคนเดียว ไม่เป็นไร ถึงแม้ว่ามันจะล้มลุกคลุกคลานบ้าง ก็คงต้องยอมรับสภาพการอยู่คนเดียวให้ได้" พอเราพูดจบเท่านั้นแหละตาตี่ผละออกจากเราไปเลย ไม่พูดไม่จาอะไรกับเราอีก..... เป็นยังไงบ้างล่ะตาตี่ความรู้สึกตาตี่เป็นยังไงบ้าง อยากให้รู้ว่าความรู้สึกก็คงเหมือนกันกับที่ตาโตรู้สึกนั่นแหละ เมื่อครั้งที่ตาตี่บอกว่าถ้าอยากอยู่บ้านก็อยู่ได้และถ้าไม่อยากช่วยผ่อนบ้านก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะผ่อนคนเดียว ไม่เป็นไร เพราะอะไรน่ะหรือก็เพราะบ้านเป็นบ้านของเรา 2 คนไงล่ะ เป็นบ้านที่เรา 2 คนช่วยกันออกแบบ และช่วยกันหาเงินมาสร้างด้วยกันจนเสร็จสมบูรณ์ ตาตี่คิดอยู่เสมอล่ะสินะว่าที่เราย้อนกลับมาก็เพราะเราอยากจะได้ทรัพย์สมบัติ แต่ถามหน่อยเถอะก็ในเมื่อคิดแบบนี้ก็ในเมื่อคิดว่าเราอยากจะได้สมบัติแล้วตาตี่จะไปรับเรากลับมาอยู่บ้านอีกทำไมกัน จะรับกลับมาทำไม ช่วยตอบหน่อยได้มั้ยล่ะ...ว่าเพราะอะไร....
ก็เพราะเราไม่ได้ต้องการให้เรื่องทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้นี่นา เมื่อได้กลับมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอีกครั้งเราก็อยากจะทำให้มันดีกว่าเดิมอย่างที่เคยบอกไปแล้วๆ ตาตี่ล่ะไม่ได้อยากจะทำให้มันดีกว่าเดิมเหมือนที่เคยบอกไว้หรอกเหรอครับ จะมาพูดทำไมว่าที่เคยพูดๆ ไปโกหกทั้งนั้น แล้วจะโกหกเพื่ออะไรล่ะตาตี่ โกหกว่าจะลืม ต. ให้ได้ โกหกว่าพยายามลืม ต. อยู่นะ โกหกว่าจะอยู่กับเราไปจนแก่จนเฒ่าอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย เพื่ออะไรกัน.....
เกือบ 8 ปีแล้วที่ตาตี่ปิดบังและซ่อนความรักที่มีให้ ต. ในขณะที่ใช้ชีวิตคู่กับเรา ตลอดเวลาเกือบ 8 ปี ตาตี่บอกว่าไม่ได้ติดต่อกันกับ ต. เลยนะ เพราะถือว่าได้เลือกตาโตแล้วก็อยากจะทำให้มันดีที่สุดแต่ถามว่าลืม ต. ได้มั้ย ตอบได้เลยว่าลืมไม่ได้ นั่นแหละวกกลับมาที่เดิม เราถามกลับไปทันทีว่าก็รู้ว่าตัวเองลืม ต. ไม่ได้ ในเมื่อตาโตออกไปจากชีวิตตาตี่แล้วๆ ตาตี่จะไปรับตาโตกลับมาทำไมล่ะ เพราะอะไรถึงได้ไปรับตาโตกลับมา ขอถามหน่อยว่าคิดอะไรอยู่ "ขอโทษนะครับ ขอโทษที่ทำให้ตาโตต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ถ้าวันนั้นตาตี่ไม่ไปรับตาโตกลับมาตาโตก็คงลืมตาตี่ได้แล้ว" ตาตี่พูด
ตาโตลืมตาตี่ไม่ได้หรอกนะ ก็คงเหมือนกับที่ตาตี่ลืม ต. เค้าไม่ได้นั่นแหละ เหมือนกัน ใครบ้างที่จะสามารถลืมคู่ชีวิตที่เคยได้ใช้ชีวิต และร่วมกันสร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาด้วยกันได้ล่ะ หรือตาตี่ลืมได้..... หรือตาตี่ลบมันออกไปจากใจหมดแล้วครับ....
เมื่อเช้าตาตี่อยู่เงียบขรึมมากยิ่งขึ้น พูดกับเราก็ใส่อารมณ์เข้าไปด้วย ดูเหมือนว่าทำหรือพูดอะไรก็ผิดไปหมดเลยในเช้านี้ คงเป็นอารมณ์ต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนนั่นแหละ เรื่องบ้านไงล่ะ เราขอจับมือตาตี่ๆ ก็ไม่ให้จับ พอเราเอื้อมมือไปกุมมือตาตี่ๆ ก็ฝืนมือไว้และชักมือกลับไป ไม่ได้เราได้จับ...
แล้วเย็นนี้จะกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย....ตาตี่นิ่งจะขนาดนี้ ตาตี่โมโหซะขนาดนี้
เฮ้อ! อะไรกันเนี่ยชีวิตเหนอชีวิต นี่เทวดากำลังเล่นตลกอะไรกับเราอยู่นะ พรุ่งนี้จะวันเกิดเราแล้วนะ เทวดาเจ้าขาได้โปรดมอบความสุขสงบของชีวิตครอบครัว ชีวิตความรักของเรากลับมาได้มั้ยเจ้าคะ" อยากให้ตาตี่ลืม ต. ได้เสียที รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ก็แอบหวังนะ แอบหวังอยู่ลึกๆ
เย็นนี้ต้องเจอหน้ากันจะพูดอะไรดีล่ะเรา จะเอ่ยอะไรดี และวางตัวอย่างไรดีนะ
ตอนบ่าย 2 โมง เราส่ง sms ไปหาตาตี่ว่า "คิดถึง เหนื่อยมั้ยครับ ไม่พอใจหรือโกรธอะไรครับ แม้แต่มือยังไม่ให้จับ ถ้าพูดอะไรออกไปแล้วทำให้รู้สึกไม่ดีรู้สึกแย่ ขอโทษนะครับ อยากทำให้ระหว่างเรา ณ วินาทีนี้มันดีและมีค่า ตาโตรักตาตี่ครับ" ไม่มี sms ตอบไรกลับมาเลย เงียบเชียบ....
ตอนเกือบๆ 4 โมงเย็น ส่ง sms ไปอีกรอบ "ยังอยากกินเต๋วกับตาโตอยู่มั้ย เย็นนี้กินต๋วยด้วยกันนะครับ อยากกอดตาตี่" ตาตี่ตอบกลับมาสั้นๆ แต่อึ้งไปเลย "ไม่อยากแล้ว เบื่อ" เป็นไงล่ะตาโตเจ็บได้อีกใช่มั้ยล่ะ จะถนอมน้ำใจกันหน่อยก็ไม่ได้ อ่านจบน้ำตาไหลออกมาทันที ร้องไห้อีกแล้วเรา
วันนี้เลิกงานแล้วก็กลับบ้านเลย ไม่อยู่ทำงานต่อ เบื่ออ่ะ เหนื่อยกับงานจัง... ตาตี่มารับ...พอถึงร้านก๋วยเต๋วที่เคยกินด้วยกันตาตี่ก็จอดรถ เราก็ยืนรอ...อ้าวใครจะไปรู้ล่ะว่าจะกินก็นึกว่าจะไปซื้อขนมใน 7-11 ล่ะสิ ตาตี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุๆ นิดหน่อยว่า "กินหรือเปล่าเนี่ย" เราก็พยักหน้า กินก๋วยเต๋วเสร็จก็แวะซื้อยำกะผลไม้ไปไว้กิน จากนั้นก็กลับบ้าน ระหว่างทางจนถึงบ้านไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากความเงียบ
ถึงบ้านเราก็ล้างหม้อข้าว ล้างจาน ปัดที่นอน เติมน้ำดื่ม, นม, เครื่องดื่มในตู้เย็นเรียบร้อย จะอาบน้ำล่ะตาดันมองไปเห็นมดเจ้ากรรมเต็มขนมปังกะขนมอื่นๆ ที่ซื้อมาไว้ให้ตาตี่ งมอยู่นานกว่ามดจะหมด
ก่อนอาบน้ำก็ต้องซัก กกน. ของตี่ก่อนนะ จากนั้นก็เตรียมบีบยาสีฟันใส่แปรงสีฟัน เตรียมไว้ให้ตาตี่แปรงตอนก่อนนอนและตอนเช้า อ่ะเสร็จเรียบร้อย .....
จากนั้นก็ต้องจัดการกะตัวเองบ้างล่ะ ถอดคอนเทคเลนส์เสร็จก็ล้างตา อาบน้ำ เสร็จเรียบร้อยแล้ว....
จะเข้าห้องนอนไปแต่งตัวแต่แล้วก็ต้องตะลึงเพราะหมอนหนุนกะหมอนข้างของตาตี่หายไปไหน เอาล่ะไงสงครามความเงียบที่ได้ก่อขึ้นเพิ่มมากขึ้นแล้วไง มองไปที่ตาตี่ก็ได้เห็นว่าหมอนหนุนกะหมอนข้างอยู่กับตาตี่ที่เอ้ากี้ยาวหน้าทีวีนั่นเอง... เราก็ไม่ได้สนใจไรนะ อยากจะร้องไห้แต่น้ำตาไม่ไหลออกมา รู้สึกเหนื่อยกับการวิ่งตาม นาทีนี้อยากจะขอพักการวิ่งตามสักพักนะ จากนั้นก็ไหว้พระแล้วนอน แต่นอนยังไงก็นอนไม่หลับ
ใกล้จะหลับแล้วเสียง sms ดังขึ้น เหลือบตาไปมองนาฬิกาบนหัวเตียง เที่ยงคืนกว่าแล้ว อ้อ! น้องสาวเรานั่นเองส่ง sms มาอวยพรวันเกิดเป็นคนแรก "Happy BirthDay ...<0_0>...ขอให้มีฟามสุข มีแต่สิ่งดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตอะไรที่ไม่ดีก็ให้มันผ่านเลยไป (ช่างมัน) แล้วหันกลับมาทำชีวิตและอนาคตของตัวเองไปสู่ฝันที่ตัวเองตั้งใจไว้ให้ได้นะ""คิดถึงและเป็นห่วงเสมอ"" น้องสาว...จุ๊บุ๊...จุ๊บุ๊...จ๊วฟจ๊วฟฝันหวานเด้อ" น้องสาวเราถึงแม้จะดูดื้อสำหรับคนอื่นไปบ้างแต่ก็คอยเป็นกำลังใจให้เราทุกๆ ครั้งนะที่เรามีปัญหาและร้องไห้ ขอบคุณน้องสาวสุดที่รัก....
Create Date : 21 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 22 กรกฎาคม 2553 9:30:43 น. |
|
8 comments
|
Counter : 602 Pageviews. |
|
|
|
โดย: LoveTurJang วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:18:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เราเองก็รู้นะว่าการที่การกำก้อนหินไว้ในกำมือของเราเอง มันจะเจ็บมือเรา แต่ทำบางครั้งมันยากที่จะแบมือ
หากคุณรักใครสักคนด้วยชีวิตที่คุณมีคุณนั้นจะยินดีอภัยให้เขา จะเลวร้ายสักเท่าใดก็จะเห็นว่ามันเบาเพราะรักที่คุณมีให้เขามันมากมาย ให้ไปแล้วหมดหัวใจเท่าชีวิตที่คุณมี...
|
|
|
|
|
|
|
ว่าจะแบบไหนมันก็ทรมานทั้งนั้น
เราเคยอยู่ในฐานะที่บอกไม่ได้ว่านี่เราเป็นอะไรกัน ตอนนั้น เราเลือกเอง บอกกับตัวเองว่า เป็นอะไรก็ช่าง พรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แต่ก่อนถึงพรุ่งนี้เช้า เราจะยังทำสิ่งที่อยากทำ
จะรัก จะดูแล จะยิ้มให้ ทำเรื่องที่อยากทำด้วยกัน อย่างน้อยที่สุด เมื่อถึงวันที่เขาเดินจากไป เรายังมีช่วงเวลานั้นให้คิดถึง
แล้ววันนี้เขาเดินจากไปแล้ว .. เรามีร้องไห้อีกแล้ว คงเพราะตลอดเวลาที่คบกันร้องมากพอแล้วหรือป่าวก็ไม่รู้
ได้แต่อวยพรให้เขามีความสุข ในขณะที่เรายังมีความสุขกับการที่เคยเป็นผู้หญิงของเขา เรายังยืนอยู่ที่เดิมให้วันที่เขาเดินจากไป
วันนี้ก็ยังคิดถึงเขาเหมือนเดิม
ผ่านไปสองเดือนแล้ว เวลามีใครพูดเรื่องความรัก เรามักจะบอกว่า ใช้คุ้ม รักษาไว้ให้ได้
มีอะไรอยากบอกก็บอกไป ในวันที่ยังบอกได้
เพราะวันนี้แม้แต่คำว่าคิดถึง ตะโกนดังเท่าไหร่เขาก็ไม่ยิน