Only the eye can say everything.
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

ผ่าตัดครั้งที่ 3

ครั้งแรกที่ต้องผ่าตัด ปี 1996
ครั้งนั้นผมรถคว่ำ แฟนผมที่เป็นคนขับตายคาที่
ส่วนผม... เศษกระจกบาดหน้าและมีบางส่วนติดอยู่ในดวงตาข้างขวา
ผมไม่รู้สึกตัวไป 2 วัน
วันที่ฟื้นขึ้นมาก็คือวันเกิดตัวเอง 12 Dec 1996

หมอบอกว่า คนขับตายแล้ว
โลกทั้งโลกพังทลายในพริบตา
หูอื้อ ไม่ได้ยินเสียง
ตา มองไม่เห็นเพราะมีผ้าพันแผลปิดไว้
ใบหน้าส่วนอื่นๆ ก็โดนผ้าพันแผลพันไว้เช่นกัน

หมอบอกว่า ทำศัลยกรรมใบหน้าให้แล้ว
รับรองว่าจะกลับมาเหมือนเดิมมากที่สุด
และเมื่อถอดผ้าพันแผลออก
ก็เป็นอย่างที่หมอพูดจริงๆ

เพียงแต่... ใบหน้าซีกซ้ายไม่เคยมีความรู้สึกอีกเลย
เช่นเดียวกับตาข้างขวา ที่มองเห็นเพียงแค่ 50%


ผ่าตัดครั้งที่สอง ปี 2005
เพราะตอนนั้นคอข้างซ้ายบวมอย่างไม่มีสาเหตุ
เจาะของเหลวไปตรวจก็ไม่พบอะไรสักอย่าง
หมอเลยตัดสินใจผ่าตัดชิ้นเนื้อ เพื่อเอาไปตรวจ

ตอนผ่าตัดหมอฉีดยาชาให้
แต่ยาชายังไม่ทันออกฤทธิ์
หมอก็ลงมีดก่อน
ผลก็คือ ความเจ็บที่ไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวหนังสือได้

เมื่อถึงตอนเย็บแผล หมอก็เย็บไม่เรียบร้อย
ทำให้ในคืนเดียวกันแผลปริ เลือดออกมากจนผมเป็นลม
และถูกส่งโรงพยาบาลอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

สรุปต้องรื้อแผล เย็บใหม่
และให้นอนรพ. 1 คืน เพื่อดูอาการ
ทั้งๆ ที่ตอนนั้นน่าจะให้ผมนอนตั้งแต่แรก
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนั้น


ผ่าตัดครั้งที่ 3 ปี 2008
ครั้งนี้มาจากการที่ถ่ายแล้วมีเลือดออก
ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นริดสีดวง
แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ คิดว่าคงหายเองได้
จนช่วงหลังๆ เลือดออกมากขึ้นทุกที
ถึงขั้นที่ว่า รู้สึกว่ามีเลือดซึมออกมานอกกางเกง

ผมเลยตัดสินใจไปหาหมอเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
หมอตรวจแล้วบอกสั้นๆ
เนื้องอกที่ปลายลำไส้ใหญ่ ควรผ่าออก
เลยนัดวันผ่าตัดคือวันนี้ 10 Mar 2008
เวลานัด 10 โมง

ผมขับรถไปหาหมอคนเดียว
ผ่าตัดเสร็จก็ 11 โมงครึ่งพอดี
วันนี้ฝนตกหนัก
เลยตัดสินใจนั่งรอให้ฝนซาสักนิดก่อน
เพราะไม่ชอบขับรถกลางฝนตกหนักๆ มันอันตราย
โชคดีที่วันนี้รถไม่ติด อาจเป็นเพราะเด็กปิดเทอมหมดแล้วด้วย

คนที่บ้านตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมกลับบ้าน
เค้าถามว่า ไม่นอนรพ.เหรอ?
ผมบอกว่า หมอไม่ได้สั่งให้นอนก็เลยกลับ

ใบรับรองแพทย์เขียนให้ผมหยุดได้ 3 วัน
แต่คงน่าเบื่อนะ เพราะต้องอยู่แต่ในห้องนอน
ออกไปไหนก็ไม่ได้
ได้แต่อ่านบทความในเนท
กับนิตยสารที่แวะซื้อก่อนเข้าบ้าน

เจอเพื่อนสนิทใน M หลายคนก็ถามอาการ
ผมตอบว่า ไม่เป็นอะไรมาก
แค่เลือดออกมากเลยรู้สึกเพลียเท่านั้นเอง
จะว่าไปก็รู้สึกดีนะ
เพื่อนอยู่ต่างประเทศก็ยังห่วงใยเรา
มากกว่าเพื่อนที่อยู่เมืองไทยเสียอีก

หวังว่าร่างกายผม
คงกลับมาแข็งแรงได้เหมือนเดิมเร็วๆ นี้




 

Create Date : 10 มีนาคม 2551
9 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2551 22:29:33 น.
Counter : 675 Pageviews.

 

เข้มแข็งจังค่ะ หายไวๆ น๊ะค๊ะ

 

โดย: Iamjaoying 10 มีนาคม 2551 22:40:59 น.  

 

พักผ่อนมากๆๆๆ หายเร็วๆ แล้วกลับมาแข็งแรงอย่างเก่านะจ๊ะ


กินข้าวเยอะๆ อาหารอ่อนๆ นะ แล้วก็อย่านอนดึกน้า

 

โดย: grippini 10 มีนาคม 2551 22:52:21 น.  

 

อืมมม ถ้าเป็นเรา.....จาเข้มแข็งได้ย่างนี้ป่าวไม่รู้......เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ...Hope this can release your sadness.....

 

โดย: pamuchan (pamuchan ) 10 มีนาคม 2551 23:14:48 น.  

 

โห...ตั้ง3ครั้งเชียวหรือคะ
......
......
เข้มแข็งจัง....ที่ผ่านมันมาได้
......
......
ดูแลสุขภาพนะคะ

 

โดย: nikanda 10 มีนาคม 2551 23:55:47 น.  

 

หายไวไวนะคะ
เราเชื่อว่าคุณจะต้องหายดีในเร็ววันค่ะ

เราเองไม่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนั้น แต่คนสนิทเคยผ่านพวกนั้นมาแล้ว....มันก็เป็นเรื่องที่ยังฝังอยู่ในใจ แต่เก็บมันไว้แค่เป็นเครื่องเตือนใจก็พอล่ะเนอะ

สู้ต่อไปค่า มีเพื่อนๆเอาใจช่วยเยอะแยะเลยเนอะ ^^v

 

โดย: avadar 11 มีนาคม 2551 0:13:03 น.  

 

ป.ล. เพลงเพราะจังเลยค่ะ

 

โดย: avadar 11 มีนาคม 2551 0:15:46 น.  

 

ขอให้ได้เจอะไวไวแล้วกันนะคะ

เอาใจช่วยค่ะ ^^

 

โดย: avadar 12 มีนาคม 2551 21:03:09 น.  

 

ปีที่แล้ว เราผ่าตัดทั้งหมด 3 ครั้ง
ครั้งแรกวันที่ 6 มีนาคม ใช้เวลา 5 ชม. (ผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติของใบหู และเสริมคางโดยใช้กระดูกเทียม)
ครั้งที่สอง แผลที่คางอักเสบ กระดูกโผล่ ต้องผ่าตัด ดมยาสลบครั้งที่สอง วันที่ 3 เมษายน คราวนี้ใช้เวลาผ่าตัดแค่ชั่วโมงครึ่ง
ส่วนครั้งที่สาม ใช้วิธีฉีดยาชาเฉพาะที่ ที่ผ่าตัดมาทั้ง 3 ครั้ง ครั้งที่กลัวที่สุดคือครั้งที่ 2 เพราะมีบทเรียนจากครั้งแรกว่า ใส่ tube (ท่อช่วยหายใจ)ยากมาก จะใส่ทางจมูกไม่ได้ ใส่ทางปากได้อย่างเดียว แต่โชคดีที่ได้วิสัญญีแพทย์ทีมเดิม ซึ่งเป็นคนบันทึกไว้ให้ในประวัติคนไข้ ้ว่าเราเป็นคนที่ใส่เครื่องช่วยหายใจยาก เพราะคางสั้นมาแต่กำเนิด
พอเข้าห้องผ่าตัด ก็เครียดหนักเพราะหมอขอทำความตกลงกับเราว่า ถ้าใส่ไม่สำเร็จ ก็จะต้องรอให้ฟื้นแล้วจะใช้วิธีฉีดยาชา เราก็เลยเหงื่อแตกพลั่ก เพราะเป็นการผ่าตัดจากข้างในช่องปากหมดเลย แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณหายเร็วๆ นะคะ

 

โดย: บอนหวาน 12 มีนาคม 2551 23:57:29 น.  

 

เยี่ยมมาก ที่ผ่านทุกอย่างมาได้ด้วยดี สู้ต่อไปนะคะ ใจเป็นนายกายเป็นบ่าวคะ

 

โดย: แม่หมูกี้ 13 มีนาคม 2551 19:39:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


=SILVER EYE=
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จิตส่งออกนอกเป็น สมุทัย
ผลจากจิตส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ
Friends' blogs
[Add =SILVER EYE='s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.