Plain Living, High Doing...



เรื่องเก่าเก็บ 2012







มกราคม



เริ่มต้นปีด้วยการไปสวดมนต์ข้ามปีอย่างที่เคยทำมาตลอด มื้อแรกของปีเป็นข้าวต้มหมูแสนอร่อยของป้ากัญญาตอนเกือบๆตีหนึ่ง

หิมะตกหลายรอบแต่ยังไม่เยอะ

ฝ่าความหนาวไปทำงาน หนาวน้อยกว่าปี 2011 มาก (เขียนได้แบบงงๆ) ช่วงนี้งานไม่หนักมาก กลางวันกินข้าวเสร็จยังมีโอกาสได้ไปเดินเล่นในเมืองกับเขาบ้าง

ห้องซักผ้าที่ทำมาหลายเดือนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง หลังคามุงแล้ว ใส่ Skylight สองช่อง พอเกือบเสร็จช่างบอกว่าน่าจะทำหลังคาแบบ Cathedral Ceiling แทนที่จะตีฝ้าเพดานทาสี เสียดายตอนช่างบอกก็สายไปแล้ว

เรื่องห้องซักผ้านี่เล่าแถมไปถึงเมื่อปลายปี 2011 ด้วยว่าเดิมทีที่ตรงนี้เป็นที่ว่างหลังโรงรถที่ต่อเติมภายหลังสร้างบ้านโดยเจ้าของบ้านคนเก่า ตัวบ้านยาวกว่าโรงรถนิดหน่อย เลยมีที่เหลือแคบๆยาวๆเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บ้านนี้ไม่มีทางเข้าโรงรถจากในบ้านเลยตัดสินใจว่าเจาะประตูออกจากห้องกินข้าวมาห้องนี้ และเจาะอีกประตูจากหลังโรงรถ (ซึ่งจะกลายเป็นผนังห้องใหม่) จะได้เข้าออกโรงรถจากในบ้านได้ค่ะ

วิธีการทำต้องเริ่มตั้งแต่เขียนแบบและขออนุญาตก่อน ใช้เวลาเป็นเดือนเหมือนกันกว่าจะได้ใบอนุญาตมาปักหน้าบ้าน หลังจากนั้นก็ขุดดินเป็นแนวรอบห้องลงไปลึกเท่ากับตึกหนึ่งชั้นเผื่อก่ออิฐและเทปูนรับน้ำหนัก ตรงกลางกลายเป็นหลุมยักษ์ที่เขาเอาทรายมาถม

ตอนก่ออิฐขนาดห้องใหญ่กว่าในแบบเพราะแนวโรงรถเดิมเบี้ยว!!!! สถาปนิก ช่าง ผู้รับเหมา และพี่หมีเถียงกันอยู่เป็นนานเพราะห้องกลายสภาพจากสี่เหลื่ยมผืนผ้าเป็นสี่เหลี่ยมคางหมูซึ่งดูดีจากด้านหน้า ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในห้องก็จะสวยเพราะเป็นมุมฉากทุกด้านแต่จากด้านหน้ามองดีๆจะเบี้ยว

สุดท้ายคือทุบแล้วเทใหม่ให้สมมาตร

ส่วนบันไดปูนหน้าห้องที่เห็นในรูป จริงๆตามแบบเขาเขียนให้เป็นบันไดไม้แต่ช่างปูนใจดีเทให้ด้วย พอเจ้าหน้าที่มาตรวจ บันไดขั้นแรกบนสุดความกว้างเท่าบันไดขั้นที่สองและบันไดขั้นที่สามเป็นลานซึ่งผิดหลัก(อะไรสักอย่าง) จริงๆแล้วบันไดขั้นแรกบนสุดต้องมีลักษณะเหมือนชานพักคือกว้างประมาณสามเท่าของบันไดขึ้นอื่นๆ พอเจ้าหน้าที่บอกพี่หมีก็ถึงบางอ้อ เพราะก่อนหน้านั้นตกบันไดขั้นแรกนี้เป็นประจำเวลาเดินออกจากห้องซักผ้ากลับเข้าบ้าน (ตอนนั้นยังไม่ได้เจาะประตูค่ะ) ช่างปูนเลยต้องกลับมาเทบันไดใหม่ (คงบ่นอุบในใจว่าไม่ควรใจดีเลยเนอะ)

งานเกี่ยวกับบ้านที่ทำอย่างแรกคือเปลี่ยนประตูโรงรถ เพราะของเดิมผุ หลังจากนั้นก็ทำความสะอาดพื้นโรงรถ ซ่อมพื้นที่แตก แล้วทาสีเป็นสีเทา งานที่สามคือเปลี่ยนหน้าต่างทั้งบ้าน รวมแล้วทั้งหมด 20 บาน เจาะหน้าต่างเพิ่มใน master bedroom เพิ่มอีกหนึ่งบานด้วย งานหน้าต่างนี้แพงมากแต่ถ้าไม่เปลี่ยนคงจะหงุดหงิดไปอีกนาน เพราะหน้าต่างทั้งบ้านแทบไม่มีบานไหนสมประกอบเลย ตอนนั้นใกล้ฤดูหนาวแล้ว ในที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนในที่สุด หน้าต่างบางบานหน้าบ้านยาวเกือบถึงพื้น หมายถึงว่าหน้าต่างพวกนี้จะแพงเป็นพิเศษเพราะต้องเป็นกระจกที่ทุบแล้วแตกเป็นเม็ด ตามกฎหมายระบุว่าพนักงานดับเพลิงต้องทุบหน้าต่างแบบนี้เข้ามาดับไฟได้

หน้าบ้านมีหน้าต่างสามบานเรียงกัน มีบานหนึ่งไม่เข้าพวกเพราะขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เราตัดสินใจซ่อมผนังแล้วเปลี่ยนให้หน้าต่างมีขนาดเท่ากัน ตอนช่างติดหน้าต่างเขาติดผิดหน้าต่างบานนี้สูงกว่าเพื่อนๆอีกสองบาน สองจิตสองใจว่าจะเอายังไงดี ในที่สุดตัดสินใจให้เขาแก้เพราะจริงๆหน้าต่างไม่เข้าพวกบานนี้เป็นบานเดียวที่ใช้งานได้ เราเปลี่ยนหน้าต่างเพราะเราอยากให้เข้าพวก ถ้าติดแล้วยังไม่เข้าพวกแสดงว่าเรายังไม่บรรลุวัตถุประสงค์











กุมภาพันธ์




นที่สุดห้องซักผ้าก็เป็นรูปเป็นร่าง จากเดือนก่อนช่างติด Dry wall และปิดเพดาน เดินสายไฟ พักช่วงให้เราทาสี ห้องนี้เลือกสี Queen Ann Lace สีเขียวสวยอย่างในรูป เป็นสีเขียวรักแรกพบที่ลุ้่นมากว่าทาแล้วจะออกมาถูกใจหรือไม่ ปรากฏว่าผ่าน ในรูปเหลืองกว่าของจริงเพราะถ่ายตอนกลางคืน หลังจากนี้ก็จะเริ่มปูพื้น

ช่วงนี้พี่หมีเดินสาย Internet ทั้งบ้านด้วย เลิกงานแล้วก็มาเดินสายต่อ มุดขึ้นเพดานกันเป็นที่สนุกสนาน ใช้เวลาเป็นเดือนเหมือนกัน ในห้องซักผ้านี่ก็มี outlet กับเขาด้วย

ไปดูนิทรรศการ Van Gogh Up Close ที่ Philadephia Musuem Of Artเป็นรูปของคุณปู่โก๊ะอีกแบบที่ไม่คุ้นตา ส่วนใหญ่เป็นทุ่งดอกไม้ ใบหญ้า กิ่งก้านของต้นไม้ สีสันสดใส แต่มีอารมณ์หม่นๆแอบอยู่ตามดอกข้าวโพด เรียวหญ้า และ ทุ่งข้าวสาลีตามสไตล์ รูปสุดท้ายที่ท้ายห้องคือรูป Almond Blossom เนื่องจากดูรอบสุดท้ายของวันนั้น ช่วงท้ายๆคนน้อยหน่อยเพราะใกล้เวลาปิด เลยได้มีโอกาสได้วนเวียนไปดูรูปที่ชอบใกล้ๆนานๆ ตอนช่่วงแรกที่เข้าไปนั้นคนเยอะมากๆจนดูไม่ค่อยสนุก ดีใจที่มีโอกาสได้ดู










มีนาคม




พี่หมีซื้อเค้กมาฉลองวันเกิด วันเกิดก็ไปวัดและกินเค้กเท่านั้น รู้สึกว่าคราวนี้จะไม่มีดอกไม้ในแจกัน (หารูปไม่เจอก็แปลว่าไม่มี คริ คริ)

ไปงานแสดงภาพเขียนของครูสอน Drawing ครูเป็นศิลปินแนว Expressionism จริงๆไปเรียนวาดได้สักพักหนึ่งแล้ว สนุกดีเสียแต่ครูไม่ค่อยสอน อันนี้เพื่อนที่เรียนด้วยกันบ่น น่าเสียดายเพราะจริงๆแล้วเพื่อนอยากเรียนแต่พอวาดรูปสองรูปได้ไม่ดีเลยท้อและไม่สนุกเลยพาลไม่อยากวาดไปเลย ส่วนตัวเจ้าของบล็อกเอาตัวรอดไปได้ เพราะหลังจากเรียนจบแล้วก็ยังอยากเรียนเพิ่มอีก แต่คราวนี้อยากเรียนเทคนิคอื่นบ้าง เสียแต่ว่ายังหาเวลาว่างได้ไม่พอตั้งแต่นั้นมา

ภาพวาดของครูดูยาก สีสันสดใสดี แต่เจ้าของบล็อกชอบรูปแนวธรรมชาติมากกว่า เรียกว่าคนละสไตล์ ครูมีผลงานอยู่ในพิพิธภัณฑ์ระดับชาติหลายแห่งเหมือนกัน คิดว่ามีชื่อเสียงทีเดียวสำหรับแนวนี้ เพียงแต่เจ้าของบล็อกไม่อยู่ในวงการ เลยไม่รู้เท่านั้น

กลับมาเรื่องบ้านบ้าง เดือนนี้เริ่มปูพื้นแล้ว เลือกกระเบื้อง Ceramicสีน้ำตาลอ่อน ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้เรื่องวัสดุมาก ถ้าเป็นตอนนี้จะเลือก Plank Vinyl แทนเพราะสวย ไม่เย็นมากหน้าหนาว ไม่แพง ปูเองได้ สุดท้าย ทนและดูแลง่ายกว่ามาก จ้างเขาปูก็แพงอยู่เหมือนกัน
สวนหน้าบ้าน ลง Daffodils ไปร้อยหัวนิดๆ กับไฮยาซินธ์และ Crocus อีกไม่น้อย คอยลุ้นกับสวนหน้าบ้านมากว่าจะออกดอกหรือไม่ สุดท้ายก็ออกมาให้ชื่นใจ ปีที่แล้วดอกไม้บานเร็ว เวลาดอกแพร์บานมองจากในบ้านออกไปสวยมาก

เริ่ม Work From Home อาทิตย์ละหนึ่งวันคือวันอังคาร เวลาอากาศดีประชุมทางโทรศัทพ์จากระเบียงหลังบ้าน รู้สึกการทำงานช่างรื่นรมย์











เมษายน




ไปดูสวนดอกไม้ที่ Baltimore ที่ Sherwood Gardens ใน Towson อากาศไม่ดีและทิวลิปยังบานไม่เต็มที่ แต่ก็สวยไปอีกแบบ

ส่วนที่บ้านแพนซีงามมาก ทิวลิปที่เจ้าของบ้านเดิมปลูกไว้ก็สวยแต่ช่วงที่บานแดฟโฟดิลโรยไปหมดแล้วเลยเป็นทิวลิปบานกลางดอกแดฟโฟดิลเหี่ยวๆ ส่วนใบโอ้กหลังบ้านสวยมาก ดูเพลินทุกวัน หน้าบ้านรอบเสาไฟลง Bluebell สลับกับแพนซีไว้ด้วย ช่วงดอกไม้ที่บ้านบานนี่ไม่ต้องทำอะไร แค่เห็นก็มีความสุขแล้วเพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงเราเอง ตอนปลูกนั่นเหนื่อยมาก ท่องคาถาว่า”อดทน”จบไปเป็นพันหน





ห้องซักผ้าเสร็จแล้ว ที่เหลือหลังจากปูพื้นก็คือย้ายเครื่องซักผ้าและอบผ้าจาก Basement ขึ้นมา ลืมถ่ายรูปข้างในตอนเสร็จเลยไม่มีรูปมาอวด แต่มีรูปพี่หมีตอนเก็บป้าย Permit ตอนเก็บป้ายต้องไปเป็นสักขีพยานเพราะเสร็จไปอีกขั้นหนึ่ง ในห้องยังไม่ได้จัดจนถึงบัดนี้และรกมากเพราะต้องใช้เป็นที่เก็บของของห้องอื่นๆที่เราจะซ่อมกันต่อไปด้วย

ดินที่โกยจากตอนขุดเทพื้นก็กองไว้เป็นภูเขา เขามาเกลี่ยๆให้พอดูได้ แต่เป็นดินที่มีแต่หินปนอย่างเยอะมาก พอช่างกลับกันหมดเราก็ต้องมานั่งเลือกหินออกอยู่หลายวันจนหมดแล้วปูหญ้า ตอนปูหญ้านี่พี่หมีขยันและลุ้นมาก เพราะต้องรดน้ำวันละสองครั้งอยู่หนึ่งเดือนเพื่อให้หญ้าขึ้น บำรุงทะนุถนอมมากแต่ในที่สุดก็ขึ้นมาเต็มจนได้

ช่วงปลายเดือนดอกอาซาเลียบาน ได้ตัดดอกไม้ในบ้านมาใส่แจกัน รู้สึกดี





สงกรานต์กะว่าจะไปทำบุญทุกวัดในละแวกบ้าน เพราะอยู่มาหลายปีแล้วยังไม่เคยไปเลย เอาเข้าจริงไปได้แค่สองวันคือวัดญาณรังสีที่เวอร์จิเนียกับวันไทย ดีซีที่ไปประจำอยู่แล้ว ส่วนอาทิตย์อื่นๆฝนตกบ้างไม่ว่างบ้าง ประทับใจพระพุทธรูปในโบสถ์ สวยมาก ในโบสถ์สว่างไสว ได้ไปนั่งเงียบๆแว้บนึง รู้สึกดีมากค่ะ







พฤษภาคม



ห้องถัดมาที่เราทำคือห้องนอนที่สองใน Basement แต่ทำเสร็จแล้วจะกลายเป็นห้องทำงานของพี่หมีไปพลางๆก่อน ผนังห้องนี้ต้องซ่อมเยอะเพราะตอนทำห้องซักผ้าช่างต้องเดินไฟจากมุมขวาของบ้านไปห้องซักผ้าที่อยู่มุมซ้ายสุดของบ้าน และต้องตัดผนังเพื่อซ่อนท่อน้ำร้อน น้ำเย็น และน้ำทิ้งไว้ในผนังห้องนี้ด้วย ห้องนี้พี่หมีทำเองหมดทุกอย่าง (เป็นพี่หมีมหัศจรรย์จริงๆ)ตั้งแต่ซ่อมผนัง ปูพื้นลามิเนตลายไม้ไผ่ และทาสี ทำอยู่เดือนหนึ่งเต็มๆกว่าจะเสร็จเรียบร้อย มีของที่ระลึกคือเครื่องมือตัดลามิเนตและสารพัดอื่นๆเต็มบ้านไปหมด ระหว่างนี้ช่วยกันเลือกสี Basement เป็นสีเทาเข้มและเทาอ่อน (ตามใจคุณผู้ชาย) ส่วนห้องนี้ซึ่งสุดท้ายจะใช้เป็นห้องนอน Guest ก็เลยเลือกเป็นสี Muslin ออกเหลืองอมเขียวแทนสีเทา (เจ้าของบล็อกว่าสีเทามันให้ความรู้สึกเย็นมาก)

ดูเผินๆนึกว่าซ่อมผนังแล้วทาสีจะง่ายๆ แป้บเดียวเสร็จ แต่จริงๆเรื่องเยอะเอาเรื่อง ตั้งแต่ต้องโป๊ว รอ 24 ชั่วโมงให้แห้ง ขัดให้เรียบ ทาสี Prime ซึ่งสีนี้จะผสมกาวเพื่อให้สีจริงติดดี ทาเพดาน ทาบัวแล้วจึงจะถึงทาผนังได้ กินเวลาเอาเรื่องเลยทีเดียว คนทาเก่งๆก็ไม่เปลืองสีมากอีกต่างหากค่ะ ส่วนปูลามิเนตก็ยากเหมือนกัน ดูเขาปูใน YouTube เหมือนง่ายนิดเดียว ปูเข้าจริงเหงื่อตกโดยเฉพาะเวลาตัดไม้ตามซอกตามมุม ฝีมือปูไม่ดีหน้าหนาวจะหดเห็นร่องน่าเกลียดเลยล่ะค่ะ

พอห้องเสร็จก็ลืมถ่ายรูปตามเคย มีแต่ระหว่างทำให้ดูเล่น

เดือนนี้กุหลาบพันปีบาน ตัดมาปักแจกันอีกแล้ว




ห้องถัดมาที่เราทำคือห้องนอนที่สองใน Basement แต่ทำเสร็จแล้วจะกลายเป็นห้องทำงานของพี่หมีไปพลางๆก่อน เรียนวาดรูปจบเกือบจบแล้ว ไปเห็นรูปดอกไม้ใน FB ของพี่ปุ้งกี๋เลยขอเอามาวาดด้วยสีไม้ สนุกดีแต่มือเจ็บมากหลังวาดเสร็จแล้ว คิดว่าต้องไปหาวิธีเหลาดินสอสีให้แหลมๆ เส้นขอบจะได้ดูปราณีต เอาไปถามครู ครูบอกว่าให้ซื้อดินสอสีที่ไม่ใช่ Watercolor Pencil มาใช้แทน เป็นรูปที่วาดเองรูปแรกที่ไม่ใช่การบ้านที่ครูให้

อากาศอุ่นและร้อนเป็นบางวัน ซื้อผักสวนครัวมาจากงานสงกรานต์ ถึงเดือนนี้ก็งามกันใหญ่ ที่ตลกคือตั้งใจจะซื้อพริกหกต้น ตอนลงกระถางก็เตรียมกระถางไว้หก ปลูกเสร็จแล้วเหลืออีกสาม ก็งงตัวเองอยู่พักใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องมาค่อยๆนับต้นพริกดีๆถึงได้รู้ว่าตัวเองนับผิตตั้งแต่อยู่ที่ร้านต้นไม้ตลอดมาจนถึงย้ายกระถาง นับว่าแก่อักโข

ไปกินบุฟเฟ่ต์ เขามี Chocolate Fondue ให้กินด้วย เลยไม่ค่อยได้กินอย่างอื่น สนุกกับการทำฟองดูนี่ล่ะ

ยายเสียครบเดือนเดือนนี้ ไม่ได้กลับไปงานยาย แต่เห็นหนังสติ๊กทีไร คิดถึงยายทุกที









มิถุนายน




เดือนนี้เราทำสองห้องพร้อมกัน ห้องน้ำนี่เราเลือกวัสดุ ออกแบบและทาสี ที่เหลือช่างทำ ส่วนห้องนอนแม่ก็ซ่อมผนังและทาสี ทั้งสองห้องมีเวลาสองเดือน เพราะปลายเดือนกรกฏาแม่จะกลับมาบ้าน

วัสดุในห้องน้ำนี่เลือกแบบเลือกสีกันมาหลายเดือน ห้องนี้จะออกโทนครีมเพราะเป็นห้องที่แม่ใช้ เห็นห้องน้ำเล็กๆแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่ามีของต้องซื้อนับรวมกันได้เกินร้อยรายการ (มิน่าเล่าเขาถึงเหมาให้ช่างทำหมด หาซื้อของเองเหนื่อยแทบตาย) เริ่มต้นจากเปิดพื้นมาคานหายไปหนึ่งอัน ผุอีกหนึ่งอัน ต้องเปลี่ยน แถมยังมีเรื่องจุกจิกสารพัดทั้งเรื่องท่อนั้ำและสายไฟ (ที่คราวนี้เป็นหน้าที่หมีมหัศจรรย์คุยกับช่าง เจ้าของบล็อกคุยอย่างเดียวเรื่องออกแบบ) พอถึงตอนทำห้องน้ำห้องที่สองถึงได้รู้ว่าห้องแรกเราไม่มีปัญหามากนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราต้องการวัสดุแบบที่ทนทาน รักษาง่าย ทำความสะอาดง่าย เรื่องความงามมาทีหลัง โทนสีและสไตล์เป็นแบบที่หาง่าย เดินเลือกไม่กี่แห่งก็หาได้ตรงใจ

นึกเสียดายที่เลือกกระเบื้องผนังสีเข้มไปนิด เพราะห้องน้ำเล็กมากอยู่แล้ว ปูกระเบื้องเสร็จแล้วใจหายเพราะดูห้องเล็กลงไปอีก แต่จะแก้ก็ไม่ทันแล้ว อ่างน้ำเป็นแบบ Jacuzzi ด้วย (จนถึงบัดนี้ยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลย) กระเบื้องผนังและพื้นเป็น Porcelain พวกหินอ่อนและ Travertine นั้นสวยดีแต่ต้องดูแลรักษามาก ต้อง Seal กันทุกหกเดือน ถึงกระนั้นก็มีโอกาสที่สีจะเปลี่ยนสูง Porcelain แข็งแรงทนทานและสีไม่เปลี่ยน ไม่ต้อง Seal เหมาะกับครอบครัวไม่ค่อยขยันอย่างเรา เสียแต่หาลายถูกใจยากมาก โดยมากมักมีแต่ลายพร้อยและสีเข้มซึ่่งไม่เหมาะกับห้องน้ำขนาดมินิ กระเบื้องผนังมีลายคาดด้วย Glass Tile และ Travertine Tile สีออกเขียวอ่อนและน้ำตาลอ่อนอีกแล้ว เลือกของทีไรโดนแซวทุกทีว่าออกโทนเขียวตลอด

หน้าต่างในห้องน้ำกรอบหายไปหนึ่งข้าง เพราะเจ้าของเดิมเขาเปลี่ยนเอาหน้าต่างขนาดใหญ่มาใส่ไว้แล้วไม่ลงกับช่องเดิมจึงต้องตัดกรอบทิ้งไป เพิ่งมาสังเกตเห็นตอนจะทำห้องน้ำนี้เอง (ไม่น่าเชื่อเลยว่าพลาดตอนช่างเปลี่ยนหน้าต่างเมื่อตอนปลายปี มองไม่เห็น) เลยต้องยุ่งกับหน้าต่างอีกรอบโดยการย้ายหน้าต่างออกไปนิดนึงจะได้ใส่กรอบได้ลง โชคดีว่าช่างที่ทำหน้าต่างและห้องน้ำเป็นช่างคนเดียวกัน

สีทาในห้องน้ำตอนแรกเลือกสี Rice Grain ดูตอนกลางวันสวยมาก พอกลางคืนกลับออกเป็นสีน้ำตาลอมเขียวเข้มและหลอนมาก ดูอยู่สองสามวันในที่สุดทนไม่ได้ต้องไปขอพี่หมีให้เปลี่ยนสีหนึ่งวันสุดท้ายก่อนคุณช่างจะมาปูพื้น พี่หมีเลยต้องทาสีทั้งคืนเสร็จเอาตอนเจ็ดโมงเช้า สีที่ทาใหม่ชื่อว่า Dover White เลือกกันแบบกลางอากาศไม่มีโอกาสได้ทาสีตัวอย่างก่อนเลย ออกแนวเหลืองๆ แต่พอกลางคืนก็กลายเป็นโทนเขียวอีกจนได้ อย่างไรก็ตามนี่เป็นการตัดสินใจที่ถูก เพราะห้องดูสว่างสมใจทั้งกลางวันและกลางคืน





ห้องนอนแม่ก่อนซ่อม เป็นห้องที่สว่างที่สุดในบ้าน

ธนาคารความสุขเล่ม 4 มาถึงบ้านเดือนนี้เอง เล่มนี้ภาพประกอบเป็นรูปวาดน่ารักส่วนใหญ่ ส่วนน้อยเป็นรูปถ่ายฝีมือเจ้าของบล็อก ที่พิเศษคือเล่มนี้เป็นสาขาบางรัก เป็นของที่ระลึกงานแต่งงานของผู้เขียน คุณ aston27 ด้วยอีกต่างหาก แค่สีหน้าปกก็สดใสแล้วนะคะ

ไฮเดรนเยียพากันออกดอกแทบทุกต้น ต้นใหญ่ข้างโรงรถในรูปล่างนั้นเดิมปลูกอยู่ในกระถาง ไม่ค่อยยอมออกดอก บางปีต้องไปคุยกับต้นไม้ว่าช่วยออกดอกให้ดูสักดอกได้ไหม แล้วก็ออกดอกให้ดูหนึ่งดอกตามที่ขอจริงๆด้วย ปีที่แล้วลงดินเลยบอกว่าคราวนี้ออกดอกเต็มต้นได้แล้วนะ ก็ออกดอกเต็มต้นจริงๆด้วย เพราะซื้อลดราคามาจากร้านต้นไม้ กลีบดอกเลยม้วนๆหงิกๆ ไม่ค่อยสมประกอบ มีหลายต้นถูกเหยียบหักจมดินหายไปตอนทำห้องซักผ้า ถึงช่วงนี้ก็ไม่ยักตาย แตกกลับมาทุกต้น เพียงแต่ยังไม่ออกดอกเท่านั้น ต้นที่ตัดดอกมาปักแจกัน เจ้าของเดิมเขาขุดทิ้ง เราเลยลากมาปักไว้หลังระเบียง แทบจะไม่ขุดหลุมให้ด้วยซ้ำ ถึงเวลาออกดอกเต็มต้นทำเรายิ้มแก้มปริ













กรกฏาคม



ห้องน้ำกับห้องนอนแม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว สีทีทาเป็นสีเทาทันสมัยชื่อ City Loft ถามแม่ว่าชอบสีอะไร แม่บอกว่าสีเทาควันบุหรี่ เลยออกมาเป็นสีนี้ สีออกโมเดิร์น ของในห้องออกแนวคลาสิค เลยไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไหร่ ถึงตอนนี้ก็ยังขาด Headboard และม่าน ของในห้องคิดว่าจะค่อยๆทำหลังจากซ่อมบ้านเสร็จก่อน เพราะเรื่องเลือกซื้อของใช้เวลาและสมองมาก ห้องน้ำติดอ่างและ Vanity แล้ว รู้สึกว่าเจาะช่องสำหรับติดตู้ Medicine Cabinet เล็กไปหน่อย น่าจะเลือกตู้แบบยาว เพราะเอาเข้าจริงที่ไม่พอเก็บของ ตู้ Vanity ช่างบอกว่าพวกเลือกเข้ามุมเขาไม่เลือกแบบมีขาและไม่มี Blacksplash ข้างหลังด้านข้างให้มาด้วย ตู้ลอยนี้ขอบจะไม่แนบกับผนังทำให้น้ำรั่วลงไปด้านข้างได้ง่ายเวลาล้างอ่าง ในที่สุดแก้ปัญหาด้วยการใช้ baseboard ด้านล่างมาทาสีเดียวกับผนังแล้วติดแทน Blacksplash ไม่สวยนักแต่ได้ประโยชน์ใช้สอย Sidesplash ต้องปล่อยเลยตามเลย เวลาล้างอ่างล้างหน้านี้ต้องระวังกันเป็นพิเศษหน่อย







ในที่สุดห้องน้ำกับห้องนอนของแม่ก็ไม่เสร็จก่อนกลับไปรับแม่ที่เมืองไทย ทิ้งไว้ให้พี่หมีจัดการปั่นห้องและปั่นหัวตัวเองต่อไป กลับไปเมืองไทยแค่สองอาทิตย์ ซึ่งสั้นมากๆ ส่วนใหญ่คือจัดการธุระปะปังต่างๆ เวลาที่ดีที่สุดคือตอนอยู่บ้านได้กินข้าวกับน้ำพริกที่บ้านแนมด้วยยอดชมพู่ยอดมะม่วงอ่อนๆ ได้กินผัดผักบุ้งและกล้วยน้ำว้าทุกวันเลยค่ะ















สิงหาคม



ห้องน้ำแม่เสร็จแล้วในที่สุด ไปค้นๆได้รูปมาสองใบ สบู่ทำมือในรูปเป็นฝีมือของคุณ VA_Dolphin หรือ จ๋อมแจ๋ม เขียนเอาไว้ว่า Homemade with love ส่วนม่านห้องน้ำนี้ซื้อเก็บเอาไว้ตอนห้าง The Great Indoor กำลังจะปิดกิจการเพราะเห็นว่าแม่ชอบนกและเข้ากับห้องน้ำ

แม่ดูห้องน้ำแล้วบอกว่าก็สวยดี แต่มืดไปหน่อย (กะแล้ว :-( )

งานขัดตาทับถัดไปพี่หมีไปทาสีห้องเก็บของที่ basement ทาสีพื้นปูนและโรย chip เล็กๆด้วย ถ่ายรูปออกมาเหมือนหินขัดบ้านเรา พื้นปูนนี้เวลาทาสีแล้วไม่โรย chip มันดูแปลกๆและไม่ค่อยน่าเดินเท่าไหร่

ระหว่างนี้ก็เลือกหาซื้อของสำหรับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ จริงๆแล้วเป็นห้องน้ำขนาดเล็กมากๆ แบบเดิมที่คิดเอาไว้คือด้านหนึ่งติดกระเบื้องรูปแปดเหลี่ยมเล็กๆลายเมฆสีฟ้า สามด้านที่เหลือเป็นกระเบื้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าปูแบบ subway tile เอาเข้าจริงเปลี่ยนหมดทุกอย่างไม่เหลือเค้า จนเราขนานนามช่่างว่านักดับฝันมือหนึ่ง และพี่หมีเป็นนักดับฝันมือสอง

งานพวกมองไม่เห็นของห้องนี้ทำไปบ้างแล้วตอนทำห้องน้ำแม่ พวกงานสายไฟและพื้นต่างๆ ส่วนงานที่มาทำเพิ่มคือห้องน้ำนี้ตรงกับห้องครัวข้างล่าง ช่างถามว่าถุ้าจะติดไฟ Downlight ในห้องครัวต้องทำเลยเพราะต้องเปิดเพดาน เลยต้องไปคิดห้องครัวก่อน ในที่สุดตัดสินใจว่าติด

ห้องน้ำนี้ไม่มีอ่างอาบน้ำแต่เป็นที่ยืนอาบ ถาดอาบน้ำแบบบ้านเดิมที่เคยใช้ราคาย่อมเยาแต่ขัดยากมาก เวลาขัดห้องน้ำทีเหมือนไปยิมออกกำลังกาย เพราะขัดยากและเหนื่อยมาก พอเลือกเองเลยต้องหาอยู่นานมากกว่าจะได้ถาดที่ทำความสะอาดง่าย ตอนนี้โรยผง Bar Keeper Friends แล้วขัดนิดหน่อยก็สะอาดเหมือนใหม่





วันแม่ ไปงานวันแม่ที่วัด ตกบ่ายน้องพาไปเที่ยว National Harbor เลยได้อานิสงส์ติดสอยห้อยตามไปด้วย เย็นๆบรรยากาศดีเลยทีเดียว นานๆไปเที่ยวที่ตื่นตาตื่นใจ ได้ถ่ายรูปอะไรที่ไม่ใช่ดอกไม้บ้าง












กันยายน



ที่วัดมีงาน Ground Breaking อาคาร 80 ปีหลวงตาชี (พอเสร็จแล้วทางวัดเปลี่ยนชื่อเป็น อาคาร 88 ปีหลวงตาชี) ในเมืองไทยเวลาปลูกบ้านสร้างตึกเรามีพิธีวางเสาเอก ที่นี่เขามีพิธีเปิดหน้าดิน พิธีไทยผสมฝรั่ง แปลกและสนุกสนานดีค่ะ งานนี้ทำบุญด้วยการบริจาคเงินซื้อพลั่วตักดินหนึ่งอัน ทางวัดพ่นเป็นสีทองเขียนยันต์เสียสวย ใช้ตักทรายที่วัดแล้วหลวงพี่บอกว่าเอาไปตักหิมะหรือโกยขึ้เถ้าในเตาผิงหรือจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่พวกเราดูพลั่วแล้วไม่กล้าใช้ตามที่หลวงพี่บอก เลยไปวางประดับข้างเตาผิงแทน

เป็นวันที่อากาศดีมากๆค่ะ แดดสวยสุดๆ นานๆจะเห็นวันที่มีแดดใสสวยแบบนี้สักที

เสร็จแล้วตอนบ่ายน้องพาไปเที่ยวดีซีอีกแล้ว แวะไปซื้อขนมสุดฮิต(และสุดแพง)ที่ร้าน Macoroon Bee ซึ่งบังเอิญไปจอดรถแถวนั้นแล้วร้านก็ดูน่ารักดี ขนมอร่อย มารู้ทีหลังเป็นร้านที่ขึ้ืนชื่อเรื่อง Macaroon เลยทีเดียว ทั้งร้านขายอย่างเดียวนี่ล่ะค่ะ




กลับมาเรื่องบ้านๆประจำเดือน คือห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ซึ่่งเสร็จเป็นของขวัญวันเกิดสำหรับพี่หมีพอดี ห้องนี้ยังทาสีเดิมคือ Dover White แต่เปลี่ยนจาก sheen แบบ matte มาเป็น egg shell ซึ่งช่างบอกว่าเหมาะกับห้องน้ำมากกว่าเพราะทำความสะอาดง่าย แบบ matte สวยกว่าแต่เลอะอะไรแล้วเช็ดไม่ออกเลยค่ะ ทาเสร็จแล้ว Dover white ที่ออกโทนเหลืองกลายเป็นโทนเขียวไปเลย รับกับ glass tile ในห้องน้ำพอดิบพอดี

พื้นยังคงเป็นกระเบื้อง Porcelain จากสเปนเหมือนห้องน้ำแม่ (เรากะว่าจะเอากระเบื้องลายนี้ไปปูในห้องครัวอีก คราวนี้ช่างมองหน้าถามว่าไม่เบื่อบ้างหรือไง ฮา ฮา) แต่คราวนี้ลืมไป คือกระเบื้องบางแผ่นจะมีลายสีน้ำตาลเข้ม ตอนปูห้องน้ำแม่เรามาเลือกแผ่นที่สีเข้มออกเพื่อให้พื้นเป็นสีอ่อนกลมกลืนกัน พอช่างปูเสร็จเลยออกอาการผิดหวังเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ลืมไปได้ (คิดถึงเรื่องอิฐสองก้อนในหนังสือชวนม่วนชื่นเลยค่ะ)

ชิ้นที่หายากที่สุดในห้องน้ำคือ Vanity เพราะที่ชอบก็แพงไปมาก ที่ราคาพอดีก็ไม่ชอบแถมห้องน้ำเราเล็กมาก Vanity ที่ใส่ได้ต้องเป็นขนาดเล็กสุด ในที่สุดไปเจออันนี้ใน Internet จากร้าน Cabinet 2 go เลยขับรถฝ่าฝนไปดูของจริงข้ามเมือง พี่หมีตินิดหน่อยเพราะรู้สึกว่าจะขาวโพลนไปหมดทั้งห้อง แต่เจ้าของบล็อกถูกใจโพลนๆแบบนี้ล่ะค่ะ

โคมไฟชอบเพราะเหมือนแขวนตุ๊กตาไล่ฝนสามตัว ฮา ฮา พอติดแล้วรู้สึกว่าห่างจากกระจกไปนิดนึง เสร็จแล้วนับว่าเป็นห้องน้ำเรียบๆที่่พอใจ เพื่อนๆมาดูกันส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบเพราะเขาชอบสีๆกันค่ะ











ตุลาคม



พี่แดงเจ้าของบล็อก Devonshireชวนส่งภาพถ่ายไปประกวด Royal Horicultural Society ของประเทศอังกฤษ ลองส่งไปสนุกๆ ได้รางวัลที่สามหมวด garden thru the season เห็นมีคนไทยอีกคนได้รางวัลที่สามด้วยชื่อคุณหรรษา ในหมวด people in the garden เงินรางวัลเอาไปซื้อเลนส์ 35 1.8 เก็บไว้เป็นที่ระลึก ขอบคุณพี่แดงอีกครั้งนะคะ

เจ้านายซื้อบ้านใหม่ ได้ไปงานขี้นบ้านใหม่แบบอินเดีย สนุกดีเหมือนกันค่ะ ตู้เย็นมีที่กดน้ำอยู่นอกตู้ กดน้ำเย็นก็ได้ น้ำแข็งก็ได้ เด็กๆเข้าคิวกดน้ำเล่นกันสนุกไปเลย อาหารแขกอร่อยมาก กินเพลินลืมอ้วน บ้านเจ้านายอยู่ในหมู่บ้านสร้างใหม่ มีถนนโค้งสายยาวบนเนิน มีบ้านปลูกเรียงอยู่ฝั่งเดียวกัน 12 หลัง เจ้าของเป็นชาวอินเดีย 11 หลัง อีกหลังหนึ่งเป็นชาวจีน นับว่าถนนสายนี้ต้องมีฮวงจุ้ยประชานิยมแบบอินเดียโดยแท้

ปีนี้ไม่มีทริปใบไม้ร่วงที่ไหน ถ่ายกันแถวๆบ้านนี่เอง งานประจำปีคือกวาดใบไม้ ปีนี้หอบแฮ่กเหมือนปีที่แล้วไม่มีผิด




พายุเฮอริเคน Sandy มาเยือน ต้องเก็บสวนหลังบ้านโดยย้ายของทุกอย่างที่สามารถปลิวได้ไปแอบไว้ที่ไหนสักที่ หากลมแรงจะได้ไม่พัดไปโดนกระจกหรือตัวบ้านเสียหาย ใช้เวลาจัดหนึ่งวันเต็ม พายุมาเข้าจริงๆ มาแต่หางๆเพราะหัวๆไปถล่มนิวเจอซี่และนิวยอร๋ค เรียกว่าเราโชคดีมาก แต่ชาวนิวยอร์คและนิวเจอซี่ก็ลำบากมาก ไฟดับอยู่หลายอาทิตย์

เดือนนี้ทำห้องนอนใหญ่ หลักๆคือ ทาสี และเปลี่ยนพัดลม สีเลือกกันระหว่างสีฟ้าอ่อน (ถึงตอนนี้ลืมชื่อไปแล้ว) สีเขียว lime stone และเขียวศิลาดล สวยทั้งสามแต่เลือก lime stone ในที่สุด ห้องนอนใหญ่ที่กะเอาไว้ให้เป็นสีฟ้าอ่อนเปลี่ยนเป็นสีเขียวไปจนได้ ถ่ายรูปแล้วดูเข้มกว่าของจริง เอาสีของเก่ามาแปะไว้ด้วย เป็นสีเขียวและเหลืองไพล ผนังอีกด้านเคยติดกระจกบานโตแต่เจ้าของบล็อกไม่ชอบนอนมองตัวเอง เลยรื้อออกไป









พฤศจิกายน



มีงานกฐินที่วัดไทย งานกฐินสนุกทุกปีเพราะมีแห่ มีคนมาออกร้านเพียบ หลังจากนั้นน้องพาไปเที่ยวสวน Theodore Roosevelt ที่ข้างแม่น้ำโปโตแมคในดีซี

ไปเลือกตั้ง เราไปเกือบคนสุดท้าย เลยไม่ต้องรอนาน ระหว่างรอเลยถ่ายรูปเล่น ข้างในเขาไม่ให้ถ่าย คืนนั้นผลประกาศว่าโอบามาได้เป็นประธานธิบดีสมัยที่สอง

ไปงาน Thanksgiving บ้านเจ้านายเก่า ไปมาทุกปีจนเขาจำได้ ปีนี้ทำส้มตำไปอีกแล้ว ขายดีหมดเกลี้ยง (ตอนทำคนทำก็ว่าอร่อยนะคะ)

ต้นแพร์หน้าบ้านเปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีนกโรบินมาเกาะกันเต็มไปหมด แต่ไม่มีนกในรูป

เดือนนี้เริ่มทำห้องน้ำชั้นล่าง เป็น half bath แต่หารูปตอนรื้อห้องไม่เจอ ห้องนี้เป็นสีแดง Vanity เป็นแบบเสาไม่มีตู้ เถียงกันอยู่นานในสุด Vanity ไม่เปลี่ยนแต่เปลี่ยนโถแทน พอเริ่มรื้อก็เริ่มซ่อมเพราะทั้ง Vanity และโถแค่วางไว้เฉยๆ ต้องเจาะผนังไปเสริมไม้สำหรับยึด งานเล็กๆเลยกลายเป็นงานใหญ่ๆไปด้วยประการฉะนี้ สีห้องน้ำยังมี Dover White เหลืออยู่ เลยใช้สีที่เหลือ ห้องน้ำเลยกลายเป็นสีเดียวกันหมดทุกห้อง














ธันวาคม



ห้องน้ำเสร็จแล้วตั้งแต่ต้นๆเดือน ดูโปร่งและสว่างขึ้นมาก ตอนเลือกสีลืมดูสีพื้น ทาออกมาแล้วเลยไม่เข้ากันเท่าไหร่ แต่หยวนๆพอไปได้

หิมะตกบางๆครั้งแรกตั้งแต่ก่อนคริสตมาส เห่อมากเพราะไม่เคยเห็นหิมะตกที่สวนสาธารณะแถวบ้าน เลยออกไปเดินถ่ายรูป ขากลับหิมะเปลี่ยนเป็นฝน โชกไปทั้งตัว

เริ่มทำห้องนอนห้องสุดท้าย ของเดิมทาสีม่วง ของใหม่พี่หมีอยากได้สีเดิมแต่เจ้าของบล็อกของลดความเข้มลงมาครึ่งหนึ่ง ทาสีตัวอย่างสามสี คือม่วง ชมพูกลีบบัว และชมพู กว่าจะเลือกได้นานมากเพราะสวยหมด ในที่สุดคงสีม่วงไว้ตามคำขอ

เพื่อนร่วมทีมลาหยุดทั้งเดือน เดือนนี้เลยเป็นเดือนที่ทำงานมากที่สุดคือตีสามเกือบทุกคืน ในที่สุดก่อนคริสตมาสก็ป่วยจนได้ แล้วเลยป่วยยาวไปข้ามปี งานที่ต้องทำให้เสร็จของเดือนนี้ทำเสร็จตอนสี่ทุ่มของวันที่สามสิบเอ็ด พอดิบพอดีถึงเวลาไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดอย่างไม่น่าเชื่อ














อื่นๆ

หมายเหตุ
บล็อกนี้เขียนเสร็จตั้งแต่ต้นปี แต่เป็นเพราะงานเยอะมาก (ชนิดทำวันละ... ที่ชั่วโมงอย่าไปนับมันเลยค่ะ) แต่ไม่มีเวลาเกลา
ตอนนี้โปรเจ็กท์เสร็จแล้วแต่ลงทั้งลุ่นๆแบบนี้เพราะอยากเขียนเรื่องใหม่ๆมากกว่า
คนอ่านคงจะเป็นขาประจำจริงๆ (ก็เรื่องมันเก๊าเก่านี่นา) ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

อัพเอาไว้อ่านเอง เพราะเขียนบันทึกประจำปีติดกันมาหลายปีแล้ว
นานๆอ่านเรื่องเจ้าของบล็อกนี้สักที
คงไม่น่าเบื่อเท่าไหร่นะคะ

C'est La Vie ชีวิตเป็นเช่นนี้เอง












 

Create Date : 05 กันยายน 2556
4 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2561 5:03:47 น.
Counter : 1416 Pageviews.

 


Like ให้เป็นคนที่ 1
ถึงจะเป็น BLOG ที่เขียนตั้งแต่ต้นปี
แต่ภาพและข้อความก็ยังอ่านแล้วอบอุ่นค่ะ
ชอบค่ะแวะมาเจิมบอก

 

โดย: อุ้มสี 5 กันยายน 2556 21:40:05 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะพี่แป๋ว อ่านเพลินภาพสวยด้วย ไม่รู้ว่าจะเม้นท์อะไร รู้แต่ว่าชอบ

 

โดย: au_jean 6 กันยายน 2556 9:23:37 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณแป๋ว

เข้ามา่อ่านเรื่องเล่าคุณแป๋วทีไร
เพลินใจทุกครา
เป็นเรื่องสนุกแม้คนเล่าจะทำบ้านแล้วเหนื่อยนะคะ ^_^

อีกไม่นานบ้านสวยเสร็จสมบูรณ์
ความภาคภูมิใจในการทาสี
รื้อตู้ ทำทุกส่วนในบ้านคงมีให้เห็นในรอยยิ้มของสมาชิกเลยนะคะ

 

โดย: A IP: 119.46.151.21 22 กันยายน 2556 14:36:14 น.  

 

ค่อยๆอ่านจนจบ

พี่หมีกับพี่แป๋วเก่งมากๆเลยครับ
ค่อยๆช่วยกันทำบ้านหลังนี้ทีละห้องๆ
เป็นบ้านแห่งความรักและความตั้งใจจริงๆเลยนะครับ

ภาพดอกไม้สวยมาก
ดูเหมือนดอกไม้จะอยู่ใกล้ๆตัวพี่ตลอดเวลา 555

 

โดย: กะว่าก๋า 23 กันยายน 2556 20:23:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


SevenDaffodils
Location :
Maryland United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]









Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add SevenDaffodils's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.