หลังจากงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 17 เริ่มขึ้นในวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา เราก็เริ่มเล็งวันที่จะไป shopping ว่าจะไปวันไหนดี (ทำยังกับมีวันให้เลือกเยอะ ทั้ง ๆ ที่ก็มีให้เลือกแค่วันที่ 20 กะ 21 ต.ค. นี่แหละ hahaha) เนื่องจากวันที่ 18-19 อยู่จันทบุรี วันที่ 22-28 ก็ไปทำงานที่บางแสน (28 งานหนังสือก็เลิกพอดีด้วย)

จริง ๆ ก่อนหน้านั้น หนังสือที่เราสั่งตรงกับ Talane-1 มาถึงแล้ว (ไปรับมาจากไปรษณีย์เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา) ทำให้อาการลงแดงทุเลาลงบ้าง

อ่านจบไปแล้ว 2 เล่ม ตอนนี้กำลังอ่านเรื่อง "ยุ่งนัก ลักลูกสาวยากูซ่า" อยู่

และในเมื่อมีวันให้เลือกแค่ 2 วัน วันที่ 20 ก็ยังเหนื่อยกับการเดินทาง (จริง ๆ ขี้เกียจ haha) เลยตัดสินใจไปวันที่ 21 ละกัน คนมาส่งไม่ยอมไปเดินด้วย บอกว่าเมื่อย แต่ไปส่งเราขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน แล้วรออยู่ที่ Fortune

พอออกจากสถานีรถไฟฟ้า ปกติจะเดินเข้าประตูใกล้ ๆ โซนขายอาหารใช่ปะ แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนเส้นทางการเดินเข้างานให้ไปเข้าทาง Hall A & Ballroom ซึ่งเราว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะเหมือนเดินเข้างานเลย แต่บูธประชาสัมพันธ์ซึ่งมีแผนที่งานแจก (ปีนี้ไม่แจกฟรี แต่ให้บริจาค 2 บาท/1 แผ่นพับ) กลับอยู่ที่เดิม คือ ต้องเดินทะลุ Hall A ออกไปก่อน ...จริง ๆ ไปเดินปีละ 2 รอบ ก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่าบูธที่ตัวเองซื้อประจำอยู่ตรงไหน แต่ก็นะ ขอแผนที่เป็นที่ระลึกสักหน่อยก็ดี ^^'

เมื่อได้แผนที่อยู่ในมือเรียบร้อย (เอามา 1 อัน แต่บริจาคไป 20 บาท เพราะเห็นว่าเป็นการสมทบทุนช่วยเด็กด้อยโอกาสด้วย) ก็พุ่งไปที่บูธ Pearl Publishing กันเลย ที่บูธนี้เราได้รับโบรชัวร์ที่ส่งให้สมาชิกก่อนแล้ว เล็งแล้วว่าจะซื้อ 3 เล่ม คือ อาร์ทิมิส ฟาวล์ ผู้พิทักษ์ตนสุดท้าย กับหนังสือชุด In Death ที่ออกใหม่ แต่พอไปถึง พนักงานขายบอกว่าหนังสือชุด In Death ยังไม่ออก เลยได้แต่อาร์ทิมิส ฟาวล์มา

แล้วปกติสมาชิกจะได้ลด 30% ใช่ปะ พอเรายื่นโบรชัวร์ส่วนลดให้ พนักงานขายบอกว่า "พี่คะ เล่มนี้ได้ส่วนลด 15% นะคะ เพราะเป็นของสำนักพิมพ์ Sunbeam" เราก็งงดิ เพราะปกติหนังสือเล่มนี้เป็นของ Pearl อ่ะ คือ เหมือน Pearl แตกบริษัทลูกออกไปอีก 2 บริษัท คือ Sunbeam กับ The sun แต่ในโบรชัวร์ใต้ชื่อหนังสืออาร์ทิมิส ฟาวล์ ยังคงให้สอบถามราคาได้จาก Fanpage ของ Pearl เป็นใครก็ต้องเข้าใจว่าพิมพ์ภายใต้ชื่อ Pearl (ซึ่งในโบรชัวร์ระบุว่าของ Sunbeam ได้ส่วนลดสูงสุดแค่ 15%) แต่ก็นะ จ่ายเงินไปอย่างงง ๆ แล้วก็คิดในใจว่า 'พอแล้วกับสำนักพิมพ์นี้' เพราะมีปัญหาทุกครั้งที่มาซื้อเลยอ่ะ ครั้งก่อน ๆ ก็เป็นความผิดเราส่วนนึงที่ลืมเอาโบรชัวร์ส่วนลดไป แต่ปกติสำนักพิมพ์ก็ควรมีระบบตรวจเช็ครายชื่อสมาชิกไม่ใช่เหรอ อย่าง Bliss งี้ ยังเช็คได้เลยอ่ะ แต่ Pearl ไม่สามารถทำได้ (- -') ครั้งนี้กะว่าไม่พลาดแน่ ยัดโบรชัวร์ลงกระเป๋าตั้งแต่ได้จากไปรษณีย์เลย ดันมาเจอแบบนี้อีก แง่ง ๆ

สรุปว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ซื้อกับ Pearl ถ้าอาร์ทิมิสมีออกตอนใหม่มา หรืออยากอ่าน In Death Series จะซื้อฉบับภาษาอังกฤษอ่านแล้ว ไม่ง้อเฟ้ย -*-

ออกจากบูธ Pearl ใน Plenary Hall มาอย่างปลง ๆ แล้วก็เดินข้ามไปโซน C2 เลย เพื่อซื้อหนังสือที่บูธอมรินทร์ (ร้านนายอินทร์) ที่เล็งไว้ก็มีหนังสือออกใหม่ของฮาลาน โคเบน แต่สุดท้ายก็ได้หนังสือเยอะมาก อารมณ์ประมาณเครียดจาก Pearl เลยมาระบายที่นี่ hahaha

เล่มที่ตั้งใจซื้อ

Series นี้ก็ตามอยู่

จริง ๆ ดู series อยู่นะ แต่ลองอ่านหนังสือซะหน่อย ^^

ชุดนี้คนขายบอกว่า 4 เล่มจบ เลยซื้อมาลองอ่าน

เล่มนี้ออกมานานแล้ว ไม่รู้พลาดได้ไง ไม่เคยเห็น

ซื้อเพราะคนขายบอกว่าสนุกมาก เอ๊า ลอง ๆ

เป็น Series 11 เล่มจบ (มั้ง) แปลไทยออกมา 9 เล่มแล้ว ถามว่าชอบไหมก็เฉย ๆ แต่อ่านมาแล้วอ่ะ ก็อ่านต่อไป ^^'

สรุป ซื้อไป 3,098 บาท พนักงานขายบอกให้ไปแลกกระเป๋าลากได้ แต่ปรากฏว่าต้องซื้อครบ 3,500 บาทอ่ะ ถึงจะได้รับกระเป๋าลาก รองลงมา คือ ซื้อครบ 1,800 บาท มีให้เลือกว่าจะเอากระเป๋าผ้า, เสื้อ หรือคุ๊กกี้ พิจารณาแล้วก็เลยเอาคุ๊กกี้ละกัน ดูจะมีประโยชน์สุด เพราะกระเป๋าผ้าก็เต็มบ้านแล้ว เสื้อก็คงไม่ใส่

พอเลือกเสร็จ พนักงานก็บอกให้เลือกหนังสือฟรี 1 เล่ม ก็เลยเลือก

มาอ่าน

แล้วหลังจากเดินออกมาจากบูธนายอินทร์ กำลังจะกลับ สายตาดันเหลือบไปเห็น

ก็เลยเข้าไปดูซะหน่อย พอเห็นราคาลดจาก 1790 เหลือ 590 ก็ซื้อเลย (แบบไม่รู้ด้วยว่าซื้อจากร้านชื่ออะไร เพราะพอเห็นหนังสือก็เข้าไปดูเลย ^^')

ตอนเดินออก ใช้เส้นทางเดิม คือ ไปออกทาง Hall A พอดีนึกได้ว่าคนมาส่งฝากดูหนังสือผีของพี่ปุ๋ย เดวิล ที่บรรลือสาส์น ก็เลยแวะดูให้ มีออกมาแล้ว 7 เล่ม โดย 6 เล่มแรกใช้โครงเรื่องของครูเหม ไอ้เราก็ไม่รู้จะซื้อเล่มไหน โทรหาก็ไม่สามารถติดต่อได้ ก็เลยตัดสินใจซื้อ

เพราะเป็นโครงเรื่องของพี่ปุ๋ยเอง

งานนี้ก็เลยได้หนังสือมา 20 เล่ม เสียตังค์ไปประมาณ 4,000 บาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าทุกครั้ง (มาก) คนมาส่ง (และรอรับ) เห็นจำนวนหนังสือแล้วถามว่า "จะใช้เวลาอ่านกี่วัน" เรายังไม่ทันตอบ เขาก็ตอบเองเลยว่า "เค้าว่าอ่านแป๊บเดียวก็หมด" (- -')

แต่เราว่าถ้ารวมกับหนังสือภาษาอังกฤษที่สั่งผ่าน Kinokuniya อีก 10 เล่ม (เป็น 30 เล่ม) ก็น่าจะอ่านได้หลายเดือนอยู่นา อีกอย่างต่อให้หนังสือชุดนี้หมด ก็ไปซื้อใหม่ได้ เพราะยังมี Private Series ที่เรายังไม่ได้อ่านตั้งแต่เล่ม 4 อ่ะ ^^