Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
[Tezuka Osamu's Ayako] 3/3 - โลกอันมืดมิดนี่แหละคือที่ของฉัน



บล็อกนี้เป็นบล็อกสุดท้ายของเรื่องอายาโกะแล้วครับ หลังหมดบล็อกนี้เดี๋ยวจะเปลี่ยนธีมบล็อกเอาเฮดเดอร์รูปการ์ตูน อ.เทะสึกะลงแล้วเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นซะที
สามารถอ่านสองตอนที่ผ่านมาได้ตามลิงค์ด้านล่างเลยจ้า

Ayako (1/3) - ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก
Ayako (2/3) - ในห้องใต้ดิน

จากตอนที่สองเรื่องราวได้ดำเนินผ่านไปหลายปี หน้าตัวละครก็เปลี่ยนไปทุกคน เพื่อไม่ให้งง ขอสรุปความสัมพันธ์และสถานะสมาชิกหลักบ้านเท็นเงดังภาพครับ



บล็อกสุดท้ายนี้ว่าด้วยเรื่องการออกสู่โลกภายนอกและการล้างแค้นของอายาโกะ (แล้วจะจบสวยรื้อ..) เชิญชมกันได้เลยครับผม


สู่แสงสว่าง

หลังขึ้นครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลคนใหม่แล้ว อิจิโร่ก็หาเมียใหม่ (ซึ่งในเรื่องไม่ได้โผล่มาให้เห็นเพราะจืดจางมากๆ) ส่วนชิโร่ก็ยังคงเป็นคนเดียวที่เอาอาหารมาให้อายาโกะผ่านทางช่องหลังคาและได้เห็นการเติบโตของอายาโกะเรื่อยมา

วันที่ 17 มิ.ย. 1971 รัฐบาลต้องการเวนคืนพื้นที่ส่วนหนึ่งของพื้นที่ๆเท็นเงมีอยู่เพื่อตัดถนน แต่มันดันเป็นที่ๆอิจิโร่ฝังร่างของซูเอะไว้ เขาจึงไม่ยอมขายไม่ว่าจะได้ราคามากขนาดไหน เจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนใจปรับเส้นทางถนนผ่านห้องเก็บของที่ขังอายาโกะไว้ใต้ดินแทน หนนี้แม้อิจิโร่จะต่อต้านขนาดไหนก็ไม่สามารถฝืนคำสั่งรัฐบาลได้

เมื่อรู้ว่าไม่สามารถขัดขืนรัฐบาลได้ ชิโร่ก็ย้ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด รวมทั้งตัวอายาโกะใส่หีบก่อนรัฐบาลจะนำรถเครนมารื้อห้องเก็บของไปในวันที่ 4 ก.พ. 1972


เพราะได้พบแต่ชิโร่มาหลายสิบปี ทำให้อายาโกะหวาดกลัวทุกคนยกเว้นชิโร่ แม้แต่แม่อิบะก็ไม่สามารถเข้าใกล้อายาโกะได้ แม่ได้เอาสมุดบัญชีของอายาโกะส่งให้ชิโร่ เงินในบัญชีเป็นเงินที่ส่งมาให้อายาโกะเรื่อยๆตั้งแต่เธอลงไปอยู่ในห้องใต้ดิน ซึ่งทั้งแม่และชิโร่ก็รู้ว่านี่คือเงินที่จิโร่ส่งมาให้ และยอดรวมทั้งหมดในตอนนี้สูงถึง 50 ล้านเยนแล้ว



วันต่อมาอายาโกะได้หนีออกจากหีบพร้อมสวมกิโมโนของซูเอะออกไป หมอยามาซากิกลับมาเยี่ยมเพราะห่วงเรื่องอายาโกะแต่ก็พบข้าวของๆซูเอะในหีบทั้งสมุดบัญชี กระเป๋าสตางค์ เครื่องประดับ ฯลฯ ทำให้ทุกคนรู้ว่าอิจิโร่โกหกเรื่องที่ซูเอะออกจากบ้านไป แท้จริงแล้วเธอคงถูกอิจิโร่ฆ่าไปแล้ว

ส่วนอายาโกะนั้นเป้าหมายการเดินทางของเธอไม่ใช่อื่นใดนอกจากการมาหาผู้ที่ส่งเงินมาให้เธอตลอด 23 ปีที่ผ่านมา อายาโกะมาหาพี่จิโร่ซึ่งตอนนี้เป็นคนใหญ่คนโตของบริษัท T.K.Enterprise ร่วมกับคินโจโดยใช้ที่อยู่บนซองจดหมายแปะกล่องพัสดุที่บรรจุตัวเองให้ไปรษณีย์ส่งมา แต่ตัวอายาโกะเองนั้นจำพี่ชายคนนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้จิโร่ใช้ชื่อปลอมว่าโทมิโอะ ยูเทนจิ



จิโร่สั่งคนใช้ให้ดูแลเธอ แต่ห้ามมองเธอ ห้ามพูดกับเธอ เขาจะเป็นคนเดียวที่ติดต่อเธอได้ จิโร่รู้เรื่องของทหารที่ไปอยู่ป่าต้องตัดขาดโลกภายนอกไป 27 ปี เขาจึงรู้ดีว่าสภาพจิตใจของอายาโกะตอนนี้เป็นเช่นไร เมื่อนึกสงสารน้องสาวของตัวเองเขาก็เผลอร้องไห้ออกมาให้พวกคนใช้เห็นเป็นครั้งแรก

สารวัตรเกตะยังคงให้ความสนใจคดีของจิโร่อยู่ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่จิโร่ เท็นเง แต่เกตะก็ยังตามไม่ลดละ เพราะนั่นคือคำขอสุดท้ายของทานุมะอาจารย์ของเขาที่สั่งเสียให้เกตะจับกุมจิโร่ให้ได้ ก่อนทานุมะจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไป

ทางด้านชิโร่ออกเดินทางมาตามหาอายาโกะถึงสำนักงาน T.K.Enterprise ในกินซ่า แต่ลูกน้องของจิโร่ไม่ยอมให้เขาเข้าพบ ชิโร่จึงไปหานาโอโกะแทน แม้ตอนนี้เธอจะแต่งงานมีสามีและมีความเป็นอยู่ที่ดีแล้ว แต่เธอก็ยังลืมทาดาชิ เอโนะ คนรักเก่าไม่ลง และสาบานว่าจะต้องล้างแค้นคนที่ฆ่าทาดาชิให้ได้

ทางด้านอายาโกะแอบออกมาจากบ้านของจิโร่ เธอได้ออกมาโลกภายนอกที่ไม่ได้เห็นมานาน เมื่อเห็นเด็กๆเล่นโดดหนังยางกัน อายาโกะก็จำได้ว่าเธอเคยเล่นสนุกแบบนี้กับโอเรียวมาก่อน


ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ อายาโกะได้มาพบกับฮานาโอะลูกชายของสารวัตรเกตะ ตอนนี้เขาเติบโตเป็นหนุ่มหล่อและทำงานทนาย แล้วเธอก็เล่าเรื่องชีวิตใต้ดิน 23 ปีให้ฮานาโอะฟัง


แต่อายาโกะไม่ได้มีความคิดอยากแก้แค้นครอบครัวของเธอสักนิด เธอเพียงไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตแบบไหนต่อไป ตอนนี้เธอ 27 แล้ว พอไปเล่นโดดหนังยางก็มีคนมาหัวเราะเยาะ แล้วผู้ใหญ่ควรจะทำอะไรกันแน่? เธอเข้าใจว่าการกอดจูบแบบที่ทำกับพี่ชิโร่จะช่วยทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งฮานาโอะก็รู้ว่าเรื่องแบบบนั้นมันไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามอายาโกะได้...


เมื่อจิโร่กลับมาถึงบ้าน อายาโกะได้เข้ามาคลอเคลียและบอกรักเขา เธอบอกว่ารักพี่ชิโร่และมีอะไรกันแล้วด้วย ทำให้จิโร่รู้ว่าเธอเข้าใจคำว่ารักบิดเบี้ยวไปแบบสุดกู่แล้ว


อายาโกะถูกไล่ตะเพิดก็หนีไปหลบในกล่องโดยไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิด จิโร่รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้เป็นความผิดของเขา "ช่างน่าสงสารยิ่งนัก และเป็นเพราะเราเธอถึงเป็นแบบนั้น เพราะงั้นเราไม่มีสิทธิ์จะไปตวาดเธอ เพื่อชดเชยความผิดอย่างน้อยเราก็ต้องแก้ไขจิตใจที่บิดเบี้ยวนี้ใหม่ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเป็นปี เป็นสิบปี หรือต้องใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตพี่ก็จะอยู่เคียงข้างเธอ เพื่อช่วยรักษาเธอให้หาย อายาโกะ!"


ช่วงเวลาแห่งการเยียวยา

จิโร่พาอายาโกะนั่งรถออกไปผ่านบ้านเมืองของโตเกียวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า ผู้คนคับคั่งถึง 10 ล้านบน แถมมีอากาศเป็นพิษ เขาอยากให้อายาโกะอยู่อย่างมีอิสระที่โยโดยามะบ้านเกิดมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้อายาโกะก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจิโร่เป็นใคร

จิโร่ให้จิตแพทย์พยายามสะกดจิตให้อายาโกะย้อนระลึกถึงวัยเด็ก และพยายามทำให้เชื่อว่าตัวเธอไม่ได้ถูกเลี้ยงมาในห้องใต้ดิน แต่ไม่ได้ผล

จิโร่พยายามทำหลายวิธี พาอายาโกะไปหลายที่ แต่ก็ไม่สามารถเยียวยาอาการหวาดกลัวผู้คนของเธอได้ อายาโกะใช้ชีวิตได้เพียงในห้องแคบๆอันมืดมิดซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง


(โทมิโอะ ยูเทนจิ คือชื่อปลอมที่จิโร่ใช้มาตลอดครับ)

อายาโกะได้มาพบกับฮานาโอะอีกครั้งโดยบังเอิญ เขากลับเป็นคนเดียวที่เธอสามารถพูดคุยด้วยได้อย่างปกติ และฮานาโอะก็หลงรักอายาโกะ แม้จะไม่แน่ใจว่าเขาหลงรักเพียงเพราะสงสารผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือเขารักอายาโกะจริงๆ เขาบอกกับจิโร่ว่าไม่ควรกักตัวอายาโกะไว้กับแก๊งค์มาเฟียแบบนี้ และเชื่อมั่นว่าเขาสามารถทำให้อายาโกะมีความสุขได้

เมื่ออายาโกะเองก็ยินดีกับข้อเสนอของฮานาโอะ จิโร่จึงยอมให้เธอไปอยู่กับเขาหนึ่งปี โดยจิโร่จะขอเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง และเขาขอสิทธิ์ที่จะแวะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้


ทั้งสองคนมาอยู่ที่บ้านที่จิโร่เตรียมไว้ให้ อายาโกะไม่ต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในลังไม้อีกต่อไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ต้องการออกไปข้างนอกและได้แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอพอใจแค่ได้อยู่กับฮานาโอะที่ตนเองรัก

วันหนึ่งลูกน้องของจิโร่ได้บุกเข้ามาข่มขืนอายาโกะขณะที่ฮานาโอะออกไปข้างนอก เคราะห์ดีที่สารวัตรเกตะคนพ่อผ่านมาช่วยไว้ทัน ตั้งแต่นั้นมาอายาโกะก็กลับไปซ่อนตัวในกล่องเหมือนเดิม

สารวัตรเกตะขอให้อายาโกะช่วยเป็นพยานในคดีเมื่อ 23 ปีก่อน ที่พี่ชายของเธอร่วมก่อคดีฆาตกรรม และเมื่อคดีนี้สิ้นสุด อาจารย์ของเขาจะได้ตายตาหลับเสียที แต่ฮานาโอะไม่อยากให้พ่อรื้อฟื้นอดีตขึ้นมาตอนนี้ เพราะยี่สิบปีที่ผ่านมานั้นเธอเหมือนท่องอยู่ในดินแดนแห่งความตาย เขาขอเวลาฟื้นฟูอายาโกะให้กลับเป็นคนปกติก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องคดี

จิโร่ที่ผ่านมาอาสาพาสารวัตรเกตะมาส่ง แต่รถของพวกเขาก็ถูกแก๊งค์คู่อริยิงถล่ม สารวัตรเกตะโชคดีบาดเจ็บแค่แขน แต่จิโร่ถูกกระสุนไป 12 นัด อาการสาหัส

ฮานาโอะพาอายาโกะมาเยี่ยมอาการจิโร่ ตอนนี้เธอจำพี่จิโร่ได้แล้ว เสียงน้องสาวเรียกชื่อตัวเองอีกครั้งได้เป็นแรงใจช่วยให้เขาฮึดก้าวข้ามความตายมาได้ ส่วนแก๊งค์ของจิโร่ได้เริ่มเปิดฉากปะทะกับแก๊งค์คู่อริอย่างรุนแรง





ตรงนี้อิงข่าวจากหน้าประวัติศาสตร์จริงครับ ช่วงเดือน มี.ค. 1972 แก๊งค์ยากุซ่าในฮิโรชิม่าได้เข้าห้ำหั่นกันและมีคนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงเสียชีวิตไปมากมาย เรียกว่าคดีกลุ่มยามามุระ นับว่าอายาโกะที่เขียนตอนนี้แทบจะเอาเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดมาเขียนได้สดๆเลย (ตอนนี้เขียนในปี 1973) มีหนังที่สร้างจากเรื่องจริงนี้ชื่อ The Yakuza Papers: Battles Without Honor & Humanity หรือที่หลายๆคนเรียกว่า "Japanese Godfather" ด้วย เรื่องนี้โด่งดังเป็นพลุแตก ตั้งแต่ปี 1973-1976 ก็ออกมา 7 ภาคแล้วครับ


จากการสอบสวนสุดท้ายก็รู้ว่าลูกน้องของจิโร่เป็นคนยิงใส่รถของจิโร่เอง ซึ่งเขาได้เขียนที่อยู่ของผู้บงการไว้ก่อนแขวนคอตาย พอตำรวจตามไปยังที่อยู่ที่เขียนไว้ก็พบศพของชายคนหนึ่ง จากการชันสูตรพบว่าเสียชีวิตมาสองสัปดาห์แล้ว นั่นคือสามวันก่อนจิโร่ถูกยิง เกตะเอาภาพถ่ายของชายคนนี้ให้จิโร่ดูเขาก็จำได้ว่าชายคนนี้คือคาโต้ คนที่สั่งให้เขาทิ้งศพของเอโนะลงบนรางรถไฟเมื่อ 23 ปีก่อน!! ...ซึ่งแน่นอนว่าจิโร่ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหามาตลอดไม่ยอมบอกอะไรกับเกตะทั้งนั้น

เมื่อออกจากโรงพยาบาลมาได้ จิโร่ก็บริจาค 10 ล้านเยนให้พรรคการเมืองของยานากิดะ และเข้าพบหัวหน้าพรรคซึ่งได้รับเลื่อนตำแหน่งหลังชิโมคาวะเสียชีวิต จากนั้นก็ขู่แบ็คเมล์จนเขายอมคายความจริงว่านายพลวิลลาบี้ ผู้อำนวยการสูงสุดของ GHQ อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้และก่อวินาศกรรมโดยไม่ฟังคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐ และหนึ่งในคนญี่ปุ่นที่ทำงานเรื่องนี้โดยตรงคือคินโจคนสนิทของจิโร่นั่นเอง!!

ในที่สุดจิโร่ก็รู้แจ้งถึงสาเหตุที่ทำให้ชีวิตเขาทุลักทุเลมาตลอด 20 กว่าปี คินโจสร้างคดีโยโดยามะ ปฏิบัติภารกิจฆ่าชิโมคาวะ แล้วพยายามฆ่าปิดปากทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีชิโมคาวะ เขาเอาไซยาไนด์ให้คาโต้กินเพื่อให้ดูเหมือนฆ่าตัวตาย และฆ่าคนอื่นๆไปอีกนับสิบคน แต่ฆ่าจิโร่ไม่สำเร็จ แม้ตอนแรกสุดที่เจอกันคินโจจะจ้างให้จิโร่วางระเบิดคลับของพวกทหารสหรัฐเพื่อแสดงตนว่าเป็นคอมมิวนิสต์ แต่จากการอยู่ด้วยกันมายี่สิบกว่าปี คินโจไม่ได้แสดงความเป็นคอมมิวนิสต์ออกมาสักนิด

เมื่อความแตกแล้วคินโจก็รีบหนีจิโร่ลงไปบนถนนจนถูกรถชนตาย จิตใจของจิโร่เต็มไปด้วยความสับสนว่าเขาควรจะแค้นใจที่ถูกเพื่อนหักหลังหรือเสียใจที่เสียเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตเพียงคนเดียวไปแล้วดี

นับว่าคดีชิโมคาวะที่เป็นปมลากยาวมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ตอนนี้คลี่คลายไปเกือบหมดแล้วนะครับ จากนี้ไปก็เหลือแค่เรื่องการใช้ชีวิตของอายาโกะ และปลายทางของแต่ละคน...









แล้วประกาศจับยูเทนจิก็แพร่ออกไป นอกจากคดีฆ่าคินโจแล้วเขายังพัวพันกับคดีที่โยโดยามะเมื่อ 23 ปีก่อน นาโอโกะรู้เรื่องที่พี่ชายถูกประกาศจับก็ตกใจมาก

ตอนนี้โยโดยามะบ้านเกิดของอายาโกะกลายเป็นเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่าน และคดีเมื่อ 23 ปีก่อนก็เกือบจะถูกกลบฝังไว้ในประวัติศาสตร์แล้ว จิโร่กลับมายังบ้านเกิดของเขาเพื่อสะสางบางสิ่งบางอย่าง แต่พอเห็นแม่เขาก็ไม่กล้าสู้หน้าแล้วหนีไป ชิโร่บอกกับอิจิโร่ว่าจิโร่กลับมาบ้าน ตัวอิจิโร่นั้นไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับจิโร่และอายาโกะอีกแล้ว แต่หมอยามาซากิแนะนำว่าจิโร่มีเงินมากมาย ให้อิจิโร่คอยช่วยเหลือเขา จะได้ฟื้นฟูฐานะของตระกูลกลับมา ยามาซากิยังแนะนำให้ใช้เหมืองถ่านหินของตระกูลเป็นที่ซ่อนตัวของจิโร่ด้วย


ท่ามกลางความมืดมิด

วันที่ 19 มิ.ย. 1972 ขณะที่นาโอโกะมาไหว้หลุมศพของทาดาชิ เอโนะ คนรักเก่าที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 23 ปีก่อนนั้น จิโร่ได้เข้ามาหานาโอโกะและสารภาพว่าเขาคือคนที่วางศพของทาดาชิให้รถไฟทับเอง เขาบอกว่าก่อนหน้านั้นทาดาชิก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว และคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ต่างถูกองค์กรเบื้องหลังลบหายไปทีละคนๆ เขาจะไปอเมริกาเพื่อสืบหาต้นตอของเรื่องที่แท้จริง และนั่นคือภารกิจสุดท้ายที่จิโร่จำเป็นต้องทำให้ลุล่วง แต่จิโร่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้น เมื่อนาโอโกะแทงเข้าที่ซอกคอของจิโร่เพื่อล้างแค้นให้ทาดาชิ


ตอนนี้นาโอโกะได้ระบายความโกรธเกลียดที่เธอสะสมมากว่า 20 ปีไปแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าจิโร่อยู่แล้ว เมื่อตั้งสติได้เธอก็เรียกหมอยามาซากิมาช่วยรักษาพี่ชาย ทั้งนาโอโกะ, อิจิโร่ และหมอยามาซากิขึ้นรถไปหาจิโร่ ส่วนชิโร่แวะซื้อของที่หมอยามาซากิบอกก่อนขับรถตามมาทีหลัง เขาได้พบกับอายาโกะซึ่งมากับฮานาโอะโดยบังเอิญ




ทั้งหมดเดินทางมายังเหมืองถ่านหินที่ซ่อนตัวของจิโร่ (ฮานาโอะถูกปิดตาเพื่อไม่ให้จำที่ซ่อนตัวได้)


ฮานาโอะขอให้จิโร่เข้ามอบตัว แต่หมอยามาซากิไม่ยอมให้ตำรวจเข้ามายุ่งกับคนไข้ของเขา (พยายามเอาใจจิโร่เพราะหวังเงิน) เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าชิโร่ก็ได้โอกาสเปิดโปงความชั่วของตระกูลเท็นเงให้รู้กันทั่วไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนในตระกูลกักขังและแจ้งตายอายาโกะไปแล้ว เรื่องที่จิโร่ฆ่าโอเรียว หรือแม้แต่เรื่องที่อิจิโร่ฆ่าซูเอะ ซึ่งชิโร่รู้เรื่องนี้เพราะสังเกตเห็นอิจิโร่ไปป้วนเปี้ยนอยู่ที่ๆหนึ่งบ่อยๆ เลยลองขุดดูก็พบกระดูกในห่อผ้าของซูเอะ เขาจึงนำกระดูกเธอไปฝังบนภูเขา

นาโอโกะโมโหมากที่คนในบ้านเป็นฆาตกรฆ่ากันไปตายกันมาก่อเรื่องชั่วๆกันเต็มไปหมด แต่ชิโร่บอกว่าตัวนาโอโกะเองก็ไม่ได้พยายามช่วยเหลืออายาโกะอย่างจริงจังเลย เพราะงั้นเธอก็ต้องมารับกรรมของตระกูลด้วยกัน (อ้าวซวยไป) ทุกคนที่นี่สมควรต้องกราบขอขมาอายาโกะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และชิโร่ก็ยอมรับด้วยว่าเขาซั่มกับน้องตัวเองทุกวันๆมาหลายปี (แถมยืดอกรับอย่างภาคภูมิใจจนฮานาโอะตกกะใจ) Smiley

เมื่อทุกคนขอขมาอายาโกะแล้ว หน้าที่ของชิโร่ในฐานะถังขยะที่คอยรองรับแต่เรื่องเน่าๆของตระกูลก็จะจบลงเสียที แต่อิจิโร่ยืนกรานไม่ขอโทษ และอายาโกะเป็นแค่ผลผลิตของการที่พ่อไปซั่มกับอดีตเมียของเขา เธอไม่สมควรเกิดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว




ชิโร่ระเบิดหินให้ถล่มลงมาปิดทางเข้าเพื่อลงโทษทุกคนที่นี่ ฮานาโอะเป็นคนนอกที่ต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ แต่ก็ถือว่าเขาดื้อที่จะตามชิโร่มาเอง หินถล่มทับร่างชิโร่จนขยับตัวไม่ได้ แต่เขาก็ได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย นั่นคือ "การล้างแค้นให้อายาโกะ" ไปแล้ว


ทุกคนต่างพากันสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะอิจิโร่ที่โวยวายมากกว่าคนอื่น ตอนนี้ในถ้ำมืดไปหมด พวกเขาต้องกังวลว่าอากาศจะหมดลงเมื่อไหร่ พวกเขาจะกินอะไร จะมีคนมาช่วยไหม แต่ความหวังที่จะรอดออกไปนั้นก็เลือนรางเพราะที่แห่งนี้ห่างไกลชุมชนมากๆ และหินก็แข็งเกินกว่าจะขุดออกไปได้ด้วย บางจุดที่ร่วนซุยเมื่อขุดไปได้ไม่นานก็ถล่มลงมาอีก แม้จะมีช่องอากาศเล็กๆให้พวกเขาไม่ขาดอากาศตาย แต่ก็ไม่กล้าขุดช่องนั้น เพราะกลัวช่องอากาศจะปิด

ขณะที่ทุกคนกำลังหวาดกลัวและสิ้นหวัง มีเพียงอายาโกะที่สงบใจอยู่ได้

เธอมองไปรอบๆแล้วหัวเราะออกมา เพราะที่นี่ช่างให้ความรู้สึกที่เธอคุ้นเคยเหมือนห้องที่เธออยู่มา 23 ปี

"โลกอันมืดมิดนี่แหละ คือที่ของฉัน"










ทางการได้ออกตามหาอิจิโร่, ชิโร่, อายาโกะ และฮานาโอะที่หายตัวไปโดยไม่มีเบาะแสว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหน

กาลเวลาผ่านไป หนึ่งสัปดาห์ก็แล้ว...

สิบวันก็แล้ว...

สองสัปดาห์ก็แล้ว...

การค้นหาวันแล้ววันเล่า แทบจะดูเหมือนความพยายามที่สูญเปล่า จนในที่สุดทีมสำรวจก็มาพบถ้ำที่พวกเขาถูกฝังอยู่

คนอื่นๆเสียชีวิตไปหมดแล้ว มีเพียงอายาโกะที่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแบบนี้มานาน เธออยู่ด้วยความหวังมาตลอดว่าหากอดทนผ่านช่วงเวลาแห่งความเลวร้ายไปได้ เธอจะมีโอกาสได้ส่งยิ้มให้กับแสงสว่างที่เห็นอยู่เบื้องหน้า และนั่นเป็นสาเหตุให้เธอยังคงมีชีวิตอยู่เรื่อยมา...



สารวัตรเกตะนำอัฐิลูกชายกลับโตเกียวบ้านเกิดของเขา ในขณะที่อายาโกะได้ออกจากบ้านอีกครั้ง แต่คุณแม่ (อิบะ เท็นเง) ก็ปล่อยให้เธอได้ทำตามที่เธอต้องการ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา อายาโกะมีแต่ความทรงจำที่เลวร้ายกับบ้านหลังนี้ แม้คนอื่นๆจะจากไปหมดแล้ว แต่ตราบใดที่อิบะยังอยู่ ตระกูลเท็นเงก็ยังคงอยู่ต่อไป

ในปี 1973 มีการออกเอกสารเผยแพร่ว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่จบลงด้วยการเสียชีวิตของคินโจนั้นเกี่ยวข้องกับองค์กรข้ามชาติ และได้ถูกนำขึ้นเป็นประเด็นใหญ่ของสังคม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้รับเรื่องไปสืบคดีต่อไป ตามที่จิโร่ปรารถนา

ส่วนเรื่องของอายาโกะหลังจากนั้นไม่มีใครทราบอีกเลย...

อวสาน


(เนื่องจากลิงค์ภาพ photobucket พัง จึงขอยกเม้นท์ที่เพิ่มเติมเนื้อหาไว้ด้านล่างขึ้นมาแปะบนนี้ครับ)

วันนี้มาพูดคุยท้ายเรื่อง ขอเล่าเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เห็นว่าน่าสนใจเพื่อเก็บประเด็นต่างๆเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการกระทำของตัวละครขยายความจากที่อ่านในบล็อกครับ



เทะสึกะ โอซามุ ผู้เขียนเรื่องอายาโกะ


สำหรับเรื่องอายาโกะนี้นับเป็นการ์ตูนที่มืดมนที่สุดเรื่องหนึ่งที่ อ.เทะสึกะ เทพเจ้าแห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่นเขียนขึ้นมา แม้จะไม่มีสิ่งมหัศจรรย์หรือเหตุการณ์ระดับโลกที่เป็นตัวชูโรงของเรื่องเหมือนกับเรื่องอื่นๆ แต่ความเฉียบคมในการดำเนินเรื่องและงานภาพที่ยอดเยี่ยมล้ำยุคสมัย (ย้ำอีกทีว่าเรื่องนี้เขียนในปี 1972-1973) ก็ทำให้อายาโกะได้รับเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ดีมาก สำหรับเว็บวิจารณ์หนังสือการ์ตูนที่ให้นักอ่านทั่วไปเข้ามาเรตคะแนนให้นั้น คะแนนเสียงจะค่อนข้างแตก คือมีทั้งคนที่ให้คะแนนสูงมากเพราะชอบเนื้อเรื่อง และคนที่ให้คะแนนต่ำมากเพราะขยะแขยงการกระทำของตัวละครและไม่คาดคิดว่าการ์ตูนของ อ.เทะสึกะซึ่งพวกเขาเข้าใจว่ามีแต่สไตล์แบบดิสนีย์ จะออกมาแรงขนาดนี้ ...ซึ่งอันที่จริงเห็นปกหน้า (สาวเปลือย) ปกหลัง (คนแขวนคอ) และเรต (16+) ก็ควรจะรู้ตั้งแต่หยิบขึ้นมาแล้วว่านี่ไม่ใช่การ์ตูนแนวเดียวกับที่ อ.เทะสึกะเขียนในช่วง 50s-60s แต่เป็นการ์ตูนไซเน็น (การ์ตูนผู้ใหญ่) ที่เนื้อหาหนัก ควรเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก แต่อายาโกะก็ไม่ใช่การ์ตูนที่ตะบี้ตะบันเข้าดาร์คไซด์อย่างเดียวนะครับ นอกจากจะฉายภาพประวัติศาสตร์อย่างละเอียดอ่อนแล้วเรื่องนี้ยังมีประเด็นการกระทำของตัวละครต่างๆที่น่าสนใจอีกมาก



ปกอายาโกะฉบับภาษาฝรั่งเศส


ตัวอายาโกะเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ต้องเผชิญชะตารับกรรมของตระกูลที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ การถูกเลี้ยงดูในห้องที่มืดมิดมาตลอด 23 ปี ทำให้การเรียนรู้ของอายาโกะถูกจำกัดอยู่เฉพาะสิ่งที่ซูเอะและชิโร่เป็นคนสอนไว้ แม้จะอ่านออกเขียนได้ แต่อายาโกะขาดปฏิสัมพันธ์และไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติต่อผู้อื่นหลายอย่าง ตอนที่เธอได้เล่นสนุกกับพวกเด็กๆในสวนสาธารณะนั้น อายาโกะแจกเงินให้เด็กเป็นฟ่อนๆจนพวกคุณแม่ตกใจ

โดยเฉพาะเรื่องความรักนั้น อายาโกะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปมาก เธอเข้าใจว่าเมื่อชายหญิงคู่หนึ่งชอบพอกันแล้วจะต้องแสดงออกถึงความรักด้วยการมีสัมพันธ์กัน ตอนที่อายาโกะได้ซั่มกับชิโร่ครั้งแรกนั้นเธอขอร้องจนชิโร่ต้องยอมมีอะไรด้วย และพบว่าตัวเธอก็มีความสุข พี่ชิโร่ก็มีความสุข และตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า มีอิสระจากห้องใต้ดินนั้น หลังจากได้ออกมาโลกภายนอก เมื่ออายาโกะรู้สึกรักชอบใครก็หาทางจะติงนังกับเขาไปหมด ดังที่มนต์สิทธิ์เคยสอนไว้ว่า "รักจริงจริงให้ติงนัง ติงนังถี่ๆ"



นอกจากชิโร่แล้ว เหยื่อคนอื่นๆของอายาโกะก็เช่นฮานาโอะและจิโร่ แต่จิโร่เข้มแข็งพอที่จะข่มความอยากของตัวเอง แล้วพาอายาโกะไปบำบัดซะเลย

ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของอายาโกะหลังตอนจบจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลังจากคำพูดสุดท้ายของชิโร่นั้นอายาโกะได้เปลี่ยนความกลัวให้เป็นพวกเดียวกับเธอได้แล้ว บางครั้งแม้จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ทัศนคติและประสบการณ์ที่แต่ละคนมีต่อสิ่งนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าพวกเขาจะรับรู้มันในรูปแบบไหน อายาโกะเคยหวาดกลัวความมืด แต่เธอยอมรับและทำความคุ้นเคยกับมัน จนความมืดทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว ถ้ำอันมืดมิดก็เป็นเหมือนกับห้องใต้ดินที่เธออาศัยอยู่มาทั้งชีวิต ในขณะที่คนอื่นๆต่างพากันหวาดกลัวเมื่อต้องพบกับสภาพเดียวกับที่อายาโกะอยู่นี้

สำหรับอายาโกะนั้นซูเอะเป็นความทรงจำที่อบอุ่น เมื่อกลับมาอยู่ในห้องมืดทึบเหมือนที่เคยอยู่ในอดีต เธอก็ร้องเพลงของซูเอะเพราะคิดถึงวัยเด็กที่ซูเอะแม่แท้ๆของเธอคนนี้ร้องกล่อมให้เธอนอน ในทางกลับกันเพลงเดียวกันนี้ก็ได้หลอกหลอนอิจิโร่ที่ถูกซูเอะตามหลอกหลอนมาตลอด เพราะสำนึกผิดที่ฆ่าเธอไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ชิโร่เป็นผู้เดียวที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องและช่วยเหลืออายาโกะมาตลอด เขากล้าลุกขึ้นประท้วงคนทั้งครอบครัวที่จะขังอายาโกะไว้ใต้ดิน กล้าให้ปากคำตำรวจให้จับพี่ชายตัวเอง จนถึงขนาดถูกพี่ๆเล็งเล่นงาน แต่สุดท้ายความพยายามทั้งหมดก็ไม่สัมฤทธิ์ผล จนชิโร่รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่เขาจะทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งชิโร่นั้นรู้ดีว่าการซั่มน้องตัวเองมันผิดมาก แต่เขาเห็นว่าเป็นทางเดียวที่ช่วยให้อายาโกะมีความสุขได้เลยจำต้องรับบทไอ้ซั่มน้องสาวมาตลอด และตราบาปนี้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ดีพอที่จะทำตัวเป็นผู้ผดุงคุณธรรมไปตัดสินความผิดของพวกพี่ๆคนอื่นเลย แม้จะรู้เรื่องที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด รู้ว่าใครก่อคดีอะไรบ้าง แต่ชิโร่ก็ได้แต่เก็บไว้กับตัวตลอดมา จนในที่สุดก็ระเบิดออกมาและแก้แค้นให้อายาโกะด้วยการฝังพวกเท็นเงทั้งตระกูลลงในเหมือง พร้อมกับปิดฉากชีวิตตนเองไปด้วย



(และชิโร่ก็ทำแบบนั้นจริงๆ พูดจริงทำจริงครับ เลือกตั้งครั้งหน้าโปรดเลือกชิโร่เข้าสภา)

ซูเอะเป็นหญิงญี่ปุ่นยุคเก่าที่เป็นช้างเท้าหลังทำตามคำสั่งของสามี แสดงให้เห็นสถานะของสตรีในอดีตที่ถูกฝ่ายชายกดขี่มาตลอด เหมือนสตรีในสังคมยุคโบราณหลายแห่งที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมได้หากไม่มีสามีคอยดูแล นอกจากถูกซาคุเอม่อนซั่มไปหลายยกแล้ว ตัวอิจิโร่เองก็ไมได้ปฏิบัติกับซูเอะดีนัก จนซูเอะบอกกับอายาโกะว่า "เขาทำเอาพี่อยากตายไปหลายรอบ" ซูเอะเคยผูกคอตายหนหนึ่งแต่ก็ได้นาโอโกะช่วยไว้ก่อน



หลังซาคุเอม่อนยกสมบัติให้ เป็นโอกาสที่ซูเอะจะได้ก้าวเดินด้วยตนเอง และออกจากชีวิตแย่ๆแบบนี้ไปเริ่มต้นใหม่กับอายาโกะลูกของตนเอง แต่ก็ถูกอิจิโร่ฆ่าตายเสียก่อน

นาโอโกะจะผิดกับซูเอะ คือเป็นหญิงหัวก้าวหน้าที่กล้าลุกขึ้นต่อสู้ นาโอโกะเข้ามามีบทบาทในวงการเมืองเพราะไปหลงรักกับทาดาชิ เอโนะ แกนนำฝ่ายซ้ายของพื้นที่โยโดยามะ และถูกชวนมาเป็นฝ่ายซ้ายด้วยกัน นาโอโกะมีบทบาทเกี่ยวข้องกับอายาโกะค่อนข้างน้อยเพราะถูกพ่อไล่ออกจากบ้านไปหลังรู้ว่าไปสนับสนุนคอมมิวนิสต์ แม้จะดูใจดี เป็นมิตร และอยู่ข้างความถูกต้องมาตลอด แต่นาโอโกะก็ไม่ได้ส่งผลผลักดันให้มีการช่วยเหลืออายาโกะอย่างจริงจังเลย อันที่จริงนาโอโกะก็แต่งงานกับแฟนใหม่มีความสุขไปแล้ว แต่ก็ต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุสลดท้ายเรื่องเพราะยังลืมความแค้นเรื่องทาดาชิไม่ลงและเข้าแทงจิโร่จนบาดเจ็บ

จิโร่นับเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญรองจากอายาโกะ และเป็นคนที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น จิโร่อยู่กับสงครามมานานทำให้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตฆ่าคนทิ้งได้ง่ายๆ แต่เนื้อแท้นั้นจิโร่เป็นคนดีคนหนึ่งที่ถูกสภาพแวดล้อมบังคับให้เขาต้องทำในสิ่งที่ผิด


แม้จะมีภาพลักษณ์แสนชั่ว แต่จิโร่รู้สึกผิดกับอายาโกะและตั้งใจช่วยเหลืออายาโกะจากใจจริง เขาส่งเงินมาให้หลายสิบปีจนรวมได้ถึง 50 ล้านเยน และตั้งใจพาอายาโกะไปบำบัดให้หายจากการเก็บตัว โดยไม่สนเสียงคนรอบข้างที่นินทาเจ้านายว่ารสนิยมแปลก ที่ไปคบกับผู้หญิงประหลาด (คนอื่นไม่รู้ว่าเป็นน้องสาว และจิโร่ก็ปกปิดภูมิหลังของตนเอง)
จิโร่เองก็หลงรักอายาโกะเช่นเดียวกับชิโร่ แต่เขารู้ว่าการซั่มน้องมันไม่ถูกไม่ควร และเชื่อว่าฮานาโอะจะทำให้อายาโกะมีความสุขได้ สุดท้ายก็ตัดใจยอมยกอายาโกะให้ฮานาโอะไป



ในเรื่องยังมีหลายตอนเล่าถึงธุรกิจมืดและความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมาเฟียที่จิโร่เป็นหัวหน้าอยู่กับมาเฟียกลุ่มอื่นๆ ซึ่งมีเนื้อหารายละเอียดมาก และไม่เกี่ยวกับประเด็นหลักของเรื่องโดยตรง ตอนสรุปเรื่องผมจึงข้ามไปซะส่วนมาก มีหลายตอนที่จิโร่ต้องรับบทหนัก ทั้งฆ่าและเกือบถูกฆ่า หลังรอดตายกลับจากสงครามแล้ว เขายังต้องทำงานให้กองทหารสหรัฐก่อคดีฆาตกรรม ฆ่าโอเรียว ถูกชักจูงไปร่วมมือกับคินโจ ฆ่าสาวสปาย ฆ่าคู่อริ ฆ่าลูกน้อง โดนยิงถล่มรถ สืบหาต้นตอผู้บงการ ฆ่าคินโจ โดนมีดแทงคอ โดนขังในถ้ำ ฆ่ายามาซากิ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ถูกใช้งานหนักที่สุดในเรื่องนี้แล้วครับ



จิโร่รู้ตัวว่าทำเรื่องเลวร้ายมามาก เขาตั้งใจกลับมาบ้านเพื่อสารภาพกับนาโอโกะว่าเขาเป็นผู้มีส่วนร่วมกับคดีฆ่าทาดาชิ แต่ตอนนี้เขาต้องการสืบหาต้นตอว่าใครบ้างที่เป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังคินโจจริงๆ แต่ก็ถูกนาโอโกะแทงจนบาดเจ็บ แถมโดนขังจนตายในถ้ำ หมดโอกาสทำในสิ่งที่เขาเห็นว่าถูกต้องไปซะก่อน

อิจิโร่มีกิเลสตัวใหญ่ที่สุดคือความโลภ เขาต้องการครอบครองตระกูลเท็นเงต่อไปโดยไม่สนใจวิธีการ เขายอมยกเมียตัวเองให้พ่อซั่มเช้าเย็นเพื่อแลกกับที่ดินของตระกูล ช่วยปกปิดความผิดของจิโร่ เป็นต้นคิดให้ขังอายาโกะไว้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตระกูล และเมื่อมีอำนาจมากขึ้นก็สั่งไล่คนงานออกโดยไม่ขอความเห็นชอบจากพ่อ แต่อิจิโร่ไม่ได้ฆ่าคนง่ายๆแบบไม่รู้สึกอะไรอย่างจิโร่ เขาเคยพลั้งมือฆ่าซูเอะไป และนั่นก็กลายเป็นความทรงจำที่หลอกหลอนตัวเขาไปตลอดชีวิต หลังจากฆ่าซูเอะไปแล้วอิจิโร่ก็ไม่เป็นอันทำอะไร และนำพาตระกูลตกต่ำลงไปทุกขณะ ถึงขนาดหมอยามาซากิต้องหาทางเอาเงินจากจิโร่ที่ทำธุรกิจจนร่ำรวย



ตอนจบที่เขาถูกขังอยู่ในถ้ำนั้น นอกจากต้องเข้ามารู้สึกแบบเดียวกับอายาโกะที่ตัวเองเอาไปขังแล้ว บทเพลงของซูเอะยังตามหลอกหลอนจนทำให้เขาต้องเสียสติไป เรียกว่ากรรมตามสนองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยทีเดียว

สารวัตรเกตะ เป็นตัวละครเดียวที่มาจากระบบ star system (เอาตัวละครเดียวไปแสดงในหลายๆเรื่องที่ อ.เทะสึกะเขียน) เขาเป็นศิษย์ของสารวัตรทานุมะ ตำรวจสืบสวนที่เก่งกาจ ทานุมะล้มเหลวในการจับกุมจิโร่จากคดีที่โยโดยามะในปี 1949 จึงฝากฝังให้เกตะจับตัวจิโร่ให้ได้เป็นคำขอสุดท้ายก่อนเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไป ด้วยคำสั่งเสียนี้ทำให้เกตะยังคงตามล่าจิโร่แม้คดีจะเก่าเก็บจนหมดอายุความไปแล้วก็ตาม



ฮานาโอะเป็นลูกชายของสารวัตรเกตะ เป็นเด็กตัวน้อยที่ตามพ่อมาทำงานให้เห็นบ่อยๆตอนต้นเรื่อง (อายุมากกว่าอายาโกะ 3 ปี) 20 กว่าปีผ่านไปเขาเติบโตเป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อ ทำงานทนายและมีจิตใจรักความถูกต้องที่สืบมาจากพ่อของเขา เขาได้พบและพูดคุยกับอายาโกะที่สวนสาธารณะ ฮานาโอะเข้าใจความรู้สึกของอายาโกะเป็นอย่างดี และรู้วิธีเข้าหาคนจิตใจบกพร่องอย่างอายาโกะ ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัวเขาเหมือนคนอื่นๆ และทั้งสองก็เริ่มชอบพอกันในเวลาอันสั้น

แม่ของฮานาโอะเคยเป็นนักโทษคดีหมิ่นองค์จักรพรรดิ หลังเธออกจากคุกทานุมะก็แนะนำเธอให้เกตะรู้จัก แล้วทั้งสองก็แต่งงานกัน ฮานาโอะถามว่าพ่อแต่งงานเพราะสงสารแม่หรือเป็นเพราะรัก และไม่แน่ใจว่าที่เขารักอายาโกะเป็นไปเพราะความสงสารหรือเปล่า แต่พ่อก็ตอบว่าหลังจากอยู่ด้วยกันมันก็ไม่สำคัญแล้วหละ นั่นทำให้ฮานาโอะมั่นใจที่จะใช้ชีวิตกับอายาโกะ และช่วยเหลือเธอจากความเลวร้ายของตระกูล แต่เมื่อได้พบกับจิโร่ก็รู้ว่าชายหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่เป็นพี่ชายของเธอคนนี้เป็นคนดีกว่าที่เขาวาดภาพไว้มาก

ตอนที่อยู่กับฮานาโอะ อาการหวาดกลัวสังคมของอายาโกะมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงพวกเขาสามารถไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันสองคน และแกล้งปล่อยตัวให้จิโร่ออกไปสืบหาองค์กรอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังคดีชิโมคาวะก็ย่อมได้ แต่เลือดรักความถูกต้องของฮานาโอะทำให้เขาไม่ยอมให้จิโร่หนีไป และพาอายาโกะมาถึงโยโดยามะเพื่อกล่อมให้จิโร่เข้ามอบตัว จนต้องประสบเหตุที่เป็นโศกนาฏกรรมไปพร้อมๆกับพวกเท็นเงคนอื่นๆด้วย

นับว่าน่าเสียดายที่ชีวิตของฮานาโอะจบลงไม่สวย แต่ถ้าแต่งงานกันคงต้องใช้ชื่อ อายาโกะ เกตะ ฟังดูน่าเกลียดพิลึก

โอเรียวตัวละครที่มีบทบาทมากในช่วงแรกเพราะอยู่กับอายาโกะตลอดเวลา เป็นตัวละครที่สร้างสีสันและความรู้สึกแปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี เธอเป็นคนปัญญาอ่อน ในบล็อกแรกผมใช้คำว่าสติไม่ดี แต่ไม่ใช่ว่าบ้านะครับ โอเรียวเป็นคนปัญญาอ่อนคือเรียนรู้ช้า สติปัญญาไม่ดี คนทั่วไปเข้าใจว่าเธอเป็นลูกสาวของโกสุเกะชาวนาที่ทำงานให้บ้านเท็นเงมานาน แต่ที่จริงแล้วเธอเป็นลูกที่เกิดจากการที่ซาคุเอม่อนไปซั่มเมียของโกสุเกะต่างหาก ...และนั่นเป็นสาเหตุให้ซาคุเอม่อนอารมณ์ไม่ดีทุกครั้งที่เห็นโอเรียว เช่นเดียวกับที่อิจิโร่อารมณ์เสียเมื่อเห็นหน้าอายาโกะ โอเรียวเป็นตัวละครน่าสงสารที่ถูกจิโร่ฉวยโอกาสจากความปัญญาอ่อนเอาเปรียบโยนความผิดให้แบบไม่สามารถแก้ตัวให้ตัวเองได้ ไหนจะต้องรับบทโดนตบตีตลอดทั้งเรื่อง แต่นับว่าเธอยังโชคดีที่ถูกกดน้ำตายไปตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ต้องทนทุกข์อยู่ 20 กว่าปีแบบอายาโกะ

โอเรียวร้องเพลงพื้นบ้านเขตอาโอโมริให้อายาโกะฟังบ่อยๆ และเป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของอายาโกะ แต่จู่ๆโอเรียวก็ออกไปจากชีวิตและอายาโกะถูกจับมาขังไว้ในห้องใต้ดิน ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในวันเดียว กว่าเธอจะรู้ความจริงว่าโอเรียวถูกจิโร่ฆ่าตายก็อีก 23 ปีให้หลัง




ซาคุเอม่อนผู้นำตระกูลเท็นเง เป็นเฒ่าตัญหาจัด ไล่ฟันผู้หญิงไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ลูกสะใภ้หรือเมียคนงาน พอเห็นผู้หญิงคนไหนสวยๆก็จะแนะนำให้เป็นเมียลูกเพราะตัวเองก็หวังผลพลอยได้อยู่ โชคดีที่จิโร่ไม่ยอมแต่งงานตามใบสั่งพ่อเหมือนอิจิโร่ เพราะเขาไม่ได้สนใจทรัพย์สินของตระกูลอยู่แล้ว หลังจิโร่หนีคดีแถมนาโอโกะก็ถูกไล่ออกจากบ้าน ทำให้คนในบ้านลดลงเรื่อยๆ อำนาจต่อรองของซาคุเอม่อนก็ลดน้อยลง เพราะไม่เหลือคนที่จะแบ่งมรดกกับอิจิโร่เท่าไหร่แล้ว สิ่งดีของซาคุเอม่อนคือรักอายาโกะลูกสาวแท้ๆของตนเองด้วยใจจริง แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เพราะช่วงหลังอิจิโร่ใหญ่กว่า หลังซาคุเอม่อนล้มป่วยเป็นอัมพาตกลางเรื่อง ความหวังที่จะช่วยอายาโกะก็เลือนรางลงไปด้วย และสุดท้ายมรดกที่เขาทิ้งไว้ให้ซูเอะให้ดำเนินชีวิตกับลูกสาวต่อไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรทั้งซูเอะและอายาโกะได้

คนสุดท้ายที่แม้บทบาทจะน้อยแต่จะลืมเสียมิได้คืออิบะ แม่ของพวกจิโร่ อิบะเหมือนกับซูเอะคือเป็นหญิงยุคเก่าที่ก้มหน้ายอมรับการกระทำของสามีทุกอย่าง หรือกระทั่งซาคุเอม่อนมีเซ็กซ์กับหญิงอื่นไปทั่วก็ไม่มีปากมีเสียงจะต่อว่า อิบะไม่ต้องการจุดเปลี่ยนของชีวิตแต่จะอดทน เพราะเธอใช้ชีวิตอยู่กับสังคมแบบเดิมมานานมากและคงใช้ชีวิตที่ต้องอดทนอยู่แบบนี้ต่อไป ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ภาพของอิบะกลับไม่ให้ความรู้สึกของผู้หญิงอ่อนแอที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง แต่กลับเป็นหญิงเข้มแข็งที่มั่นคงกับสถานะของตนเองโดยไม่หวั่นไหวมาทั้งชีวิต ตัวอิบะนั้นสะท้อนภาพคุณแม่ของทุกคนที่เฝ้ารอคอยลูกๆอยู่ที่บ้านตลอดมา ยินดีกับความสำเร็จของลูก เสียใจกับการทำผิดของลูก ทุกคนต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้คุณแม่ที่รักเราต้องเสียใจ จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าแม้พวกเท็นเงแต่ละคนจะมีปมต่างๆแตกต่างกันออกไปแต่ทุกคนล้วนเกรงใจแม่ วันที่จิโร่กลับมาบ้านนั้น เขาไม่กล้าสู้หน้าแม่แล้ววิ่งหนีไป แต่แม้เห็นแค่หลังแว้บเดียวอิบะก็จำได้ทันทีว่านั่นคือลูกชายของเธอ

สุดท้ายอิบะ เท็นเง ยังคงเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านอันว่างเปล่า เราไม่อาจทราบได้ว่าอนาคตของอายาโกะจะเป็นอย่างไร ภรรยาคนใหม่ของอิจิโร่ยังอยู่บ้านนี้หรือไม่ หรืออาจมีใครไปมีลูกที่อื่นไว้อีก แต่ตราบเท่าที่อิบะยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ยังคงรอพวกลูกๆอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่างแน่นอน



ภาษาที่พวกเท็นเงใช้นั้นเป็นภาษาถิ่น แสดงถึงความเป็นคนโยโดยามะ (ฉบับภาษาอังกฤษแปลเป็นภาษาของรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ) แต่ตอนแปลไทยถ้าผมใช้ภาษาใต้ โทนเรื่องคงเปลี่ยนจากเครียดเป็นตลก หรือไม่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เลยขอใช้ภาษาพูดแบบปกตินะครับ



แบ็คกราวด์ของเรื่องนี้พูดถึงญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลก ในที่นี้คือสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งสิ้นสุดลงในปี 1945 (เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1949) ญี่ปุ่นนั้นถูกสหรัฐเข้าควบคุมตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลก จนถึงปี 1952 โดยประเทศพันธมิตรพยายามทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศประชาธิปไตย กระจายอำนาจออกจากส่วนกลาง ลดกำลังทางทหาร และก่อตั้งเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง สภาพจักรวรรดิของญี่ปุ่นก็ถูกทำให้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่อยู่ใต้ระบอบประชาธิปไตย บทบาทของทหารและองค์จักรพรรดิลดลง ตึกรามบ้านช่องเติบโตขึ้นมาก ในการ์ตูนหลายเรื่องเราได้เห็นช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังแพ้สงคราม เอาที่ใกล้ตัวหน่อยก็พ่อของโนบิตะนั่นละครับ แต่หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นไปญี่ปุ่นได้ราวกับฟื้นขึ้นมากลายเป็นอีกประเทศหนึ่ง



ชนบทของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก


ตัว อ.เทะสึกะเองก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยสายตาของตนเอง วัยเด็กอาจารย์ก็เหมือนกับเด็กญี่ปุ่นคนอื่นๆ ซึ่งถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เขาอ่อนแอกว่าคนอื่นๆ และเกลียดสงครามมากๆถึงขนาดหนีค่ายกลับมาบ้าน แต่คุณแม่ก็บอกให้อดทนอีกนิดแล้วช่วงเวลาเลวร้ายจะผ่านพ้นไป ตอนอยู่ค่ายเขาเคยติดเชื้อจนเกือบต้องตัดแขนทิ้ง แต่คุณหมอก็ช่วยรักษาจนหายขาด ทำให้ อ.เทะสึกะสำนึกในบุญคุณหมอท่านนั้นและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบแพทย์มา ถึงอย่างไรเขาก็ทิ้งการ์ตูนที่รักที่สุดมาตลอดชีวิตไม่ลง สุดท้ายก็เขียนการ์ตูนเป็นอาชีพหลักมาหลายสิบปี และ อ.เทะสึกะได้ถ่ายทอดประสบการณ์หมอลงในผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่อง "แบล็คแจ็ค" ซึ่งตัวเอกของเรื่องก็ได้รับการรักษาจากหมอคนหนึ่งจนรอดจากความตายมาได้ และก้าวเดินในเส้นทางของหมอ เช่นเดียวกับตัว อ.เทะสึกะ

เรื่องราวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกที่อาจารย์ใช้ชีวิตมานั้นได้ถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดในเรื่องอายาโกะ ทั้งสภาพบ้านเรือนตั้งแต่ยุคที่ อ.เทะสึกะ ยังเด็ก ความเป็นอยู่ของผู้คน สถานการณ์การเมืองต่างๆ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ข่าวดังในยุคนั้น การปฏิรูปการถือครองที่ดิน และอื่นๆ ที่นำพาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ญี่ปุ่น จากประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสองพันปี ถูกเปลี่ยนกลายเป็นอีกประเทศหนึ่งภายในช่วงเวลาไม่กี่สิบปี โดยเฉพาะยิ่งจากสายตาของอายาโกะ ช่วงเวลาที่เธอถูกกักขังตัดขาดจากโลกภายนอกนั้น เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนแปลงไป โลกที่เธอได้ออกมาเห็นอีกครั้งจึงราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง เหมือนกับ อ.เทะสึกะได้หลับตาลงนึกถึงอดีตในยุค 40s แล้วลืมตากลับมามองยุค 70s ซึ่งเป็นช่วงเวลาปัจจุบันที่กำลังเขียนเรื่องนี้อยู่ แม้จะแตกต่างและยากที่จะทำความคุ้นเคย แต่ก็สดใสและอบอุ่นมากขึ้น ที่สำคัญคือมันเป็นโลกที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตั้งแต่นี้ไป

"โลกมันเปลี่ยนไปมาก พวกเราเองก็แก่มากแล้ว" เป็นประโยคที่อิบะคุยกับสารวัตรเกตะตอนจบเรื่อง แสดงให้เห็นถึงสายตาของคนที่เห็นโลกมาตั้งแต่ก่อนสงครามจนถึงสิ้นสุดสงคราม และรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

คราบเลือดและซากปรักหักพังของสงครามได้ถูกล้างให้เลือนไปจากประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับอดีตที่อายาโกะต้องก้าวข้ามไป ความขัดแย้งของโลกภายนอกที่ดำเนินมาเรื่อยหลังสงครามก็เหมือนกับบรรยากาศแห่งความตายอันน่าขนลุกที่อายาโกะต้องทนอยู่กับมันตลอด 23 ปี ถ้าอดทนผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ก็จะพบกับแสงสว่างที่รออยู่ปลายทาง ญี่ปุ่นที่ก้าวสู่ยุค 70s ซึ่งความบาดหมางคลี่คลายลงไปและผู้คนกลับมาดำเนินชีวิตในสังคมที่สงบสุขนั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับอายาโกะที่ก้าวออกจากห้องที่มืดมิดและความเลวร้ายของครอบครัวไปสู่อิสระภาพ






ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาเป็นเวลายาวนาน (2 เดือน)
ขอขอบคุณ อ.เทะสึกะ ที่เขียนการ์ตูนเรื่องเยี่ยมนี้ให้พวกเราอ่าน
ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ Vertical ที่นำเรื่องนี้มาตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ผมได้มีโอกาสอ่านการ์ตูนเรื่องเยี่ยมนี้อีกครั้ง หลังจากเขียนไปแล้วถึง 40 ปี
และหาก VBK หรือสำนักพิมพ์ใดๆในประเทศไทย จะนำการ์ตูนเรื่องอายาโกะ รวมทั้งผลงานชิ้นเยี่ยมอื่นๆของ อ.เทะสึกะ ที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ในประเทศไทย มาพิมพ์ให้นักอ่านชาวไทยได้อ่านกันถ้วนหน้าก็จะขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง




Create Date : 18 มกราคม 2556
Last Update : 7 สิงหาคม 2560 21:47:27 น. 77 comments
Counter : 18541 Pageviews.

 
สวัสดีตอนดึกๆ ครับคุณชีริว .....

และแล้วก็ได้อ่านตอนจบของบล็อกการ์ตูนเรื่องนี้ซะที จะว่าจบแบบ Happy Ending ก็ดูจะพูดได้ไม่เต็มปาก แต่ถ้าถามว่าจบแบบนี้ดีไหม ผมว่าก็โอเคนะครับ ....

การ์ตูนเนื้อหาค่อนข้างแรงขนาดนี้ ผมว่าวิบูลย์กิจไม่กล้านำมาตีพิมพ์แน่นอนครับ .....

ปล. บล็อกนี้ผมอ่านละเอียด จบหมดทุกส่วน (ผิดกับบล็อกประวัติศาสตร์โยนก 555) พิสูจน์ได้จากที่ว่าผมเจอจุดผิดอยู่หนึ่งที่ในหน้าการ์ตูน ตรงหน้าที่ชิโร่โยนระเบิดให้ถ้ำถล่ม แล้วถูกหินทับ อายาโกะบอกว่า "พี่จิโร่ ตายแล้ว" จริงๆ ต้องเป็น "พี่ชิโร่ ตายแล้ว" ใช่ไหมครับ ....




โดย: NET-MANIA วันที่: 18 มกราคม 2556 เวลา:23:10:47 น.  

 
ใช่คร้าบ... เจอตอนอ่านทวนหลังกดส่ง เลยแก้แล้วด้วย แต่ไม่ทันคุณเน็ตอ่านเจอซะก่อน


โดย: ชีริว วันที่: 18 มกราคม 2556 เวลา:23:12:31 น.  

 
แหล่มจุงเบย


โดย: อุ้มสี วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:0:01:39 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog

รอตอนสุดท้ายอยู่เลยครับ สนุกมากกกกกก


โดย: Don't try this at home. วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:2:24:09 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

อ่านจบ
โหวตให้ก่อนเลยครับในสาขาการ์ตูน

สุดยอดมากๆ

เรื่องนี้แรงมากนะครับ
เนื้อหาซับซ้อน

ประเด็นที่พี่ก๋ารู้สึกคือ
เขาพูดถึงการลบล้างความกลัว
การอยู่กับความกลัว
และบาดแผลในใจที่ถูกสร้างขึ้นจากความกลัว

คนเขียนเก่งมากครับ
ที่ตีความจนกลายมาเป็นการ์ตูนหนึ่งเรื่องได้






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:5:54:56 น.  

 
ทักทายสวัสดีครับคุณชีริว

มาอ่านกันตอนจบของเรื่องพอดีเลยครับ

วัดในตัวเมืองเชียงใหม่ หรือ รอบๆ ตัวเมืองเชียงใหม่
มีหลายๆ วัดที่น่าสนใจที่เดินเที่ยวชม หรือ ศึกษาทั้งประวัติ ศิลปวัฒนธรรม กันได้อยู่มากมายเลยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:8:58:06 น.  

 
มาแล้ววววววววววว

มาลงชื่อและก็อ่านอายาโกะ

อย่างกระหายกันก่อน
เห็นแว้ปๆ มีภาพ กระดุ้ยๆ ด้วยอะ



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:10:04:26 น.  

 
สวัสดีค่ะ

คุยเรื่องนี้ให้ลูกชายฟัง วัยรุ่นค่ะ ก็อยากอ่านขึ้นมาทันที
พี่เลยบอกมาอ่านในบล็อกแล้วกัน

เนื้อหาแรง

แต่ก็เป็นความจริงที่ปฎิเสธไม่ได้

อยากให้ อาจารย์ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

มาอ่าน เรื่องนี้ แล้วตีความ วิจารณ์ค่ะ



โดย: ตาลเหลือง วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:10:18:53 น.  

 
คุณชีริวติดสายสะพายแล้ว ดูดีมากๆครับ

เอิ้กๆ

ยินดีด้วยๆ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:11:38:02 น.  

 
อ่านหมดแล้วอึ้งงงงงงงงงง เม้นแทบไม่ออก
เกิดความรู้สึกประมาณว่า ก้าวขาไม่ออกเพราะความสังเวชนี่แหละคุณชีริว

หาอีโมสั่นไม่ค่่อยเจอ อารมณ์ที่ได้อ่านประมาณนี้นะ



สิ่งที่ได้อ่านและสงสัยคือ กว่า 20 ปีแล้ว คดีฆ่าคนตอนนั้นยังไม่หมดอายุความหรือไงนะ
ถึงตามสืบ ตามล่ามาจนเช็ดตลอดศก

อิจิโร่ก็วนเวียนแต่หลุมฝังศพซูเอะอยู่นั่นแหละ โดยไม่รู้ว่าชิโร่ ขุดเอากระดูกไปฝังที่อื่นแล้ว กำจริงๆ 555+

ชิโร่เอง ดูก็ไม่ต่างจากคนรับบทขับเครื่องบินชนตึกคู่ในวันที่ 11 กันยาที่เมกาคึกโครมนะว่าไหม
ระเบิดพลีชีพจริงๆ แต่จะดีเหรอซั่มน้องตัวเองทุกๆ วันแล้วมาบอกว่าที่ทำไปนะ เพราะรักนะ อร๊ายยยยยยยยยย

เรื่องนี้ถ้าตัดเรื่องคดีความและการเมืองอันสับสนไปรินว่าก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวอายาโกะลดความน่าสนใจแม้แต่นิดเดียวนะ
แต่พวกเรื่องพัวพันการเมืองไรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกลับกลายเป็นการเพิ่มประเด็นแตกออกไปอีกต่างหาก เพิ่มบทและเรื่องราวในเรื่อง
แต่ยังไง อายาโกะก็ยังเป็นหมากเดินเรื่อง


ดูท่าจิโร่ แสดงความรักน้องมาตลอด รวมเงินในบัญชี 50 ล้านเยน อัยย๊่ะ 555+
อายาโกะส่งมาในลัง แปลกอีกว่า มาตามที่อยู่ได้เป๊ะไม่หลงทาง ทั้งที่เพิ่งออกมาจากห้องใต้ดินแท้ๆ




ฮานาโอะ เองก็เป็นตัวช่วยของเรื่องและรู้เรื่องราวชั่วๆ ของตะกูลเท็นเง ทำให้อายาโกะเค้าอยู่ด้วยและคุยด้วยอย่างสบายใจมาก ตอนแรกรินก็คิดว่า หมอนี่เป็นสายลืบ สายลับของพ่อเค้าอะป่าวนะ มีส่วน ๆ อิอิ ตอนหลังก็เด็ดสะมอเร่หมดเลยงี้


ช่วงการอวสานของเรื่องนี้บอกได้เลยว่า คือการอยู่แบบกรรมตามสนอง
การที่คนหนึ่งอดีตมีการทำการชั่วร้ายปกปิดมาตลอด
ความชั่วร้ายนั่นจะทำให้อยู่อย่างหวาดระแวงหลบๆ ซ่อน ๆ มาทั้งตระกูล




สุดท้ายเหลือใคร อิบะ แก่ๆ คนเดียวทั้งตระกูล ที่จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้นาน ล่มสลายภายในระยะเวลาอันใกล้แน่ๆ ตระกูลนี้ อิอิ



เรื่องนี้ก็ได้เห็นว่า จุดจบที่ทุกคนได้รู้สึกเหมือนที่อายาโกะได้รับรู้คือการได้อยู่ในห้องมืดๆ มาตลอด 23 ปีนั้นเป็นอย่างไร
ได้รู้รสชาติแ้ล้ว การที่พวกเค้าได้ตายไปเนี่ย สมกับผลกรรมนั้นๆ หรือยังนะ

สุดท้าย อายาโกะ หายไปไหนไม่มีใครรู้เรื่องราวต่อไป
กลายเป็นปมปริศนา
จึงมีการกำเนิน โคนันคุง และโคโกโร่นิทราเล่มต่อมา
555555555

เลอะเลือนแระ





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:12:06:23 น.  

 
กดไลท์และโหวตการ์ตูนโลดดด


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog


เอามาลงอีกนะเรื่องแบบนี้ พวกสะท้อน สะเืทือนใจดี ชอบๆ



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:12:07:35 น.  

 
ในที่สุด ทุกคนตะกูลเท็นเง ก็ได้ไปมุดในถ้ำ ได้รับรู้ความรู้สึกเดียวกับอายาโกะแล้ว



โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:13:51:50 น.  

 


จะว่าไปสาวน้อยมาโดกะ นี้ก็การ์ตูนออกมืดๆ แต่สนุกร้อยเหมือนกัน
หลับที่ทำงานอันตรายจริง ๆฮะ


โดย: OniZukA-Lee วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:13:53:56 น.  

 
มาแสดงความยินดีกับน้องเอ็มด้วค่ะ อ่านการ์ตูนจนจบเลยค่ะ เรื่องแรงจริงๆ พี่กิ่งว่าเข้ามาไทยคงโดนเซ็นเซอร์อาน ตอนจบเรื่องตายหมดเหลือ อายาโกะ เพียงคนเดียวเรื่องแบบนี้จะว่าไปจบแบบนี้น่าจะแฮปปี้แต่ก็นะเหลือเพียงคนเดียวควรเศร้ามั๊ยเนี่ย อิอิ แต่พี่กิ่งสงสารฮานาโอะนะไม่น่าตายไปด้วยเลยเนาะ อวสานแล้วพี่กิ่งอ่านจนจบเลยนะยาวมากๆๆๆๆๆ

ส่งข่อดอกไม่มายินดีกับสายสะพายด้วยจ้า





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:16:08:47 น.  

 
แหะ แหะ ช่อดอกไม้จ้า พิมพ์ผิดอีกแล้วววววว



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:16:10:23 น.  

 
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ

เข้าบล็อกนี้ทีไรเต็มอิ่มทุกที.. เยี่ยมค่ะ


โดย: ป้าโซ วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:17:09:45 น.  

 
เก่งจังเลยค่ะ ชื่นชมๆ


โดย: sawkitty วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:19:31:18 น.  

 
ชอบเลย


โดย: panwat วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:20:42:11 น.  

 
อะโหยย!!!!ท่านชีริวววววววค๊าบบบบบบ!!!!!!!
อายาโกะเน่ดราม่าตัวพ่อเลยนะคะเนี่ยยยอ่านแร่ะสะเทือนใจอ่ะแพมอ่านได้ครึ่งเรื่องใช้เวลาครึ่งชมฟ่าๆ ไปถูกเลยเม้นท์อารัยดีว๊าาา..
มนุษย์ที่อาศัยยุในห้องใต้ดินมาแต่เด็กจนเติบโตมา27ปีโหๆแบบว่ามันรัดทดใจชะมัดอ่ะ..(ต้องหยุดงับสาหร่ายเลยเน๊(--)"แบบว่าตอนที่ไปเล่นกระโดดกับเด็ก..และตอนที่พึ่งจะทำความรู้จักความรัก ..โอ้ยๆๆๆๆ "รักบิดเบี้ยว "มันเงี้ยหร๊อนึกว่าจะมีอิโรติคซะแล้วว อ่านไปบางทีก็รู้สึกเห็นใจจิโร่เหมือนกันทั้งอานาโก๊ะจะรักษาสภาพจิตใจกับชีวิตที่ถูกกดทับให้ยุในสิ่งแวดล้อมทึมเทาบรรยากาศมาคุอันเงียบเหงาในเวลาที่ล่วงเลยมานานขนาดนั้นมันนานมากนะนี่กว่าจะปรับตัวเข้ากับชีวิตจริงนี่มันชีวิตดราม่า...เจ๋งๆๆ นี่นาชีวิตแบบนี้มันช่าง .....เฮ้อเกิดเป็นแมวบ้านยังดีกว่าเลยนะ..เฮ้อๆๆๆๆกลับไปตั้งหลักใหม่...



เด่วจะรอดูธีมการ์ตูนปี 2013 รางวัลเหรียญเงินของท่านชีริวได้มาต้องอัพการ์ตูนเยอะกว่าเดิมเน๊ท่านเอนมากระซิบให้ได้ยินขออลังการๆๆด้วยนะ อิอิ แพมๆจะปล่อยวาโย(สายลม)พัดผ่านหวังว่าธีมจะยุดีไม่ปลิวไปตามสายลมนะค่ะ ฟูว์~~~~~~~



โดย: mastana วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:23:26:29 น.  

 
กดlkeก่อนนนนนนนน++++++++
เด่วมาโหวตพรุ่งนี้น๊าจร้าาาาาาาาาาาาาาา



โดย: mastana วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:23:27:56 น.  

 
ไม่ได้ติดตามตั้งแต่ต้น เลยหลงทาง อิอิ
จะรอบล๊อกหน้านะคะ

ที่บ้านส่วนมากจะมีแต่เพลงเก่าๆค่ะ
ถ้าชอบก็แวะไปฟังอีกนะคะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:3:12:55 น.  

 
เฮ้อ อ่านจบอย่างหดหูอ่ะคุณชีวิว จบได้เจ็บปวดมากสำหรับคนใจอ่อน แต่ก็นะ มันก็ทำท่าว่าจะไม่แฮปปี้สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้วละ ก็แต่ละตอนบีบคั้นอารมณ์ซะขนาดนั้น
---
ให้ประมาณนั้นแหละค่ะ ถ้าจำไม่ผิด เยอะขนาดนี้ยังเอาลงไม่หมดอ่ะ เซ็งจริงๆ
ยิ่งเทคโนโลยีล้ำหน้า อะไรๆ ก็ง่ายขึ้นค่ะ ขนาด mail ยังใหญ่ขึ้นเลย

แวะมาทักทายยามสายๆ ค่า มีความสุขกับวันหยุดนะคะ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:9:56:41 น.  

 
แวะมาเยี่ยมพร้อมหอบดอกไม้ช่อโตมาแสดงความยินดีค่ะคุณชีริว(ลืมชือเล่นไปสะแระ/ไม่ได้คุยกันนานเบย) -..-

คนที่ถูกขังอยู่ในที่มืดและแคบแบบฮายาโกะ...มักจะเป็นคนที่พิกลพิการทางจิตไม่มากก้อน้อย ฉัตรอ่านแล้วนึกถึงละครทีวีเรื่องนึง ที่นางเอกถูกผลักเข้าไปอยุ่ในห้องใต้ดินที่ถูกลืม และถูกขังอยู่อย่างนั้นจนตาย
ได้แค้นใจจนเกิดใหม่ แต่เมื่อไหร่ที่เห็นที่แคบๆ จะหวาดกลัว
(ลืมชื่ออีกแหละค่ะ) ^ ^!

สนุกดีค่ะ
อานเพลินไปเลยเหมือนกัน แต่ไม่ทั้งหมด ฉัตรอ่านไปกระโดดไปอ่าคุณชีริว
(คุณเอ็ม....ใช่มิ ) ฮรี่ๆๆ พอจะนึกออกบ้างแระ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:14:10:29 น.  

 
เจอกันเดือนหน้า เดือนแห่งความรักครับคุณชีริว


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:14:15:18 น.  

 
สุดยอดจริงๆ วันนี้ตอนจบแล้ว นี่ท่านทุ่มเทกับเอนทรี่นี้มากเลยทีเดียว ไม่โหวตให้ไม่ได้หรอก

เรื่องนี้สุดยอดจริงๆ ไม่คิดว่าจะจบแบบนี้เหมือนกัน จะเรียกว่ากรรมสนองดีมั้ยเนี่ยะ

ในเรื่องตอนหลังๆ ก่อนจบ ถ้าเราเจอสถานการณ์แบบนั้นจริง ก็ต้องทำให้ได้แบบในเรื่องนะ ตัวอันตรายต้องกำจัดทิ้งก่อนจริงๆ รอดออกไปค่อยว่ากันทีหลัง ถึงจะดูโหดไปและอาจขัดต่อมโนธรรมไปบ้างแต่ถ้าคิดถึงเรื่องการเอาตัวรอดก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แม้ว่ามันจะเห็นแก่ตัวไปบ้างก็ตาม

นี่ท่านจะโดดตะพาบอีกแล้วหรือนี่ (ฮา) ขอให้ท่านอัพเกรดล็อคอินให้ได้นะครับ


+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:15:18:26 น.  

 


แสดงว่าคุณชีริว อินสุดๆเลยสิเนีย
ตอนนี้ยังหา อนิเมะมาติดงอมแงมไม่ได้เลยฮะ


โดย: OniZukA-Lee วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:17:17:45 น.  

 
แล้วอายาโกะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ยังไงเนาะ

เธออยู่ด้วยความหวังในถ้ำมืดๆ ถึงจะเคยคุ้นก็เถอะ อายาโกะอยู่กับคนที่หมดลมหายใจลงไปทีละคนๆ หลอนวุ้ย อีกหนึ่งความทรงจำอันเลวร้ายเลยเนี่ย


วิธีการ "เปา" เป็นจุดขาย คืออะไรคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:18:48:04 น.  

 
สวัสดีจ้าน้องเอ็ม พี่กิ่งว่าน้องเอ็มทำบล้อกการ์ตูนเก่งแล้วค่ะ ขอให้พัฒนาต่อไปนะคะ อาจจะมีแนวใหม่เก๋ไก๋กว่าเดิมนะคะ

แล้วพี่กิ่งจะมาเป็นกำลงใจให้ต่อไปค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:20:21:47 น.  

 
ทักทายสวัสดีกันยามค่ำคืนวันอาทิตย์วันหยุดพักผ่อนครับ

งานที่เชียงรายได้เห็นจากภาพถ่ายมาบ้างเหมือนกันครับ
ดูว่าเชียงรายจะจัดงานที่มีความยิ่งใหญ่อลังการได้มากขึ้นเรื่อยๆ เลยครับ

น่าตามไปเที่ยวทุกๆ งานเลยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:20:36:22 น.  

 
ดีค่ะ ขอเรื่องเบาๆ ที่อ่านแล้วยิ้มหรือหัวเราะได้ก็ดีค่ะ จะได้สดชื่นรื่นรมย์ 5555

สวัสดียามบ่ายค่าคุณชีวิว มีความสุขกับการทำงานนะคะ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:13:34:35 น.  

 
รีวิวได้เจ๋งมากตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้ายเลยครับ
เนื้อเรื่องจบได้สวยนะครับ (แต่ผมว่า...ผมเดาตอนจบได้นะ ^^)
พออ่านเรื่องชีวิตของผู้โตมากับความมืดชีวิตของอายาโกะ
ผมก็นึกไปถึง Earthsea เล่มที่ 2 เลยครับ ^^

"เทนาร์" หญิงสาวที่มีชะตากรรมอยู่กับดันเจี้ยนแห่งความมืดตั้งแต่ยังเด็ก
ในที่มืดมิดมันน่าอึดอัดจริง ๆ ครับ ใครต่อใครแม้แต่ผู้วิเศษก็ต้องสยบ
ก็คงมีแต่ผู้ที่โตมากับความมืดอย่าง เทนาร์และอานาโกะ นี่แหละครับ
ที่มีพลังชีวิตเหนือใครในสถานที่และสถานการณ์แบบนี้




ป.ล. เพื่อความสมบูรณ์ของบทความนี้ มีแก้ข้อความนิดหน่อยครับ
ในย่อหน้าก่อนถึงรูปที่อายาโกะเล่นโดดหนังยาง
"ทางด้านนาโอโกะแอบออกมาจากบ้านของจิโร่ "
น่าจะเป็น "อายาโกะ" มั้งครับ ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:16:26:19 น.  

 
เดี๋ยวไปจัดการแพม แพม ให้ นะ 555

ก๊ากกกกก

คุณพี่สบายดีนะ

อยากเป็นอายาโกะ น่ารักดี อิอิ


โดย: maitip@kettip วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:17:40:48 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาแสดงความยินดีช้ากว่าใครเลย ทั้งคอมทั้งบล็อกรวนได้ใจจนเซ็งเลยค่ะ ล็อกอิน แปะรูปหรืออีโมก็ไม่ได้สักกะอย่าง

ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่ได้สายสะพาย เหมาะสมมาก ๆ คุณภาพการเขียนพอ ๆ กับแชมป์สายสะพายการ์ตูนอย่างคุณต่อเลย ขอให้ปีหน้าขอให้ได้รางวัลอีกค่า ^_^


โดย: haiku IP: 110.171.86.30 วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:22:22:18 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม ให้ความเห็น และชี้จุดแก้ไขครับ

วันนี้มาพูดคุยท้ายเรื่อง ขอเล่าเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เห็นว่าน่าสนใจเพื่อเก็บประเด็นต่างๆเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการกระทำของตัวละครขยายความจากที่อ่านในบล็อกครับ


เทะสึกะ โอซามุ ผู้เขียนเรื่องอายาโกะ


สำหรับเรื่องอายาโกะนี้นับเป็นการ์ตูนที่มืดมนที่สุดเรื่องหนึ่งที่ อ.เทะสึกะ เทพเจ้าแห่งวงการการ์ตูนญี่ปุ่นเขียนขึ้นมา แม้จะไม่มีสิ่งมหัศจรรย์หรือเหตุการณ์ระดับโลกที่เป็นตัวชูโรงของเรื่องเหมือนกับเรื่องอื่นๆ แต่ความเฉียบคมในการดำเนินเรื่องและงานภาพที่ยอดเยี่ยมล้ำยุคสมัย (ย้ำอีกทีว่าเรื่องนี้เขียนในปี 1972-1973) ก็ทำให้อายาโกะได้รับเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ดีมาก สำหรับเว็บวิจารณ์หนังสือการ์ตูนที่ให้นักอ่านทั่วไปเข้ามาเรตคะแนนให้นั้น คะแนนเสียงจะค่อนข้างแตก คือมีทั้งคนที่ให้คะแนนสูงมากเพราะชอบเนื้อเรื่อง และคนที่ให้คะแนนต่ำมากเพราะขยะแขยงการกระทำของตัวละครและไม่คาดคิดว่าการ์ตูนของ อ.เทะสึกะซึ่งพวกเขาเข้าใจว่ามีแต่สไตล์แบบดิสนีย์ จะออกมาแรงขนาดนี้ ...ซึ่งอันที่จริงเห็นปกหน้า (สาวเปลือย) ปกหลัง (คนแขวนคอ) และเรต (16+) ก็ควรจะรู้ตั้งแต่หยิบขึ้นมาแล้วว่านี่ไม่ใช่การ์ตูนแนวเดียวกับที่ อ.เทะสึกะเขียนในช่วง 50s-60s แต่เป็นการ์ตูนไซเน็น (การ์ตูนผู้ใหญ่) ที่เนื้อหาหนัก ควรเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก แต่อายาโกะก็ไม่ใช่การ์ตูนที่ตะบี้ตะบันเข้าดาร์คไซด์อย่างเดียวนะครับ นอกจากจะฉายภาพประวัติศาสตร์อย่างละเอียดอ่อนแล้วเรื่องนี้ยังมีประเด็นการกระทำของตัวละครต่างๆที่น่าสนใจอีกมาก


ปกอายาโกะฉบับภาษาฝรั่งเศส


ตัวอายาโกะเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ต้องเผชิญชะตารับกรรมของตระกูลที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ การถูกเลี้ยงดูในห้องที่มืดมิดมาตลอด 23 ปี ทำให้การเรียนรู้ของอายาโกะถูกจำกัดอยู่เฉพาะสิ่งที่ซูเอะและชิโร่เป็นคนสอนไว้ แม้จะอ่านออกเขียนได้ แต่อายาโกะขาดปฏิสัมพันธ์และไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติต่อผู้อื่นหลายอย่าง ตอนที่เธอได้เล่นสนุกกับพวกเด็กๆในสวนสาธารณะนั้น อายาโกะแจกเงินให้เด็กเป็นฟ่อนๆจนพวกคุณแม่ตกใจ

โดยเฉพาะเรื่องความรักนั้น อายาโกะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปมาก เธอเข้าใจว่าเมื่อชายหญิงคู่หนึ่งชอบพอกันแล้วจะต้องแสดงออกถึงความรักด้วยการมีสัมพันธ์กัน ตอนที่อายาโกะได้ซั่มกับชิโร่ครั้งแรกนั้นเธอขอร้องจนชิโร่ต้องยอมมีอะไรด้วย และพบว่าตัวเธอก็มีความสุข พี่ชิโร่ก็มีความสุข และตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า มีอิสระจากห้องใต้ดินนั้น หลังจากได้ออกมาโลกภายนอก เมื่ออายาโกะรู้สึกรักชอบใครก็หาทางจะติงนังกับเขาไปหมด ดังที่มนต์สิทธิ์เคยสอนไว้ว่า "รักจริงจริงให้ติงนัง ติงนังถี่ๆ"


นอกจากชิโร่แล้ว เหยื่อคนอื่นๆของอายาโกะก็เช่นฮานาโอะและจิโร่ แต่จิโร่เข้มแข็งพอที่จะข่มความอยากของตัวเอง แล้วพาอายาโกะไปบำบัดซะเลย

ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของอายาโกะหลังตอนจบจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลังจากคำพูดสุดท้ายของชิโร่นั้นอายาโกะได้เปลี่ยนความกลัวให้เป็นพวกเดียวกับเธอได้แล้ว บางครั้งแม้จะเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ทัศนคติและประสบการณ์ที่แต่ละคนมีต่อสิ่งนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าพวกเขาจะรับรู้มันในรูปแบบไหน อายาโกะเคยหวาดกลัวความมืด แต่เธอยอมรับและทำความคุ้นเคยกับมัน จนความมืดทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว ถ้ำอันมืดมิดก็เป็นเหมือนกับห้องใต้ดินที่เธออาศัยอยู่มาทั้งชีวิต ในขณะที่คนอื่นๆต่างพากันหวาดกลัวเมื่อต้องพบกับสภาพเดียวกับที่อายาโกะอยู่นี้

สำหรับอายาโกะนั้นซูเอะเป็นความทรงจำที่อบอุ่น เมื่อกลับมาอยู่ในห้องมืดทึบเหมือนที่เคยอยู่ในอดีต เธอก็ร้องเพลงของซูเอะเพราะคิดถึงวัยเด็กที่ซูเอะแม่แท้ๆของเธอคนนี้ร้องกล่อมให้เธอนอน ในทางกลับกันเพลงเดียวกันนี้ก็ได้หลอกหลอนอิจิโร่ที่ถูกซูเอะตามหลอกหลอนมาตลอด เพราะสำนึกผิดที่ฆ่าเธอไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ชิโร่เป็นผู้เดียวที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องและช่วยเหลืออายาโกะมาตลอด เขากล้าลุกขึ้นประท้วงคนทั้งครอบครัวที่จะขังอายาโกะไว้ใต้ดิน กล้าให้ปากคำตำรวจให้จับพี่ชายตัวเอง จนถึงขนาดถูกพี่ๆเล็งเล่นงาน แต่สุดท้ายความพยายามทั้งหมดก็ไม่สัมฤทธิ์ผล จนชิโร่รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่เขาจะทำแบบนี้อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งชิโร่นั้นรู้ดีว่าการซั่มน้องตัวเองมันผิดมาก แต่เขาเห็นว่าเป็นทางเดียวที่ช่วยให้อายาโกะมีความสุขได้เลยจำต้องรับบทไอ้ซั่มน้องสาวมาตลอด และตราบาปนี้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ดีพอที่จะทำตัวเป็นผู้ผดุงคุณธรรมไปตัดสินความผิดของพวกพี่ๆคนอื่นเลย แม้จะรู้เรื่องที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด รู้ว่าใครก่อคดีอะไรบ้าง แต่ชิโร่ก็ได้แต่เก็บไว้กับตัวตลอดมา จนในที่สุดก็ระเบิดออกมาและแก้แค้นให้อายาโกะด้วยการฝังพวกเท็นเงทั้งตระกูลลงในเหมือง พร้อมกับปิดฉากชีวิตตนเองไปด้วย


(และชิโร่ก็ทำแบบนั้นจริงๆ พูดจริงทำจริงครับ เลือกตั้งครั้งหน้าโปรดเลือกชิโร่เข้าสภา)

ซูเอะเป็นหญิงญี่ปุ่นยุคเก่าที่เป็นช้างเท้าหลังทำตามคำสั่งของสามี แสดงให้เห็นสถานะของสตรีในอดีตที่ถูกฝ่ายชายกดขี่มาตลอด เหมือนสตรีในสังคมยุคโบราณหลายแห่งที่ไม่สามารถอยู่ในสังคมได้หากไม่มีสามีคอยดูแล นอกจากถูกซาคุเอม่อนซั่มไปหลายยกแล้ว ตัวอิจิโร่เองก็ไมได้ปฏิบัติกับซูเอะดีนัก จนซูเอะบอกกับอายาโกะว่า "เขาทำเอาพี่อยากตายไปหลายรอบ" ซูเอะเคยผูกคอตายหนหนึ่งแต่ก็ได้นาโอโกะช่วยไว้ก่อน


หลังซาคุเอม่อนยกสมบัติให้ เป็นโอกาสที่ซูเอะจะได้ก้าวเดินด้วยตนเอง และออกจากชีวิตแย่ๆแบบนี้ไปเริ่มต้นใหม่กับอายาโกะลูกของตนเอง แต่ก็ถูกอิจิโร่ฆ่าตายเสียก่อน

นาโอโกะจะผิดกับซูเอะ คือเป็นหญิงหัวก้าวหน้าที่กล้าลุกขึ้นต่อสู้ นาโอโกะเข้ามามีบทบาทในวงการเมืองเพราะไปหลงรักกับทาดาชิ เอโนะ แกนนำฝ่ายซ้ายของพื้นที่โยโดยามะ และถูกชวนมาเป็นฝ่ายซ้ายด้วยกัน นาโอโกะมีบทบาทเกี่ยวข้องกับอายาโกะค่อนข้างน้อยเพราะถูกพ่อไล่ออกจากบ้านไปหลังรู้ว่าไปสนับสนุนคอมมิวนิสต์ แม้จะดูใจดี เป็นมิตร และอยู่ข้างความถูกต้องมาตลอด แต่นาโอโกะก็ไม่ได้ส่งผลผลักดันให้มีการช่วยเหลืออายาโกะอย่างจริงจังเลย อันที่จริงนาโอโกะก็แต่งงานกับแฟนใหม่มีความสุขไปแล้ว แต่ก็ต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุสลดท้ายเรื่องเพราะยังลืมความแค้นเรื่องทาดาชิไม่ลงและเข้าแทงจิโร่จนบาดเจ็บ

จิโร่นับเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญรองจากอายาโกะ และเป็นคนที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น จิโร่อยู่กับสงครามมานานทำให้มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตฆ่าคนทิ้งได้ง่ายๆ แต่เนื้อแท้นั้นจิโร่เป็นคนดีคนหนึ่งที่ถูกสภาพแวดล้อมบังคับให้เขาต้องทำในสิ่งที่ผิด


แม้จะมีภาพลักษณ์แสนชั่ว แต่จิโร่รู้สึกผิดกับอายาโกะและตั้งใจช่วยเหลืออายาโกะจากใจจริง เขาส่งเงินมาให้หลายสิบปีจนรวมได้ถึง 50 ล้านเยน และตั้งใจพาอายาโกะไปบำบัดให้หายจากการเก็บตัว โดยไม่สนเสียงคนรอบข้างที่นินทาเจ้านายว่ารสนิยมแปลก ที่ไปคบกับผู้หญิงประหลาด (คนอื่นไม่รู้ว่าเป็นน้องสาว และจิโร่ก็ปกปิดภูมิหลังของตนเอง)
จิโร่เองก็หลงรักอายาโกะเช่นเดียวกับชิโร่ แต่เขารู้ว่าการซั่มน้องมันไม่ถูกไม่ควร และเชื่อว่าฮานาโอะจะทำให้อายาโกะมีความสุขได้ สุดท้ายก็ตัดใจยอมยกอายาโกะให้ฮานาโอะไป


ในเรื่องยังมีหลายตอนเล่าถึงธุรกิจมืดและความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมาเฟียที่จิโร่เป็นหัวหน้าอยู่กับมาเฟียกลุ่มอื่นๆ ซึ่งมีเนื้อหารายละเอียดมาก และไม่เกี่ยวกับประเด็นหลักของเรื่องโดยตรง ตอนสรุปเรื่องผมจึงข้ามไปซะส่วนมาก มีหลายตอนที่จิโร่ต้องรับบทหนัก ทั้งฆ่าและเกือบถูกฆ่า หลังรอดตายกลับจากสงครามแล้ว เขายังต้องทำงานให้กองทหารสหรัฐก่อคดีฆาตกรรม ฆ่าโอเรียว ถูกชักจูงไปร่วมมือกับคินโจ ฆ่าสาวสปาย ฆ่าคู่อริ ฆ่าลูกน้อง โดนยิงถล่มรถ สืบหาต้นตอผู้บงการ ฆ่าคินโจ โดนมีดแทงคอ โดนขังในถ้ำ ฆ่ายามาซากิ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ถูกใช้งานหนักที่สุดในเรื่องนี้แล้วครับ


จิโร่รู้ตัวว่าทำเรื่องเลวร้ายมามาก เขาตั้งใจกลับมาบ้านเพื่อสารภาพกับนาโอโกะว่าเขาเป็นผู้มีส่วนร่วมกับคดีฆ่าทาดาชิ แต่ตอนนี้เขาต้องการสืบหาต้นตอว่าใครบ้างที่เป็นคนบงการอยู่เบื้องหลังคินโจจริงๆ แต่ก็ถูกนาโอโกะแทงจนบาดเจ็บ แถมโดนขังจนตายในถ้ำ หมดโอกาสทำในสิ่งที่เขาเห็นว่าถูกต้องไปซะก่อน

อิจิโร่มีกิเลสตัวใหญ่ที่สุดคือความโลภ เขาต้องการครอบครองตระกูลเท็นเงต่อไปโดยไม่สนใจวิธีการ เขายอมยกเมียตัวเองให้พ่อซั่มเช้าเย็นเพื่อแลกกับที่ดินของตระกูล ช่วยปกปิดความผิดของจิโร่ เป็นต้นคิดให้ขังอายาโกะไว้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตระกูล และเมื่อมีอำนาจมากขึ้นก็สั่งไล่คนงานออกโดยไม่ขอความเห็นชอบจากพ่อ แต่อิจิโร่ไม่ได้ฆ่าคนง่ายๆแบบไม่รู้สึกอะไรอย่างจิโร่ เขาเคยพลั้งมือฆ่าซูเอะไป และนั่นก็กลายเป็นความทรงจำที่หลอกหลอนตัวเขาไปตลอดชีวิต หลังจากฆ่าซูเอะไปแล้วอิจิโร่ก็ไม่เป็นอันทำอะไร และนำพาตระกูลตกต่ำลงไปทุกขณะ ถึงขนาดหมอยามาซากิต้องหาทางเอาเงินจากจิโร่ที่ทำธุรกิจจนร่ำรวย


ตอนจบที่เขาถูกขังอยู่ในถ้ำนั้น นอกจากต้องเข้ามารู้สึกแบบเดียวกับอายาโกะที่ตัวเองเอาไปขังแล้ว บทเพลงของซูเอะยังตามหลอกหลอนจนทำให้เขาต้องเสียสติไป เรียกว่ากรรมตามสนองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยทีเดียว

สารวัตรเกตะ เป็นตัวละครเดียวที่มาจากระบบ star system (เอาตัวละครเดียวไปแสดงในหลายๆเรื่องที่ อ.เทะสึกะเขียน) เขาเป็นศิษย์ของสารวัตรทานุมะ ตำรวจสืบสวนที่เก่งกาจ ทานุมะล้มเหลวในการจับกุมจิโร่จากคดีที่โยโดยามะในปี 1949 จึงฝากฝังให้เกตะจับตัวจิโร่ให้ได้เป็นคำขอสุดท้ายก่อนเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไป ด้วยคำสั่งเสียนี้ทำให้เกตะยังคงตามล่าจิโร่แม้คดีจะเก่าเก็บจนหมดอายุความไปแล้วก็ตาม


ฮานาโอะเป็นลูกชายของสารวัตรเกตะ เป็นเด็กตัวน้อยที่ตามพ่อมาทำงานให้เห็นบ่อยๆตอนต้นเรื่อง (อายุมากกว่าอายาโกะ 3 ปี) 20 กว่าปีผ่านไปเขาเติบโตเป็นเด็กหนุ่มรูปหล่อ ทำงานทนายและมีจิตใจรักความถูกต้องที่สืบมาจากพ่อของเขา เขาได้พบและพูดคุยกับอายาโกะที่สวนสาธารณะ ฮานาโอะเข้าใจความรู้สึกของอายาโกะเป็นอย่างดี และรู้วิธีเข้าหาคนจิตใจบกพร่องอย่างอายาโกะ ทำให้เธอไม่รู้สึกกลัวเขาเหมือนคนอื่นๆ และทั้งสองก็เริ่มชอบพอกันในเวลาอันสั้น

แม่ของฮานาโอะเคยเป็นนักโทษคดีหมิ่นองค์จักรพรรดิ หลังเธออกจากคุกทานุมะก็แนะนำเธอให้เกตะรู้จัก แล้วทั้งสองก็แต่งงานกัน ฮานาโอะถามว่าพ่อแต่งงานเพราะสงสารแม่หรือเป็นเพราะรัก และไม่แน่ใจว่าที่เขารักอายาโกะเป็นไปเพราะความสงสารหรือเปล่า แต่พ่อก็ตอบว่าหลังจากอยู่ด้วยกันมันก็ไม่สำคัญแล้วหละ นั่นทำให้ฮานาโอะมั่นใจที่จะใช้ชีวิตกับอายาโกะ และช่วยเหลือเธอจากความเลวร้ายของตระกูล แต่เมื่อได้พบกับจิโร่ก็รู้ว่าชายหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่เป็นพี่ชายของเธอคนนี้เป็นคนดีกว่าที่เขาวาดภาพไว้มาก

ตอนที่อยู่กับฮานาโอะ อาการหวาดกลัวสังคมของอายาโกะมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริงพวกเขาสามารถไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันสองคน และแกล้งปล่อยตัวให้จิโร่ออกไปสืบหาองค์กรอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังคดีชิโมคาวะก็ย่อมได้ แต่เลือดรักความถูกต้องของฮานาโอะทำให้เขาไม่ยอมให้จิโร่หนีไป และพาอายาโกะมาถึงโยโดยามะเพื่อกล่อมให้จิโร่เข้ามอบตัว จนต้องประสบเหตุที่เป็นโศกนาฏกรรมไปพร้อมๆกับพวกเท็นเงคนอื่นๆด้วย

นับว่าน่าเสียดายที่ชีวิตของฮานาโอะจบลงไม่สวย แต่ถ้าแต่งงานกันคงต้องใช้ชื่อ อายาโกะ เกตะ ฟังดูน่าเกลียดพิลึก

โอเรียวตัวละครที่มีบทบาทมากในช่วงแรกเพราะอยู่กับอายาโกะตลอดเวลา เป็นตัวละครที่สร้างสีสันและความรู้สึกแปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี เธอเป็นคนปัญญาอ่อน ในบล็อกแรกผมใช้คำว่าสติไม่ดี แต่ไม่ใช่ว่าบ้านะครับ โอเรียวเป็นคนปัญญาอ่อนคือเรียนรู้ช้า สติปัญญาไม่ดี คนทั่วไปเข้าใจว่าเธอเป็นลูกสาวของโกสุเกะชาวนาที่ทำงานให้บ้านเท็นเงมานาน แต่ที่จริงแล้วเธอเป็นลูกที่เกิดจากการที่ซาคุเอม่อนไปซั่มเมียของโกสุเกะต่างหาก ...และนั่นเป็นสาเหตุให้ซาคุเอม่อนอารมณ์ไม่ดีทุกครั้งที่เห็นโอเรียว เช่นเดียวกับที่อิจิโร่อารมณ์เสียเมื่อเห็นหน้าอายาโกะ โอเรียวเป็นตัวละครน่าสงสารที่ถูกจิโร่ฉวยโอกาสจากความปัญญาอ่อนเอาเปรียบโยนความผิดให้แบบไม่สามารถแก้ตัวให้ตัวเองได้ ไหนจะต้องรับบทโดนตบตีตลอดทั้งเรื่อง แต่นับว่าเธอยังโชคดีที่ถูกกดน้ำตายไปตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ต้องทนทุกข์อยู่ 20 กว่าปีแบบอายาโกะ

โอเรียวร้องเพลงพื้นบ้านเขตอาโอโมริให้อายาโกะฟังบ่อยๆ และเป็นเพื่อนเล่นเพียงคนเดียวของอายาโกะ แต่จู่ๆโอเรียวก็ออกไปจากชีวิตและอายาโกะถูกจับมาขังไว้ในห้องใต้ดิน ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในวันเดียว กว่าเธอจะรู้ความจริงว่าโอเรียวถูกจิโร่ฆ่าตายก็อีก 23 ปีให้หลัง



ซาคุเอม่อนผู้นำตระกูลเท็นเง เป็นเฒ่าตัญหาจัด ไล่ฟันผู้หญิงไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ลูกสะใภ้หรือเมียคนงาน พอเห็นผู้หญิงคนไหนสวยๆก็จะแนะนำให้เป็นเมียลูกเพราะตัวเองก็หวังผลพลอยได้อยู่ โชคดีที่จิโร่ไม่ยอมแต่งงานตามใบสั่งพ่อเหมือนอิจิโร่ เพราะเขาไม่ได้สนใจทรัพย์สินของตระกูลอยู่แล้ว หลังจิโร่หนีคดีแถมนาโอโกะก็ถูกไล่ออกจากบ้าน ทำให้คนในบ้านลดลงเรื่อยๆ อำนาจต่อรองของซาคุเอม่อนก็ลดน้อยลง เพราะไม่เหลือคนที่จะแบ่งมรดกกับอิจิโร่เท่าไหร่แล้ว สิ่งดีของซาคุเอม่อนคือรักอายาโกะลูกสาวแท้ๆของตนเองด้วยใจจริง แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เพราะช่วงหลังอิจิโร่ใหญ่กว่า หลังซาคุเอม่อนล้มป่วยเป็นอัมพาตกลางเรื่อง ความหวังที่จะช่วยอายาโกะก็เลือนรางลงไปด้วย และสุดท้ายมรดกที่เขาทิ้งไว้ให้ซูเอะให้ดำเนินชีวิตกับลูกสาวต่อไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรทั้งซูเอะและอายาโกะได้

คนสุดท้ายที่แม้บทบาทจะน้อยแต่จะลืมเสียมิได้คืออิบะ แม่ของพวกจิโร่ อิบะเหมือนกับซูเอะคือเป็นหญิงยุคเก่าที่ก้มหน้ายอมรับการกระทำของสามีทุกอย่าง หรือกระทั่งซาคุเอม่อนมีเซ็กซ์กับหญิงอื่นไปทั่วก็ไม่มีปากมีเสียงจะต่อว่า อิบะไม่ต้องการจุดเปลี่ยนของชีวิตแต่จะอดทน เพราะเธอใช้ชีวิตอยู่กับสังคมแบบเดิมมานานมากและคงใช้ชีวิตที่ต้องอดทนอยู่แบบนี้ต่อไป ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ภาพของอิบะกลับไม่ให้ความรู้สึกของผู้หญิงอ่อนแอที่ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง แต่กลับเป็นหญิงเข้มแข็งที่มั่นคงกับสถานะของตนเองโดยไม่หวั่นไหวมาทั้งชีวิต ตัวอิบะนั้นสะท้อนภาพคุณแม่ของทุกคนที่เฝ้ารอคอยลูกๆอยู่ที่บ้านตลอดมา ยินดีกับความสำเร็จของลูก เสียใจกับการทำผิดของลูก ทุกคนต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้คุณแม่ที่รักเราต้องเสียใจ จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่าแม้พวกเท็นเงแต่ละคนจะมีปมต่างๆแตกต่างกันออกไปแต่ทุกคนล้วนเกรงใจแม่ วันที่จิโร่กลับมาบ้านนั้น เขาไม่กล้าสู้หน้าแม่แล้ววิ่งหนีไป แต่แม้เห็นแค่หลังแว้บเดียวอิบะก็จำได้ทันทีว่านั่นคือลูกชายของเธอ

สุดท้ายอิบะ เท็นเง ยังคงเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในบ้านอันว่างเปล่า เราไม่อาจทราบได้ว่าอนาคตของอายาโกะจะเป็นอย่างไร ภรรยาคนใหม่ของอิจิโร่ยังอยู่บ้านนี้หรือไม่ หรืออาจมีใครไปมีลูกที่อื่นไว้อีก แต่ตราบเท่าที่อิบะยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ยังคงรอพวกลูกๆอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่างแน่นอน


ภาษาที่พวกเท็นเงใช้นั้นเป็นภาษาถิ่น แสดงถึงความเป็นคนโยโดยามะ (ฉบับภาษาอังกฤษแปลเป็นภาษาของรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐ) แต่ตอนแปลไทยถ้าผมใช้ภาษาใต้ โทนเรื่องคงเปลี่ยนจากเครียดเป็นตลก หรือไม่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เลยขอใช้ภาษาพูดแบบปกตินะครับ



แบ็คกราวด์ของเรื่องนี้พูดถึงญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลก ในที่นี้คือสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งสิ้นสุดลงในปี 1945 (เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 1949) ญี่ปุ่นนั้นถูกสหรัฐเข้าควบคุมตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลก จนถึงปี 1952 โดยประเทศพันธมิตรพยายามทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศประชาธิปไตย กระจายอำนาจออกจากส่วนกลาง ลดกำลังทางทหาร และก่อตั้งเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง สภาพจักรวรรดิของญี่ปุ่นก็ถูกทำให้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่อยู่ใต้ระบอบประชาธิปไตย บทบาทของทหารและองค์จักรพรรดิลดลง ตึกรามบ้านช่องเติบโตขึ้นมาก ในการ์ตูนหลายเรื่องเราได้เห็นช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังแพ้สงคราม เอาที่ใกล้ตัวหน่อยก็พ่อของโนบิตะนั่นละครับ แต่หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นไปญี่ปุ่นได้ราวกับฟื้นขึ้นมากลายเป็นอีกประเทศหนึ่ง


ชนบทของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก


ตัว อ.เทะสึกะเองก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยสายตาของตนเอง วัยเด็กอาจารย์ก็เหมือนกับเด็กญี่ปุ่นคนอื่นๆ ซึ่งถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร เขาอ่อนแอกว่าคนอื่นๆ และเกลียดสงครามมากๆถึงขนาดหนีค่ายกลับมาบ้าน แต่คุณแม่ก็บอกให้อดทนอีกนิดแล้วช่วงเวลาเลวร้ายจะผ่านพ้นไป ตอนอยู่ค่ายเขาเคยติดเชื้อจนเกือบต้องตัดแขนทิ้ง แต่คุณหมอก็ช่วยรักษาจนหายขาด ทำให้ อ.เทะสึกะสำนึกในบุญคุณหมอท่านนั้นและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบแพทย์มา ถึงอย่างไรเขาก็ทิ้งการ์ตูนที่รักที่สุดมาตลอดชีวิตไม่ลง สุดท้ายก็เขียนการ์ตูนเป็นอาชีพหลักมาหลายสิบปี และ อ.เทะสึกะได้ถ่ายทอดประสบการณ์หมอลงในผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่อง "แบล็คแจ็ค" ซึ่งตัวเอกของเรื่องก็ได้รับการรักษาจากหมอคนหนึ่งจนรอดจากความตายมาได้ และก้าวเดินในเส้นทางของหมอ เช่นเดียวกับตัว อ.เทะสึกะ

เรื่องราวของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกที่อาจารย์ใช้ชีวิตมานั้นได้ถูกถ่ายทอดอย่างละเอียดในเรื่องอายาโกะ ทั้งสภาพบ้านเรือนตั้งแต่ยุคที่ อ.เทะสึกะ ยังเด็ก ความเป็นอยู่ของผู้คน สถานการณ์การเมืองต่างๆ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ข่าวดังในยุคนั้น การปฏิรูปการถือครองที่ดิน และอื่นๆ ที่นำพาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ญี่ปุ่น จากประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสองพันปี ถูกเปลี่ยนกลายเป็นอีกประเทศหนึ่งภายในช่วงเวลาไม่กี่สิบปี โดยเฉพาะยิ่งจากสายตาของอายาโกะ ช่วงเวลาที่เธอถูกกักขังตัดขาดจากโลกภายนอกนั้น เป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนแปลงไป โลกที่เธอได้ออกมาเห็นอีกครั้งจึงราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง เหมือนกับ อ.เทะสึกะได้หลับตาลงนึกถึงอดีตในยุค 40s แล้วลืมตากลับมามองยุค 70s ซึ่งเป็นช่วงเวลาปัจจุบันที่กำลังเขียนเรื่องนี้อยู่ แม้จะแตกต่างและยากที่จะทำความคุ้นเคย แต่ก็สดใสและอบอุ่นมากขึ้น ที่สำคัญคือมันเป็นโลกที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยตั้งแต่นี้ไป

"โลกมันเปลี่ยนไปมาก พวกเราเองก็แก่มากแล้ว" เป็นประโยคที่อิบะคุยกับสารวัตรเกตะตอนจบเรื่อง แสดงให้เห็นถึงสายตาของคนที่เห็นโลกมาตั้งแต่ก่อนสงครามจนถึงสิ้นสุดสงคราม และรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

คราบเลือดและซากปรักหักพังของสงครามได้ถูกล้างให้เลือนไปจากประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับอดีตที่อายาโกะต้องก้าวข้ามไป ความขัดแย้งของโลกภายนอกที่ดำเนินมาเรื่อยหลังสงครามก็เหมือนกับบรรยากาศแห่งความตายอันน่าขนลุกที่อายาโกะต้องทนอยู่กับมันตลอด 23 ปี ถ้าอดทนผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายไปได้ก็จะพบกับแสงสว่างที่รออยู่ปลายทาง ญี่ปุ่นที่ก้าวสู่ยุค 70s ซึ่งความบาดหมางคลี่คลายลงไปและผู้คนกลับมาดำเนินชีวิตในสังคมที่สงบสุขนั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับอายาโกะที่ก้าวออกจากห้องที่มืดมิดและความเลวร้ายของครอบครัวไปสู่อิสระภาพ



ในที่สุดบล็อกนี้ก็จบลงอย่างสมบูรณ์แบบซะที (ตัวละครตายเกลื่อน) อาทิตย์หน้าเปลี่ยนธีมบล็อกใหม่ครับ


โดย: ชีริว วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:22:37:40 น.  

 

แอร๊ยยยยยยยยยย!!

เม้นท์ท่านชีริววววววเจ้าของบล็อกรึนี่ ลากยาวเลยยย
ไปไม่ถูกเลยเรา ..ยาวได้จัยเจ๋งๆๆ ไปออกเจแปนแว๊วววนะนั่นน



เรื่องอายาโก๊ะเป็นการ์ตูนที่มืดมนแห่งปีที่ท่านชีริวเอามาลง
ให้ได้อ่านกันอยากจะบอกว่าขอบคุณมากๆนะคะจิงๆการ์ตูน
เรื่องแบบนี้แพมไม่เคยอ่านเลย..มีคนเห็นว่าน่าแขยงต้อง
เก็บให้พ้นมือเด็กสิต้อง18+ ด้วยช่ายป่าวคะจบแบบน่าเศร้า
มันอึ้ง...ในความรู้สึก..อวสานแบบเครื่องหมายคำถาม??
อายาโก๊ะ..........อาเมนนนนนนนน



โดย: mastana วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:23:21:38 น.  

 
เฉลี่ยประมาณ 500.- กว่าบาทครับ แต่เดือนนี้มีแววทะลุ 700.- บาท

ผมอยากจะประจานแต่ละสำนักพิมพ์จากประสบการณ์ที่เจอเหมือนกัน แต่อย่าดีกว่า เดี๋ยวโดนฟ้องปิดบล็อก


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:23:28:26 น.  

 
ขอบคุณสำหรับงานการ์ตูนดราม่าอ่ะ กระชากใจ ฉึกๆๆๆๆมาก

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ปล..งานหน้าขอเบรคเรื่องซึมเซา เอาเรื่องฮาๆที่อ่านแระ
โป๊กเหม่งอารัยประมาณมาลงบ้างนะคะท่านชีริววว คริๆ
แบบว่าอายาโก๊ะ อ่านแระ..มันอึ้ง ซึมม ท่านผู้ชมอยากจะหงอยตามเปลืองสาหร่ายอ่ะค่ะ อิอิ

แร่ะก้อธีม2013 หลากหลายมีไฮไลท์แบบอาจาย์คนเดิม
อันนี้ก้อดียุนะคะ อิอิ


โดย: mastana วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:23:29:26 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะน้องเอ็ม พี่กิ่งมาซะดึกเลย พี่กิ่งมาส่งกำลังใจให้จ้าโหวตการ์ตูนให้แล้วเน้อ อิอิ จะรออ่านตอนต่อไปจ้า

หลับฝันดีค่ะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:23:48:24 น.  

 


จะรอติดตามเรื่องใหม่นะคะ




โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:2:16:26 น.  

 
สุดยอด......เราอ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กปาไป20กว่าปีแล้ว มีน้อยเรื่องที่จะพูดได้เต็มปากขนาดนี้ อยากอ่านแบบเล่มเต็มๆ จังค่ะ มันชวนให้ติดตามตลอดเรื่อง แถมตอนจบทิ้งท้ายให้กังขาต่อได้อีกว่าตกลงคนที่เหลือจะเป็นยังไงต่อไป โดยเฉพาะอายาโกะ.....

.....เพราะเรื่องราวหลังจากที่คนเกือบทุกคนที่รู้จักเธอตายกันแทบเกลี้ยงแบบนั้น กับการออกไปใช้ชีวิตในโลกที่เธอแทบไม่เคยโผล่มาเห็นด้วยซ้ำ(หลังๆ ไม่สนใจเลยด้วย) อีกทั้งตัวเองแทบไม่มีทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์มนาปกติเขาเลย แต่เธอกลับเรียนรู้เรื่องและไปเกี่ยวข้องกับเรื่องบางอย่างมากเกินกว่ามนุษย์ปกติควรรู้ ) ทัี้งเรื่องผิดศีลธรรม การฆ่ากัน ใส่ความป้ายสี ความรักแบบผิดทำนองคลองธรรม........อืม......ถ้าเธอเห็นว่าเรื่องพวกนี้มันธรรมดา งั้นถ้ามันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้อีก มันคงไม่แปลก....ดูท่าคนที่จะมาพัวพันกับเธอคงไม่เจอเรื่องปกติแน่เลย ตัวอายาโกะเอง เธอคงเหมือนมนุษย์ที่มีิจิตใจคนละสปีชี่ย์กับคนอื่นๆ ไปแบบยากแก้ไข ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่มีอิสระ+เงินเพียบ แต่มันจะช่วยให้เธอใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นได้หรือเปล่า นี่สิที่อยากรู้จริงๆ.......

อ๊า น่าจะเขียนภาคต่อนะคะเนี่ย (สายไปล่ะ....) ถ้าเอาไปทำเป็นหนังเราต้องรีบหามาดูแน่ๆ มันเป็นตอนจบที่ชวนอึ้ง แต่สมเหตุสมผล ที่สำคัญมันไม่จบนะในความคิดของคนอ่านน่ะ

ที่เคยเจอฉากจบแบบนี้อีกเรื่องคือเรื่อง "ไอกับมาโคโตะ" ที่ฉากจบเดาไม่ออกจริงๆ ว่าพระเอกตายหรือเปล่า ให้คนคิดกันเอง ซึ่งผลต่างมันคนละอารมณ์กันเลยนะ ..........การ์ตูนสมัยก่อนนี่เนื้อเรื่องสนุกมากๆ ทุกเรื่องเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่เอามาให้ดูกัน อยากอ่านเล่มเต็มๆ จะแย่แล้วอ่ะ


โดย: ชญาดา IP: 58.9.96.87 วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:5:43:55 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

บางทีก็อยากให้ สนพ. เอางานการ์ตูนเก่าๆ
มารีเมคแล้วทำให้ดีกว่าเก่านะครับ
โดยเฉพาะเรื่องการแปล

อย่างงานของอิเคงามิ เรียวอิจิ

ถ้าทำออกมาใหม่ ไม่เซนเซอร์
พี่ก๋าตามซื้อทุกชุดแน่นอนครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:5:57:51 น.  

 
ฟ้าในบล็อกเป็นหน้าฝนครับ
เอ๊ะ หรือหน้าร้อน 555

เดือนมิถุนายนน่ะครับ

จะว่าไปก็เร็วนะครับ

4 ปีกว่าแล้ว




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:8:26:55 น.  

 
วิ่งมาบอกว่าไปอ่านไทม์ไลน์โนบิตะ และแชร์ ให้ลูกชาย ทางเฟส แล้วค่ะ อ่านแล้วชอบค่ะ


เดียวมาอ่าน อายาโกะค่ะ ทำงานก่อนนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:9:41:03 น.  

 
เข้ามาอ่านจ้า


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:12:52:23 น.  

 
ก็เค้าว่ามันน่ารักดีก็เลยอยากเป็น

แต่ติดคุก 23 ปี ไม่ไหวมั้ง 5555

ออกมา แก่พอดี เอิ๊กกกก
เหมือนตอนนี้เริ่มแก่ล่ะ 55555

พี่เอ็ม สบายดีนะ ช่วงนี้วิ่งไปกลับระยอง กรุงเทพ
เหนื่อย สัมภษณ์งาน มีอีก วันศุกร์ที่ 25


ตายๆๆๆ


โดย: maitip@kettip วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:16:49:55 น.  

 
หวัดดีคับ คุณซีริว...
ความสัมพันธ์ของการตูน..คล้ายๆๆกับจัดลำดับแข่งบอลเลยนะคับ...


โดย: biocellulose วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:18:30:15 น.  

 
เป็นการล้างแค้นที่สามสมมาก 555 ..
พอจะจำได้ ตอนที่แล้ว .. ที่พี่ ..น้องสาวว อิอิ
ตอนใกล้จบ ติ่นเต้น .. ค่อยๆ ตายทีละคน .ดูน่ากลัว นะสภาวะ ที่อยู่ในห้องมืด กับคนที่ไม่ชิน พี่ คนหนึ่ง ละ กลัวถ้ำ ..
อยู่ได้ไง นะ 20 กว่าปี ..
เรื่องราวสนุก ตื่นเต้นดี น้องซีริว
โหวตให้ เลย เอาสายสะพายไป อีกสมัย เย่ๆ





โดย: tifun วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:18:56:04 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องรุปในกล่องค่ะ ไม่ต้องรอนาน วันนี้มาชวนไปวัดสีในกล่องกับบล้อกใหม่ต่อค่ะ ครั้งนี้จะแก้ให้ถ้ายังมืด


โดย: sawkitty วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:19:16:40 น.  

 
แวะมาทักทายครับ


โดย: panwat วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:21:09:29 น.  

 
เห็นบอกว่าจะจบแฮปปี้ โอย...อ่านตอนจบนี่เราร้องไห้เลยนะ TT - TT
ยังไงก็ขอบคุณคุณชีริวที่เอาการ์ตูนเรื่องนี้มาลงนะคะ เนื้อหาหนักมาก ชวนคิดมาก แล้วก็สนุกมากเช่นกัน


โดย: เบนิมารู IP: 125.26.136.108 วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:22:28:35 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:6:48:44 น.  

 
ยังไม่รู้จะเปลี่ยนอะไรดีเลยค่ะคุณชีวิว คิดมาหลายวันแล้ว คิดไม่ออก คงต้องรอให้ไฟลนก้นก่อนถึงจะนึกออก แล้วก็ส่งสายเหมือนเดิม

มีความสุขกับการทำงานนะคะ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:11:25:32 น.  

 
ว๊าวๆๆๆ บ้านนี้มีการ์ตูนให้อ่านด้วยล่ะ
ไปอยู่ไหนมาเนี่ยเรา 55 การ์ตูนสนุดี ชอบๆๆๆ
ต้องแวะมาบ่อยๆซะแล้ว อิอิ



โดย: NENE77 วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:13:07:21 น.  

 
อ่านยังไม่จบดีทั้งหมดค่ะ .. ได้แต่ผ่านเลื่อน
แต่ว่าเซฟไว้ก่อนว่าน่าจะได้อ่านอีกเพราะว่าเนื้อหา
มันน่าอ่านเสียนี่กระไร

เราไม่ได้อ่านการ์ตูนนานแล้วล่ะค่ะ เรียกว่ามาเริ่มอ่าน
อีกทีต่อไม่ติดแล้วล่ะ เพราะว่ามันพ้นวัย (สำหรับตัวเอง)
ไปแล้วค่ะคุณชีวิว ส่วนตัวตอนนี้จะอ่านนิยาย
เป็นเล่มๆ มากกว่า เรื่องสั้น พ็อกเก็ตบุ๊ค หนังสือแปล
อันนี้จะเยอะหน่อย เลยทำให้ไม่ได้กลับไปอ่านการ์ตูนเลย
แต่ก็ดีนะค่ะ ได้มีโอกาสมาอ่านแบบนี้ที่นี่ก็สะดวก
ไปอีกแบบหนึ่ง

วันก่อนน้องชายไปเช่าการ์ตูนมาอ่าน
เรามาอ่านยังแทบจะไม่รู้เรื่องเลย สลับอ่านซ้ายขวา
อ่านแล้ว งง ยิ่งเป็นชื่อและการต่อสู้ของบรรดาฮี่โร่าต่างๆ
เอิ๊กๆ สุดกู่จริงๆ ค่ะ

หรือเปล่าว่า .. เราอาจจะแก่เกินแกงจะอ่าน
ไปแล้วหนอ วุ้ย เจ็บช้ำระกำทรวงใน


โดย: JewNid วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:13:08:58 น.  

 
นึกถึงตัวเองตอนสมัยเรียนจังเลย มีเวลาได้อ่านการ์ตูน โดยเฉพาะเรื่องไหนที่มี นางเอก โป้ๆ ชอบมาก....อิอิ


โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:13:10:57 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คราวนี้พี่จำ "เปา" ไ้ด้แน่นอน

วัดสมัยอยุธยานี่ก็ตื่นตะลึงตะลานแล้วค่ะ ถอยไปสมัยอู่ทอง...นะ คุณชีริวไปวัดไหนมา แนะนำพี่ด้วยนะคะ เผื่อจะไปตามรอย รีบๆ ดู ในตอนยังไม่เก่า ไม่โบราณเท่าสิ่งก่อสร้างนั้นเนาะ ยังพอเดินไหว


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:15:19:52 น.  

 
คุณชญาดา - ขอบคุณที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นจนจบครับ ^^ แต่ฉบับเต็มไม่มีภาษาไทย หาเล่ม Eng ได้ตามคิโนะอาจพอเหลืออยู่ หรือไม่ก็สั่งบนเน็ตครับ

ช่วงที่ออกจากห้องใต้ดินใหม่ๆ ตัวอายาโกะกลับมาใช้ชีวิตในโลกเบื้องบนลำบากมากๆ แต่คิดว่าอายาโกะค่อยๆทิ้งความกลัวไปได้ทีละอย่างๆ ทั้งการพบปะผู้คน การฆ่า หรือความมืด ตอนอยู่ในถ้ำไม่ว่าจะหาทางออกไม่ได้ ยามาซากิจะเอามีดขู่ จิโร่จะฆ่าคน ฯลฯ อายาโกะก็ไม่ไ่ด้แสดงความกลัวออกมาแล้ว ตอนจบอายาโกะตัดสินใจออกจากบ้านไปเอง โลกภายนอกคงไม่น่ากลัวสำหรับอายาโกะอีกต่อไปแล้วครับ

ไอกับมาโคโตะ คนเขียนเดียวกับหน้ากากเสือและโจสิงห์สังเวียน ใช่ไหมครับ เรื่องนี้ผมยังไม่เคยอ่านเลย เห็นมีทำหนังออกมาเหมือนกัน เป็นการ์ตูนเขียนในยุคใกล้ๆกับอายาโกะและกลิ่นอายคล้ายๆกันแบบนี้น่าสนใจครับ การ์ตูนจากนักเขียนรุ่นสงครามโลกมักเขียนช็อตสะเทือนอารมณ์ที่ออกมาจากประสบการณ์ของคนเขียนได้ล้ำลึกนัก เดี๋ยวลองหาอ่านดูบ้างครับ



คุณเบนิมารู - บล็อกก่อนผมบอกว่าจบสวยงามครับ แต่ไม่แฮปปี้ แหะๆ
จบแบบนี้ถือเป็น bittersweet ending ครับ เหมือนจะสุขแต่ก็เศร้า ผมชอบเพราะมันตราตรึงใจดี
ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันครับ เวลาเจอเม้นท์จากขาจรที่ตั้งใจเข้ามาคุยเรื่องเนื้อหาบล็อกโดยเฉพาะนี่ผมใจเปี่ยมสุข


โดย: ชีริว วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:21:41:28 น.  

 
หวัดดีก่อนนอนนคราบ....


โดย: biocellulose วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:21:52:17 น.  

 
จะว่าไปก็จริงนะครับน้องชีริว
พระอาทิตย์ทางเหนือสวยจริงๆครับ 555

ถ้าเอาแบบละอียด
พี่ก๋าว่าพระอาทิตย์เชียงรายสวยกว่าเชียงใหม่ด้วยครับ 555

ไปบ้านมาดามทีไร
ได้เก็บภาพพระอาทิตย์สวยๆเสมอเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มกราคม 2556 เวลา:22:17:39 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:6:19:50 น.  

 
ตลาดน้ำกลางคูเวียง อยู่นครปฐมบ้านเฮาจร้า


โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:9:06:42 น.  

 
มาทักทายจร้า
และก้อ่านการ์ตูนอีกรอบ
หวังว่าจะมีให้อ่านเยอะๆสมกับตำแหน่งนางงามนะคะ อิอิ


โดย: NENE77 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:21:47:35 น.  

 
วัดเชียงใหม่เยอะมากครับน้องชีริว
เดินเที่ยวไม่หมดแน่ๆ

ตอนยังโสดพี่ก๋าเคยตั้งใจว่าจะไปเก็บภาพวัดในเชียงใหม่ให้ครบ
แต่เป็นไปไม่ไ่ด้แล้วครับ
ตอนนี้มีลูก 5555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:22:51:04 น.  

 
ผมไม่ค่อยแคร์เรื่องราคาถ้าคุณภาพดี ผมยังมองว่าวงการหนังสือของไทย (เน้นภาพรวมเลย) คนยังไม่ให้ความสำคัญมากดูจากการเอาเชือกฟังมัดจนหนังสือเป็นรอย (ให้ตายสิ)

หนังสือการ์ตูนของไทยแย่กว่าของจีนนะเออ แถมของจีนมันดันถูกกว่าอีก

ผมค่อนข้างถือหาง บ.สยามฯ ดังนั้นผมเลยด่าสำนักพิมพ์นี้ซะเยอะ (เฮ้ย ไหงงั้นล่ะ) สำนักผิดไหนดีแล้วหรือแย่สุดๆ ผมจะไม่แลเลยครับ 555


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:0:44:06 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:6:25:35 น.  

 
พีเอ็ม แพมแพม มาแล้ว เกี่ยวกันมั๊ย 555

ไมมันง่วงอย่างงี้อ่ะพี่

5555 วันนี้งานยุ่งอะเปล่าคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:14:48:59 น.  

 
กลัวจะโดนเอา code ออกเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าขอให้มีชื่อเพลงกับอารมณ์เวลาฟังเพลงนั้นไว้บ้างก็ยังดี ถ้าเห็นชื่อเพลงคงนึกออกและไม่ยากเกินความสามารถที่จะหามาฟังใหม่ค่ะ

ใช้เพลงคั่นเวลาจริงๆ แหละค่ะ แหะๆ เพราะมันใช้เวลาอัพน้อยที่สุด
พรุ่งนี้เจอกันงานตะพาบค่าคุณชีวิว



โดย: ประกายพรึก วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:18:09:57 น.  

 
สวัสดียามค่ำค่ะ วันที่ไปไร่กำนันจุลก็ไม่ได้ชิมมัลเบอรี่เหมือนกัน ^^


โดย: sawkitty วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:19:05:14 น.  

 
ช่วงแรกๆ ที่วัดม่วง จะมีคนเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อรอขอพร...ตรงจุดที่เมฆยืนค่ะ อารมณ์จะประมาณ เข้าแถวรอเพื่อกระซิบขอพรกับหนูมุสิกะบริวารพระพิฆเนศวรที่ฉะเชิงเทราเลยค่ะยาวมาก

คุณชีริวน่าจะเคยไปวิหารแก้วที่วัดท่าซุงแล้วมังคะ วิจิตรกว่านี้ค่ะ แต่ว่าเคยเห็นของวัดท่าซุงมาแล้ว เห็นที่นี่อีกแม้ว่าขนาดเล็กกว่าก็ตะลึงตะลานเหมือนกัน

ถ้าเทียบพระพักตร์หลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิงกับที่วัดกัลยาณมิตร พี่ชอบองค์หลวงพ่อโตที่วัดกัลยาณมิตรมากกว่า คงเป็นความรู้สึกมังคะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:21:23:56 น.  

 
ซาหวัดดีจ้า

โอยนั่งอ่านจนปวดตา ตั้งใจว่าจะแวะมาวันหลัง แต่อ่าน ๆ ไปก็ติดพัน จบจนได้

ทำไมพักนี้คุณชีริวขยันอย่างนี้น้า เขียนได้เยอะซะด้วย ตรงข้ามกันสุดขั้ว ที่บ้านส่วนมากชั่วโมงนี้แปะ แปะภาพเยอะ ๆ เข้าไว้ ขี้เกียจเขียนอ่ะ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:0:10:43 น.  

 
ตะพาบคลานแล้วนะท่าน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:0:22:08 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:6:48:07 น.  

 


โดย: NENE77 วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:14:04:38 น.  

 
ไบรท์ตัน - อาร์เซน่อล วันนี้น่าจะกินนิ่มนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 26 มกราคม 2556 เวลา:22:01:47 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มกราคม 2556 เวลา:6:22:07 น.  

 
มีเกร็ดเสริมพื้นฟ้า มีสรุปตัวละคร สุดยอดจริงๆ ขอบคุณมากคร้าบ

จบแบบตายกันเรียบ ถึงจะดีตรงไม่ต้องกลัวโดนฆ่าปิดปาก แต่โลกแคบๆของอายาโกะก็ยิ่งไม่เหลือคนรู้จัก เหลือแต่แม่เลี้ยงคนเดียวที่แก่จนไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ เธอจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงน้า

ฮานาโอะ ซวยจริงๆ ถ้าไม่เจอกันละก็นะ *o*

ลูกน้องของจิโร่บุกเข้าไปข่มขืนอายาโกะ ไม่กลัวลูกพี่เหรอครับ

โผล่มาในเรื่องไหนบ้างเหรอครับ


โดย: OceanSage วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:12:29 น.  

 
natural herbal remedies [url= https://forums.dieviete.lv/profils/127605/forum/ ] https://forums.dieviete.lv/profils/127605/forum/ [/url] nirdosh herbal


โดย: BrandonLah IP: 51.210.176.129 วันที่: 3 เมษายน 2567 เวลา:8:49:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.