ความรัก ณ วันที่ 22 ก.ค. 53
วันนี้วันเกิดๆ ปีนี้ไม่มีจูบสุขสันต์วันเกิดจากตาตี่ตอนตื่นนอน.......เหมือนดังเช่นปีที่ผ่านๆ มา....
หุงข้าวเสร็จ กวาดบ้านเสร็จก็ไปอาบน้ำ แต่งตัว โทรบอกตาตี่ให้มารับ...ขึ้นรถปั๊บก็เจอความเงียบปั๊บ เงียบกับเงียบ...เราทำลายความเงียบด้วยการพูดขึ้นว่า "ขอจับมือหน่อยได้มั้ยครับ" เงียบไม่มีคำตอบใดๆ เราถามอีก "ขอจับมือหน่อยได้มั้ยครับ" เงียบอีกล่ะ เอาน่าถามอีกสักครั้งถ้าครั้งนี้เค้าไม่ให้จับก็ไม่ต้องอยากจะไปจับมือเค้า "ขอจับมือหน่อยได้มั้ยครับ" นั่นไงตาตี่ให้จับมือ เราจับมือตาตี่มาเตะที่แก้มและวางบนหัว และตาตี่ก็บ่นขึ้นมาว่ามือสกปรกเดี๋ยวผื่นก็ขึ้นหน้าอีกหรอก เราตอบไปว่า ไม่เป็นไร เราได้คืบจะเอาศอกอีกนะ "หอมแก้มตาโตหน่อยได้มั้ยครับ" (พลางนึกอยู่ในใจว่าก็อยากได้เป็นของขวัญวันเกิดนี่นา) ตาตี่ก็นิ่งไปพักนึง ล่ะก็กุมมือเราแน่นขึ้นพลางกอดเราหลวมๆ พร้อมกับหอมแก้มข้างขวาของเราและพูดว่า "สุขสันต์วันเกิดนะครับ" อ่ะ น้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมาอีกจนได้ ก็คนมันดีใจนี่นา ตาตี่บอกว่าไม่ต้องร้องไห้จะร้องทำไมวันนี้วันเกิดนะเป็นวันดี แล้วเดี๋ยววันเสาร์ตาตี่จะพาไปไหว้พระที่กรุงเทพฯ นะ เราตอบออกไปว่าที่ร้องเพราะเราไม่รู้ว่าตาตี่โกรธหรือไม่พอใจอะไรเราอีก....
แอบน้อยใจอยู่ลึกๆ เหมือนกันนะ ทีวันที่ 19 มิ.ย. วันเกิดของ ต. ตาตี่ยังส่ง sms ไปอวยพรวันเกิดตั้งแต่ตอนที่ตาตี่ตื่นนอน ทีกับเราดูเหมือนว่าจะไม่อยากอวยพรเสียด้วยซ้ำไป เหมือนๆ จำใจไงก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงก็ถือว่าเค้าสุขสันต์วันเกิดให้เราแล้ว ก็เพียงพอแล้วล่ะ อย่าไปคิดมากเลย ปวดหัวเปล่าๆ
ถึงออฟฟิศมีน้องที่ออฟฟิศสุขสันต์วันเกิดจากนั้นก็ตามด้วยอีกเพื่อนร่วมออฟฟิศอีก 3 คน เปิด FaceBook เห็นเพื่อนที่ต่างประเทศ Happy BirthDay ฝากไว้ให้ เพื่อนๆ ต่างก็ Happy BirthDay กันทั้งทาง MSN และ Skype ขอบคุณมากๆ นะทุกๆ คน
เย็นแล้วโทรไปหาตาตี่บอกว่าวันนี้ไม่แน่ใจว่าจะออกจากออฟฟิศกี่โมง แล้วเดี๋ยวจะโทรบอกอีกทีแล้วกัน น้ำเสียงตาตี่ที่คุยกับเราไม่ดีเลย ดูเหมือนไม่พอใจ หงุดหงิด เหมือนไม่อยากจะคุยด้วย ยังไงก็ไม่รู้อธิบายไม่ถูก
ตาตี่ถามว่ากินก๋วยเตี๋ยวหรือเปล่า ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไม่ค่อยอยากจะพูด เราตอบว่ากิน จากนั้นก็สั่งมากินกันเรียบร้อยแล้วก็ขับรถกลับบ้านกัน ตลอดทางไม่มีคำพูดใดๆ อีกแล้ว มีแต่ความเงียบกับเงียบ เราถามออกไปว่า "ทำไมเมื่อคืนต้องเอาหมอนออกไปนอนหน้าทีวีด้วย" ตาตี่ไม่ตอบ เงียบจนกระทั่งถึงบ้าน
ถึงบ้านแล้วเราก็ล้างหม้อข้าว ล้างจาน เติมเครื่องดื่มในตู้เย็น ปัดที่นอน ก่อนอาบน้ำก็หยิบขนมเค้กที่ซื้อมาจาก 7-11 เดินไปที่ตาตี่ ก็อยากกินขนมเค้กวันเกิดกับตาตี่นี่นา แต่ตาตี่บอกว่า "ไม่กิน" ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็เลยเดินเอาขนมเค้กไปเก็บไว้ในตู้เย็นจากนั้นก็ไปอาบน้ำ จะนอนแล้วล่ะ เหนื่อยจัง
ล้มตัวลงนอนก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้วันเกิดขอนอนกอดตาตี่หน่อยได้มั้ยแล้วก็ลุกขึ้นเปิดประตูห้องนอนออกไป สิ่งที่ได้พบได้เห็นก็คือ ตาตี่กำลังโทรคุยกับ ต. อยู่ น้ำเสียงที่ตาตี่คุยกับ ต. ดูอ่อนโยน ไม่เหมือนน้ำเสียงที่คุยกับเรา ได้ยินว่า "ฮัลโหลครับ ทำอะไรอยู่ครับ... แล้วไมยังไม่นอนอีก...อ้าวแล้วทำไมซักผ้าตอนนี้....กินอะไรหรือยังครับ....นอนหลับฝันดีนะครับ" ก็นี่ขนาดเรานั่งอยู่ด้วย ณ ที่ตรงนี้นะ ตาตี่ก็ยังทำยังโทรยังคุยกับ ต. ไม่ได้เกรงใจอะไรกันเลย.....ทำไมทำแบบนี้
เราบอกว่างั้นขอเรานอนด้วยนะ นอนข้างนอกหน้าทีวีด้วยกันนี่แหละ จากนั้นเราก็ไปเอาหมอนออกมาและล้มตัวลงนอนข้างๆ ตาตี่
ตาตี่บอกว่าจะนอนตรงนี้ใช่มั้ยจะได้เข้าไปนอนในห้อง จากนั้นตาตี่ก็เดินเข้าห้องนอนไปพร้อมด้วยหมอนหนุน และพูดว่ามึงไม่ต้องตามเข้ามาอีกนะ อีกแล้วใช้มึงกับเราเป็นครั้งที่ 3 แล้วนะ ตั้งแต่รับเรากลับมาอยู่บ้าน
เราร้องไห้อยู่นานที่หน้าทีวีจากนั้นก็เดินไปเคาะประตูห้องนอน เคาะอยู่ 2-3 ครั้ง ตาตี่ถึงจะเปิด พอเปิดมาก็ถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่ดูหงุดหงิดว่า "จะเอาอะไรอีกล่ะ" เราตอบว่า "จะนอน" จากนั้นตาตี่ก็หยิบหมอนหนุน มือถือ เดินออกจากห้องนอนไปๆ นอนหน้าทีวี
นี่มันอะไรกันนะ เกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา ทำไมถึงทำแบบนี้กับเราๆ ทำอะไรผิด..... เราส่ง sms หาตาตี่ว่า "ตาโตทำไม่ดีตรงไหน ทำไมทำแบบนี้"
รักตาตี่ครับ ทำครอบครัว ทำชีวิตคู่ ทำชีวิตความรักของเราให้มันดีกว่านี้สักทีได้มั้ย รู้ว่ามันไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว แต่ตาตี่อยากจะพยายามทำให้มันดีที่สุดหรือเปล่า สำหรับวันนี้ของเราสองคน.....
Create Date : 22 กรกฎาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2553 9:26:59 น. |
Counter : 626 Pageviews. |
|
|
|