"ฝัน" แม้จะไกล แต่เราจะไปให้ถึง สักวัน... www.cafeorchids.com
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
นับ 1 กันอีกครั้ง...

นานแค่ไหนแล้วนะ  ที่ไม่ได้เปิดห้องเข้ามาที่นี่...
ส่วนการอัพบล็อกวันนี้..ก็คงจะยังไม่เรียบร้อย อาจจะต้องทำต่อๆกันอีกหลายวัน ^_^

หลังจากล้มลุก คลุกคลานกับการปลูกเลี้ยง แอฟฯ มานานเป็นปี...
มาวันนี้เริ่มรู้สึกว่าอะไรๆ ก็คงจะดีขึ้น เริ่มตายน้อยลง เริ่มมีดอกให้เห็นมากขึ้น...

เรื่องแรก คือ เรื่องเครื่องปลูก  อยากบอกว่าสำคัญเป็นอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ค่ะ  ตอนเริ่มเลี้ยงใหม่ๆ ษาจะปลูกด้วย ขุยมะพร้าว กาบมะพร้าวสับ(ชิ้นเล็กๆ) แล้วก็ทรายละเอียด แรกๆ ก็เหมือนจะดีนะ  แต่มาหลังๆ เค้ามักจะเป็นโรคเพลี้ยแป้งบ่อย เน่าง่าย เปลืองปุ๋ย เปลืองน้ำ อีกตะหาก



เลยลองเสียตังค์ ซื้อเครื่องปลูกแพงๆมาลองปลูก  ซึ่งผลที่ได้ ก็สมกับราคาเค้าจริงๆค่ะ  เครื่องปลูกราคาแพงที่ว่านี้คือ  พีชมอส + เพอร์ไลท์ + เวอร์มิคูไลท์  ผสมกันในอัตราประมาณ 4-1-1 (เน้นพีชมอสเป็นหลักค่ะ)  จะได้ตามภาพ 





อย่างที่ 2 คือ สภาพแวดล้อม ได้แก่ ระบบแสง  ระบบน้ำ  การถ่ายเทของอากาศ  ข้อนี้ค่อนข้างจะยาวหน่อยค่ะ   
เริ่มที่  เรื่องแสง คือ แอฟฯจะเติบโตได้ดี ในสถานที่แสงแดดรำไร ไม่โดนแดดแรงเกินไป แล้วก็ไม่อับแสงเกินไป เช่น บางคนก็วางไว้ใกล้ระเบียงห้อง(ในร่ม)  ใกล้หน้าต่าง(ที่ต้องไม่โดนแดดส่องตรงๆ) หรือบางคนก็วางไว้ตามโต๊ะทำงาน  โต๊ะอาหาร ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันค่ะ



ต่อไปเรื่องน้ำ  การให้น้ำ รวมถึงความชื้นของเครื่องปลูก  แอฟฯจะชอบเครื่องปลูกที่ชื้นพอประมาณ ไม่แฉะ แล้วก็ไม่แห้ง การให้น้ำ ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน จะให้ประมาณ 2-3 วันครั้ง  แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อน ก็จะวันเว้นวัน  หากบ่ายวันไหน เดินๆไปเจอ แล้วรู้สึกว่ากระถางไหนที่เครื่องปลูกแห้งมาก(ทั้งที่เพิ่งรดไปเมื่อเช้า) เราก็สามารถหยอดน้ำให้เค้าเพิ่มได้ค่ะ แต่อย่าเยอะนะคะ เด๋วจะกลายเป็นแฉะไปค่ะ

การถ่ายเทอากาศ  หรือ ความชื้นในอากาศ  จริงๆษาก็ไม่เคยวัดเหมือนกัน  จากที่สังเกตุ เคยเลี้ยงโดยวางไว้บนโต๊ะชั้นนึง แล้วก็วางไว้ใต้โต๊ะอีกชั้นนึง  ปรากฎว่า  พวกที่อยู่ใต้ โต๊ะจะไม่ค่อยโต แถมส่วนใหญ่ก็เน่าด้วย  จึงคิดได้ว่า สงสัยใต้โต๊ะจะไม่มีอากาศถ่ายเท เวลารดน้ำ น้ำก็ไม่ซึมกลายเป็นเครื่องปลูกแฉะซะงั้น  ส่วนพวกที่บนโต๊ะ บางต้นอาจจะแห้งบ้าง แต่ก็มีอัตราการรอดมากกว่าพวกที่อยู่ใต้โต๊ะเยอะเลยค่ะ

สำหรับของษา ษาเลี้ยงไว้ในโรงเรือนกล้วยไม้(ไปเบียดเบียนสถานที่พี่เค้ามาอีกที ^_^) ที่กางซาแลนประมาณ 60%พร้อมกับกางหลังคาพลาสติก เพื่อกันฝน  เพราะที่หาดใหญ่ มีฤดูฝนเยอะ แถมไม่หนาว ซึ่งจริงๆ แอฟฯ จะชอบอากาศเย็น-หนาวค่ะ  ช่วงที่ออกดอกเยอะจะเป็นช่วงปลายๆปีถึงประมาณ ต้น ก.พ. แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ ของแต่ละต้นด้วยค่ะ



อย่างที่ 3 เรื่องสายพันธุ์   บางตัว สามารถเลี้ยงได้ที่หาดใหญ่ แต่บางตัวก็ได้แค่อาทิตย์เดียวก็ลากันซะงั้น  บางครั้งตอนซื้อถามว่ารับมาจากที่ไหน บ้างก็ว่า รับมาจากเชียงใหม่ บ้างก็ว่ารับมาจากกรุงเทพฯ  และบ้างก็ว่ารับมาจากมาเลเซีย  ซึ่งเท่าที่สังเกตุ พวกที่เลี้ยงยาก มักจะเป็นต้นที่ขอบสวยๆ สีเข้มๆ  พอมาเลี้ยงที่เรา ถ้าไม่ตาย ก็ขอบหาย หรือไม่ก็สีซีดจาง  อาจจะเป็นเพราะหาดใหญ่มีแต่อากาศร้อน  เลยนึกๆเอาเองว่าสงสัยถ้าเราเลี้ยงในโรงเรือนอีแวป(ติดแอร์) อาจจะสวยเหมือนที่เค้าส่งมาขายก็เป็นได้  เหอๆๆๆ  อันนี้ทึกทักเอาเองล้วนๆค่ะ...








สุดท้าย ขอบอกว่าที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นแค่ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆค่ะ  อาจจะมีประโยชน์มากบ้าง น้อยบ้าง หรืออาจะผิดไปบ้าง ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

และขอขอบคุณทุก Preview  รวมถึงทุก Comment ด้วยจ้า.... ^_^"




Create Date : 27 มกราคม 2556
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2556 21:15:36 น. 0 comments
Counter : 2826 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุษาญาณิน
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"เรือนไม้หอม"
เป็นแค่ คนตัวเล็กๆ สองคน ที่ใฝ่ฝัน ว่าวันนึง...อยากจะมีสวนกล้วยไม้ของเราเอง ตั้งแต่ติดฝักเป็นรหัสของเราเอง ออกขวดเอง เลี้ยงนิ้วเอง เลี้ยงไปจนมีดอกให้ชื่นชม และจำหน่ายเอง โดยที่จะสามารถ บอกผู้ซื้อได้ว่า กล้วยไม้ชนิดนี้ ปลูก เลี้ยง และสามารถดำรงชีวิตได้ในภาคใต้...

ฝันอาจจะไกล..แต่เราจะไม่ถอย...สู้ สู้ สู้ตาย!!!
New Comments
Friends' blogs
[Add อุษาญาณิน's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.