มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
20 มกราคม 2553

อยากเขียน Blog แต่จะเขียนอะไรดี และทำอย่างไรให้คนอ่าน


Smiley 


=======================================



เช้าวันนี้ก็เป็นวันปกติเหมือนกับทุกๆวัน..ที่ต้องปั่นจักรยานสีชมพูไปส่งหัวหน้าครอบครัว(สามีผู้น่ารัก)หน้าปากซอยเพื่อที่จะนั่งรถต่อไปยังที่ทำงาน


และเป็นอีกหนึ่งวันที่หัดทำ Blog แล้วไม่รู้จะทำต่อยังไงดี


อยากรู้เลยลอง search ทาง google ดูแล้วก็เจอ อยากรู้เหมือนกันว่า


จะเขียน blog ยังไง ให้คนอ่าน..ให้คนคอมเม้นท์.. บทความที่นำมานี้ เป็นบทความที่อ่านแล้วตรงใจมากๆเลย เนื่องจากว่ากำลังหัดทำอยู่(ยังทำไม่ค่อยจะเป็น)


เอามาฝากเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ เผื่อใครอยากจะรู้แบบเดียวกันนี้


 


อยากมี Blog แต่มีแล้วไม่รู้จะเขียนอะไร / เขียนแล้ว ทำอย่างไรให้คนเข้ามาอ่าน มาคอมเม้นท์---มาทางนี้...

หลายคนอยากเขียน Blog เพราะ“อยากเขียน”

หรือเพราะมันดูอินเทรนด์ ดูทันสมัย นิตยสารคอสโมโพลิแตนยังเคยบอกไว้ด้วยว่า เรื่องที่กำลังอิน สาวคอสโม่สุดล้ำต้องมี หนึ่งในนั้นคือ “Blog” เอาไว้เขียนบันทึกออนไลน์ ใครไม่มี Out ย่ะ น้านนนน!!!...
แม้ฉันจะเขียน Blog ก่อนที่คอสโม่จะเตือน แต่ก็คิดว่าหลายคนอยากมี Blog ถึงจะไม่เชื่อคอสโม่ก็ตาม...
ฉันจะข้ามเรื่องวิธีสมัครเข้าเป็นสมาชิก Blog ไปเลยนะคะ เพราะแต่ละเว็บไม่เหมือนกัน ไปศึกษาเอาเองก็แล้วกัน มาเข้าเรื่องว่า “จะเขียนอะไรดี”เลยดีกว่า...ง่ายมากๆ ค่ะ

ฉันชอบวิธีแนะนำการเขียนของนักเขียนใหญ่ท่านหนึ่ง และมักนำไปแนะนำเพื่อนๆ น้องๆ ที่บ่นว่าอยากเขียน แต่ไม่รู้จะเขียนอะไรดีเสมอ

เขาผู้นั้นคือ “เออร์เนสต์ เฮมิ่งเวย์” ผู้เขียน “Old Man and The Sea” (เฒ่าผจญทะเล) ที่เคยบอกไว้ว่า“จงเขียนในสิ่งที่ท่านรู้ และเขียนตามความเป็นจริง”
ใช่!... นี่คือวิธีการเขียนที่ง่ายที่สุดค่ะ
เพราะเรื่องจริงนั้น เรามีข้อมูลของเราอยู่แล้ว เพียงแค่เล่าเรื่องให้มันได้อารมณ์ เศร้าเป็นเศร้า ขำเป็นขำ แค่นั้นก็ได้ใจคนอ่านแล้ว
ส่วนเรื่องแต่งนั้นยากกว่า มีคนเคยบอกไว้ว่า เรื่องจริงเขียนง่ายกว่าเรื่องแต่ง (นวนิยาย,เรื่องสั้น, หรือ Fiction)
เพราะเรื่องจริงจะโลดโผนโจนทะยานอย่างไรก็ได้ แต่เรื่องแต่ง ต้องแต่งให้มันสมจริง อืมมม... ฟังเหมือนง่าย แต่ยาก

ฉันเคยเขียนเรื่องจริงเกี่ยวกับผู้ชายเลวๆ จากปากคำ “ผู้ชายนรก”   //mblog.manager.co.th/pijika/th-427/  ที่มาให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีที่ฉันทำอยู่ พอวันรุ่งขึ้นก็เขียนบล็อกเลย เพราะประทับใจมาก (มันนรกได้ใจจริงๆ) ดันมีคนมาคอมเม้นท์ไว้ว่า ไม่เชื่อ ไม่จริง ใครจะร้ายได้ขนาดนั้น สร้างเรื่องมาเพิ่มเรทติ้ง แน้!... (มองโลกในแง่ดี---แสดงว่าเราเก่งนะเนี่ยยย... เขียนเรื่องจริง คนหาว่าเรื่องแต่ง)

ตอนเรียนวิชาวิเคราะห์วรรณกรรม อาจารย์บอกว่า “วรรณกรรมเกิดจากแรงสะเทือนใจของผู้ประพันธ์”

วรรณกรรมคือข้อเขียนอะไรก็ได้ แม้กระทั่งคำขวัญท้ายรถบรรทุกก็เป็น “วรรณกรรม” (เชื่อเหอะฉันได้ A วิชานี้)

ดังนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้เราเกิดแรงสะเทือนใจ ถึงกับอยากเล่าต่อ นั่นแหละ คือเรื่องที่เราจะนำมาเขียน


แล้วจะเขียนอะไรดีล่ะ แบบว่าใจแข็งไม่สะทกสะท้านสะเทือนง่ายๆ


ขอยกตัวอย่างให้สัก 10 หัวข้อนะคะ

 

1.   เขียนบันทึกแบบไดอารี่ วันนี้ไปเจออะไรมา ประทับใจด้านใด หยิบเอาบางมุมที่น่าสนใจเท่านั้นมาเล่าเพียง 1 – 2 ประเด็น

2.   เขียนเรื่องเล่าของเรากับเพื่อนร่วมงาน / แฟน ในแง่มุมที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นนัก

3.   เขียนเรื่องที่เรารู้ และอยากบอก เช่น วิธีการอ่านหนังสือเร็ว / การปลูกต้นไม้ / การทำอาหาร / สัตว์เลี้ยง ฯลฯ

4.   เขียนเรื่องในกระแส แต่อีกมุมมองหนึ่ง ที่แตกต่าง

5.   เขียนเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน เช่น ไปชุมนุมพันธมิตรฯ มา (อันนี้เขียนบางเว็บอาจถูกแบน)

6.   เขียนเรื่องท่องเที่ยว จากที่คุณไปเที่ยวมาจริงๆ

7.   เขียนในอารมณ์ของคุณจริงๆ ที่สะเทือนใจจากการอ่านข่าว ดูทีวี หรือเห็นมากับตา

8.   เขียนเมื่อฟังเพลงๆ หนึ่ง แล้วเกิดประจุความคิดวาบขึ้นมา

9.   เขียนเมื่อโกรธเมื่อได้รับบริการที่ไม่ดี ห่วยแตก จากผู้ให้บริการ หรือด่าหน่วยงานรัฐ


(คนอ่านอาจชอบเรื่องด่าๆ)

10. เขียนเมื่ออยากเขียน อะไรก็ได้ที่คุณอยากเขียน จะเขียนง่ายที่สุด



จะเขียนอย่างไรให้คนอยากอ่าน

ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องในกระแส เพราะ มันอาจจะเฝือไปแล้ว อ่าน นสพ. ก็เจอ อ่านเว็บก็เจอ เปิดทีวีก็เจอ ฟังวิทยุก็เจอ จำไว้ว่าคนอ่าน Blog เพราะอยากอ่านเรื่องต่างมุมมองค่ะ

ไมเคิล แจ็คสัน ตาย แต่คุณไม่อิน คุณก็ไม่จำเป็นต้องเขียน (ปล่อยให้แฟนคลับไมเคิลเขียนเหอะ)

ลูกหมีแพนด้า โห... ข่าวรายงานละเอียดยิบ ถ้าคุณไม่มีมุมมองที่แตกต่าง ก็อย่าเขียนเลย หากฉันเขียนเรื่องลูกหมีแพนด้า ฉันคงเขียนบ่นเรื่อง การสร้าง Snow Dome นั่นเปลืองไฟ การมีหมีแพนด้าจำเป็นตรงไหนวะ เอาเงินคนไทยไปสร้าง และเก็บเงินคนไทยนั่นแหละที่เข้ามาดู

เสียค่าไฟทำหิมะเดือนละหลายล้าน ผลาญทรัพยากรธรรมชาติ ไหนบอกให้ช่วยกันลดภาวะโลกร้อนงัย?...

ฉันคงบ่นก่นด่าข่าว ที่รายงานแม้กระทั่ง หลินฮุ่ยเลียจิ๋ม (อย่าให้กรูเลียจิ๋มตัวเองได้บ้างก็แล้วกัน (Blogger hanzen บอกว่าจะเอาฉันไปออกงานวัด) ฉันจะเป็นข่าวแข่งกะแพนด้าให้ดู๊!!!...) หรือ Blogger prypilas บ่นแกมอิจฉาว่า “ลูกแพนด้าเริ่มหูดำ ก็เป็นข่าว ทีผมหูดำตั้งนานละ ไม่เห็นใครตื่นเต้น”

เรื่องที่คนไม่ค่อยเข้ามาอ่าน คือ “การแปะข่าว” เอาข่าวจากเว็บโน้นเว็บนี้มาแปะ ก็อ่านข่าวไปแล้วง่ะ จะมาอ่านบล็อกทำไมฟร่ะ มันต้องมีความเห็นของผู้เขียนด้วยซิ ถึงจะแตกต่าง

อันนี้ คนที่แปะข่าวอย่าโกรธกันนะ เรื่องจริง “การแปะเพลง”ก็เช่นกัน เอาเพลงมาลงเฉยๆ ไม่มันส์ อยากไปฟังเพลงไปเสิร์จเทพกูเกิลเอาก็ได้ ต้องมีการเขียนถึงความรู้สึกเมื่อได้ฟังเพลงๆ นั้นร่วมด้วย ถึงจะน่าอ่าน



ทำอย่างไร ให้คนเข้ามาเยอะๆ หรือมีคอมเม้นท์มากๆ

ประการแรกต้องเขียนให้ถูกใจเว็บมาสเตอร์ เขาจะได้นำ Blog ของคุณขึ้นไปเป็น Blog แนะนำ Blog เด่น เช่นคุณเขียนใน MBlog ก็น่าจะเขียนเรื่องพันธมิตร หากเขียนด่าพันธมิตร แล้วถูกแบนก็อย่ามาด่าเว็บมาสเตอร์ ควรจะด่าตัวเองว่าไม่รู้จักกาละเทศะ แต่ไม่จำเป็นต้องเขียนเรื่องการเมืองหรอกค่ะ ถ้าไม่ชอบ


และที่สำคัญ! โดยมารยาทคุณก็ต้องเข้าไป “ตอบคอมเม้นท์”  ในบล็อกของคุณก่อน และเข้าไปเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้านในบล็อกของเขาด้วย มิตรจิต มิตรใจ เขามาหาถึงบ้าน ไม่ต้อนรับรึ? ไม่ไปเยี่ยมบ้านเขาบ้างรึ (บล็อก เป็นเสมือนบ้านของเราในอินเตอร์เน็ต) มันเป็นมารยาทพื้นๆ

ไม่เคยไปเยี่ยมบ้านใครเลย แล้วจะมาบ่นว่าไม่มีใครมาเม้นท์ทำ “โมกขศักดิ์”อะไรล่ะยะ...  

หลายคนขยันตอบคอมเม้นท์ ทำให้บ้านของเขาหรือเธอคึกคักมาก มีคนเข้ามามากมาย (ยิ่งตอบในเวลาเดียวกัน คุยๆ ตอบๆ จะคึกคักมาก)

หลายคนขยันกว่า นอกจากจะขยันตอบเม้นท์แล้ว ยังขยันไปเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้านที่ไม่เคยมาหาเขาเลย หรือเพื่อนบ้านที่เปิดบล็อกใหม่ๆ ทำให้เพื่อนบ้านเข้ามาเยี่ยมเขามากมายเช่นกัน

บางคนขยันกว่านั้น เพิ่มรัศมีไปไกลถึงเว็บบล็อกอื่นๆ ด้วย ไปแปะลิ้งค์ของตัวเอง ให้คนอื่นๆ เข้ามาหา

บางคนขยันโคตรๆ เหมือนไม่ต้องทำงาน ไม่เคยยุ่งเร้ยยย... เล่นไปแปะลิ้งค์แมร่ง!!! หลายๆ เว็บ ยิ่งทำให้ชาวเน็ตที่แม้จะไม่รู้จักเว็บที่เขาอยู่เลย ยังเข้ามาสร้างเรทติ้งให้บล็อกเขาได้!!!...

Blogger chaleejang ให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า การเขียน tag ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่ง ในการให้คนเสิร์จมาเจอ เขียนหัวข้อ tag สั้นๆ น่าสนใจ และใส่ tag ในแต่ละเอ็นทรี่ให้เยอะๆ




ลองดูนะคะ...  เวลาผ่านไปไม่นานแล้วคุณจะแปลกใจในตัวเอง ว่าคุณเขียนสามารถเรื่องได้เยอะขนาดนี้เชียวหรือ... ฉันชอบอินเตอร์เน็ตตรงนี้ มันทำให้คนรุ่นใหม่ หันมาสนใจการอ่าน การเขียนเพิ่มขึ้น   


ขอให้ประสบความสำเร็จในการเขียน Blog ทุกท่านค่ะ


ที่มาของบทความจาก : //eternal-uknowcutvxq.exteen.com/20091013/blog/page/1#lastcomment  ขอขอบคุณค่ะ


 


======================


จากนี้จะพยายามตั้งใจเขียนให้มากขึ้น จะเขียนในสิ่งที่เกิดขึ้น ถ่ายทอดจากประสบการณ์


จะพัฒนาไปเรื่อยๆนะคะ...  อยากเป็นนักเขียนที่ เขียนแล้วทำให้คนอ่าน = =''


อ่านแล้วมีกำลังใจมากๆเลย







Free TextEditor
//www.thainn.com/upload/gift/big/67.gif






Create Date : 20 มกราคม 2553
Last Update : 18 มีนาคม 2553 12:38:35 น. 10 comments
Counter : 5305 Pageviews.  

 
ขอบคุณที่ไปเยือนครับ
ตั้งใจตอนแรกจะหัดเขียนบทความที่ง่าย ๆ
แต่คนทั่วไปอ่านแล้วเข้าใจครับ
เพราะคนส่วนใหญ่มองกรมชลประทานเป็นเรื่องยาก
แต่จริง ๆ มันก็เป็นวิถีพื้นบ้านธรรมดานี่เอง
แต่ผมเรียนมาแต่วิชาการ พอมาเป็นนายช่างจริง ๆ ถึงรู้ว่าช่างชลประทานคืออะไรครับ
ตอนนี้ก็ภูมิใจในคำว่านายช่างชลประทานมากกว่า
คำว่าวิศวกรชลประทานมากเลย
ว่าง ๆจะพยายามเอารูปการทำงานมาลง
แต่ตอนนี้ไทยเข้มแข็ง ทำเอายุ่งมากเลยไม่ค่อยมีเวลา up blog ครับ


โดย: kuk-42 วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:11:04:03 น.  

 
อืม...

อ่านแล้วได้แง่คิดเรื่องการเขียนอีกเยอะ

ปกติเป็นคนชอบเขียนค่ะ

แต่ก็เขียนเรื่องไร้สาระทุกๆวัน

เรื่องมีสาระไม่ค่อยมีกะชีวิตคร่า...

ขอให้มีความสุขกับการเขียนนะคะ


โดย: ยัยเป๋อ (ลายมือยุ่งๆของคนไม่มีเวลา ) วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:12:56:15 น.  

 
เข้ามาเป็นกำลังใจในการเขียนค่ะ...

เราชอบเขียนจากเรื่องจริงมากว่าเรื่องแต่ง

เรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันทั่วไป

บ่นลูกบ้าง สามีบ้าง เพราะในชีวิตจริงบ่นไม่ได้ หุหุ


โดย: เขาพิงกัน วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:13:17:53 น.  

 
เนตรว่าเขียนในสิ่งตัวเองชอบและถนัดดีที่สุดค่ะ

บทความเป็นประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: นาฬิกาสีชมพู วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:23:16:15 น.  

 
เขียนอะไรก็ได้ที่เราถนัดสุดค่ะ

บล๊อคเราเขียนไปเถอะ..

จะด่าใครก็ได้...สบายใจเรา..หุหุ


โดย: ยัยเป๋อ (ลายมือยุ่งๆของคนไม่มีเวลา ) วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:18:30:24 น.  

 
อูย บล็อกวันนี้สุดยอดเลย

ไปหามาจากไหนเนี๊ยะ ข้อมูลดีม๊าก

เหมาะสำหรับคนทำบล็อกอย่างเราๆ

เพราะทีแรกเราก็คิดอยู่เหมือนกัน นั่งคิดเป็นนานสองนานว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี

ศาสนา
ปรัชญา?

ถ้าเขียนคงดูเป็นคนมีความรู้...(ซึ่งเราไม่รู้ 5 5 5 5)


อาหาร
ความงาม?

(ก็ไม่รู้กับเขาอีกนั่นแหละ)

เลยต้องวกกลับมาที่เดิมคือเขียนเรื่องตัวเอง






จบ...


โดย: สมถึก วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:55:34 น.  

 
ถ้าเราเขียนในสิ่งที่เราไม่รู้
ทำเป็นว่าเรารู้

บางทีคนอ่านอาจจะไม่รู้...

แต่ถ้าคนอ่านรู้ว่าเราไม่รู้...

(เริ่ม งง หรือยัง)

5 5 55

สรุปว่าเรา "ไม่รู้"


โดย: สมถึก วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:57:58 น.  

 
อ่านจบแล้วให้ข้อคิดดีค่ะ


โดย: Yellow Sjipsjip วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:2:42:17 น.  

 
ทักทายจ๊ะ


โดย: ทิพย์วารี วันที่: 8 กันยายน 2553 เวลา:8:14:36 น.  

 


โดย: Pribtaa วันที่: 21 กรกฎาคม 2557 เวลา:14:39:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ralgrad
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ralgrad's blog to your web]