setthee2010
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เต็นท์ให้เช่า เต็นท์ผ้าใบทรงปิรามิด เต็นท์ผ้าใบทรงโค้ง เต็นท์ผ้าใบทรงจั่ว เต๊นท์ผ้าใบ เต้นท์ผ้าใบ เต็นท์ผ้าใบ





Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add setthee2010's blog to your web]
Links
 

 

“แยมมะละกอกลิ่นมะนาว” ช่วยระบายท้อง

แถมลดอ้วนเยี่ยม

ใครๆ ก็รักสุขภาพ ฉะนั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เปิดครัวสาธิตการทำ “แยมมะละกอกลิ่นมะนาวน้ำตาลต่ำ”
อัน เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ป่วยที่ต้องควบคุมน้ำตาลและผู้รักสุขภาพ
เผยสูตรอาหารทำเงินแบบง่าย ๆ ในยุคของแพง
โดย นางสาวช่อลัดดา เที่ยงพุก นักวิจัยจากฝ่ายกระบวนการและแปรรูป
สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ม.เกษตรศาสตร์ เป็นผู้สาธิตการทำ

อัน ว่าแยมมะละกอนี้ เป็นหนึ่งในอีกหลายเมนูอาหาร ของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร
ที่สามารถให้แม่บ้านนำกลับไปปรุงให้สมาชิกที่บ้านได้ชิมกันอย่างง่าย ๆ
และยังเป็นอาหารเสริมสุขภาพไปพร้อม ๆ กันด้วย



ช่อลัดดา กล่าวว่า แยมคือผลิตภัณฑ์ถนอมอาหารที่ทำจากเนื้อผล
ไม้ผสมกับน้ำตาล
หรือจะผสมกับน้ำผลไม้หรือน้ำผลไม้เข้มข้นด้วยก็ได้ และทำให้มีความเข้มข้นเหนียวพอเหมาะ
ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารของกระทรวงสาธารณสุข
แยมโดยทั่วไปมีน้ำตาลสูงประมาณ 59-61%
แต่แยมมะละกอกลิ่นมะนาวน้ำตาลต่ำ จะมีระดับน้ำตาล 35% เท่านั้น
ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องงดอาหารรสหวานและต้องควบคุมน้ำตาล
ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
และผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลาย และที่เลือกมะละกอมาแปรรูปเป็นแยมก็เนื่องจาก
มะละกอเป็นผลไม้ที่ปลูกง่าย ให้ผลทุกฤดูกาล ราคาไม่แพง
มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยระบายท้อง
และยังมีสารเพคตินที่ช่วยให้เกิดเจลปริมาณสูง
จึงเหมาะที่จะนำมาทำแยม


สำหรับ สูตรการทำแยมมะละกอกลิ่นมะนาวน้ำตาลต่ำ

ประกอบด้วย เนื้อมะละกอสุก 310 กรัม
น้ำมะนาว 90 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 330 กรัม
เกลือ 0.20 กรัม
ผงบุก 5 กรัม
แบะแซ 100 กรัม และผงเพคติน (Low methoxyl pectin) 5 กรัม



วิธีทำ

เริ่มด้วยการนำชิ้นมะละกอสุกมาหั่นหรือปั่นหยาบนำเพคตินมาผสมกับน้ำตาลทราย 6 เท่าของน้ำหนัก
แล้วคนให้เข้ากัน เติมน้ำ 2 เท่าของน้ำหนักเพคติน รวมกับน้ำตาลทรายและคน ให้เข้ากัน
นำเนื้อมะละกอที่หั่นแล้วมาใส่หม้อสเตนเลสแล้วเอาไปตั้งไฟ คนให้เดือดอ่อน ๆ 5 นาที
ใส่น้ำตาลทรายทีละน้อย เพิ่มไฟให้แรงขึ้น คนตลอดเวลา
ใส่เกลือ เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดี จึงเติมสารละลายเพคตินและน้ำมะนาวที่ใส่รวมกับแบะแซ
ล้างภาชนะด้วยน้ำร้อน เคี่ยวต่อจนส่วนผสมเดือด
ยกลงมาชั่งน้ำหนัก แยมต้องได้ 1,000 กรัม ถ้าน้ำหนักเกินก็ให้เคี่ยวต่อไป

แต่ถ้าน้ำหนักน้อยกว่าก็ให้เติมน้ำต้มสุก เมื่อได้น้ำหนัก 1,000 กรัมแล้ว
ให้ยกลงจากเตาช้อนฟองออกบรรจุใส่ขวดแก้วที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อแล้ว 5 นาที
รอให้อุณหภูมิแยมลดลง 85-93 องศาเซลเซียสแล้วจึงปิดฝาให้สนิท
ก่อนที่จะวางทิ้งไว้ให้แยมเป็นเจล ก็จะได้แยมมะละกอที่มีน้ำตาลต่ำประมาณ 35%
และควรเก็บแยมไว้ในตู้เย็นหรือใส่สารกันเสีย คือ โซเดียมเบนโซเอท 0.04% และโปรตัสเซียมซอร์เบท 0.04% ของน้ำหนักแยม
โดยละลายน้ำเล็กน้อย และใส่ในช่วงใกล้จุดยุติ จะสามารถเก็บแยมไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน



สำหรับ รสชาติผลไม้นั้น
เราสามารถนำไปปรับเปลี่ยนรสชาติของผลไม้ได้ตามความชอบ หรือทำแล้วจะนำไปจำหน่ายก็จะดีไม่น้อย
เพราะเป็นการช่วยกันนำสูตรอาหารจากงานวิจัยไปใช้เพิ่มมูลค่าให้ผลไม้ไทย
และ ยังส่งเสริมสุขภาพ ผู้บริโภคได้อีกด้วย



ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2553
0 comments
Last Update : 14 ธันวาคม 2553 13:11:30 น.
Counter : 356 Pageviews.

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.