มาเก๊า - กวางเจา - จูไห่(1)

โอ๊ะ โอะ โอ๋ เมื่อขะเจ้าได้ไปเมืองจีน



10 - กันยายน - 2551


     เป็นความโชคดีโดยบังเอิญหรือเปล่าอันนี้ไม่ค่อยแน่ใจแฮะ แรกเริ่มเดิมทีทางบริษัทไม่ได้คิดว่าผู้ที่ได้เดินทางไปเที่ยวคราวนี้จะเป็นเราหรอก เค้ากะว่าจะให้พี่ที่มีอายุงานมากกว่าเราไป แต่มันก็มีอะไรหลายอย่างจุกจิกกวนใจทำให้พี่ที่ได้รับเลือกไม่อยากไป ทั้งพาสปอร์ตที่ใกล้จะหมดอายุ(มันเหลือไม่ถึง 6 เดือน)แล้วอีกอย่างการเดินทางสำหรับทริปนี้รวมตัวกันที่กรุงเทพ ซึ่งห่างจากเมืองฝางพอสมควรเลย นั่งรถทัวร์ใช้เวลา 13 ชั่วโมงเต็มๆ


     จากเหตุผลด้านการเดินทางพวกนี้เรากับน้องผู้ร่วมชะตากรรมอีกคนเลยโชคดีได้ไป...เฮ้อ โชคดีของเราจริงๆ ใช่ไหมเนี่ยะ 

.....แล้วก่อนการเดินทาง เราก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับเอกสารงานบนโต๊ะ อยู่พักใหญ่ หน้ามัน หัวฟู เพราะว่างานที่รับๆ มา ประมาณว่า “ว่างไหม”...“ได้ค่ะ” ...ไม่ได้ตอบว่าว่างซะหน่อยยังได้มาขนาดนี้ ถ้าบอกว่าว่าง คงไม่ได้ไปไหนกันเลยเรา

.....แล้วก่อนการเดินทางเราก็ได้ตารางการเดินทางมาดู

.....“โอ้แม่เจ้า...เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าจริงๆ เลย”.....

.....เห็นแล้วเหนื่อยเลย แต่ก็ยังอยากไป.....ก็โชคดีเป็นของเราแล้วนี่นา ไม่ไปก็ไม่ทันแล้วแถมมีน้องที่บริษัทไปด้วย ถ้าแสดงอาการท้อแท้ให้เห็น  น้องเค้าจะไม่สนุกเอาเปล่าๆ

.....การเดินทางของเรา 2 คน เริ่มที่รถทัวร์ปรับอากาศชั้น 1 เส้นทาง ฝาง – กรุงเทพ ใน วันที่ 10 กันยายน 2551 เวลา 07.00 น... หลังจากนั้น 13 ชั่วโมง ชาวบ้านนอก 2 คน ก็มายืนอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิด แล้วก็เริ่มหันซ้ายที ขวาที แล้วก็หันไปมา อีกหลายที

คนตี้จะมาฮับเฮามีไหนอะ ...พี่อุ๋ม ...
รถติดขนาดนี้ถ้าจะบ่อมานะพี่ว่า ... ขึ้นแท็กซี่ไปเองแล้วกันน้อ

.....จากจุดที่เราเดินลงรถไปหาจุดจอดแท็กซี่ก็มีคนขับแท็กซี่เข้ามาถามเยอะแยะหลายคน บางคนก็จะให้เราเหมาไปไม่ยอมกดมิเตอร์ เลยลองถามดู แหมพี่แกคิดได้ไว หมอชิด – เซนทรัลรัตนาธิเบศก์ 350 บาท แพงน่าดู คือว่าถึงจะหน้าตาบอกว่าบ้านนอก ก็รู้หรอกน่าว่าไม่เกิน 150 บาท ... แบบว่าคราวที่แล้วขึ้นตอนที่น้ำมันเอย แก๊ซเอย ยังไม่ขึ้นราคา มันแค่ 120 บาทเอง อุตส่าห์เผื่อให้นิดหน่อยแล้วนะเนี่ยะ พอแกเรียกราคานี้มาทำให้สะอึกเลย แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าราคานี้แหละ คนบ้านเดียวกัน เราเลยยิ้มๆ ตอบแกว่าไม่เป็นไรพี่หนูไปต่อคิวรอรถที่เค้ายอมวิ่งตามมิเตอร์ดีกว่า แต่ไม่รู้เป็นไงวันนี้เป็นวันพุธแท้ๆ แต่มีคนเดินทางเยอะพอสมควรเลย อาจจะมาจากหลายจังหวัด เวลารถเข้าท่าใกล้เคียงกัน เลยมีคนรอคิวอยู่ก่อนแล้วหลายคน เวลาก็ดึกเข้าไปทุกที เกือบ 3 ทุ่มเข้าไป เมื่อยก็เมื่อย เพลียก็เพลีย เลยตัดสินใจชวยน้องที่มาด้วย เดินออกจากแถวไปด้านหน้าถนนที่มีรถแท็กซี่จอดรออยู่ เค้าว่าเหมา 180 บาท(รวมค่าหัวคิว 50 บาท) ตอนแรกลังเลนิดหน่อย แต่ดูเวลากับแถวที่เดินออกมาเลยตกลงไปก็ไป  เดินตามไปจนถึงรถแก อ้าว แท็กซี่ป้ายดำ ... จะรอดได้ไปเมืองจีนกับเค้าไหมเนี่ยะเรา


.....แล้วไม่ถึง 30 นาทีเราก็มาถึงออฟฟิตที่รัตนาธิเบศก์อย่างปลอดภัย แถมพี่แกยังอัธยาศัยใจคอดีอีกต่างหาก แต่พี่ก็เรียกซะแพงกว่าราคาที่สมควรเป็นจริงเลยนี่นา แกว่าเมื่อก่อนแกเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาเนี่ยะแหละ แล้วเกิดเบื่อๆ เลยออกมาค้นหาชีวิตอิสระ..บนถนนเนี่ยะ เอ้อ... คนเรา คราวนี้มีทางเพียบเลย

.....ตอนเช้าเค้านัดกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ 4.30 น. ชั้น 4 เคาท์เตอร์ E งานนี้ไม่สามารถเดินทางไปด้วยตัวเองได้ เลยขอพี่ที่ออฟฟิต(รัตนาธิเบศร์)ไปส่ง แกก็ไม่ค่อยขัดเท่าไหร่ เพราะว่ามันดึกแล้ว แอบเกรงใจแกเหมือนกัน แต่คิดว่า ถ้าแกไม่ไปส่งแล้วเราจะกล้าหาญนั่งแท็กซี่ไปจริงเหรอเนี่ยะ ท่าทางจะลำบาก



โชคดีไง ... โชคดีที่ได้ไปเมืองจีน แต่จากงานนี้
พี่เค้าไม่ได้โชคดีกับเราด้วยแน่



เขียนมาตั้งนานยังไม่มีรูปเลย ก็ยังไม่ได้ไปไหนเลยนี่นา






11 - กันยายน 2551



แล้วภารกิจการเดินทางของเราก็เริ่มขึ้นอีกแล้ว


ก๊อก ก๊อก ก๊อก...


"พี่ ... พี่... ตี 3 .45 แล้ว ไปเหอะ เดี๋ยวไม่ทันเวลานัด ฝนตกด้วยดิ"

พี่แกเปิดประตูมาทำหน้าตูมๆ ก็เข้าใจหละว่าคนกำลังนอนสบาย ไม่ได้ตั้งใจทำให้ยุ่งยากนะ แต่ช่วยหน่อยแล้วกัน

แล้วพี่แกก็เดินหน้าตูมนำหน้าเราไปที่รถ หลังจากเอากระเป๋าใส่รถเรียบร้อยก็ออกเดินทางทันที อิอิ แอบนั่งมองนาฬิกาหน้ารถเป็นระยะๆ แล้วเราก็ถึงจุดหมายปลายทางตรงเวลาเด๊ะ

ว้าว... เดินทางมาเห็นสนามบินสุวรรณภูมิครั้งแรก วันฝนตก น่าภูมิใจหรือเปล่าเนี่ยะ

"พี่ ขากลับวันที่ 14 เครื่องลง 5 ทุ่ม" พร้อมกับยิ้มแหะๆ

"เออ... เดี๋ยวมารับ" ตอบมาแบบหน้าตูมๆ ก่อนจะพาหน้าแบบเดิมขับรถจากไป

เข้าไปด้านในมีบางคนในคณะมารอบ้างแล้ว ไม่ได้รู้จักกันหรอกนะ แต่เค้ามีป้ายเขียนไว้ตัวเบ้อเริ่มเทิ่มตั้งอยู่กลางกลุ่มคน 5-6 คน ตรงนั้น
แย่แล้ว...ท่าทางไฮโซซะ แล้วเราเนี่ยะกะโปโลอย่างเห็นได้ชัด

ช่างดิ ... มาเอาประสบการณ์นิ (ปลอบใจตัวเองอยู่นะ)



     ออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD3600 จุดหมายปลายทางคือมาเก๊าค่ะ เครื่องออกตอน 07.00 น. ถึง 10.30 น. (เวลาที่มาเก๊าเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงพอดีเลย) คณะเรามีด้วยกัน 26 ชีวิตหละ แล้วทางบริษัททัวร์เค้าก็จัดการซื้อ Boarding Express ให้คณะเราครบทุกคนเพื่อจะได้สิทธิพิเศษในการขึ้นเครื่องและเลือกที่นั่งก่อนผู้โดยสารท่านอื่นนั่นเอง

     แล้วเราก็อำลาสุวรรณภูมิและสายฝนเมืองไทยที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง นั่งซุกตัวอยู่ในเก้าอี้หนังสีดำขนาดพอดีตัว.....แอบคิดว่าถ้าผู้โดยสารตัวใหญ่นั่งไกลๆ คงลำบาก

     แต่ที่น่าชื่นชมคือเวลาที่กัปตันเค้านำเครื่องลงนิ่มนวลมาก...
มากกว่าสายการบินระดับชาติด้วยซ้ำ






หลังจากที่คณะเราเดินทางถึงมาเก๊า เวลา 10.30 น.(เวลาท้องถิ่นค่ะ) ... ใช้เวลาเดินทางแค่ 2ชั่วโมงครึ่งเองถึงแล้ว

หลังจากรับกระเป๋า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ก็เดินข้ามถนนไปกินข้าวกลางวันที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามสนามบินนี้เอง แล้วเราก็ได้รับแจกน้ำเปล่าคนละขวด ทำให้เป็นที่น่าอิจฉาของคณะทัวร์อื่นๆ แอบได้ยินเค้าถามไกด์ของเค้าว่าทำไมเค้าไม่ได้น้ำดื่มอย่างเรา มีแต่น้ำร้อน กับน้ำชา ไกด์เค้าก็บอกว่าดื่มน้ำชาดีแล้ว มีประโยชน์ ไม่อ้วน ... ก็เห็นด้วยนะ แต่ว่าอากาศที่ร้อนจัดแบบที่เป็นอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะอยากดื่มน้ำธรรมดาบ้าง ไม่เย็นก็ยังดี




.....หลังจากจัดการกับอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางไปชม The Venetian Resortซึ่งเป็นโรงแรมคาซิโน ที่ไกด์บอกว่าลงทุนไปเยอะมากงบประมาณหนึ่งหมื่นล้านเหรียญยูเอสดอลล่าร์ มีคลองอยู่กลางโรงแรมเลยให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี แล้วก็มีการจำลองตึก- ท้องฟ้า เหมือนกับที่ลาสเวกัสในสหรัฐอเมริกาด้วย แล้วก็ยังมีร้านค้าแบรน์ดเนมมากมายจากร้านค้านับร้อยๆ ร้าน เราสามารถถ่ายรูปได้ทุกที่ เดินเล่นได้ทุกที่ แม้แต่ภายในคาซิโนก็เข้าไปเดินเล่นได้ มีน้ำหรือขนมวางไว้บริการก็ทานได้เลย แต่ภายในคาซิโนเค้าห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด

.....ก็เพราะมันขนาดใหญ่นี่เองแล้วก็เดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆพอดูนาฬิกาใกล้ถึงเวลานัดก็หาทางออกไปที่จุดนัดพบไม่เจอนี่ดิ(แบบนี้ที่บ้านเรียกว่าหลงหละ) ดีว่ายังแยกกันมาเดินตั้ง 4 คน ก็ยังหน้าตาตื่นอยู่ดี จนต้องถามพนักงานค่ะ พี่ยามรักษาความปลอดภัยนี่แหละ ที่เมืองนี้ยังดีหน่อย เพราะว่าเค้าสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียวเลยแต่จากที่เค้าบอกทำให้เรารู้ว่าเราอยู่ห่างจุดนัดพบไกลพอสมควรเลยแฮะ

.....หลังจากที่เราวิ่งออกไปดูที่รถยังไม่เห็นมีใครมาเลยเดินย้อนกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง
ทุกท่านนั่งดื่มกาแฟสบายอารมณ์อยู่ในสตาร์บัคครบเลย แหะๆ ทุกท่านยังมีแก่ใจถามว่าดื่มอะไรก่อนไหม ... ไม่ล่ะคะ เกรงใจ ให้ผู้ใหญ่รอก็แย่อยู่แล้ว ดีจังที่ได้ไปกับคณะที่เดินทางท่องเที่ยวแบบสบายๆ แล้วก็มีแต่ผู้ใหญ่ใจดี ... แอบปฏิญาณกับตัวเองว่า ต่อไปจะไม่หลง ไม่สายอีกแล้ว กลัวได้ฉายา " 4 สหาย สายเสมอ"












.....หลังจากออกเดินทางจาก Venetian แล้ว เราก็ไปต่อกันที่ Macau Tower ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของมาเก๊า มีความสูง 338 เมตร
ที่นี่เป็นจุดโดด Bungy Jump ที่สูงที่สุดในโลกด้วยหละ

ภาพนี้เป็นวิวรอบๆ เมืองมาเก๊าค่ะ


มาเก๊าทาวเวอร์คือสีส้มค่ะ ความสูงที่ 338 เมตร
ส่วนภาพด้านล่างคือยืนบนกระจก ถ่ายลงไปด้านล่างค่ะ สูงจนขาสั่นเลย





พอออกจากมาเก๊าทาวเวอร์แล้วก็ไปต่อกันที่ วันอาม่าค่ะ


....จากนั้นก็ไปต่อกันที่ "วิหารเซนต์พอล" ซาก โบสถ์ที่มีชื่อออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ด้านหลังของโบสถ์มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติของโบสถ์ ซึ่งโบสถ์เซนต์พอลนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งศาสนาคริสต์ที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนตะวันออกไกล

.....ตอนอยู่ที่นี่คิดว่าอยู่เมื่องไทย ได้ยินแต่ภาษาไทยเต็มไปหมด คนเยอะมากเลยค่ะ

.....ทางกรมธรนีวิทยา(หรืออะไรประมาณนี้)ของจีนออกมาสำรวจค่ะ แล้วบอกว่าอาจจะมีการทรุดตัวลงของพื้นที่ได้ เค้าเลยต้องเอาปูนมาฉาบยึดบางส่วนไว้บริเวณช่องประตูค่ะ





.....แล้วก็เดินตามถนนด้านหน้าวิหารเซนต์พอลลงมาจะเจอกับ "เซนาโด้แสควร์" แหล่งช้อปปิ้งหรือย่านการค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาะมาเก๊า มีร้านค้าแบรนด์เนมมากมายให้ได้ได้เลือกซื้อสินค้าประเภท เสื้อผ้า กระเป๋า ฯลฯ แต่พี่ชาย พี่เต่าไกด์ของเราแนะนำให้ซื้อที่เป็นแบรนของฮ่องกงเพราะว่าจะถูก แต่ถ้าเป็นแบรนด์จากโซนยุโรปคิดว่าน่าจะราคาแพงกว่าหรือพอๆ กับเมืองไทยค่ะ

..... เราไม่ได้อะไรติดมือมาสักกะอย่าง แบบว่าดูแล้วมันไม่ใช่เทรนด์เรา ...(ปลอบใจตัวเองนะนั่นนะ) จริงๆ แล้วตอนอยู่มาเก๊าเป็นเด็กจนๆ ค่ะ เพราะไม่ได้แลกตังค์ ฮ่องกงดอลล่าห์มา มีแต่เงินหยวน(เหรินหมินปี้) เต็มเป๋า แล้วที่นี่เค้าใช้แต่ฮ่องกงดอลล่าห์(เลยอด) เอาไว้พรุ่งนี้ข้ามไปเมืองจูไห่ฝั้งจีนก่อนถึงจะได้ใช้ค่ะ



ภาพนี้เป็นบริเวณด้านหน้าโบสเซนดอมินิค กลางเซนาโดแสควร์ค่ะ



.....แล้วเราก็ทานข้าวเย็นกันที่ร้านใกล้ๆ ที่เราเดินนี่เอง แล้วก็กลับที่พัก จบภารกิจกินและเดินและนั่งรถไปในวันแรก

.....อุ๋มพยายามจะเขียนบล๊อคให้ครอบคลุมหน่อยนะคะ แล้วรูปก็ค่อนข้างเยอะ เลยต้องแบ่งเป็นตอนๆ แบบนี้ -- ไม่รู้ช่วงนี้เป็นไง บล๊อกอัพรูปยากมาก กว่าจะอัพบล๊อกแรกนี้เสร็จเลยยุ่งน่าดู

.....ติดตามวันต่อไปนะคะ จะข้ามไปฝั่งจีนแล้ว






Create Date : 18 กันยายน 2551
Last Update : 23 มกราคม 2552 11:19:27 น. 16 comments
Counter : 705 Pageviews.

 
โห...เล่าเรื่องราวได้ละเอียดลออ สนุกสนาน
เหมือนได้ไปด้วยเลยจ้ะ

...รูปก็เยอะแยะ...จขบ.ก็สวยซะ...หุหุ

พี่เองไปมาเก๊าสามครั้งแล้ว...แต่ไอ้เวนิซจำลองของเค้าเนี่ย ยังไม่เคยไป...

แล้วจะมาติดตามเรื่อยๆนะคะ.......
ตอนนี้เลิกงาน ต้องรีบกลับบ้าน เพราะฝนกำลังจะตก...


โดย: อัยย์ (ทากชมพู) IP: 58.136.52.39 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:18:03:27 น.  

 
สถานที่ท่องเที่ยวในฝัน


โดย: น้ำเงี้ยว วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:18:38:03 น.  

 

อิจฉาจริงจริ๊งง..

ดูท่าน่าสนุกนะนี่แล้วไปไหนต่ออีกหล่ะ..


โดย: หนูมะลิ (love_you_na ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:5:03:33 น.  

 
น้องอุ๋มเล่าเรื่องได้น่าติดตามมาก ๆ เลย
(แต่พี่เป็นอยู่โรคนึง .. โรคขี้เกียจอ่าน ..แฮ่ๆ)
แต่พี่ก็พยายามอ่านจนหมดนะ ... เยี่ยมมากเลย
รูปก็สวยนะ ... เห็นแล้วอิจฉาจริง ๆ
อยากไปมั่งอ่ะ .. แต่ไม่มีตังค์ .. ทำงัยดี อิอิ
น้องอุ๋มไม่สบายเหรอ .. พี่ก็เพิ่งหายเหมือนกัน
ขอให้หายป่วยไวไวนะจ๊ะ ..
แล้วจะเล่าเรื่องเทียวเมืองจีนต่อเมื่อไหร่ล่ะ ..
อย่าลืมมาบอกด้วยเน้อ ...


โดย: เพชรรัตน์ วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:9:39:21 น.  

 
โอ่....แบบนี้ไม่ต้องหัดแล้วกระมังเนี่ย

ผมตามอ่านยิ่งกว่าอ่านของตัวเองอีกนะเนี่ย...แต่เมืองจีนงามขนาดลอ


โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:10:00:22 น.  

 
น่าตื่นเต้นดีจริงนะพี่อุ๋ม

ดูรูปแล้วอยากไปเที่ยวจริงๆ

ติดอยู่ที่สตางค์


โดย: วุฒิ (biomechanic ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:10:49:35 น.  

 
รูปสวยจัง น่าไปเที่ยวจ้า


โดย: redclick วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:12:25:20 น.  

 
เอารูปรถเมล์มาเก๊ามาแจมด้วยจ้า..

ไปมาเก๊า แล้วชอบนั่งเรือต่อไปฮ่องกง...เป็นแบบนี้บ่อยเลย
สะดวก ประหยัด ได้ชมวิว



โดย: ทากชมพู วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:16:02:50 น.  

 
ว้าว.... ว้าว ขอบคุณค่ะพี่อัยย์

กำลังอยากได้พอดีเลยค่ะ รูปรถเมลล์เนี่ยะ

แต่อุ๋มยังไม่เคยไปฮ่องกงเลยค่ะ

ทริปนี้มีน้องคนนึงแกข้ามไปซื้อพวกโมเดลที่ฮ่องกงด้วยค่ะ แกว่ามีร้านประจำอยู่ เด็กสมัยนี้เก่งเนาะ


โดย: SIMAKHA วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:16:59:18 น.  

 
.....หลังจากที่อัพบล๊อกไปเรียบร้อยหลายวัน
คุณน้องนกที่ไปด้วยกันก็ส่งรูปมาเพิ่มเติมให้นิดหน่อย ด้วยความปรารถนาดี
เลยเอามาลงไว้ด้วยนิดหน่อย



โดย: SIMAKHA วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:9:17:29 น.  

 
.....ภาพถ่ายด้านนอกของ The Venetian ค่ะ
เนื่องจากความกว้างใหญ่ของตัวอาคาร แล้วจุดที่เราอยู่ก็ไม่ไกลพอ
ทำให้ได้ภาพมาแบบมุมแคบแค่เนี๊ยะ



โดย: SIMAKHA วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:9:20:22 น.  

 
..... ถ่ายภาพนี้ตอนที่ขึ้นบันไดเลื่อนจากคาซิโนขึ้นมานะคะ

เค้าห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปภายในค่ะ



โดย: SIMAKHA วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:9:37:30 น.  

 
ดีมากเลยค่ะ พี่กอล์ฟขอรูปไปบ้างนะค่ะ เนื่องจากไม่ได้เอากล้องไปอะค่ะ ขอชมนะค่ะว่าละเอียดดีมากเลยค่ะ ชอบ ชอบ


โดย: พี่กอล์ฟ (ผู้ร่วม Trip) IP: 124.121.93.153 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:19:15:34 น.  

 
ยินดีค่ะพี่กอล์ฟ ชอบภาพไหน ก็เซฟได้เลยค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


โดย: SIMAKHA วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:7:18:05 น.  

 
ตามมาอ่าน...
และเที่ยวมาเก๊าด้วยคน ...ฮิ ฮิ


โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:19:38:27 น.  

 
แง่มๆๆ...สวยมากครับ..ได้ตื่นเต้นตั้งแต่หมอซิด..จนถึงม่าเก้าเลยน่ะครับ...งิงิงิ


โดย: bkkboys วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:6:41:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SIMAKHA
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




... คนธรรมดา เดินดิน ...

... ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ...

... จะขอลุกทุกครั้งที่ล้ม ...

*****Color Codes ป้ามด*****

: Users Online
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
18 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add SIMAKHA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.