ความลับผิวเปล่งประกายชมพูกุหลาบ ผิวในฝันของผู้หญิงทุกคน
ผิวหน้าในอุดมคติที่ผู้หญิงปรารถนาคือ ผิวเปล่งประกายสดใส แต้มด้วยสีชมพูกุหลาบระเรื่อที่ระบายอยู่ที่แก้มทั้งสองข้าง ความเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาตินี้เป็นพลังจากสุขภาพผิวที่ดีจากภายใน ผิวของคุณอาจจะขาวจริง แต่บางครั้งกลับดูซีดเผือด ไม่มีเลือดฝาด หรือผิวคุณอาจจะเรียบเนียน ไร้ริ้วรอยแต่ก็ยังขาดชีวิตชีวา นั่นเป็นเพราะความหม่นหมองของผิว ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ซ่อนเร้นทำให้ใบหน้าของเราไม่สวยสดใสได้อย่างถึงที่สุด
ตัวการที่ทำลายความสดใสของผิว ทำให้ผิวของคุณไม่สุกใสเปล่งปลั่งดุจสีชมพูกุหลาบระเรื่อคือ 1. สภาวะความเครียด : ความเครียดมีผลทำให้ฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า นอร์อะดรีนาลิน (Noradrenalin) หลั่งออกมามากซึ่งจะไปกระตุ้นการหดตัวของเส้นเลือด โดยเฉพาะเส้นเลือดฝอยที่ผิวหน้า ทำให้พื้นที่ในการรับแสงและการหมุนเวียนโลหิตน้อยลง ซึ่งเราเองก็มักจะได้ยินบ่อยๆ ว่า หน้าดำคร่ำเครียด จริงๆ แล้วผิวไม่ได้มีสีคล้ำลง แต่ความสามารถในการเปล่งประกายสุกใสสีชมพูต่างหากที่น้อยลง
2. อากาศเย็นหรือเต็มไปด้วยมลภาวะ : มลภาวะมีผลต่อการนำพาก๊าซออกซิเจนของเส้นเลือดฝอย และมีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อความเนียนเรียบของพื้นผิวหน้า การทำงานในห้องปรับอากาศตลอดวัน การนอนในห้องปรับอากาศทั้งคืน และการเดินทางโดยรถยนต์ติดแอร์เย็นฉ่ำ ทำให้เส้นเลือดหดตัว การไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนังไม่สะดวก จึงทำให้ผิวดูหม่นหมองได้
3. ความเรียบเนียนของพื้นผิวสัมผัสบนผิวหน้า : ผิวหน้าที่เรียบเนียนสม่ำเสมอกันทำให้แสงผ่านเข้ามาในผิวได้ 90% แล้วจึงสะท้อนประกายเปล่งปลั่งสีชมพูกุหลาบ หากผิวหน้าไม่เนียนเรียบสม่ำเสมอจะรบกวนการกระจายของแสง เป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาผิวหน้าหม่นหมอง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดเซลล์ผิวใหม่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ใบหน้าเนียนเรียบได้
หากคุณรู้สึกว่าถ้าปัดแก้มด้วย บรัชออนบางๆ มีผลทำให้ใบหน้าดูดีขึ้นอย่างมาก หรือรู้สึกว่าเวลาลบแป้งทาหน้าออกแล้ว หน้าคุณดูซีด หรือคุณต้องเลือกใช้แป้งทาหน้าที่มีโทนสีออกเหลือง มากกว่าจะเป็นสีชมพู หากคำคอบของคุณคือ ใช่ นั่นแปลว่าคุณกำลังมีปัญหาผิวหน้าหม่นหมองที่บดบังความงามธรรมชาติจากภายในของผิวอยู่
ความลับของปรากฏการณ์ผิวสวยเปล่งประกายชมพูกุหลาบสดใสภายในผิวนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร 1. ปัจจัยแรก คือประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิตภายในเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงเซลล์ผิวในชั้นหนังแท้ ซึ่งผิวที่เปล่งประกายนั้นจะต้องมีการหมุนเวียนภายในเส้นเลือดที่ดี เมื่อมีแสงสว่างส่องมายังผิวของเราและผ่านลงมาภายในจนถึงเส้นเลือดแดงนี้ การไหลเวียนภายในเส้นเลือดฝอยที่สะดวก ไม่เกิดการหดตัวหรือตีบแคบลง ทำให้มีพื้นที่ที่แสงตกกระทบและสะท้อนมากขึ้น ดังนั้นความสามารถในการเปล่งประกายสีชมพูแดงสดใสจึงมากขึ้นด้วย ผิวจึงแลดูเปล่งปลั่ง สดใสอยู่เสมอ ในทางตรงกันข้ามหากการไหลเวียนภายในเส้นเลือดเหล่านี้ติดขัด ลำแสงสีแดงอมชมพูที่สะท้อนขึ้นไปจะลดความเข้มข้นลงตามลำดับ ใบหน้าจึงแลดูไม่มีชีวิตชีวา
2. ความลับที่สองคือองค์ประกอบของเม็ดสีผิวที่เรียกว่าเมลานิน สีของเมลานินทำให้เกิดความแตกต่างในสีผิวของคนเรา เช่นสีผิวขาวของชาวตะวันตก เปรียบเทียบกับสีผิวอมเหลืองของชาวเอเชีย สีผิวคล้ำในชาวนิโกรผิวคล้ำ เมื่อสีของเมลานินต่างกัน ความสามารถในการดูดซับแสงและสะท้อนแสงก็ต่างกัน ทำให้ความสว่างสุกใสของผิวมีความลดหลั่นกันลงไปตามลำดับ เราสามารถทำให้ผิวมีสีขาวขึ้นได้ระดับหนึ่งด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทไวท์เทนนิ่ง เพราะการทำงานของผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งหรือผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าขาวใสจะทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำที่มีเม็ดสีเมลานิน บรรจุอยู่ทับถมกัน เมื่อเซลล์ผิวที่หมองคล้ำหลุดลอกออกไปผิวจึงดูขาวใสขึ้นได้
3. ความลับที่สาม ได้แก่ แร่ธาตุแมงกานีส จากการทดลองในเนื้อเยื่อผิวหนัง (งานทดลองชื่อ The effect of Manganese Gluconate on cutanewous microcirculation. Nonotte-Besneที่มาข้อมูล :
Create Date : 07 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 2:14:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 298 Pageviews. |
|
|